ASTVผู้จัดการรายวัน-ดันราคากลางประมูลข้าวเข้าครม.วันนี้ เพื่อเร่งระบายสต๊อก"มาร์ก”หวั่นราคาต่ำ ส่อต้องล้มประมูล จับตาแผนกระตุ้นศก.รอบสอง 1.56 ล้านล้าน
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า การประชุม ครม.วันนี้(6 พ.ค.) กระทรวงพาณิชย์ เตรียมเสนอหลักเกณฑ์การพิจารณาราคากลางในการประมูลข้าว เข้าสู่ที่ประชุม หลังนายกรัฐมนตรีแสดงความเป็นห่วงการระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาล หากผู้ร่วมประมูลเสนอราคาต่ำกว่าราคากลางมาก ก็พร้อมจะเสนอให้นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ ยกเลิกการประมูลทันที โดยจะเป็นการระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาลเพื่อส่งออกจำนวน 3.8 ล้านตันข้าวสาร
ขณะที่ข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลมีมากถึง 4.1 ล้านตัน ยังไม่รวมข้าวเปลือกจากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังปี 2552 ที่จะสิ้นสุดโครงการเดือนก.ค.นี้ และมีเป้าหมายรับจำนำ 2.5 ล้านตัน และข้าวเปลือกนาปี ที่กำลังจะเริ่มโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปี 52/53 ในราวเดือนพ.ย.นี้ อีกหลายล้านตัน จึงทำให้รัฐบาลมีความจำเป็นต้องเร่งระบายออก
ทั้งนี้วาระการพิจารณาราคากลางในการประมูลข้าวในสต๊อกรัฐบาล ได้เลื่อนการประชุมมาถึง 2 ครั้ง โดยกระทรวงพาณิชย์ ได้ขอถอนนออกจากที่ประชุมเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
กระตุ้นศก.รอบ2 กว่า1.56 ล้านล้าน
รายงานข่าวแจ้งว่าที่ประชุมสำนักงบประมาณ จะเสนอแนวทางการจัดสรรเงินลงทุนและโครงการลงทุนของภาครัฐในโครงการใหม่ช่วง 3 ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2553-2555 ในแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 จำนวน 7 แผนงาน เงินลงทุนรวม 1.567 ล้านล้านบาท ให้ที่ประชุมครม.พิจารณาว่าจัดหาแหล่งเงินจากที่ใดมาลงทุนโครงการต่างๆ หลังจากมีข้อจำกัดด้านงบประมาณรายจ่ายประจำปี จนทำให้ต้องปรับสัดส่วนการใช้งบประมาณที่จะนำมาลงทุนในโครงการต่างๆลง
ทั้งนี้ รัฐบาลได้กำหนดแหล่งเงินที่จะนำมาลงทุนในแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 วงเงิน 1.56 ล้านล้านบาทไว้ 4 แหล่ง คืองบประมาณแผ่นดินรวม 3 ปี 6.138 แสนล้านบาท หรือ 39.2% ของงบลงทุนรวม เงินกู้ภายในประเทศ รวม 3 ปี 2.669 แสนล้านบาทหรือ 17% ของเงินลงทุนรวม เงินกู้ต่างประเทศรวม 3 ปี 4.253 แสนล้านบาท หรือ 27.1% ของงบลงทุนรวม และรายได้อื่นๆในช่วง 3 ปี อีก 2.608 แสนล้านบาท หรือ 16.6% ของเงินลงทุนรวม
อย่างไรก็ตาม แม้มีข้อจำกัดด้านงบประมาณ แต่ไม่กระทบแผนการลงทุน เบื้องต้นปีนี้ จะเร่งเดินหน้าโครงการขนาดกลาง และขนาดเล็กที่มีความพร้อมกว่า 1 แสนล้านบาท เพื่อให้เม็ดเงินกระจายไปทั่วประเทศ ทำให้เกิดการลงทุน และช่วยแก้ปัญหาการจ้างงาน
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า การประชุม ครม.วันนี้(6 พ.ค.) กระทรวงพาณิชย์ เตรียมเสนอหลักเกณฑ์การพิจารณาราคากลางในการประมูลข้าว เข้าสู่ที่ประชุม หลังนายกรัฐมนตรีแสดงความเป็นห่วงการระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาล หากผู้ร่วมประมูลเสนอราคาต่ำกว่าราคากลางมาก ก็พร้อมจะเสนอให้นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ ยกเลิกการประมูลทันที โดยจะเป็นการระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาลเพื่อส่งออกจำนวน 3.8 ล้านตันข้าวสาร
ขณะที่ข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลมีมากถึง 4.1 ล้านตัน ยังไม่รวมข้าวเปลือกจากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังปี 2552 ที่จะสิ้นสุดโครงการเดือนก.ค.นี้ และมีเป้าหมายรับจำนำ 2.5 ล้านตัน และข้าวเปลือกนาปี ที่กำลังจะเริ่มโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปี 52/53 ในราวเดือนพ.ย.นี้ อีกหลายล้านตัน จึงทำให้รัฐบาลมีความจำเป็นต้องเร่งระบายออก
ทั้งนี้วาระการพิจารณาราคากลางในการประมูลข้าวในสต๊อกรัฐบาล ได้เลื่อนการประชุมมาถึง 2 ครั้ง โดยกระทรวงพาณิชย์ ได้ขอถอนนออกจากที่ประชุมเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
กระตุ้นศก.รอบ2 กว่า1.56 ล้านล้าน
รายงานข่าวแจ้งว่าที่ประชุมสำนักงบประมาณ จะเสนอแนวทางการจัดสรรเงินลงทุนและโครงการลงทุนของภาครัฐในโครงการใหม่ช่วง 3 ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2553-2555 ในแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 จำนวน 7 แผนงาน เงินลงทุนรวม 1.567 ล้านล้านบาท ให้ที่ประชุมครม.พิจารณาว่าจัดหาแหล่งเงินจากที่ใดมาลงทุนโครงการต่างๆ หลังจากมีข้อจำกัดด้านงบประมาณรายจ่ายประจำปี จนทำให้ต้องปรับสัดส่วนการใช้งบประมาณที่จะนำมาลงทุนในโครงการต่างๆลง
ทั้งนี้ รัฐบาลได้กำหนดแหล่งเงินที่จะนำมาลงทุนในแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 วงเงิน 1.56 ล้านล้านบาทไว้ 4 แหล่ง คืองบประมาณแผ่นดินรวม 3 ปี 6.138 แสนล้านบาท หรือ 39.2% ของงบลงทุนรวม เงินกู้ภายในประเทศ รวม 3 ปี 2.669 แสนล้านบาทหรือ 17% ของเงินลงทุนรวม เงินกู้ต่างประเทศรวม 3 ปี 4.253 แสนล้านบาท หรือ 27.1% ของงบลงทุนรวม และรายได้อื่นๆในช่วง 3 ปี อีก 2.608 แสนล้านบาท หรือ 16.6% ของเงินลงทุนรวม
อย่างไรก็ตาม แม้มีข้อจำกัดด้านงบประมาณ แต่ไม่กระทบแผนการลงทุน เบื้องต้นปีนี้ จะเร่งเดินหน้าโครงการขนาดกลาง และขนาดเล็กที่มีความพร้อมกว่า 1 แสนล้านบาท เพื่อให้เม็ดเงินกระจายไปทั่วประเทศ ทำให้เกิดการลงทุน และช่วยแก้ปัญหาการจ้างงาน
