รอยเตอร์ - เศรษฐกิจสหรัฐฯจะเริ่มมีการเติบโตในช่วงไตรมาสสองของปีนี้ ขณะที่อัตราการว่างงานน่าจะเพิ่มขึ้นอีกและไปสูงสุดในไตรมาสแรกของปี 2010 ทั้งนี้ เป็นผลการสำรวจความคิดเห็นของเหล่าผู้เชี่ยวชาญการพยากรณ์เศรษฐกิจชื่อดัง ประจำเดือนพฤษภาคม ที่นำออกมาเผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ (10)
ผลการสำรวจนี้ได้รับการรายงานในรูปของจดหมายข่าว "บลู ชิพ อีโคโนมิก อินดิเคเตอร์" ประจำเดือนพฤษภาคม โดยบรรดานักพยากรณ์เศรษฐกิจคาดว่า อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯซึ่งวัดในรูปของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่แท้จริงนั้น จะชะลอตัวลง 2.8% ในปี 2009 แต่ในปี 2010 จะขยายตัวเป็นบวก 1.9%
บรรดานักทำนายสภาพเศรษฐกิจชั้นนำต่างเห็นพ้องกันว่า ภาวะเศรษฐกิจทรุดตัวของสหรัฐฯ น่าจะเพิ่มบรรเทาลงในช่วงไตรมาสสองของปีนี้ หลังจากดิ่งลงรุนแรงมาในไตรมาสสี่ของปีที่แล้วและไตรมาสหนึ่งของปีนี้ และจะเริ่มเห็นอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นบวกได้ในไตรมาสสามของปีนี้
นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจความคิดเห็นในรายงานประจำเดือนพฤษภาคมนี้ชี้ว่า จีดีพีในไตรมาสสองจะหดตัว 1.7% เมื่อเทียบเป็นอัตราต่อปี ซึ่งนับว่าดีขึ้นกว่าที่ทำนายกันไว้เมื่อหนึ่งเดือนก่อนราว 0.4%
ทั้งนี้ในรายงานประจำเดือนเมษายน บรรดาผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ยังคาดว่าในปี 2009 เศรษฐกิจจะหดตัว 2.6%ในปี 2009 แล้วกลับมาเป็นบวก 1.8% ในปี 2010
"ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา หลักฐานใหม่ ๆได้แสดงให้เห็นว่าการชะลอตัวลงของกิจกรรมทางธุรกิจเริ่มบรรเทาลง และทำให้บรรดาผู้เชี่ยวชาญมีความคาดหมายที่สอดคล้องกันว่า เศรษฐกิจจะเริ่มพ้นจากภาวะชะลอตัวในช่วงไตรมาสสองของปีนี้" จดหมายข่าวกล่าว
นอกจากนี้ จดหมายข่าวยังชี้ด้วยว่าเศรษฐกิจมีสัญญาณต่าง ๆที่แสดงให้เห็นว่าเริ่มมีสุขภาพดีขึ้นทีละน้อย
จำนวนคนที่ขอเงินสวัสดิการช่วยเหลือหลังตกงานในช่วงสี่สัปดาห์ที่ผ่านมานั้นเริ่มลดจำนวนลงอย่างต่อเนื่อง โดยที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการนี้ถือเป็นตัววัดแนวโน้มของตลาดแรงงานได้ดีที่สุด
ดัชนีที่บ่งถึงกิจกรรมในภาคอุตสาหกรรมของสถาบันบริหารจัดการอุปทาน ประจำเดือนเมษายน ได้เพิ่มขึ้นติดกันเป็นเดือนที่ 7แล้ว ในขณะที่ดัชนีวัดกิจกรรมภาคบริการก็พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นมา
การสำรวจล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เกือบ 80% ของผู้เชี่ยวชาญที่ตอบแบบสอบถามเชื่อว่าจำนวนการเพิ่มขึ้นบ้านใหม่กำลังจะตกลงสู่ระดับต่ำสุดเพื่อจะดีดตัวขึ้น ในขณะที่การลงทุนในภาคที่อยู่อาศัยก็จะหดตัวน้อยลงในไตรมาสที่สอง และอาจจะเริ่มกลับมาเป็นการขยายตัวในช่วงสิ้นปีนี้
นอกจากนั้น พวกนักคาดการณ์เศรษฐกิจเหล่านี้ เห็นพ้องต้องกันว่าอัตราการขยายตัวของจีดีพีในไตรมาสสามของปีนี้เมื่อหักอัตราเงินเฟ้อไปแล้วจะอยู่ที่ 0.5% เทียบกับที่คาดการไว้ก่อนหน้านี้หนึ่งเดือนว่าจะอยู่ที่บวก 0.4% ส่วนอัตราการเติบโตในไตรมาสสี่ของปีนี้จะอยู่ที่ 1.8% เทียบกับ 1.6% ที่คาดการไว้ก่อนหน้านี้หนึ่งเดือน
แม้ว่าพวกเขาจะเห็นพ้องต้องกันว่าเศรษฐกิจจะเริ่มขยายตัวในช่วงปลายปี 2009 แต่ราว 32% ของผู้ที่ตอบแบบสอบถาม ก็บอกว่าอัตราการว่างงานของสหรัฐฯจะยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆและจะไปสูงสุดในช่วงไตรมาสหนึ่งของปี 2010 ที่ 10% เทียบกับ 9.8% ที่พวกเขาคาดไว้ในการสำรวจความคิดเห็นในเดือนเมษายน
