xs
xsm
sm
md
lg

สธ.จวกตม.สุวรรณภูมิหลวมWHOเผยผู้ติดเชื้อเกินพันราย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"วิทยา" จวก ตม.สุวรรณภูมิหละหลวม ห่วงแต่คนลักลอบเข้าเมือง ไม่ใส่หน้ากากป้องกัน เตรียมส่งเจ้าหน้าที่ สธ.ให้ความรู้สาธารณสุขมูลฐาน มั่นใจ รมว.สาธารณสุขอาเซียนมาประชุมครบ ขณะเดียวกันสั่งเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังอีก 2 จุด ติดเทอร์โมสแกนตรวจด่านปาดังเบซาร์-ด่านสะเดา ขณะที่ 3 เด็กไทยนักเรียนทุนเอเอฟเอสกลับจากเม็กซิโก ผลแล็บยืนยันเป็นแค่หวัดธรรมดา องค์การอนามัยโลกเผยผู้ติดหวัดสายพันธุ์ใหม่กว่า 1,000 รายแล้ว ห่วงระบาดระลอกใหม่ในฤดูหนาวปลายปีนี้

วานนี้ (4 พ.ค.) นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เดินทางไปตรวจเยี่ยมอาการของผู้เดินทางกลับจากประเทศเม็กซิโก 14 ราย เมื่อวานนี้ (3 พ.ค.) โดยเป็นครู 7 ราย นักเรียนจากเอเอฟเอส 7 ราย ที่สถาบันบำราศนราดูร โดยนายวิทยา กล่าวว่า จากการสังเกตอาการเบื้องต้นพบว่า ในจำนวนนี้ มี 11 ราย แบ่งเป็นครู 7 ราย นักเรียน 4 รายมีอาการปกติไม่มีไข้แต่อย่างใด ทั้งนี้หากเฝ้าระวังภายใน 48 ชั่วโมงไม่พบไข้ ก็สามารถลดระดับการเฝ้าระวัง โดยอนุญาตให้กลับบ้านเพื่อติดตามเฝ้าระวังโรคต่อไป
ส่วนอีก 3 ราย เป็นนักเรียนชาย 1 ราย มีน้ำมูกไหล เจ็บคอ ไอ แต่ไม่มีไข้ แต่นักเรียนหญิง 2 ราย รายแรกมีอาการไข้ขึ้นสูง 38.5 องศาเซลเซียส ส่วนอีกรายมีไข้ 37.5 องศาเซลเซียส ขณะนี้ทางสถาบันฯได้แยกทั้ง 3 รายในห้องปลอดเชื้อเพื่อเฝ้าดูอาการและรักษาต่อไป
นายวิทยา กล่าวว่า หลังจากที่ตรวจเยี่ยมผู้เข้าข่ายเฝ้าระวังทั้งหมดแล้ว ทุกคนมีกำลังใจดี เด็กนักเรียนหลายคนถูกเรียกตัวกลับเมืองไทยอย่างกะทันหันก็ไม่เกิดอาการวิตกกังวลแต่อย่างใด ก็ยังมีความสดใสร่าเริง พูดคุยกันอย่างสนุกสนานกันอยู่ และอยากอยูที่สถาบันฯต่ออีก 7 วันด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้เตรียมประสานไปยังสายการบินเพื่อรวบรวมข้อมูลผู้ที่เดินทางกลับในรอบบินเดียวกันนี้ เพื่อติดตามเฝ้าระวังอาการ เพราะอาจยังอยู่ในช่วงแพร่เชื้อได้
ด้านนพ.ปรีชา ตันธนาธิป ผู้อำนวยการสถาบันบำราศนราดูร กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้สถาบันฯให้ดำเนินการรับรักษาเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น เพื่อเตรียมพร้อมในการเฝ้าระวังผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 รวมทั้งได้ย้ายผู้ป่วยปกติไปอยู่อาคารคนละหลังกันกับผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 สำหรับตึกแยกผู้ป่วยพิเศษมีห้องปลอดเชื้อ 5 ห้อง รองรับการเฝ้าระวังผู้ป่วยได้ 5 คน และยังมีเตียงเพียงพอสำหรับการเฝ้าระวังเบื้องต้นอีก 57 เตียง”นพ.ปรีชา กล่าว

