xs
xsm
sm
md
lg

ขอ 120 ล้านสู้หวัดเม็กซิโก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คณะกก.ชาติถกนัดแรก เห็นชอบ 7 มาตรการหลักควบคุม “หวัดเม็กซิโก” เตรียมของบกลาง 120 ล้านต้าน ด้าน “ฮุนเซน” หนุนไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุมประเทศอาเซียนรับมือ จุฬาฯ แถลงผลยืนยันสาววัย 42 ป่วยเป็นหวัดใหญ่ธรรมดา “มานิต” สั่งเพิ่มเจ้าหน้าที่ประจำเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิอย่างน้อยจุดละ 5 คน “วิทยา” สั่งกระจายยาต้านครอบคลุมทุกพื้นที่ ก.แรงงานพร้อมอพยพแรงงานไทย ก.ต่างประเทศส่งหน้ากากอนามัย 5 พันชิ้นช่วย กทม.ขอความร่วมมือเกสท์เฮ้าส์ โรงแรม เฝ้าระวังนักท่องเที่ยว จับตา “ข้าวสาร-สุขุมวิท” พร้อมประสานสหกรณ์แท็กซี่ให้คนขับสวมหน้ากากหวั่นติดเชื้อ หมอเตือนแห่ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ไม่ได้ผล
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ด้านไวรัสวิทยาคลินิก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กล่าวว่าจากกรณีที่โรงพยาบาลจุฬาฯ รับตัวผู้ป่วยเฝ้าระวังด้วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ที่แพร่ระบาดในเม็กซิโก จำนวน 1 ราย เป็นหญิงวัย 42 ปี นั้น ผลการตรวจโดยห้องปฏิบัติการครั้งที่2 ยืนยันว่า ผู้ต้องสงสัยรายดังกล่าวเป็นไข้หวัดใหญ่ธรรมดาตามฤดูกาล
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา โรงพยาบาลได้รับผู้ป่วยดังกล่าวและแยกคนไข้ออกไปพักในห้องพิเศษที่มีระบบการเฝ้าระวังมิให้มีการสัมผัสกับบุคคลอื่นๆ ตามระบบการคัดกรองเพื่อลดการแพร่กระจาย พร้อมทั้งเก็บตัวอย่างเพื่อวินิจฉัยและตรวจพิสูจน์เชื้อโดยได้ส่งเสมหะและน้ำล้างโพรงจมูกเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนการป้องกันโรค
“เราส่งตัวอย่างถึงห้องปฏิบัติการเวลา 12.00 น. วันที่ 28 เม.ย.และผลการทดสอบเบื้องต้นพบเป็นไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ. จากนั้นได้ทำการตรวจเพิ่มทางรายละเอียดของชีวะโมเลกุลของ 2 ห้องปฏิบัติการ ได้แก่ภาควิชาจุลชีววิทยา และศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางไวรัสวิทยาคลินิก โรงพยาบาลจุฬาฯ โดยวิธีการตรวจของ 2 ห้องปฎิบัติการนี้เป็นอิสระต่อกัน และรายละเอียดการตรวจไม่เหมือนกัน การตรวจทั้งสองห้องยืนยันว่า เป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ H1N1"
"อย่างไรก็ตาม เมื่อทราบผลแล้วก็จำเป็นต้องตรวจยืนยันสายพันธุ์ H1N1 อีกครั้ง ว่าเป็นสายพันธุ์ของไข้หวัดตามฤดูกาลหรือไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก โดยใช้วิธีตรวจจำเพาะสายพันธุ์ และการตรวจหายีนชิ้นส่วนอื่นที่อยู่ภายใน ซึ่งผลออกมาเมื่อเวลาประมาณ 08.00 น. ของวานนี้(29 เม.ย.)ได้รับการยืนยันเป็นที่แน่นอนว่า ผู้ป่วยรายนี้ เป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ H1N1 ตามฤดูกาลที่ระบาดในไทยอยู่แล้ว ไม่ใช่ไข้หวัดสายพันธุ์เม็กซิโก"
นพ.ยงกล่าวว่า ขณะนี้ผู้ป่วยไม่มีอาการไข้ อาการเป็นปกติดี คณะแพทย์ได้พิจารณากันแล้ว คาดว่าจะกลับบ้านในเร็วๆ นี้ ซึ่งทางแพทย์จะได้นัดและให้คำแนะนำในการดูแลตัวเองและการเฝ้าระวังอีกครั้ง

