วานนี้(29 เม.ย.)เวลา 10.30 น. ที่ห้องประชุม100 ปี สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก นายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา พร้อมด้วยนายธำรงศักดิ์ หงษ์ขุนทด เลขานุการอัยการฝ่ายคดีอาญา แถลงความคืบหน้าคดี นายจักรภพ เพ็ญแข แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ( นปช.) ผู้ต้องหาในความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กรณีกล่าวบรรยายพิเศษเป็นภาษาอังกฤษโดยมีถ้อยคำเข้าข่ายดูหมิ่นสถาบันฯ ที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 29 ส.ค.50 ว่า ตามที่พนักงานอัยการนัดฟังคำสั่งคดี (29เม.ย.) ปรากฏว่าผู้ต้องหาได้ส่งทนายความมาขอเลื่อนนัด โดยให้เหตุผลว่าติดภารกิจอยู่ที่ต่างประเทศ ซึ่งอัยการพิจารณาแล้วเห็นว่า คดียังอยู่ระหว่างขั้นตอนการสั่งคดี อีกทั้งผู้ต้องหาได้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม และคณะทำงานอัยการ ก็สั่งให้พนักงานสอบสวนไปสอบประเด็นเพิ่มเติมอีกบางประเด็น ซึ่งยังไม่แล้วเสร็จ จึงอนุญาตให้เลื่อนฟังคำสั่งคดีออกไปเป็นวันที่ 15 มิ.ย.นี้ เวลา10.00 น.
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในนัดสั่งคดีครั้งต่อไป หากนายจักรภพ ไม่เดินทางมารายงานอีก อัยการจะดำเนินการอย่างไร นายกายสิทธิ์ กล่าวว่า ตามกระบวนการหากอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องแล้วผู้ต้องหาไม่มารายงานตัว อัยการก็จะเรียกนายประกันให้ส่งตัวตามนัด หากไม่นำตัวมาส่ง ก็จะต้องขอให้พนักงานสอบสวนดำเนินการติดตามตัวและขออนุมัติหมายจับจากศาลต่อไป
ต่อข้อถามว่า หากมีการออกหมายจับนายจักรภพ จะมีความยากลำบากในการขอตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่ นายกายสิทธิ์ กล่าวว่า การขอให้ส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนจะทำได้ต่อเมื่ออัยการมีความเห็นสั่งฟ้องในคดีแล้ว แต่ตอนนี้อัยการยังไม่มีความเห็นใดๆ อีกทั้งยังไม่แน่ใจว่าตัวผู้ต้องหาอยู่ที่ไหน จึงยังตอบไม่ได้ว่าจะขอตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนได้หรือไม่
นายกายสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ยังมีคดีเกี่ยวกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาสั่งคดีของอัยการเพียงเรื่องเดียว คือ คดีปิดล้อมบ้านสี่เสาเทเวศร์ ซึ่ง ผบ.ตร.มีความเห็นแย้งคำสั่งไม่ฟ้องของพนักงานอัยการ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาชี้ขาดของอัยการสูงสุด ส่วนคดีของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย อัยการมีความเห็นสั่งฟ้องไปหมดแล้ว
ส่วนคดีที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ตกเป็นผู้ต้องหา ในความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กรณีนำคำปราศรัยจาบจ้วงสถาบันฯ ของนางดารณี ชาญเชิงศิลปะกุล หรือ ดา ตอร์ปิโด แนวร่วมนปช. มาเผยแพร่บนเวทีพันธมิตรฯ อัยการเลื่อนนัดสั่งคดีออกไปเป็นวันที่ 30 มิ.ย.นี้ หลังจากนายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความขอเลื่อนนัด เนื่องจากนายสนธิ อยู่ระหว่างพักรักษาตัวหลังถูกลอบยิง
ขณะที่นายนิติธร เผยถึงความคืบหน้าคดีที่ 9 แกนนำพันธมิตรฯ ตกเป็นผู้ต้องหา ในความผิดฐานสมคบกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปปลุกระดมมวลชนฯ ซึ่งหลังจากที่ได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อพนักงานอัยการในการรวบรวมเอกสารและขอให้สอบสวนพยานเพิ่มเติมอีก 38 ปากนั้น ล่าสุดตนได้ส่งเอกสารบางส่วนให้อัยการแล้ว โดยในสัปดาห์หน้าเตรียมนำพยานทยอยเข้าให้การจนครบทุกปาก