จวกตม.อ่อน เตรียมส่ง จนท.ให้ความรู้
นายวิทยากล่าวต่อว่า ขณะนี้สถานพยาบาลทั้งหมดได้เตรียมความพร้อมทั้งหมดแล้ว แต่ยังคงเป็นห่วงในเรื่องของการเฝ้าระวังโรคที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพราะหลังจากที่เดินทางไปรับคนไทยทั้ง 14 คน เมื่อวันที่ 3 พ.ค.พบว่า การเฝ้าระวังโรคของเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองมีความอ่อนแอ ไม่มีการระมัดระวังตัว เช่น ไม่มีการสวมหน้ากาก ฯลฯ ห่วงแต่คนที่จะลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องอันตรายอย่างมาก สธ.จึงได้ประสานบริษัทท่าอากาศยานไทย (มหาชน) จำกัด พร้อมทั้งจะส่งเจ้าหน้าที่สธ.ไปอบรมให้ความรู้เรื่องสาธารณสุขมูลฐาน
ทั้งนี้ ในวันที่ 6 พ.ค.สธ.จะเสนอคณะรัฐมนตรีตามที่คณะกรรมการอำนวยการเตรียมความพร้อมป้องกันและควบคุมสถานการณ์การระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ที่มีพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เสนอให้ซื้อเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิ เทอร์โมสแกน จำนวน 10 เครื่อง เครื่องละ 1.5 ล้านบาท เพื่อกระจายไปยังสนามบินนานาชาติทุกแห่งทั่วประเทศรวมถึงด่านตรวจคนเข้าเมืองภาคพื้นดินทุกแห่ง ทั้งนี้ถือว่าการระบาดในระดับนี้ เป็นการเตรียมความพร้อมไม่ให้เกิดผลเสียหาย โดยจะต้องจัดหาเครื่องดังกล่าวให้เร็วที่สุดด้วย

ตั้ง 24 ผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษา รพ.
วันเดียวกัน ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ กรุงเทพฯ นายวิทยา ร้อมด้วยนพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดสธ.เปิดประชุม แพทย์อายุรกรรม กุมารแพทย์ พยาบาลควบคุมป้องกันการติดเชื้อ เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการจากโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไปในสังกัดทั่วประเทศ และโรงพยาบาลภาครัฐและเอกชนในกรุงเทพฯ ปริมณฑล จำนวน 500 คน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจวินิจฉัย การดูแลรักษาพยาบาล และการเฝ้าระวังผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่
นายวิทยา กล่าวว่า ว่า สธ.ได้ตั้งทีมผู้เชี่ยวชาญโรคระบบติดเชื้อทางเดินหายใจ 24 คน ให้เป็นที่ปรึกษาแก่แพทย์ในโรงพยาบาล ทั่วประเทศทั้งภาครัฐและเอกชน โดยมีรศ.พิเศษนพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิจากกรมการแพทย์เป็นประธาน เพื่อให้คำปรึกษาแพทย์ในโรงพยาบาลต่างๆตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งกรมการแพทย์ได้จัดทำคู่มือการตรวจคัดกรองผู้ป่วยเพื่อรักษา จัดส่งให้โรงพยาบาลทั้งรัฐและเอกชนทั่วประเทศใช้เป็นมาตรฐานเดียวกัน
“จากสถานการณ์ล่าสุดองค์การอนามัยโลกรายงานมีผู้ป่วยยืนยันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิด เอ เอช 1 เอ็น 1 ในเช้าวันที่ 4 พ.ค.ทั่วโลก 898 ราย เสียชีวิต 20 ราย จาก 18 ประเทศ สธ.ได้กำหนดมาตรการป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่ระบาดเข้ามาในประเทศไทยอย่างเคร่งครัด แต่หากเข้ามาก็สามารถค้นหาและควบคุมได้อย่างรวดเร็ว ขณะนี้ทุกฝ่ายทำงานอย่างเข้มงวดติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตลอด 24 ชั่วโมง และกำหนดยุทธศาสตร์การป้องกัน เฝ้าระวังให้ครบทุกด้าน และการประชุมสถานพยาบาลทั่วประเทศในวันนี้ถือว่าเป็นยุทธศาสตร์ที่ 4 ในการเตรียมการหากพบผู้ป่วยโรคดังกล่าว ซึ่งหากพบผู้ป่วยเชื่อว่าประเทศไทยสามารถที่เฝ้าระวังโรคไม่ให้มีผู้เสียชีวิตเลย เพราะมีความพร้อมมาก”นายวิทยา กล่าว

