"จักรภพ" อ้างติดภารกิจต่างประเทศ ส่งทนายขอเลื่อนคดีหมิ่นเบื้องสูง อัยการนัดอีกครั้ง 15 มิ.ย.นี้ หากไม่มาอีกอาจโดนหมายจับ ส่วนคดี "สนธิ" หมิ่นเบื้องสูง เลื่อนไป 30 มิ.ย. เหตุเจ้าตัวต้องรักษาตัวหลังถูกลอบยิง
วันนี้ ( 29 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ห้องประชุม 100 ปี สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก นายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา พร้อมด้วยนายธำรงศักดิ์ หงษ์ขุนทด เลขานุการอัยการฝ่ายคดีอาญา แถลงความคืบหน้าคดีที่นายจักรภพ เพ็ญแข แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ( นปช.) ผู้ต้องหาในความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กรณีกล่าวบรรยายพิเศษเป็นภาษาอังกฤษโดยมีถ้อยคำเข้าข่ายดูหมิ่นสถาบัน ที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 29 ส.ค.50 ว่า ตามที่พนักงานอัยการนัดฟังคำสั่งคดีในวันนี้ ปรากฏว่าผู้ต้องหาได้ส่งทนายความมาขอเลื่อนนัดโดยให้เหตุผลว่าติดภารกิจอยู่ที่ต่างประเทศ ซึ่งอัยการพิจารณาแล้วเห็นว่าคดียังอยู่ระหว่างขั้นตอนการสั่งคดี อีกทั้งผู้ต้องหาได้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม และคณะทำงานอัยการเองก็สั่งให้พนักงานสอบสวนไปสอบประเด็นเพิ่มเติมอีกบางประเด็นซึ่งไม่แล้วเสร็จ จึงอนุญาตให้เลื่อนฟังคำสั่งคดีออกไปเป็นวันที่ 15 มิ.ย.นี้ เวลา 10.00 น.
ผู้สื่อข่าวถามว่าในนัดสั่งคดีครั้งต่อไปหากนายจักรภพไม่เดินทางมารายงานอีกอัยการจะดำเนินการอย่างไร นายกายสิทธิ์ กล่าวว่า ตามกระบวนการหากอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องแล้วผู้ต้องหาไม่มารายงานตัวอัยการก็จะเรียกนายประกันให้ส่งตัวตามนัด หากไม่นำตัวมาส่งก็จะต้องขอให้พนักงานสอบสวนดำเนินการติดตามตัวและขออนุมัติหมายจับจากศาลต่อไป
ต่อข้อถามว่า หากมีการออกหมายจับนายจักรภพจะมีความยากลำบากในการขอตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่ นายกายสิทธิ์ กล่าวว่า การขอให้ส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน จะทำได้ต่อเมื่ออัยการมีความเห็นสั่งฟ้องในคดีแล้ว แต่ตอนนี้อัยการยังไม่มีความเห็นใดๆ อีกทั้งยังไม่แน่ใจว่าตัวผู้ต้องหาอยู่ที่ไหน จึงยังตอบไม่ได้ว่าจะขอตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนได้หรือไม่
นายกายสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ยังมีคดีเกี่ยวกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาสั่งคดีของอัยการเพียงเรื่องเดียว คือ คดีปิดล้อมบ้านสี่เสาเทเวศร์ ซึ่ง ผบ.ตร.มีความเห็นแย้งคำสั่งไม่ฟ้องของพนักงานอัยการ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาชี้ขาดของอัยการสูงสุด ส่วนคดีของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย อัยการมีความเห็นสั่งฟ้องไปหมดแล้ว
ส่วนคดีที่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ตกเป็นผู้ต้องหา ในความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กรณีนำคำปราศรัยจาบจ้วงสถาบันของนางดารณี ชาญเชิงศิลปะกุล หรือดา ตอร์ปิโด แนวร่วม นปช.มาเผยแพร่บนเวทีพันธมิตรฯ อัยการเลื่อนนัดสั่งคดีออกไปเป็นวันที่ 30 มิ.ย.นี้ หลังจากนายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความขอเลื่อนนัดเนื่องจากนายสนธิ อยู่ระหว่างพักรักษาตัวหลังถูกลอบยิง
ขณะที่นายนิติธร เผยถึงความคืบหน้าคดีที่ 9 แกนนำพันธมิตร ตกเป็นผู้ต้องหาในความฐานสมคบกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปปลุกระดมมวลชนฯ ซึ่งหลังจากที่ได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อพนักงานอัยการในการรวบรวมเอกสารและขอให้สอบสวนพยานเพิ่มเติมอีก 38 ปากนั้น ล่าสุดตนได้ส่งเอกสารบางส่วนให้อัยการแล้ว โดยในสัปดาห์หน้าเตรียมนำพยานทยอยเข้าให้การจนครบทุกปาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้คดีนายจักรภพอัยการได้เลื่อนนัดสั่งคดีมาในวันนี้ (29 เม.ย.) โดยให้เหตุผลว่ารอผลสอบสวนเพิ่มเติมที่คณะทำงานอัยการ ให้กองปราบปรามดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแปลความถ้อยคำภาษาอังกฤษที่นายจักรภพได้กล่าวบรรยายพิเศษเป็นภาษาอังกฤษ ที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 29 ส.ค.50
สำหรับคดีดังกล่าวเมื่อวันที่ 24 มี.ค.2551 พ.ต.ต.วัฒนศักดิ์ มุ่งกิจการดี พงส.สน.บางมด ช่วยราชการ สน.พหลโยธิน เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ให้ดำเนินคดีต่อนายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ฐานหมิ่นประมาทดูหมิ่นอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ถึง 15 ปี กรณีไปกล่าวบรรยายพิเศษเป็นภาษาอังกฤษที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย โดยมีถ้อยคำเข้าข่ายดูหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์
วันนี้ ( 29 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ห้องประชุม 100 ปี สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก นายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา พร้อมด้วยนายธำรงศักดิ์ หงษ์ขุนทด เลขานุการอัยการฝ่ายคดีอาญา แถลงความคืบหน้าคดีที่นายจักรภพ เพ็ญแข แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ( นปช.) ผู้ต้องหาในความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กรณีกล่าวบรรยายพิเศษเป็นภาษาอังกฤษโดยมีถ้อยคำเข้าข่ายดูหมิ่นสถาบัน ที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 29 ส.ค.50 ว่า ตามที่พนักงานอัยการนัดฟังคำสั่งคดีในวันนี้ ปรากฏว่าผู้ต้องหาได้ส่งทนายความมาขอเลื่อนนัดโดยให้เหตุผลว่าติดภารกิจอยู่ที่ต่างประเทศ ซึ่งอัยการพิจารณาแล้วเห็นว่าคดียังอยู่ระหว่างขั้นตอนการสั่งคดี อีกทั้งผู้ต้องหาได้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม และคณะทำงานอัยการเองก็สั่งให้พนักงานสอบสวนไปสอบประเด็นเพิ่มเติมอีกบางประเด็นซึ่งไม่แล้วเสร็จ จึงอนุญาตให้เลื่อนฟังคำสั่งคดีออกไปเป็นวันที่ 15 มิ.ย.นี้ เวลา 10.00 น.