เตรียมของบกลาง 120 ล้านต้าน
วันเดียวกันพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการเตรียมความพร้อมป้องกันและควบคุมแก้ไขสถานการณ์ระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ ได้เรียกประชุมคณะกรรมการฯนัดแรก โดยเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟังด้วย
นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการฯ กล่าวว่า จนถึงขณะนี้มีรายงานตัวเลขผู้ป่วย 2,498 ราย เสียชีวิต 159 ราย ส่วนใหญ่เสียชีวิตในเม็กซิโก ทำให้เม็กซิโกสูญเสียรายได้ถึงวันละ 57 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือวันละ 2,280 ล้านบาท ขณะนี้สหรัฐฯ มีผู้ป่วยแล้ว 68 รายจาก 6 รัฐ นอกจากนี้ นิวซีแลนด์ อิสราเอล สหรัฐฯ แคนาดา อังกฤษ และสเปน ก็พบผู้ป่วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามจะเสนอขออนุมัติงบกลางจำนวน 120 ล้านบาท ในการเตรียมมาตรการป้องกันและควบคุมโรคดังกล่าวต่อไป

คณะกก.ชาติเห็นชอบ 7 มาตรการ
นพ.ศุภมิตร ชุณห์สุทธิ์วัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กรรมการฯ กล่าวว่า การเตรียมความพร้อมรับการระบาดใหญ่จะต้องทำหลายด้าน โดยจะมีการเตรียมมาตรการหลัก 7 ด้าน ได้แก่ 1.การประสานสั่งการ เช่น การแจ้งรหัสเตือนภัย และการตั้งศูนย์บริหารวิกฤตการแห่งชาติ หน่วยงานรับผิดชอบหลัก คือ มหาดไทย 2.การเตรียมพร้อมด้านสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุขเป็นหน่วยงานหลัก มีมาตรการหลัก คือ ตรวจคัดกรองผู้เดินทาง การปรับระบบการเฝ้าระวังโรค 3.การสื่อสารประชาสัมพันธ์ ให้ข้อมูลข่าวสารต่อประชาชน หน่วยงานรับผิดชอบคือ กรมประชาสัมพันธ์ 4.การรักษาความสงบเรียบร้อยและการบรรเทาทุกข์ 5.การร่วมมือพหุภาคี ระหว่างประเทศ 6.การเตรียมพร้อมด้านปศุสัตว์ และ7.การรักษาความต่อเนื่องของบริการสาธารณ และธุรกิจ หากมีการะบาดสามารถใช้มาตรการดังกล่าวได้ทันที
ด้าน น.ส.ชมพูนุท นาครทรรพ ที่ปรึกษา รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ได้ประสานไปยังกงสุลไทยในเม็กซิโก ทราบว่าสิ่งจำเป็นขณะนี้ คือ หน้ากากอนามัยป้องกันการติดเชื้อซึ่งขาดแคลน ดังนั้นจะมีการจัดส่งหน้ากากอนามัยจำนวน 5,000 ชุด ไปให้คนไทยและชุมชนไทยในเม็กซิโกในวันที่ 30 เม.ย.
พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ขอความร่วมมือจากทุกหน่วยราชการแจ้งไปยังโรงพยาบาลในสังกัด รวมทั้งโรงพยาบาลเอกชนว่ากรณีรับผู้ป่วยเข้าข่ายต้องสงสัยเป็นโรคดังกล่าว มารับการรักษา ให้แจ้งมายังกระทรวงสาธารณสุข โดยในต่างจังหวัดให้แจ้งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โดยห้ามโรงพยาบาลแถลงข่าวก่อน โดยจะต้องแจ้งข้อมูลให้คณะกรรมการฯให้รับทราบและพิจารณา
   