เตรียมพร้อม 7 ด่านคุมโรคภาคใต้
นพ.มล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในช่วงบ่ายวันที่ 4 พ.ค.ตนเองจะเดินทางไปประชุมกับด่านควบคุมโรคที่จ.สงขลา ซึ่งด่านควบคุมโรคในพื้นที่ภาคใต้ มี 7 ด่าน อาทิ ด่านเบตง ด่านสุไหงโก- ลก ด่านสะเดา ด่านหาดใหญ่ ฯลฯ เพื่อเฝ้าระวังโรคผู้เดินทางมาจากประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งจะแจกใบแนะนำด้านสุขภาพสำหรับผู้ที่เดินทางเข้ามาในไทยด้วย
“แม้ว่ายังไม่มีการระบาดในประเทศเพื่อนบ้าน แต่เราก็ต้องมีการเตรียมความพร้อมในเรื่องดังกล่าว ขณะเดียวกันจำเป็นที่ด่านควบคุมโรคเหล่านี้จะต้องมีเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิ เทอร์โมสแกน หลังจากที่ด่านสระแก้วกับด่านแม่สายมีเครื่องดังกล่าวแห่งละ 1 เครื่องเท่านั้น ด่านควบคุมโรคที่เหลือก็จำเป็นต้องมีเช่นกัน”นพ.มล.สมชาย กล่าว

มั่นใจ รมว.สธ.อาเซียนมาครบ
นายวิทยากล่าวว่า ได้หารือกับนายสุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการ อาเซียน ในการเตรียมพร้อมการประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียน ระหว่างวันที่ 7-8 พ.ค.นี้ ที่โรงแรมดุสิตธานี ซึ่งขณะนี้เลขาธิการอาเซียนอยู่ระหว่างการประสานกับประเทศต่างๆ และรอผลการยืนยันรายชื่อ รมว.สาธารณสุข คาดว่าจะมีความชัดเจนภายใน 1-2 วันนี้ อย่างไรก็ตาม คาดว่ารัฐมนตรีสาธารณสุขของประเทศสมาชิกอาเซียนทั้งหมดน่าจะตอบรับมาร่วมประชุมที่ประเทศไทย เพราะถือเป็นความปรารถนาของหลายประเทศที่ต้องการหารือเพื่อหาทางแก้ปัญหาร่วมกัน โดยเฉพาะประเทศกัมพูชาที่แสดงความกระตือรือร้นในการจัดประชุม ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นการจัดประชุมตามสภาวการณ์จำเป็น หลังจากมีการระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในประเทศสมาชิกอาเซียนแล้ว
ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ พญ.ศิริพร กัญชนะ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้ดูแลความพร้อมของสถานที่การจัดประชุมซึ่งจะจัดที่โรงแรมดุสิตธานี และการประชุมในระดับเจ้าหน้าที่ โดยเน้นการแลกเปลี่ยนแนวทางการปฏิบัติความพร้อมการรับมือของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 ของแต่ละประเทศเพื่อเป็นใช้เป็นแนวทางร่วมกันของประเทศในกลุ่มอาเซียน จากนั้นมีการลงนามในระดับรัฐมนตรีทำเป็นข้อสรุปของอาเซียนก่อนจะนำเสนอที่ประชุมองค์การอนามัยโลก (WHO) ซึ่งจะมีการประชุมในวันที่ 18-20 พ.ค. ที่กรุงเจนีวาประเทศสวิตเซอร์แลนด์

จี้เสื้อแดงหยุดทำร้ายชาติ
นายวิทยากล่าวต่อว่า สำหรับการดูแลในเรื่องความปลอดภัยของการประชุมนั้น ไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีการชุมนุมเพื่อปิดล้อมการประชุมของแพทย์การพัฒนาวิทยาการทางการแพทย์ เพราะเป็นเรื่องของการเจ็บ ป่วย ตาย ผู้ชุมนุมไม่ควรเอาประชาชนเป็นตัวประกันอีก อย่างไรก็ตาม ถือเป็นหน้าที่ของหน่วยงานฝ่ายความมั่นคงในการจัดการความเรียบร้อย แต่เชื่อว่าไม่น่ามีเหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้น

ตั้งเทอร์โมสแกนด่านสะเดา-ปาดังฯ
นายวิทยา กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ได้สั่งการให้เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังโรค ที่ด่านทางบก ซึ่งขณะนี้ประเทศเพื่อนบ้านไทยยังไม่มีรายผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ จึงไม่จำเป็นต้องปิดด่านเข้าออก แต่ต้องเพิ่มมาตรการให้เข้มงวดไว้ก่อน โดยในวันนี้(4 พ.ค.)ได้ติดตั้งเครื่องตรวจจับอุณหภูมิเพิ่มที่ด่านพรมแดนภาคใต้อีก 2 จุด คือ ด่านปะดังเบซาร์ อ.สะเดา และด่านสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งเป็นจุดที่มีคนเข้าออกมาก มีชาวต่างชาติที่มาจากยุโรปเข้า-ออก วันละประมาณ 50-80 คน โดยได้มอบหมายให้นายแพทย์หม่อมหลวงสมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ประชุมเตรียมความพร้อมเจ้าหน้าที่แล้ว และจะตั้งที่ด่านสุไหงโก-ลก และอ.เบตง จ.ยะลา รวมทั้งพรมแดนจังหวัดอื่นๆตามสถานการณ์การแพร่ระบาด ในระยะเร่งด่วนนี้ได้ให้ทุกคนกรอกประวัติสุขภาพและการเดินทางไปพื้นที่เสี่ยงด้วย

