xs
xsm
sm
md
lg

รพ.เอกชนตะวันออกปรับแผนรับวิกฤต ศก.52 มุ่งรักษาคนไข้ท้องถิ่น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โรงพยาบาลเอกชน 2 ที่เปิดให้บริการในช่วงปลายปี 51
ศูนย์ข่าวศรีราชา – โรงพยาบาลเอกชนในพื้นที่ภาคตะวันออก เร่งปรับแผนตลาดรับมือวิกฤตเศรษฐกิจที่ไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบต่อฐานคนไข้ต่างชาติและกลุ่มพนักงานในโรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่งในพื้นที่ซึ่งบางส่วนถูกเลิกจ้างจนต้องงดต่อสัญญาประกันสุขภาพกับบริษัทประกันภัยเท่านั้น ฐานคนไข้เดิมก็ยังกลายเป็นเค้กชิ้นใหญ่ที่หลายผู้ประกอบการหันมาแชร์ส่วนแบ่งเพื่อรักษาความอยู่รอด ส่งผลให้สถานประกอบการพยาบาลเกือบทุกแห่งต้องหันมาใช้มาตรการตลาดเชิงรุกเพื่อรักษาฐานคนไข้เดิม ทั้งลดราคาค่ารักษาพยาบาลจนถึงขึ้นออกโปรโมชันจูงใจ เพื่อสร้างฐานคนไข้กลุ่มใหม่

นายแพทย์ กฤตวิทย์ เลิศอุตสาหกูล ประธานคณะผู้บริหารกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพภาคตะวันออก ที่ประกอบด้วย โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา กรุงเทพระยอง กรุง เทพจันทบุรีและโรงพยาบาลกรุงเทพตราด เผยถึงแนวทางดำเนินธุรกิจโดยเฉพาะในส่วนโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยาในปี 2552 ว่า นอกจากจะไม่เพิ่มค่ารักษาพยาบาลเพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้เข้ามาใช้บริการโดยเฉพาะคนไข้ที่มีรายได้ระดับกลาง และกลุ่มที่เข้ารับการรักษาตามฤดูกาลท่องเที่ยวแล้ว ยังเน้นการทำกิจกรรมร่วมกับสังคมในรูปแบบ Corporate Social Responsibility เพื่อซื้อใจคนท้องถิ่นโดยมีเป้าหมายที่การ เป็นโรงพยาบาลในดวงใจ อย่างไรก็ดีในปีนี้โรงพยาบาลฯ ตั้งเป้าหมายการเติบโตไว้ที่ 10%

“โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา ได้ปรับ Position ของตัวเองให้เป็นโรงพยาบาลที่จะดูแลคนไข้ท้องถิ่น จึงได้ปรับราคาค่ารักษาพยาบาลและบริการเพื่อให้ค่าใช้จ่ายของคนไข้ลดตามโดยจะลดเป้าหมายจากกลุ่มจากไฮเอนด์ สู่กลุ่มผู้บริโภคที่มีรายได้ระดับกลางมากขึ้น นอกจากนั้น ในปี 2552 กรุงเทพพัทยา ยังตั้งเป้าหมายเป็นศูนย์กลางการรักษาพยาบาลของภาคตะวันออก ที่จะเป็นศูนย์ชำนาญการรักษาโรคเฉพาะทาง เช่น ศูนย์หัวใจ ศูนย์สมอง ศูนย์กระดูกและข้อ ศูนย์การได้ยินและศูนย์ดูแลผู้มีบุตรยาก ฯลฯ ด้วยเครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัยและทีมแพทย์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะโรค”

ขณะเดียวกัน ยังปรับลดสัดส่วนคนไข้ต่างชาติจากเดิมที่ตั้งไว้เฉลี่ยต่อปีให้เกิน 60% เป็นไม่น่าเกิน 60% เนื่องจากตัวเลขคนไข้ต่างชาติจะผันแปรตามฤดูกาลท่อง เที่ยว โดยช่วงไฮซีซัน สัดส่วนจะอยู่ประมาณ 65% ส่วนโลว์ซีซันจะอยู่ระหว่างไม่เกิน 60% ทั้งนี้ จุดขายสำคัญของโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยาและโรงพยาบาลในเครือ ภาคตะวันออก นอกจากจะอยู่ที่ราคารักษาที่ยังตรึงไว้ในอัตราเดิมแล้ว ความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ด้วยการเตรียมล่ามกว่า 22 ภาษายังสามารถสร้างความสะดวกในการติดต่อสื่อสาร โดยในส่วนโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา สามารถรองรับผู้ป่วยคนไข้ในถึง 300 ห้อง เป็นผลมาจากการลงทุนสร้างอาคารใหม่เมื่อ 2 ปีก่อน ทำให้ในปีนี้สามารถที่จะลงทุนต่อเนื่องในส่วนของเครื่องมือแพทย์ เทคโนโลยีใหม่ๆ รวมถึงการอบรมพัฒนาทักษะบุคลากรทางการแพทย์ และการบริการได้

สมิติเวชศรีราชา ชะลอลงทุนโครงการใหม่

ด้าน ผศ.นพ.สมชาย พัฒนะเอนก ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีราชา เผยถึงการดำเนินงานของโรงพยาบาลฯในปี 2552 ว่า นอกจากจะเน้นการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่รวมถึงกลุ่มคนไข้ทั้งชาวไทยและต่างชาติให้มีโอกาสได้รับการรักษา พยาบาลที่มีคุณภาพภายใต้ค่ารักษาพยาบาลที่กำหนดขึ้นเฉพาะเพื่อช่วยเหลือในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำแล้ว ปีนี้โรงพยาบาลยังก่อตั้งศูนย์ดูแลบาดแผลเพื่อรักษาแผลเรื้อรังโดยมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการตกแต่งบาดแผลให้หายเร็วยิ่งขึ้น ที่สำคัญ การพัฒนาศักยภาพและความพร้อมในศูนย์อุบัติเหตุและฉุกเฉินในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และการกำหนดให้มีแพทย์ประจำห้องฉุกเฉิน 2 คนยังสามารถช่วยให้คนไข้รอดชีวิตจากการเกิดเหตุได้มากขึ้น