“ฮุนเซน” หนุนไทยเป็นเจ้าภาพถกอาเซียนรับมือ
นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังร่วมประชุมคณะกรรมการอำนวยการเตรียมความพร้อมป้องกัน ควบคุม แก้ไขสถานการณ์การระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ว่า เลขาธิการอาเซียนเสนอให้มีการจัดประชุมสาธารณสุขอาเซียน เพื่อเตรียมการรับมือการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เม็กซิโก ในเบื้องต้นนายกรัฐมนตรีได้ประสานไปยังสมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่งเห็นด้วย และอยากให้ไทยควรเป็นเจ้าภาพ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้มอบหมายให้เลขาธิการอาเซียน ประสานประเทศสมาชิกเพื่อจัดประชุมโดยเร็วที่สุด คาดว่าน่าจะจัดประชุมได้ในสัปดาห์หน้า

สธ.สั่งเพิ่มเจ้าหน้าที่ประจำเทอร์โมสแกน
นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังเป็นประธานในการประชุมศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินทางด้านการแพทย์และสาธารณสุข ซึ่งเป็นการประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์ของโรคไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดในประเทศเม็กซิโกว่า มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่เดินทางมากจากต่างประเทศที่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งจะต้องผ่านเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิ เทอร์โมแสกนได้กำชับให้มีเจ้าหน้าที่ประจำจุด ที่มีการติดตั้งเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิ อย่างน้อยจุดละ 5 คน เพื่อสามารถรับมือในกรณีที่มีผู้ที่เดินทางเข้าประเทศ มีอาการเป็นไข้ อุณหภูมิสูงกว่าที่กำหนดเป็นจำนวนมากได้
"เห็นได้ชัดว่า การใช้เทอร์โมแสกนเป็นด่านแรกในการป้องกันการระบาดของโรคสร้างความมั่นใจได้ในระดับหนึ่ง แต่หากมีปัญหาเข้าหน้าที่ในการควบคุมดูแลในแต่ละจุดน้อยอาจตรวจดูไม่ทั่วถึง ซึ่งที่สนามบินสุวรรณภูมิมีเจ้าหน้าที่ทั้งหมด 30 คน มีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียน 3 ผลัด ทั้ง 4 จุด โดยมีการจัดทีมเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลบำราศนราดูรเข้าเสริม และหากเกิดสิ่งผิดปกติ สธ.มีทีมแพทย์ที่เตรียมพร้อมการดูแลในทุกโรงพยาบาลอยู่แล้ว”นายมานิตกล่าว

มั่นใจเม็กซิโกคุมโรคได้
นายมานิต กล่าวต่อว่า ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตในเม็กซิโกจาก 149 รายเป็น 152 ราย ซึ่งมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเพียง3ราย แสดงให้เห็นว่า เม็กซิโกสามารถที่จะควบคุมการแพร่ระบาดของโรคได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งในประเทศที่มีความการเตรียมพร้อมรับมือ ไม่น่าจะเกิดปัญหาอะไร ขอยืนยันว่า ไทยยังไม่พบผู้ป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกหรือผู้ที่เข้าข่ายเฝ้าระวังโรคไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก อย่างไรก็ตามมาตรการเฝ้าระวัง และการเตรียมความพร้อมในทุกระดับจะต้องดำเนินการอย่างเข้มงวดต่อไป
นอกจากนั้น ในวันนี้ สธ. จะเชิญผู้ประกอบการท่องเที่ยว มาประชุม และขอความร่วมมือ หากนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาประเทศไทย โดยเฉพาะผู้ที่มาจากเม็กซิโก หรือประเทศที่พบผู้ป่วย  มีอาการผิดปกติขอให้แจ้งกระทรวงสาธารณสุขทราบ  ซึ่งกระทรวงฯมีโรงพยาบาลและทีมแพทย์พร้อมให้การดูแล จัดเตรียมห้องแยกไว้ สร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยว จะได้รับการดูแลอย่างดี
นพ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ผู้ที่เดินทางมายังประเทศไทยที่สนามบินสุวรรณภูมิตั้งแต่เมื่อวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา พบว่ามีผู้ที่มีอาการไข้สูงกว่า 37 องศาเซลเซียส รวมทั้งสิ้น 5 ราย ซึ่งเมื่อตรวจสอบรายละเอียดมีการซักถามประวัติแล้วปรากฏว่า ไม่ได้เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงในการระบาด แต่มาจากประเทศอินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลี อย่างไรก็ตาม ได้แนะนำให้มีการเฝ้าระวังโรคต่อไปอีก 14 วัน หากอาการไข้ไม่ลดลงให้ติดต่อกลับมายังแพทย์เพื่อทำการรักษาต่อไป