นายกฯลั่นไม่เห็นเหตุผลป่วนประชุม
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กรณีที่กลุ่มเสื้อแดง จะเดินขบวนไปชุมนุมที่หน้าโรงแรมดุสิตธานี ระหว่างการประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียน ในวันที่ 7-8 พ.ค.นี้ว่า ก่อนหน้านี้เห็นบอกว่าจะไม่ไป ไม่ใช่หรือ ซึ่งตนยังไม่เห็นเหตุผลที่เขาจะไปชุมนุมประท้วงการประชุมอาเซียนที่จะหารือกันถึงแนวทางป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 จึงอยากขอร้องว่า เรื่องภายในของเราสามารถที่จะมาพูดคุยและดำเนินการได้อยู่แล้ว
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงความพร้อมในการจัดประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียน ระหว่างวันที่ 7-8 พ.ค.นี้ ที่โรงแรมดุสิตธานี กทม. ว่า รัฐบาลได้กำชับให้ดูแลความปลอดภัยโดยรอบโรงแรมดุสิตธานี จึงคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

3 นร.เอเอฟเอสเป็นไข้หวัดธรรมดา
นายมานิต นพอมรบดี รมช.สาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศเม็กซิโก 14 ราย เป็นครู 7 ราย นักเรียนจากเอเอฟเอส 7 ราย ปลอดภัยทั้งหมด ทั้งนี้ ผลการตรวจพิสูจน์ในห้องปฏิบัติการ (แล็บ) ทั้ง 3 แห่ง ตรงกันว่า นักเรียนเอเอฟเอสซึ่งเป็นผู้หญิง 2 ราย ผู้ชาย 1 ราย ไม่พบเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 แต่เป็นเพียงไข้ธรรมดา ที่อาจเกิดจากการเดินทางไกลทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย อย่างไรก็ตามแพทย์จะประเมินอาการอีกครั้ง ว่าจะย้ายผู้ป่วยไปอยู่ในห้องแยกโรคปลอดเชื้อรวมในวันนี้(5 พ.ค.) และเฝ้าดูอาการติดต่อกัน 7 วัน ส่วนนักเรียนและครูจำนวน 11 คน หากเฝ้าระวังอาการครบ 48 ชั่วโมง สามารถที่จะพักรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลหรือกลับไปเฝ้าดูอาการต่อที่บ้านได้ สำหรับการดูแลผู้ที่เข้าข่ายเฝ้าระวัง 11 คน นั้น ไม่มีการกักตัวให้อยู่ในห้องแต่สามารถเดินไปเดินมาได้

พบผู้ป่วยเฝ้าระวัง 5 ราย
นพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ในฐานะประธานศูนย์บัญชาการกระทรวงสาธารณสุข ในศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและควบคุมแก้ไขสถานการณ์การระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ กล่าวว่า สถานการณ์ในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน-3 พฤษภาคม 2552 สำนักระบาดวิทยาได้รับรายงานผู้ป่วยในข่ายเฝ้าระวังโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ ใหม่ 2009 สะสม 15 ราย ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการเป็นไข้หวัดใหญ่ทั่วไป 10 ราย อยู่ระหว่างการตรวจผลทางห้องปฏิบัติการอีก 5 ราย รายแรกเป็นหญิงอายุ 40 ปี ทำงานที่ด่านควบคุมโรคสนามบินสุวรรณภูมิ รายที่ 2 เป็นชายอายุ 47 ปี อยู่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ มีประวัติเดินทางกลับจากประเทศฝรั่งเศสเมื่อวันที่ 24 เมษายน เริ่มป่วยวันที่ 3 พฤษภาคม ผลการตรวจเบื้องต้นเป็นลบทั้ง 2 ราย ส่วนอีก 3 รายเป็นนักเรียนที่เพิ่งเดินทางกลับจากประเทศเม็กซิโก พักสังเกตอาการอยู่ที่สถาบันบำราศนราดูร