ผู้สื่อข่าวถามว่าในนัดสั่งคดีครั้งต่อไปหากนายจักรภพไม่เดินทางมารายงานอีกอัยการจะดำเนินการอย่างไร นายกายสิทธิ์ กล่าวว่า ตามกระบวนการหากอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องแล้วผู้ต้องหาไม่มารายงานตัวอัยการก็จะเรียกนายประกันให้ส่งตัวตามนัด หากไม่นำตัวมาส่งก็จะต้องขอให้พนักงานสอบสวนดำเนินการติดตามตัวและขออนุมัติหมายจับจากศาลต่อไป
ต่อข้อถามว่า หากมีการออกหมายจับนายจักรภพจะมีความยากลำบากในการขอตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่ นายกายสิทธิ์ กล่าวว่า การขอให้ส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน จะทำได้ต่อเมื่ออัยการมีความเห็นสั่งฟ้องในคดีแล้ว แต่ตอนนี้อัยการยังไม่มีความเห็นใดๆ อีกทั้งยังไม่แน่ใจว่าตัวผู้ต้องหาอยู่ที่ไหน จึงยังตอบไม่ได้ว่าจะขอตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนได้หรือไม่
นายกายสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ยังมีคดีเกี่ยวกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาสั่งคดีของอัยการเพียงเรื่องเดียว คือ คดีปิดล้อมบ้านสี่เสาเทเวศร์ ซึ่ง ผบ.ตร.มีความเห็นแย้งคำสั่งไม่ฟ้องของพนักงานอัยการ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาชี้ขาดของอัยการสูงสุด ส่วนคดีของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย อัยการมีความเห็นสั่งฟ้องไปหมดแล้ว
ส่วนคดีที่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ตกเป็นผู้ต้องหา ในความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กรณีนำคำปราศรัยจาบจ้วงสถาบันของนางดารณี ชาญเชิงศิลปะกุล หรือดา ตอร์ปิโด แนวร่วม นปช.มาเผยแพร่บนเวทีพันธมิตรฯ อัยการเลื่อนนัดสั่งคดีออกไปเป็นวันที่ 30 มิ.ย.นี้ หลังจากนายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความขอเลื่อนนัดเนื่องจากนายสนธิ อยู่ระหว่างพักรักษาตัวหลังถูกลอบยิง
ขณะที่นายนิติธร เผยถึงความคืบหน้าคดีที่ 9 แกนนำพันธมิตร ตกเป็นผู้ต้องหาในความฐานสมคบกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปปลุกระดมมวลชนฯ ซึ่งหลังจากที่ได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อพนักงานอัยการในการรวบรวมเอกสารและขอให้สอบสวนพยานเพิ่มเติมอีก 38 ปากนั้น ล่าสุดตนได้ส่งเอกสารบางส่วนให้อัยการแล้ว โดยในสัปดาห์หน้าเตรียมนำพยานทยอยเข้าให้การจนครบทุกปาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้คดีนายจักรภพอัยการได้เลื่อนนัดสั่งคดีมาในวันนี้ (29 เม.ย.) โดยให้เหตุผลว่ารอผลสอบสวนเพิ่มเติมที่คณะทำงานอัยการ ให้กองปราบปรามดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแปลความถ้อยคำภาษาอังกฤษที่นายจักรภพได้กล่าวบรรยายพิเศษเป็นภาษาอังกฤษ ที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 29 ส.ค.50
สำหรับคดีดังกล่าวเมื่อวันที่ 24 มี.ค.2551 พ.ต.ต.วัฒนศักดิ์ มุ่งกิจการดี พงส.สน.บางมด ช่วยราชการ สน.พหลโยธิน เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ให้ดำเนินคดีต่อนายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ฐานหมิ่นประมาทดูหมิ่นอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ถึง 15 ปี กรณีไปกล่าวบรรยายพิเศษเป็นภาษาอังกฤษที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย โดยมีถ้อยคำเข้าข่ายดูหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์