ท้วง WHO ทบทวนชื่อหวัดมรณะ
นพ.คำนวณ กล่าวต่อว่า ขณะนี้องค์การอนามัยโลก(WHO) ยังเรียกโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ H1N1 ที่แพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ว่า “โรคไข้หวัดหมู” ( Swine Flu ) และยังไม่มีการตั้งชื่อโรคอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม เพื่อป้องกันความสับสนว่าเกิดจากเชื้อไวรัสในหมูติดสู่คน และกระทบกับการปศุสัตว์ จึงเรียกร้องให้เรียกชื่อโรคนี้ตามหลักวิชาการคือ ไข้หวัดใหญ่ที่แพร่ระบาดในประเทศเม็กซิโกหรือไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกพร้อมทั้งได้ส่งหนังสือถึงWHO ขอให้ทบทวนการตั้งชื่อโรคดังกล่าวใหม่ โดยเข้าใจว่าขณะนี้มีหลายประเทศที่เรียกร้องให้เปลี่ยนชื่อโรคเช่นเดียวกับประเทศไทย

”วิทยา”สั่งกระจายยาทั่วประเทศ
วันเดียวกัน ที่ รร.รามาการ์เด้น นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวในการเปิดประชุมการพัฒนาระบบติดตามประเมินผลการดำเนินการ ส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ปีงบประมาณ 2552 โดยมีนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด(สสจ.)ทั่วประเทศเข้าร่วมว่า สธ.เน้นมาตรการในการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ที่ระบาดในประเทศเม็กซิโกชนิดนี้ไม่ให้เข้าประเทศ อย่างไรก็ตาม ในอนาคตหากพบผู้ป่วยในไทย แสดงว่ามาตรการป้องกันโรคล้มเหลว จะต้องเริ่มมาตรการที่ 2 ทันที คือ การสืบหาผู้ป่วยอย่างรวดเร็วที่สุด โดยที่สสจ.และโรงพยาบาลทุกแห่งจะต้องรับผู้ป่วยโรคหวัดทุกคนที่เข้ารับการรักษาทันที ไม่มีสิทธิปฏิเสธการรับผู้ป่วยแล้วให้ไปรับการรักษาที่หน่วยบริการสุขภาพปฐมภูมิ จากนั้นนำผู้ป่วยเข้ามาตรการคัดกรองโรคและยืนยันเชื้อทันที
สำหรับการกระจายยาโอเซลทามิเวียร์ไปยังโรงพยาบาลในพื้นที่ทุกแห่งนั้น หากพบว่าพื้นที่ไหนยังไม่ได้รับยาให้แจ้งมาที่ สธ. โดยจะต้องเร่งดำเนินการให้เรียบร้อยภายในวันที่ 2 พ.ค.นี้ เพื่อเตรียมความพร้อมในระดับพื้นที่หากเกิดการระบาดในไทย นอกจากนั้น วานนี้(29 เม.ย.) ได้มีการติดตั้งเครื่องเทอร์โมสแกนเพิ่มที่สนามบินหาดใหญ่อีก 1 จุด
สำหรับผลการตรวจวัดอุณหภูมิผู้โดยสารขาเข้าจากทั่วโลก ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อคืนที่ผ่านมา จำนวนทั้งหมด 37,217 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้มาจากประเทศเม็กซิโก แคนาดา และสหรัฐอเมริกา จำนวน 8 เที่ยวบิน รวม 2,400 คน ยังไม่พบผู้มีไข้หรือมีอาการผิดปกติ