ศิริราชชี้ไม่ควรกินยาต้าน
รศ.ดร.พิไลพันธ์ พุธวัฒนะ ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะแพทยศาสตร์ กล่าวว่า ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เกิดจากการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสติดต่อได้ง่ายจากคนสู่คน จึงเป็นผลให้เกิดการแพร่ระบาดทั่วโลก ซึ่งมีความแตกต่างจากไข้หวัดนกที่ติดต่อจากสัตว์ปีกมาสู่คนได้ยาก ทั้งนี้ ไข้หวัดสายพันธุ์ที่พบในปัจจุบัน เป็นโมเดลใหม่โดยมีการผสมระหว่าง เชื้อหวัดที่อยู่ในสัตว์ปีก ในหมู และในมนุษย์
ด้านรศ.พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ หัวหน้าสาขาโรคติดเชื้อ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ ร.พ.ศิริราช กล่าวว่า ความรุนแรงของ H1N1 ยังไม่รุนแรงเท่า H5N1เนื่องจากอัตราการตายในประเทศแพร่เชื้อคือ เม็กซิโกมีเพียง 5% ขณะที่ในสหรัฐอเมริกามี 0.5% แต่อย่างไรก็ตาม อัตราการติดต่อจากคนสู่คนของ H1N1ยังติดต่อได้ง่ายกว่า ดังนั้น หากประเทศไทยควบคุมอัตราการติดต่อให้ได้น้อยกว่า 5% ความน่ากลัวของ H1N1 ก็จะลดลง
อย่างไรก็ตาม แม้ว่ายังไม่มีข้อมูลยืนยันว่า การฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดตามฤดูกาล จะช่วยป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ได้ แต่โดยส่วนตัวขอแนะนำให้ประชาชนไปรับวัคซีน โดยเฉพาะผู้สูงอายุและเด็ก เชื่อว่าจะช่วยบรรเทาอัตราการตายให้น้อยลงได้ อย่างไรก็ตาม ไม่แนะนำให้ทานยาทามิฟลู (Tamiflu) โดยที่ไม่มีอาการไข้ หรือมีแต่ไม่รุนแรงจะทำให้ดื้อยา และเกิดอาการข้างเคียงคือจะเกิดภาพหลอน ซึ่งการได้รับยาชนิดนี้ ต้องรอให้แพทย์สั่งเท่านั้น
ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่เปิดเผยว่า ขณะนี้มีประชาชนโทรศัพท์เข้ามาถามมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ขอทราบเกี่ยวกับเหตุผลที่กระทรวงสาธารณสุขแนะนำให้ประชาชนรักษาสุขภาพตัวเองโดยเฉพาะลดการดื่มสุราและสูบบุหรี่ เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงการติดเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ที่อาจจะระบาดเข้ามาในประเทศไทยและองค์การอนามัยโลกอาจจะต้องใช้เวลาอีก 4-6 เดือนในการผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ออกใช้ได้
ทั้งนี้ การสูบบุหรี่จะทำให้การติดเชื้อไข้หวัดเกิดขึ้นได้ง่ายขึ้น เนื่องจากควันบุหรี่ทำให้เกิดการอักเสบของหลอดลม ทำให้ขนเล็ก ๆ ของผิวหลอดลมเคลื่อนไหวได้น้อยลง ซึ่งปกติขนเล็ก ๆ เหล่านี้ทำหน้าที่โบกพัดขจัดสิ่งแปลกปลอมที่คนเราหายใจเข้าสู่ปอด เมื่อขนเหล่านี้ไม่ทำงาน ทำให้ขบวนการขับของเสียออกจากปอดและหลอดลมมีประสิทธิภาพลดลง ขณะที่ไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ติดต่อกันทางลมหายใจเป็นหลัก จากการที่ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ไอหรือจามเอาละอองฝอยหรือเสมหะที่มีเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่อยู่ด้วยออกมาในบรรยากาศรอบตัว เมื่อคนที่อยู่ใกล้ชิดคนป่วยที่เป็นไข้หวัดหายใจเอาเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่เข้าสู่ปอด เชื้อไวรัสก็จะมีโอกาสตกค้างอยู่ในปอดมากขึ้น ทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่ายกว่าคนที่ไม่สูบบุหรี่
ศ.นพ.ประกิตกล่าวว่า นอกจากนี้การดื่มสุราและการสูบบุหรี่ต่างทำให้ภูมิต้านทานร่างกายลดลง ทำให้เกิดการติดเชื้อง่ายและการติดเชื้อเมื่อเกิดแล้วจะรุนแรงกว่าคนปกติที่ไม่สูบบุหรี่และดื่มสุรา ทั้งนี้การระบาดของไข้หวัดหมูสเปนก่อนสงครามโลกครั้งที่หนึ่งที่ทำให้คนเสียชีวิตไปหลายสิบล้านคนนั้น ผู้ที่เป็นไข้หวัดใหญ่แล้วมีโอกาสเสียชีวิตสูงได้แก่ ผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวโดยเฉพาะคนที่เป็นโรคหัวใจ โรคถุงลมปอดพอง คนที่สูบบุหรี่ โรคไต โรคเบาหวาน และเด็กเล็ก ดังนั้นนอกจากควรจะเลิกสูบบุหรี่แล้ว ผู้ที่ยังเลิกไม่ได้ต้องไม่สูบบุหรี่ใกล้เด็กเล็ก เพื่อลดโอกาสที่เด็กเล็กจะติดเชื้อไข้หวัดด้วย

