xs
xsm
sm
md
lg

4กลุ่มโค่นรัฐบาล-คำนูณแนะมาร์คคุยเนวินขจัดการเมือง3ขา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ส.ว.แฉ 4 กลุ่มอยู่เบื้องหลังความวุ่นวายทางการเมือง ระบุ นาย"ก" และ น.ส."ย" รับเงินคนละ 100 ล้านย่านรามคำแหง เพื่อนำมาใช้ปลุกระดมโค่นล้มรัฐบาล "คำนูณ" และนายกฯ จับเข่าคุย "เนวิน" เพื่อผนึกกำลังอย่างจริงจังขจัดอำนาจ 3 ขา

วานนี้ (1 พ.ค.) นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการพิจารณาวุฒิสภา เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อให้ ครม. แถลงข้อเท็จจริงหรือชี้แจงปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน โดยไม่มีการลงมติ

นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ผู้เสนอญัตติ อภิปรายว่า ช่วงสงกรานต์ สถานการณ์ทางการเมืองทำให้นายกฯล่อแหลมต่อชีวิต 2 ครั้ง รวมถึงการดำรงตำแหน่ง การยกเลิกการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่พัทยา ทำให้ประเทศเสียหายมาก แต่อีกด้านหนึ่งสะท้อนว่ารัฐบาลบริหารจัดการสถานการณ์ไม่มีประสิทธิภาพ หน่วยข่าวกรองล้มเหลว เพราะมีข่าวว่า จะมีการระดมมวลชนเพื่อโค่นล้มรัฐบาล โดยมีการรับเงิน 2 ครั้งๆละ 100 ล้านบาทที่สำนักงานย่านรามคำแหง โดยครั้งแรกมี นาย "ก." และครั้งที่ 2 มี น.ส. "ย." เป็นผู้รับเงิน จากนั้นมีการปลุกระดมผ่านวีดีโอลิ้งค์กล่าวหาประธานองคมนตรี ประธานศาล ว่า อยู่เบื้องหลังรัฐประหาร และการวางแผนลอบสังหาร แต่ไม่มีใครปกป้องผู้ใหญ่คนสำคัญในบ้านเมือง จนมีการจับกุมผู้ที่จะลอบสังหารอดีตประธานศาลฎีกาคนดังกล่าว

ต่อมาวันที่ 8 เม.ย. มีการเคลื่อนของกลุ่มเสื้อแดงมาชุมนุม แต่รัฐบาลบอกว่า ไม่เป็นไร ติดงานกาชาด และมีวันสงกรานต์ เดี๋ยวก็กลับบ้านเอง จนเหตุการณ์รุนแรงมากขึ้นถึงขนาดรถนายกฯมีคนเข้ามาล้อม วันประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ตำรวจ ทหาร ใส่เกียร์ว่าง ไม่มีการบล็อกผู้ชุมนุม แต่กลับปล่อยให้ไปยื่นเอกสาร วันรุ่งขึ้นจึงเกิดเรื่องบุกเข้าไปในโรงแรมที่จัดประชุม นอกจากนี้ยังมีการล่อนายกรัฐมนตรีไปยังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้เสื้อแดง ล้อมกรอบ ซึ่งเรื่องเหล่านี้มีการเผยแพร่ไปทั่วโลกถือเป็นการประเมินสถานการณ์ผิด ของรัฐบาลคิดว่า จะควบคุมสถานการณ์ได้

นอกจากนี้ ยังปล่อยให้พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร กล่าวอ้างให้ทุกคนลุกขึ้นสู่กับอำมาตยาธิปไตย ใช้สื่อปลุกมวลชน ปลุกให้มีการแบ่งแยกทางชนชั้น ใช้สื่อต่างชาติ โจมตีประเทศ ทั้งหมดนี้เป็นแผนตากสินและแผนการปลุกระดมมวลชน

นายสมชาย กล่าวว่า จากการวิเคราะห์สถานการณ์ทั้งหมด พบว่า บุคลที่อยู่ เบื้องหลังเหตุการณ์ 4 กลุ่ม คือ กลุ่มบุคคลที่เคยเป็นอดีตคอมมิวนิสต์ ที่มีบทบาททางวิชาการ เช่น เอ็นจีโอ สื่อมวลชน กลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ 6 ตุลาคม19 กลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ 19 กันยายน 49 และกลุ่มปัญญาชนรุ่นใหม่ ที่ใช้เว็บไซด์เป็นเครื่องมือ ทำงานสอดรับกับ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยมีเป้าหมายโค่นล้มระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขให้เป็นระบบสาธารณรัฐ โดยใช้แนวทางคอมมิวนิสต์ในการทำงาน เช่น บ่มเพาะแนวคิดความแตกต่างทางชนชั้น การเก็บเกี่ยวทรัพยากร ล้มอำมาตยาธิปไตย กดดัน ปลุกระดม