หมอเตือนแห่ฉีดวัคซีนหวัดใหญ่ไม่ได้ผล
ศ.นพ.ประเสริฐ เอื้อวรากุล  แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสและอาจารย์ประจำภาควิชา จุลชีววิทยาคณะ แพทยศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราช กล่าวว่า ขอฝากเตือนประชาชนที่กำลังตื่นตระหนกจนแห่ไปฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามสถานพยาบาลต่างๆว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ที่มีให้บริการอยู่นั้นไม่สามารถป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ที่ระบาดในเม็กซิโกแต่อย่างใด เพราะแม้แต่สหรัฐอเมริกาฯยังออกมาชี้แจงกับสาธารณะว่า วัคซีนในท้องตลาดไม่สามารถป้องกันไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกได้ เพราะแม้ว่าตัวเชื้อจะเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ เอช 1 เอ็น 1 ก็ตาม แต่ก็มีความแตกต่างกันมากพอควร
               ทั้งนี้ ในส่วนของวัคซีนไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกคงต้องรออีกระยะหนึ่ง เพราะหลังจากที่องค์การอนามัยโลกเตรียมเชื้อไวรัสสำหรับผลิตวัคซีนจะต้องใช้ระยะเวลาอีกอย่างน้อย 2-3 เดือนกว่าที่จะสามารถผลิตมาใช้ป้องกันได้ ซึ่งได้ทราบข่าวว่าขณะนี้องค์การอนามัยโลกได้เตรียมตัวในเรื่องดังกล่าวเสร็จแล้ว
                “อย่างไรก็ตามขณะนี้แม้ว่าจะมีการเตรียมเชื้อไวรัสสำหรับการผลิตวัคซีน ซึ่งใช้ระยะเวลาอย่างน้อย 2-3 เดือน แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่า หากผลิตวัคซีนเป็นผลสำเร็จแล้ว จะมีการกระจายวัคซีนไปที่ประเทศใด จะแจกจ่ายกับประเทศที่มีการระบาดอย่างไร หรือบริษัทที่ผลิตจะเก็บไว้ใช้สำหรับประชาชนในประเทศของบริษัทผู้ผลิตเพียงอย่างเดียว จึงเป็นเรื่องที่ต้องติดตาม”ศ.นพ.ประเสริฐ กล่าว
               
ยันไทยไม่จัดอันดับตามทั่วโลก
นพ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กล่าวว่า  แม้ว่าทั่วโลกจะมีการยกระดับความรุนแรงมากเพียงใด แต่ถ้าไทยยังไม่มีผู้ป่วยก็ไม่จำเป็นที่ต้องทำตามนั้น แต่ และต้องรักษาสถานะอย่างนี้ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยการตรวจตราผู้เดินทางเข้าประเทศอย่างเข้มข้นต่อไป
อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์ถูกยกระดับเป็นระดับ 5 คือ ไม่สามารถควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อโรคได้ จำเป็นที่คณะกรรมการอำนวยการเตรียมความพร้อมป้องกันและควบคุมแก้ไขสถานการณ์การระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ ที่มีพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ เป็นประธานสั่งการหน่วยงานต่างๆมาพร้อมทำหน้าที่ในการป้องกันยับยั้งการระบาดตามแผนแม่บทที่เคยเสนอครม.มาก่อนหน้านี้