ร่วมวิสาขบูชาโลกไม่ถึง 80 ประเทศ
พระธรรมโกศาจารย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิยาลัย (มจร.) ในฐานะประธานกรรมการดำเนินการจัดประชุมชาวพุทธนานาชาติ เนื่องในวันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของโลก ประจำปี 2552 ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพว่า มีประเทศเข้าร่วมการประชุมไม่ถึง 80 ประเทศ เนื่องจากประสบปัญหาการเดินทางภาวะไขหวัดใหญ่สายพันธุ์2009 ระบาด ทำให้หลายประเทศต้องยกเลิกการเดินทางมายังประเทศไทย โดยเฉพาะประเทศแถบละตินอเมริกา ส่วนผู้นำชาวพุทธประเทศเม็กซิโก ได้เดินทางมาเข้าประชุมแล้และเชื่อว่าไม่น่าจะเกิดปัญหาการแพร่เชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ 2009 เพราะได้ผ่านกระบวนการตรวจสอบจากสนามบินสุวรรณภูมิมาแล้ว

ผู้ติดหวัดสายพันธุ์ใหม่เลย 1,000 ราย
มาร์กาเร็ต ชาน ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวผ่านวิดีโอลิงก์จากนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สู่ที่ประชุมวาระไม่เป็นทางการของสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกาเมื่อวานนี้(4) โดยระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ที่ยืนยันแล้ว ได้เลยระดับ 1,000 มาเป็น 1,003 รายแล้ว จากผู้ติดเชื้อใน 20 ประเทศ
ขณะที่ บันคีมุน เลขาธิการใหญ่ยูเอ็นกล่าวต่อที่ประชุมเดียวกันว่า เขาได้รับแจ้งจากผู้อำนวยการ WHO ว่า ถ้าหากสถานการณ์ยังคงเป็นอยู่ดังเช่นปัจจุบัน องค์การอนามัยก็ยังไม่มีแผนใดๆ ในขณะนี้ที่จะเพิ่มระดับการเตือนภัยขึ้นสู่ระดับ 6
ก่อนหน้านี้เมื่อวันอาทิตย์(3) WHO แถลงว่ามีผู้ติดเชื้อที่ยืนยันแล้วเพิ่มจำนวนเป็น 985 คน
ขณะที่ ชาน ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ระบุว่า แม้เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ จะมีอัตราการแพร่ระบาดที่น้อยลง แต่ยังคงมีความเป็นไปได้ที่เชื้อไวรัสชนิดนี้อาจกลับมาแพร่ระบาดรุนแรงได้อีก เช่น กรณีไข้หวัดสเปน ซึ่งแพร่ระบาดครั้งแรกในช่วงฤดูใบไม้ผลิของปี 1918 จากนั้นการแพร่ระบาดได้หายไปในช่วงฤดูร้อน แต่พอเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง เชื้อก็กลับมาแพร่ระบาดอีกครั้ง และคร่าชีวิตประชาชนในประเทศต่างๆ ไป 40 ล้าน ถึง 50 ล้านคน
ชาน ย้ำว่า การที่อัตราการเสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เริ่มลดลงไม่ได้หมายความว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสชนิดนี้จะสิ้นสุดลงแล้ว และหากเชื้อดังกล่าวกลับมาระบาดอีกเป็นระลอกที่ 2 ก็จะกลายเป็นการระบาดครั้งใหญ่ที่สุดที่โลกเคยเผชิญในศตวรรษที่ 21 เนื่องจากการสิ้นสุดฤดูกาลไข้หวัดใหญ่ในซีกโลกเหนือทำให้การแพร่ระบาดของโรคในช่วงต้นจะไม่รุนแรงมากนัก แต่การระบาดระลอกที่ 2 จะมีความรุนแรงมากกว่า
ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ยืนยันว่า องค์การอนามัยโลกมีหลักเกณฑ์ในการประเมินความเสี่ยงตามหลักวิทยาศาสตร์ และไม่ได้ให้ข้อมูลเพื่อก่อให้เกิดความตื่นตระหนก หลังเจ้าหน้าที่องค์การอนามัยโลกระบุว่า อาจยกระดับเตือนภัยการระบาดไปอยู่ที่ระดับ 6 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในเร็ว ๆ นี้ โดยเธอระบุว่า หากมีการยกระดับเตือนภัยเป็นระดับ 6 ก็ไม่ได้หมายความว่า ทุกประเทศในโลกจะต้องได้รับผลกระทบ แต่เป็นเพียงการส่งสัญญาณให้หน่วยงานด้านสาธารณสุข ดำเนินมาตรการควบคุมและเฝ้าระวังให้เข้มงวดมากขึ้น

