ASTVผู้จัดการรายวัน – เศรษฐกิจทรุด โอกาสแจ้งเกิดเอเจนซี่ขนาดเล็ก-กลาง “ธิงค์ แฟคตอรี” ชูข้อดีมัดใจลูกค้า ร่วมทำงานแบบใกล้ชิด รวดเร็ว แนะการตลาดปีนี้ควรเน้นสร้างอิมเมจต่อเนื่อง ช่วยดันยอดขายง่ายในช่วงน้ำขึ้น ยิ้มลูกค้าใหม่ตบเท้าร่วมงาน 4 รายแล้ว มั่นใจสิ้นปีโต 10% จาก 90 ล้านบาทในปีก่อน
นายแอนเดรส รักตะสิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท ธิงค์ แฟคตอรี จำกัด ดำเนินธุรกิจเอเจนซี่ขนาดเล็ก เปิดเผยว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจในปีนี้ ยอมรับว่าค่อนข้างแย่กว่าปีก่อน ซึ่งปีก่อนแค่มองว่าลูกค้ามีการใช้เงินฝืดลงเท่านั้น แต่ปีนี้เริ่มเห็นเรื่องของการตัดงบโฆษณามากขึ้น
ทั้งนี้มองเป็นโอกาสสำหรับกลุ่มบริษัทเอเจนซี่ขนาดเล็ก-กลางในการดูแลลูกค้าได้ดีกว่าเอเจนซี่รายใหญ่ เพราะเอเจนซี่ขนาดเล็ก จะมีการจัดการ และการทำงานจะรวดเร็วกว่า รวมไปถึงสามารถเข้าไปดูแลร่วมทีมกับลูกค้าได้อย่างทั่วถึง และยังมีราคาถูกว่าด้วย ขณะที่เอเจนซี่ขนาดใหญ่ การทำงานจะมีหลายขั้นตอน การดูแลลูกค้าอาจไม่ทั่วถึง ขณะที่ปัจจุบันลูกค้าต้องการซื้อสื่อแบบคุ้มค่าและมีแวลูมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นบริการ และวิธีการใช้สื่อที่ได้ผล โดนใจผู้บริโภค
โดยในแง่ของลูกค้าเอง ปีนี้มีการใช้เงินลดลงเฉลี่ย 10% ขณะที่สินค้าบางตัวไม่ติดสัญญาผูกมัดจากสาขาใหญ่ในต่างประเทศ ก็จะมีอิสระในการเลือกใช้เอเจนซี่ กลุ่มลูกค้าน่าสนใจและเป็นโอกาสของเอเจนซี่ขนาดเล็ก-กลาง
นายแอนเดรส กล่าวต่อว่า การที่เศรษฐกิจชะลอตัว มองว่าลูกค้าควรที่จะมุ่งทำการตลาดเน้นเรื่องของการสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่อง อย่าหยุดการใช้เงิน เพราะเมื่อถึงเวลาที่สภาพเศรษฐกิจกลับมาดีอีกครั้ง อาจจะช้ากว่าคู่แข่งที่มีการสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่อง ทั้งในเรื่องของยอดขาย และส่วนแบ่งทางการตลาด
นอกจากนี้มองว่าการใช้สื่อโฆษณาควรจะหาวิธีการใช้สื่อที่ตรงใจผู้บริโภค สร้างสรรค์การใช้สื่อที่ไม่จำเป็นต้องราคาแพง โดยเฉพาะสื่อทางเลือกต่างๆ
ทั้งนี้ในส่วนของบริษัท ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา มีลูกค้าใหม่เข้ามาประมาณ 4 ราย ส่งผลให้ผลประกอบการของไตรมาสหนึ่งนี้ ค่อนข้างเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ ส่วนทั้งปียังเชื่อว่า มีความเป็นไปได้ที่จะมีผลประกอบการเติบโตขึ้นได้กว่า 10% จาก 90 ล้านบาทในปีก่อน โดยรายได้หลักมาจากลูกค้ารายเดิมที่มีกว่า 16 ราย เช่น กลุ่มไมเนอร์กรุ๊ป ธนาคารไทยพาณิชย์ และปริณสิริ
นายแอนเดรส รักตะสิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท ธิงค์ แฟคตอรี จำกัด ดำเนินธุรกิจเอเจนซี่ขนาดเล็ก เปิดเผยว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจในปีนี้ ยอมรับว่าค่อนข้างแย่กว่าปีก่อน ซึ่งปีก่อนแค่มองว่าลูกค้ามีการใช้เงินฝืดลงเท่านั้น แต่ปีนี้เริ่มเห็นเรื่องของการตัดงบโฆษณามากขึ้น
ทั้งนี้มองเป็นโอกาสสำหรับกลุ่มบริษัทเอเจนซี่ขนาดเล็ก-กลางในการดูแลลูกค้าได้ดีกว่าเอเจนซี่รายใหญ่ เพราะเอเจนซี่ขนาดเล็ก จะมีการจัดการ และการทำงานจะรวดเร็วกว่า รวมไปถึงสามารถเข้าไปดูแลร่วมทีมกับลูกค้าได้อย่างทั่วถึง และยังมีราคาถูกว่าด้วย ขณะที่เอเจนซี่ขนาดใหญ่ การทำงานจะมีหลายขั้นตอน การดูแลลูกค้าอาจไม่ทั่วถึง ขณะที่ปัจจุบันลูกค้าต้องการซื้อสื่อแบบคุ้มค่าและมีแวลูมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นบริการ และวิธีการใช้สื่อที่ได้ผล โดนใจผู้บริโภค
โดยในแง่ของลูกค้าเอง ปีนี้มีการใช้เงินลดลงเฉลี่ย 10% ขณะที่สินค้าบางตัวไม่ติดสัญญาผูกมัดจากสาขาใหญ่ในต่างประเทศ ก็จะมีอิสระในการเลือกใช้เอเจนซี่ กลุ่มลูกค้าน่าสนใจและเป็นโอกาสของเอเจนซี่ขนาดเล็ก-กลาง
นายแอนเดรส กล่าวต่อว่า การที่เศรษฐกิจชะลอตัว มองว่าลูกค้าควรที่จะมุ่งทำการตลาดเน้นเรื่องของการสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่อง อย่าหยุดการใช้เงิน เพราะเมื่อถึงเวลาที่สภาพเศรษฐกิจกลับมาดีอีกครั้ง อาจจะช้ากว่าคู่แข่งที่มีการสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่อง ทั้งในเรื่องของยอดขาย และส่วนแบ่งทางการตลาด
นอกจากนี้มองว่าการใช้สื่อโฆษณาควรจะหาวิธีการใช้สื่อที่ตรงใจผู้บริโภค สร้างสรรค์การใช้สื่อที่ไม่จำเป็นต้องราคาแพง โดยเฉพาะสื่อทางเลือกต่างๆ
ทั้งนี้ในส่วนของบริษัท ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา มีลูกค้าใหม่เข้ามาประมาณ 4 ราย ส่งผลให้ผลประกอบการของไตรมาสหนึ่งนี้ ค่อนข้างเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ ส่วนทั้งปียังเชื่อว่า มีความเป็นไปได้ที่จะมีผลประกอบการเติบโตขึ้นได้กว่า 10% จาก 90 ล้านบาทในปีก่อน โดยรายได้หลักมาจากลูกค้ารายเดิมที่มีกว่า 16 ราย เช่น กลุ่มไมเนอร์กรุ๊ป ธนาคารไทยพาณิชย์ และปริณสิริ