“ไม่ว่าภาวะเศรษฐกิจจะเป็นเช่นใดการเกิดอุบัติเหตุก็มีตลอดเวลา เราจึงให้ความสำคัญกับศักยภาพในการรักษาพยาบาลของศูนย์อุบัติเหตุและห้องฉุกเฉิน ซึ่งขณะนี้เรามีรถพยาบาลที่ติดตั้งระบบ Gps ถึง 10 คัน เพื่อตรวจสอบระบบการให้บริการและการเดินรถ จากความพร้อมในเรื่องนี้ทำให้มีโรงพยาบาลหลายแห่งเรียกใช้บริการรถพยาบาลของเราเพื่อส่งต่อคนไข้จากโรงพยาบาลหนึ่งไปสู่โรงพยาบาลหนึ่ง ในวันนี้เราจึงมีบริการ TAXI AMBULANCE ควบคู่ไปด้วย”

ในส่วนการช่วยเหลือกลุ่มคนไข้นอกในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำนั้น โรงพยาบาลได้ออกแพกเกจประกันค่ารักษาพยาบาลของกลุ่มประชาชนทั่วไป ผู้ประกันสุขภาพหมู่ ข้าราชการ และพนักงานโรงงานอุตสาหกรรมที่เป็นทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ ด้วยการจัดโครงการ “แพกเกจช่วยชาติ” ที่จะประกันค่ารักษาให้มีค่าใช้จ่ายไม่เกิน 800 บาท และ1,200 บาท รวมถึงการเปิดรับกลุ่มคนไข้ที่ได้รับเช็ค 2,000 บาทอีกด้วย

ผศ.นพ.สมชาย เผยอีกว่าแม้ภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำจะมีผลต่อเป้าขยายตัวทางเศรษฐกิจของโรงพยาบาล แต่ก็คาดว่าในปีนี้การเติบโตทางเศรษฐกิจจะไม่ต่ำกว่า 10% จากจุดขายด้านคุณภาพและการมีศูนย์เฉพาะทาง รวมถึงมาตรฐานระดับ Class Quality และยังเป็นโรงพยาบาลนอกเขตกรุงเทพฯแห่งแรกที่ได้รับมาตรฐานนานาชาติ หรือ JCI ที่จะทำให้คนไข้มีความมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยจากการรักษาพยาบาล ซึ่งในวันนี้ก็ยังมีคนไข้ญี่ปุ่นบินตรงเข้ารับการรักษาด้านต่างๆ อยู่เรื่อยๆ ส่วนการลงทุนที่แต่เดิมมีแผนจะดำเนินการนั้น จำเป็นต้องชะลอออกไปก่อน

โรงพยาบาลเอกชล เปิดสาขา 2 รับคนไข้ประกันสังคม

ในช่วงปลายปี 2551 โรงพยาบาลเอกชลได้เปิดให้บริการโรงพยาบาลเอกชล 2 ในพื้นที่ตำบลเสม็ด (อ่างศิลา) หลังพบการขยายตัวของกลุ่มคนไข้ ซึ่งการเปิดให้บริการโรงพยาบาลแห่งใหม่เพื่อรองรับกลุ่มคนไข้ในพื้นที่ตำบลอ่างศิลาขึ้นไป ซึ่งผลการดำเนินงานของโรงพยาบาลเอกชลในช่วงที่ผ่านมาพบมีอัตราเติบโตอย่างต่อเนื่อง จนต้องขยายพื้นที่ให้บริการเพื่อรองรับจำนวนกลุ่มผู้ป่วยประกันสังคมและผู้ป่วยทั่วไป

สำหรับโรงพยาบาลเอกชล ถือเป็นผู้ประกอบธุรกิจโรงพยาบาลเอกชลแห่งแรกของจังหวัดชลบุรี ที่ในปี 2549 ได้ใช้งบประมาณหลายร้อยล้านบาทเทกโอเวอร์โรงพยาบาลอีสเทิร์นซีบอร์ดจากแบงก์เจ้าหนี้ที่สนับสนุนเงินกู้ให้กับกลุ่มแพทย์ในจังหวัดชลบุรีที่ร่วมกันจัดตั้งบริษัทศุภมิตรเวชการ เพื่อเปิดให้บริการโรงพยาบาลขนาด 225 เตียงตั้ง แต่ปลายปี 2538 แต่สุดท้ายไม่สามารถเปิดให้บริการได้

นอกจากจะเปิดให้บริการสถานบริการพยาบาลแห่งใหม่แล้ว ฝ่ายบริหารของโรงพยาบาลยังทุ่มงบประมาณอีกจำนวนมากในการจัดทำภาพลักษณ์ของโรงพยาบาลให้มีความทันสมัย และประชาสัมพันธ์เพื่อให้เป็นที่รู้จักของกลุ่มคนไข้พื้นที่และกลุ่มคนไข้ต่างชาติที่เข้ามาทำงานในนิคมอุตสาหกรรมใกล้เคียงอีกด้วย
โรงพยาบาลสมิติเวชศรีราชา
บริการเฮลิคอปเตอร์ เพื่อเคลื่อนย้ายผู้ป่วยทางอากาศของ รพ.กรุงเทพพัทยา
กำลังโหลดความคิดเห็น