รพ.ราชวิถีติดประตูวัดไข้
นพ.เรวัติ  วิศรุตเวช  อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้โรงพยาบาลราชวิถี ติดตั้งประตูวัดไข้ ซึ่งเป็นโปรแกรมสำหรับตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายแบบไม่สัมผัส มาใช้ตรวจวัดผู้ที่มารับบริการในบริเวณจุดรับผู้ป่วยนอก เพื่อคัดแยกผู้ที่มีอุณหภูมิสูงออกจากผู้ป่วยทั่วไปและบุคคลปกติโดยไม่ต้องสัมผัสผู้ป่วย ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของเชื้อโรค เป็นการควบคุมป้องกันการติดโรคในระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะในสถานการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เม็กซิโกในขณะนี้ 
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้รพ.ราชวิถีได้ร่วมกับศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) พัฒนาโปรแกรมประมวลผลภาพจากกล้องถ่ายภาพรังสีความร้อน (อินฟาเรด) ซึ่งเป็นโปรแกรมสำหรับตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายแบบไม่สัมผัส โดยเทคโนโลยีดังกล่าวสามารถคัดกรองผู้ป่วยได้หลายคนพร้อมกัน   และให้บริการตรวจวัดได้อย่างรวดเร็ว   ทำให้แยกผู้ป่วยที่มีอาการไข้สูงหรือผู้ป่วยที่อาจมีเชื้อโรคติดต่อร้ายแรง ไปรับการรักษาในห้องตรวจแยกโรคที่ได้มาตรฐานต่อไป ซึ่งการติดตั้งระบบดังกล่าวจะเสร็จสมบูรณ์ภายในสัปดาห์หน้านี้

กทม.ขอเกสท์เฮ้าส์-รร.เฝ้านักท่องเที่ยว
วันเดียวกันที่ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการ กทม.พญ. มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าฯกทม. เป็นประธานประชุมเตรียมความพร้อมรับการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์เม็กซิโก โดยมี พญ.วรยา เหลืองอ่อน สำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) บรรยายให้ความรู้กับเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการสาธารณสุขทั้ง 68 แห่ง อนามัยเขตทั้ง 50 เขต และโรงพยาบาลสังกัด กทม. ทั้ง 9 แห่ง จำนวนกว่า 250 คน
  พญ.มาลินีกล่าวว่า ได้สั่งการให้ทุกเขตเตรียมความพร้อมรับโรคระบาดไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ที่ระบาดในเม็กซิโก โดยให้ประสานกับโรงแรม เกสท์เฮ้าส์ และสถานประกอบการทั่วกรุงเทพฯ โดยเฉพาะย่านถนนสุขุมวิท ถนนข้าวสาร หากพบนักท่องเที่ยวที่มีอาการเป็นไข้หวัดหลังจากเดินทางเข้ามาในประเทศไทย 14 วัน ให้โทรแจ้งมาที่ศูนย์ปฏิบัติการและศูนย์ข้อมูลโรคไข้หวัดนก กทม. (SRRT) โทรศัพท์ 1555หรือ คอลเซ็นเตอร์ สธ. 1669 ตลอด 24 ชม. นอกจากนี้กทม.จะมีการแจกเอกสาร ถามตอบให้ความรู้เรื่องโรคไข้หวัดใหญ่ให้กับสถานประกอบการนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และคนไทยด้วย
  ทั้งนี้ ในวันที่ 1 พ.ค.นี้ที่ห้องรัตนโกสินทร์ เวลา 13.00 น. กทม.จะเชิญโรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชน ศูนย์บริการสาธารณสุข  คลินิก และร้านขายยากว่า 100 แห่งเพื่อให้ความรู้เรื่องไข้หวัดใหญ่ รวมทั้ง แจกแบบสอบถามผู้ป่วยสงสัยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ด้วย
  อย่างไรก็ตามกทม. มียาไข้หวัดใหญ่สำรองอยู่ 700 โดส และยาทามิฟลู อีก 200 โดส เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือ ซึ่งกทม.สามารถเบิกยาจาก สธ. ได้ตลอดหากเกิดการระบาดขึ้น นอกจากนี้กำลังอยู่ระหว่างการประสานเครือข่ายสหกรณ์ แท็กซี่ในกทม.ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงให้มีการป้องกันตัวเองจากโรคดังกล่าว  โดยการสวมหน้ากากขณะขับรถ เพราะคนขับรถแท็กซี่ให้บริการรับส่งผู้โดยสารชาวต่างชาติอยู่บ่อยครั้งอาจเสี่ยงต่อการติดโรคโดยการไอ จาม หรือการสัมผัสประตูรถที่ผู้ป่วยสัมผัสเอาไว้ได้