"แนวทางแก้ไข รัฐบาลต้องชี้แจงข้อมูลให้ประชาชนไทยและต่างประเทศเข้าใจมากกว่านี้ โดยเฉพาะบรรดาคดีคอรัปชั่นของพ.ต.ท.ทักษิณ ต้องใช้สื่อของรัฐให้เป็นประโยชน์ในการทำความเข้าใจกับประชาชน นอกจากนี้ต้องเร่งออกกฎหมาย การจัดสรรคลื่นความถี่ เร่งกระบวนการยุติธรรม"

ด้านนายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา กล่าวว่า นายกฯต้องตระหนักว่า รัฐบาลเป็นรัฐบาลเฉพาะกิจไม่ใช่รัฐบาลปกติ เพราะวิกฤตปัจจุบันถือว่าร้ายแรงที่สุดตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 โดยภารกิจเร่งด่วนที่นายกฯต้องทำคือ การปกป้องสถาบันสูงสุดของประเทศ โดยบังคับใช้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ว่าด้วยการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ อย่างเร่งด่วน เพราะสถานการณ์ในขณะนี้ถือว่าเป็นสงคราม ที่ฝ่ายตรงข้ามพร้อมทำลายด้วยสรรพอาวุธทุกรูปแบบ และต้องยุติการเมืองที่ล้มเหลว และเพิ่มมุมมองด้านความมั่นคง ต้องใช้สื่อให้มากขึ้น โดยต้องพูดถึงสาเหตุของ ปรากฏการณ์ต่างๆ ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดกับทุกฝ่าย

โดยเริ่มจากการปฏิรูปตำรวจทั้งคนและระบบ โดยต้องมีการเลือกใช้ บุคลากรใหม่ทั้งหมด เร่งรัดการสร้างกลไกตาม พ.ร.บ.ความมั่นคงในราชอาณาจักร โดยเร็วที่สุด เพราะสามารถใช้โดยไม่ต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน

นายคำนูณ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีต้องจับเข่าคุยกับนาย เนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย อย่างตรงไปตรงมา เพื่อยุติการเมืองที่ล้มเหลว เพราะขณะนี้การเมืองไทยได้เกิดอำนาจ 3 ขา คือ 1.นายกฯสามารถได้กุมหัวใจคนในเมือง 2. นายเนวิน สามารถกุมหัวใจของคนในชนบทแทนที่อดีตนายกรัฐมนตรีที่เคยใช้ นโยบายประชานิยมในชนบท 3. ทหารและพลเรือนสนับสนุนรัฐบาลชุดนี้ ทำให้ทหารปัจจุบันไม่มีการปฏิวัติรัฐประหาร โดยภาพนี้เกิดมาตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว

ทั้งนี้ นายกฯและนายเนวิน คงขาดกันไม่ได้ถ้าหวังที่จะอยู่รอดกันทั้งหมด การคุยกันก็เพื่อ หากรอบแห่งความพอดีในการร่วมมือกันทำงานอย่างน้อยในระยะเฉพาะหน้าอย่างน้อย 2-3 ปีถัดจากนี้ รวมถึงเพื่อยกระดับการร่วมมือกันอย่างหลวมๆ แบ่งโควตา กระทรวง และงบประมาณ เพื่อแก้ปัญหาประเทศชาติที่ทั้ง 2 คนและประเทศจะวินวินทั้งหมด โดยยกระดับจากแนวร่วมชั่วคราวเป็นแนวร่วมถาวร ส่วนที่ไม่ต้องคุยกับทหารเพราะไม่ต้องการให้อำมาตยาธิปไตยนำ เนื่องจากจะย้อนยุคให้นายทหารนอกราชการมาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีความเป็นไปได้เสมอ และอาจจะมีคนคิดสูตรนี้อยู่ หากนายกฯล้มเหลว รวมทั้งผลักใสนายเนวินออกไป หากเป็นแบบนั้นฝ่ายที่สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ จะพลิกกับมาชนะทันที

ด้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังคงออกแถลงการณ์เป็นฉบับที่ 2 แก้ตัวว่าไม่ได้เป็นผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังกลุ่มคนเสือแดง และยุยงให้กลุ่มคนเสื้อแดงก่อความวุ่นวาย เพียงแต่ให้กำลังใจที่พวกเขาเรียกร้องประชาธิปไตยและความเป็นธรรม ซึ่งจะเป็นรากฐานของการปรองดองของคนในชาติ พร้อมกับอ้างว่าได้ย้ำให้ม็อบดำเนินการโดยสันติวิธี ไม่ใช้ความรุนแรงและปราศจาคอาวุธ
กำลังโหลดความคิดเห็น