ผลการสำรวจนี้ได้รับการรายงานในรูปของจดหมายข่าว "บลู ชิพ อีโคโนมิก อินดิเคเตอร์" ประจำเดือนพฤษภาคม โดยบรรดานักพยากรณ์เศรษฐกิจคาดว่า อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯซึ่งวัดในรูปของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่แท้จริงนั้น จะชะลอตัวลง 2.8% ในปี 2009 แต่ในปี 2010 จะขยายตัวเป็นบวก 1.9%
บรรดานักทำนายสภาพเศรษฐกิจชั้นนำต่างเห็นพ้องกันว่า ภาวะเศรษฐกิจทรุดตัวของสหรัฐฯ น่าจะเพิ่มบรรเทาลงในช่วงไตรมาสสองของปีนี้ หลังจากดิ่งลงรุนแรงมาในไตรมาสสี่ของปีที่แล้วและไตรมาสหนึ่งของปีนี้ และจะเริ่มเห็นอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นบวกได้ในไตรมาสสามของปีนี้
นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจความคิดเห็นในรายงานประจำเดือนพฤษภาคมนี้ชี้ว่า จีดีพีในไตรมาสสองจะหดตัว 1.7% เมื่อเทียบเป็นอัตราต่อปี ซึ่งนับว่าดีขึ้นกว่าที่ทำนายกันไว้เมื่อหนึ่งเดือนก่อนราว 0.4%
ทั้งนี้ในรายงานประจำเดือนเมษายน บรรดาผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ยังคาดว่าในปี 2009 เศรษฐกิจจะหดตัว 2.6%ในปี 2009 แล้วกลับมาเป็นบวก 1.8% ในปี 2010
"ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา หลักฐานใหม่ ๆได้แสดงให้เห็นว่าการชะลอตัวลงของกิจกรรมทางธุรกิจเริ่มบรรเทาลง และทำให้บรรดาผู้เชี่ยวชาญมีความคาดหมายที่สอดคล้องกันว่า เศรษฐกิจจะเริ่มพ้นจากภาวะชะลอตัวในช่วงไตรมาสสองของปีนี้" จดหมายข่าวกล่าว
นอกจากนี้ จดหมายข่าวยังชี้ด้วยว่าเศรษฐกิจมีสัญญาณต่าง ๆที่แสดงให้เห็นว่าเริ่มมีสุขภาพดีขึ้นทีละน้อย
จำนวนคนที่ขอเงินสวัสดิการช่วยเหลือหลังตกงานในช่วงสี่สัปดาห์ที่ผ่านมานั้นเริ่มลดจำนวนลงอย่างต่อเนื่อง โดยที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการนี้ถือเป็นตัววัดแนวโน้มของตลาดแรงงานได้ดีที่สุด
ดัชนีที่บ่งถึงกิจกรรมในภาคอุตสาหกรรมของสถาบันบริหารจัดการอุปทาน ประจำเดือนเมษายน ได้เพิ่มขึ้นติดกันเป็นเดือนที่ 7แล้ว ในขณะที่ดัชนีวัดกิจกรรมภาคบริการก็พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นมา
การสำรวจล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เกือบ 80% ของผู้เชี่ยวชาญที่ตอบแบบสอบถามเชื่อว่าจำนวนการเพิ่มขึ้นบ้านใหม่กำลังจะตกลงสู่ระดับต่ำสุดเพื่อจะดีดตัวขึ้น ในขณะที่การลงทุนในภาคที่อยู่อาศัยก็จะหดตัวน้อยลงในไตรมาสที่สอง และอาจจะเริ่มกลับมาเป็นการขยายตัวในช่วงสิ้นปีนี้
นอกจากนั้น พวกนักคาดการณ์เศรษฐกิจเหล่านี้ เห็นพ้องต้องกันว่าอัตราการขยายตัวของจีดีพีในไตรมาสสามของปีนี้เมื่อหักอัตราเงินเฟ้อไปแล้วจะอยู่ที่ 0.5% เทียบกับที่คาดการไว้ก่อนหน้านี้หนึ่งเดือนว่าจะอยู่ที่บวก 0.4% ส่วนอัตราการเติบโตในไตรมาสสี่ของปีนี้จะอยู่ที่ 1.8% เทียบกับ 1.6% ที่คาดการไว้ก่อนหน้านี้หนึ่งเดือน
แม้ว่าพวกเขาจะเห็นพ้องต้องกันว่าเศรษฐกิจจะเริ่มขยายตัวในช่วงปลายปี 2009 แต่ราว 32% ของผู้ที่ตอบแบบสอบถาม ก็บอกว่าอัตราการว่างงานของสหรัฐฯจะยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆและจะไปสูงสุดในช่วงไตรมาสหนึ่งของปี 2010 ที่ 10% เทียบกับ 9.8% ที่พวกเขาคาดไว้ในการสำรวจความคิดเห็นในเดือนเมษายน