ถึงเอลซัลวาดอร์ -โคลอมเบีย -โปรตุเกส
กิเยร์โม มาซา รัฐมนตรีสาธารณสุขของเอลซัลวาดอร์ ยืนยัน พบผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2 รายแรกของประเทศแล้ว ทั้งคู่เดินทางกลับมาจากเม็กซิโกเมื่อประมาณ 2-3 สัปดาห์ก่อน โดยผู้ป่วยทั้ง 2 คนตอบสนองต่อการรักษาเป็นอย่างดี
นอกจากผู้ติดเชื้อทั้ง 2 รายแล้ว ทางการเอลซัลวาดอร์ยังพบผู้ต้องสงสัยว่า อาจติดเชื้ออีก 3 ราย ซึ่งทั้งหมดถูกเจ้าหน้าที่เฝ้าสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด และมีการส่งตัวอย่างจากผู้ต้องสงสัย 3 คน ไปตรวจในสหรัฐฯ ว่า จะมีเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่หรือไม่
ขณะที่โคลอมเบีย พบผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่รายแรก เป็นชายวัย 42 ปี ที่เพิ่งเดินทางกลับจากเม็กซิโก และยังมีผู้ต้องสงสัยว่าอาจติดเชื้อชนิดนี้อีก 108 คน ในจำนวนนี้ 4 คน กำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลและมีอาการทรงตัว
ดิเอโก ปาลาซิโอ รัฐมนตรีกระทรวงป้องกันสังคมของโคลอมเบียออกมาเปิดเผยว่า รัฐบาลโคลอมเบียจะประกาศมาตรการต่าง ๆ เพื่อควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ภายในประเทศ
ล่าสุดสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าอานา ชอร์จ รัฐมนตรีสาธารณสุขของโปรตุเกส ออกมายืนยันเมื่อวานนี้ (4) ว่าพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เป็นรายแรกของประเทศแล้ว โดยเป็นผู้ที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากเม็กซิโก และจนถึงขณะนี้ทางการโปรตุเกสก็ยังไม่พบว่ามีผู้ที่อยู่ในข่ายว่าอาจติดเชื้อรายอื่นๆ อีกแต่อย่างใด

เม็กซิโกระบุหวัดพันธุ์ใหม่คร่าชีวิต 25 ศพ
โฮเซ อังเฆล กอร์โดบา รัฐมนตรีสาธารณสุขเม็กซิโก แถลงวานนี้ว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในประเทศว่ามีทั้งสิ้น26 ราย จากจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด 568 คน
รัฐมนตรีสาธารณสุขเม็กซิโกประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในประเทศว่าได้ลดความรุนแรงลงแล้ว หลังจากที่มีการแพร่ระบาดสูงสุดในช่วงระหว่างวันที่ 23-28 เมษายนที่ผ่านมา
ขณะที่ร้านอาหารและพื้นที่สาธารณะหลายแห่งในกรุงเม็กซิโก ซิตี เตรียมเปิดให้บริการอีกครั้งในวันพุธ (6) นี้ หลังจากต้องปิดให้บริการไปหลายวัน ตามมาตรการของรัฐบาลเม็กซิโกเพื่อควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในประเทศ ซึ่งภาคธุรกิจประเมินว่ามาตรการดังกล่าวของทางการ ทำให้ผู้ประกอบการต้องสูญเสียรายได้ถึงวันละ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ3,600 ล้านบาท และส่งผลกระทบต่อการจ้างงานราว 450,000 ตำแหน่ง

มะกันยืนยันผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 226 คน
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ หรือซีดีซียืนยันเมื่อวานนี้ (4) ว่าพบผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่รวม 226 รายแล้ว ใน 30 มลรัฐ ซึ่งถือว่ามีจำนวนเพิ่มขึ้นจากที่รายงานไว้เมื่อวันเสาร์ (2) ที่ผ่านมา ที่พบผู้ติดเชื้อ 160 ราย ใน21 มลรัฐ
ริชาร์ด เบสเซอร์ ผู้อำนวยการซีดีซี เชื่อว่า ยังคงมีแนวโน้มที่จะพบผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯเพิ่มมากขึ้นอีก แม้รัฐมนตรีสาธารณสุขของเม็กซิโกซึ่งเป็นเพื่อนบ้านใกล้เคียง จะออกมาระบุว่า การแพร่ระบาดในเม็กซิโกได้ชะลอตัวแล้วในขณะนี้ก็ตาม