พร้อมอพยพแรงงานไทยในเม็กซิโก
นายพิชัย เอกพิทักษ์ดำรง อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า ได้ประสานสำนักงานแรงงานไทยที่ประจำอยู่ในประเทศต่าง ๆ รวมทั้งหน่วยงานในสังกัดกรมการจัดหางาน ได้แก่ สำนักงานบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ สำนักจัดหางานกรุงเทพ เขตพื้นที่ 1-10 สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด และเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนหางาน ให้ประชาสัมพันธ์และอบรมคนหางานก่อนเดินทางไปทำงานในต่างประเทศ รวมทั้งแรงงานที่กำลังทำงานในประเทศที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก เพื่อให้ทราบถึงข้อมูลการแพร่ระบาดของเชื้อดังกล่าว อย่างไรก็ตาม หากการแพร่ระบาดลุกลามจนไม่สามารถควบคุมได้ ก็พร้อมให้ความช่วยเหลืออพยพแรงงานไทยออกจากพื้นที่ทันที

กต.ยันไม่มีคนไทยในจังโก้ขอกลับ
นายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ ในฐานะโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีคนไทยที่อยู่ในเม็กซิโกจำนวน 105 คน ขอเดินทางกลับประเทศไทย หลังเกิดการแพร่ระบาดโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในเม็กซิโก เพียงแต่ประสานให้ทุกคนแจ้งที่อยู่ที่ติดต่อได้ไว้กับสถานเอกอัครราชทูต กรณีมีเหตุฉุกเฉินหรือสถานการณ์เลวร้ายลงไปกว่านี้
อย่างไรก็ตาม สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแองเจลิส กำลังดำเนินการส่งหน้ากากอนามัยไปเพิ่มเติมให้แล้ว ขณะเดียวกันสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเม็กซิโก ซิตี้ รวมทั้งกระทรวงการต่างประเทศได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ด้านนายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว ซึ่งทำธุรกิจนำคนไทยท่องเที่ยวต่างประเทศ (เอาท์บาวด์) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสมาชิกของสมาคมฯ ไม่พบว่าบริษัทใดมีนักท่องเที่ยวคนไทยไปตกค้างอยู่ในประเทศเม็กซิโก ทั้งนี้ภาคเอกชนประเมินว่า ไม่มีผลด้านท่องเที่ยวของไทย เพราะอยู่ห่างไกลกันมาก อีกทั้งในทวีปเอเชียเกิดสถานการณ์บ่อย ทั้งไข้หวัดนก ซาร์ส แต่มีระบบและมาตรการป้องกันที่ดี

กรมการค้าฯชงห้ามนำเข้าหมู-เครื่องใน
นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ได้เสนอให้ระงับการห้ามนำเข้าเนื้อหมู และเครื่องในหมู ต่อนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เพื่อพิจารณาแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างรอการนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ ก่อนส่งต่อให้กรมการค้าต่างประเทศออกประกาศใช้มาตรการห้ามนำเข้าหมูและเครื่องในหมูเป็นการชั่วคราว ซึ่งหลังครม.เห็นชอบภายใน 2 สัปดาห์น่าจะมีผลบังคับใช้
กำลังโหลดความคิดเห็น