xs
xsm
sm
md
lg

คลอดเกณฑ์เงินชดเชยนักเที่ยวเทศรัฐไฟเขียว200ล้านซื้อประกันภัยหมู่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กระทรวงการท่องเที่ยว นัดถก สมาคมประกันภัย และ คปภ. สรุปเงื่อนไข การรับประกันภัยคุ้มครองชาวต่างชาติ หากได้รับอันตรายจากเหตุจลาจล ระบุ 3 กรณีที่มีสิทธิได้ค่าชดเชย ได้แก่ ตาย บาดเจ็บ พิการ และ ติดค้างไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศไทยได้ จ่ายตั้งแต่ 100-10,000 ดอลลาร์สหรัฐ  พร้อมนัด 30 บริษัทประกันเซ็น MOU  วันที่ 7 พ.ค.นี้

นางสาวศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะประธานการประชุมโครงการการประกันภัยคุ้มครองชาวต่างชาติ ที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยในกรณีเกิดจลาจล ครั้งที่ 1/2552 เปิดเผยว่า  ได้หารือร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.) และสมาคมประกันภัย   เพื่อกำหนดทิศทางการทำประกันภัยให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ

โดยที่ประชุมเห็นชอบตามเงื่อนไขที่กระทรวงการท่องเที่ยวได้เสนอ ในเรื่องของเงื่อนไขนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่จะเข้าข่ายได้รับสิทธิ์ความคุ้มครองจากการประกันภัยในโครงการนี้ คือ  จะต้องเดินทางเข้ามาประเทศไทยตั้งแต่ 1 พ.ค.-31 ต.ค.52 เป็นระยะเวลารวม 6 เดือนตามโครงการ

โดยสิทธิประโยชน์ที่นักท่องเที่ยวจะได้รับในกรณีประเทศไทยเกิดจลาจล แบ่งเป็น 3 รูปแบบ ได้แก่ 1. กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ สายตา หรือทุพพลภาพถาวร จะได้รับค่าชดเชยรายละ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ 2.กรณีเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ตามจริงและหาก้องพักรักษาตัวใน รพ.เกินกว่า 10 วันขึ้นไปจะชดเชยอีกรายละ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ แต่รวมแล้วต้องไม่เกิน 10,000ดอลลาร์สหรัฐ และ 3.ความสูญเสีย หรือความเสียหายจากการหยุดชะงักของการเดินทางทำให้ไม่สามารถเดินทางกลับประเทศได้ชดเชยให้วันละ 100 ดอลลาร์สหรัฐ แต่ไม่เกิน 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับในส่วนของการทำประกันภัยในโครงการนี้ ได้ให้ คปภ.เป็นผู้ร่างสัญญา จากนั้นจะทำหนังสือถึงอัยการสูงสุดขออนุมัติใช้สัญญาตามที่ คปภ.ร่างเสนอมา โดยจะต้องทำให้แล้วเสร็จภายใน 1-2 วันนี้  ในส่วนของการเซ็นสัญญา สมาคมประกันภัยจะไปหารือกับสมาชิก ซึ่งขณะนี้มีผู้ตอบรับที่จะเข้าร่วมโครงการรวม 30 บริษัท ว่าจะเป็นในรูปแบบใด กล่าวคือ จะให้กระทรวงฯเป็นผู้เซ็นสัญญาเป็นรายบริษัทร่วม 30 ราย หรือให้เซ็นสัญญาเพียงฉบับเดียว แต่มีการระบุในรายละเอียดข้อสัญญาว่า บริษัทใดจะรับผิดชอบเป็นสัดส่วนเท่าใด

โครงการนี้ รัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณวงเงิน 200 ล้านบาท สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการซื้อประกันภัยหมู่ในครั้งนี้ โดยได้ให้สมาคมประกันภัยไปหาหรือกับสมาชิกซึ่งเป็นบริษัทประกันภัยรวม 30 บริษัท ในเรื่องของการทำสัญญา โดยในวันที่ 7 พ.ค.52 จะนัดประชุมหาข้อสรุปที่ชัดเจน พร้อมกับทำการเซ็น MOU ทันที เนื่องจากงานนี้เป็นโครงการเร่งด่วนที่รัฐบาลมีความจำเป็นต้องให้มีผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว เพื่อเรียกความมั่นใจนักท่องเที่ยวและประเทศต่างๆ ให้กลับมาโดยเร็ว

น.ส.ศศิธารา กล่าวขยายความในส่วนของการคิดเบี้ยประกันภัยว่า คำนวณจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยช่วงเดือน พ.ค.-ต.ค.ที่คาดว่าจะมีจำนวนประมาณ 5.45 ล้านคน โดยรัฐบาลจะจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามารายละ 1 ดอลลาร์สหรัฐ รวมเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 190.75 ล้านบาท (1  ดอลลาร์เท่ากับ 35 บาท )

“หลังจากนี้ เราจะมีการประชุมกันในรายละเอียดถึงขั้นตอนการขอรับค่าชดเชย เบื้องต้นคาดว่า นักท่องเที่ยวที่เดินทางเอง หรือเอฟไอที จะให้ยื่นเรื่องรับค่าชดเชยกับสำนักงานตำรวจท่องเที่ยว ส่วนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมากับกรุ๊ปทัวร์ให้ยื่นเอกสารผ่านบริษัททัวร์ เพื่อช่วยประสานงานให้  ”

อย่างไรก็ตาม ในการประชุมครั้งนี้ยังได้แจ้งกับสมาคมประกันภัยด้วยว่า ต้องการให้เขียนระบุในสัญญารับประกันด้วยว่ากรมธรรม์มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.52 จนถึงวันที่ 31 ต.ค.52 ตามระยะเวลาโครงการ แต่หากไม่สามารถมีผลย้อนหลังดังกล่าวได้ ก็ให้ขยายวันจาก วันสิ้นสุดที่ 31 ต.ค.52 ตามจำนวนวันที่กรมธรรม์เริ่มมีผลบังคับใช้ เช่น ถ้าเริ่ม 7 พ.ค.52 ก็ให้ระบุว่าสิ้นสุด  7พ.ย.52 เป็นต้น.
กำลังโหลดความคิดเห็น