จีนทำถูกที่กักตัวเม็กซิกัน 70 ราย
ดร.ฮานส์ โทรดสัน ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำจีนแถลงว่า การสั่งกักตัวนักท่องเที่ยวชาวเม็กซิกันกว่า 70 คนของทางการจีน ไว้ที่โรงพยาบาลและโรงแรมต่าง ๆ ในจีน ถือเป็นการกระทำที่ถูกต้องตามกฏระเบียบขององค์การอนามัยโลกทุกประการ
ผู้แทนองค์การอนามัยโลกระบุว่า การกระทำของรัฐบาลจีน ถือเป็นการดำเนินมาตรการป้องกันที่รัดกุมในภาวะที่เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่กำลังแพร่ระบาด จนองค์การอนามัยโลกต้องประกาศเตือนภัยในระดับที่ 5 จากทั้งหมด 6 ระดับ และการกระทำดังกล่าวของจีนถือเป็นการป้องกันไม่ให้ประชากรจีนซึ่งมีจำนวนมหาศาลถึง1.32 พันล้านคน มีโอกาสเสี่ยงที่จะติดเชื้อ
ความเห็นของผู้แทนองค์การอนามัยโลกมีขึ้น หลังจาก ฮอร์เฆ กวาฮาร์โด เอกอัครราชทูตเม็กซิโกประจำกรุงปักกิ่งออกมาวิจารณ์จีนเมื่อวันอาทิตย์ (3)ว่า มีการกักบริเวณนักท่องเที่ยวชาวเม็กซิกันในจีนอย่างไม่เป็นธรรมและเป็นการเลือกปฏิบัติ
อย่างไรก็ตาม หม่าจ้าวซู โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน ออกมาแถลงเมื่อวานนี้ (4) โดยปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่า จีนมีมาตรการเลือกกักตัวเฉพาะชาวเม็กซิกัน เนื่องจากเป็นประเทศที่มีการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ และชี้แจงว่าจีนไม่ได้เลือกปฏิบัติ กรณีสั่งกักตัวชาวเม็กซิกัน 70 คนแต่อย่างใด โดยการกักตัวชาวเม็กซิกันในครั้งนี้เป็นไปตามมาตรการป้องกันทางการแพทย์เท่านั้น
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ทางการทูตของเม็กซิโกในกรุงปักกิ่ง ออกมาเปิดเผยว่า ปาตริเซีย เอสปิโนซา กันเตยาโน รัฐมนตรีต่างประเทศเม็กซิโกมีแผนที่จะส่งเครื่องบินมารับตัวชาวเม็กซิกันที่ถูกจีนกักตัวไว้กลับประเทศในเร็วๆ นี้

ฟิลิปปินส์ยกเลิกห้ามนำเข้าหมู
รัฐบาลฟิลิปปินส์ประกาศยกเลิกคำสั่งห้ามนำเข้าเนื้อหมูจากเม็กซิโกและสหรัฐฯแล้ว โดยเชื่อว่า ไม่มีความเสี่ยงที่เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่จะติดต่อจากหมูมาสู่มนุษย์
อาเธอร์ แยป รัฐมนตรีเกษตรของฟิลิปปินส์ระบุว่า ฟิลิปปินส์จะยกเลิกคำสั่งห้ามนำเข้าเนื้อหมูจากทั้ง 2 ประเทศ เพื่อต้องการบรรเทาผลกระทบที่เกิดกับอุตสาหกรรมหมูในขณะนี้ เนื่องจากผู้คนจำนวนมากยังมีความเข้าใจผิดว่า ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ อาจติดต่อได้จากการบริโภคเนื้อหมู ทำให้เกิดกระแสตื่นกลัวจนเนื้อหมูมีราคาตกต่ำลงอย่างมาก
ขณะเดียวกัน ฟรานซิสโก ดูเก รัฐมนตรีสาธารณสุขของฟิลิปปินส์ ได้ออกมาขานรับการตัดสินใจของกระทรวงเกษตรครั้งนี้ พร้อมยืนยันว่า ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ใดๆ ที่พิสูจน์ได้ว่า การบริโภคเนื้อหมูจะทำให้มนุษย์ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ได้.
กำลังโหลดความคิดเห็น