**"แม้ว"แอบแจ้งจับพันธมิตรฯ
วันเดียวกันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.ท.สมัย เจริญราช พนักงานสอบสวน (สบ 1) สภ.สำโรงใต้ จ.สมุทรปราการ ได้ออกหมายเรียกมายัง นายวริษฐ์ ลิ้มทองกุล กรรมการบริษัท เอเอสทีวี (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะส่วนตัว และในฐานะนิติบุคคล โดยให้นายวริษฐ์ ไปยัง สภ.สำโรงใต้ เพื่อพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 4 พ.ค.นี้ เวลา 10.00 น. รวม 2 คดี เนื่องจากพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาหลบหนีคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มอบอำนาจให้ นายวัชสัณห์เอก เจริญพิทักษ์ เป็นทนายความ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อนายสมบูรณ์ ทองบุราณ กับพวก และนายภูวดล ทองประเสริฐ กับพวก ในข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา
พ.ต.ท.สง่า ธีรศรัณยานนท์ รองผกก.สส.สภ.สำโรงใต้ กล่าวว่า คดีดังกล่าวพ.ต.ท.ทักษิณ มอบอำนาจให้ทนายความมาแจ้งความร้องทุกข์ ตั้งแต่ปี 2551 แล้ว โดยแจ้งความในข้อหาหมิ่นประมาทต่อพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ขึ้นกล่าวปราศรัยบนเวที โดยมีผู้ถูกกล่าวหาประมาณ 10 คน แต่จำไม่ได้กระจ่างว่ามีใครบ้าง ทั้งนี้ ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่าได้ชมรายการจากเอเอสทีวี จึงได้นำซีดีที่อัดรายการมาจากเอเอสทีวีดังกล่าวมาเป็นหลักฐานในการฟ้องหมิ่นประมาทในครั้งนี้
ด้าน ร.ต.ท.สมัย เจริญราช พนักงานสอบสวน (สบ 1) สภ.สำโรงใต้ กล่าวว่า ทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อพันธมิตรฯ กับพวกรวมประมาณ 10 คน ตั้งแต่ปี 51 แต่เพิ่งมาออกหมายเรียกผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมทั้งนายวริษฐ์ เมื่อวันที่ 22 เม.ย.52 ที่ผ่านมา ก็เพราะต้องรวบรวมพยานหลักฐานตามที่ พ.ต.ท.ทักษิณ แจ้งความว่าถูกหมิ่นประมาทก่อน จากนั้นเมื่อรวบรวมพยานหลักฐานจนครบแล้ว จึงออกหมายเรียกผู้เกี่ยวข้องให้ไปพบในวันที่ 4 ก.ค.นี้ ส่วนรายละเอียดที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกระบุว่า ถูกกล่าวหานั้นมีหลายเรื่อง เป็นเรื่องที่ผู้ถูกแจ้งความจับขึ้นพูดบนเวทีพันธมิตรฯ ซึ่งไม่สามารถจดจำได้หมดว่ามีเรื่องอะไรบ้าง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในนัดสั่งคดีครั้งต่อไป หากนายจักรภพ ไม่เดินทางมารายงานอีก อัยการจะดำเนินการอย่างไร นายกายสิทธิ์ กล่าวว่า ตามกระบวนการหากอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องแล้วผู้ต้องหาไม่มารายงานตัว อัยการก็จะเรียกนายประกันให้ส่งตัวตามนัด หากไม่นำตัวมาส่ง ก็จะต้องขอให้พนักงานสอบสวนดำเนินการติดตามตัวและขออนุมัติหมายจับจากศาลต่อไป
ต่อข้อถามว่า หากมีการออกหมายจับนายจักรภพ จะมีความยากลำบากในการขอตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่ นายกายสิทธิ์ กล่าวว่า การขอให้ส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนจะทำได้ต่อเมื่ออัยการมีความเห็นสั่งฟ้องในคดีแล้ว แต่ตอนนี้อัยการยังไม่มีความเห็นใดๆ อีกทั้งยังไม่แน่ใจว่าตัวผู้ต้องหาอยู่ที่ไหน จึงยังตอบไม่ได้ว่าจะขอตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนได้หรือไม่
นายกายสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ยังมีคดีเกี่ยวกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาสั่งคดีของอัยการเพียงเรื่องเดียว คือ คดีปิดล้อมบ้านสี่เสาเทเวศร์ ซึ่ง ผบ.ตร.มีความเห็นแย้งคำสั่งไม่ฟ้องของพนักงานอัยการ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาชี้ขาดของอัยการสูงสุด ส่วนคดีของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย อัยการมีความเห็นสั่งฟ้องไปหมดแล้ว
ส่วนคดีที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ตกเป็นผู้ต้องหา ในความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กรณีนำคำปราศรัยจาบจ้วงสถาบันฯ ของนางดารณี ชาญเชิงศิลปะกุล หรือ ดา ตอร์ปิโด แนวร่วมนปช. มาเผยแพร่บนเวทีพันธมิตรฯ อัยการเลื่อนนัดสั่งคดีออกไปเป็นวันที่ 30 มิ.ย.นี้ หลังจากนายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความขอเลื่อนนัด เนื่องจากนายสนธิ อยู่ระหว่างพักรักษาตัวหลังถูกลอบยิง
ขณะที่นายนิติธร เผยถึงความคืบหน้าคดีที่ 9 แกนนำพันธมิตรฯ ตกเป็นผู้ต้องหา ในความผิดฐานสมคบกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปปลุกระดมมวลชนฯ ซึ่งหลังจากที่ได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อพนักงานอัยการในการรวบรวมเอกสารและขอให้สอบสวนพยานเพิ่มเติมอีก 38 ปากนั้น ล่าสุดตนได้ส่งเอกสารบางส่วนให้อัยการแล้ว โดยในสัปดาห์หน้าเตรียมนำพยานทยอยเข้าให้การจนครบทุกปาก
**"แม้ว"แอบแจ้งจับพันธมิตรฯ
วันเดียวกันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.ท.สมัย เจริญราช พนักงานสอบสวน (สบ 1) สภ.สำโรงใต้ จ.สมุทรปราการ ได้ออกหมายเรียกมายัง นายวริษฐ์ ลิ้มทองกุล กรรมการบริษัท เอเอสทีวี (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะส่วนตัว และในฐานะนิติบุคคล โดยให้นายวริษฐ์ ไปยัง สภ.สำโรงใต้ เพื่อพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 4 พ.ค.นี้ เวลา 10.00 น. รวม 2 คดี เนื่องจากพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาหลบหนีคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มอบอำนาจให้ นายวัชสัณห์เอก เจริญพิทักษ์ เป็นทนายความ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อนายสมบูรณ์ ทองบุราณ กับพวก และนายภูวดล ทองประเสริฐ กับพวก ในข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา
พ.ต.ท.สง่า ธีรศรัณยานนท์ รองผกก.สส.สภ.สำโรงใต้ กล่าวว่า คดีดังกล่าวพ.ต.ท.ทักษิณ มอบอำนาจให้ทนายความมาแจ้งความร้องทุกข์ ตั้งแต่ปี 2551 แล้ว โดยแจ้งความในข้อหาหมิ่นประมาทต่อพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ขึ้นกล่าวปราศรัยบนเวที โดยมีผู้ถูกกล่าวหาประมาณ 10 คน แต่จำไม่ได้กระจ่างว่ามีใครบ้าง ทั้งนี้ ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่าได้ชมรายการจากเอเอสทีวี จึงได้นำซีดีที่อัดรายการมาจากเอเอสทีวีดังกล่าวมาเป็นหลักฐานในการฟ้องหมิ่นประมาทในครั้งนี้
ด้าน ร.ต.ท.สมัย เจริญราช พนักงานสอบสวน (สบ 1) สภ.สำโรงใต้ กล่าวว่า ทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อพันธมิตรฯ กับพวกรวมประมาณ 10 คน ตั้งแต่ปี 51 แต่เพิ่งมาออกหมายเรียกผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมทั้งนายวริษฐ์ เมื่อวันที่ 22 เม.ย.52 ที่ผ่านมา ก็เพราะต้องรวบรวมพยานหลักฐานตามที่ พ.ต.ท.ทักษิณ แจ้งความว่าถูกหมิ่นประมาทก่อน จากนั้นเมื่อรวบรวมพยานหลักฐานจนครบแล้ว จึงออกหมายเรียกผู้เกี่ยวข้องให้ไปพบในวันที่ 4 ก.ค.นี้ ส่วนรายละเอียดที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกระบุว่า ถูกกล่าวหานั้นมีหลายเรื่อง เป็นเรื่องที่ผู้ถูกแจ้งความจับขึ้นพูดบนเวทีพันธมิตรฯ ซึ่งไม่สามารถจดจำได้หมดว่ามีเรื่องอะไรบ้าง