ASTVผู้จัดการรายวัน/รอยเตอร์/เอเอฟพี –“ไข้หวัดหมู” ช็อกโลก เม็กซิโกตายแล้ว 81 ศพ สหรัฐฯ ติดเชื้ออีกนับสิบ ขณะที่มีรายงานทั้งที่ยืนยันและไม่ยืนยันการแพร่ระบาดในนิวซีแลนด์ ยุโรปและอิสราเอล รัฐบาลประเทศต่างๆ ทั่วโลก เร่งเฝ้าระวังเต็มอัตราศึกกระทรวงสาธารณสุขไทยสั่งป้องกันการแพร่ระบาดขั้นสูงสุด ตั้งวอร์รูมรับมือ ตรวจเข้มติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิสนามบินนานาชาติ จับตาผู้โดยสารขาเข้าจากเม็กซิโกและบางส่วนของสหรัฐฯ ยันยังไม่เคยพบเชื้อนี้ในไทย อย่าตระหนกไม่ติดต่อจากการกินหมู ด้านนายกฯ เตรียมหารือหน่วยงานรับมือวันนี้
โฮเซ อังเฆล กอร์โดบา รัฐมนตรีสาธารณสุขเม็กซิโกเผยว่า นับตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตในเม็กซิโกซึ่งคาดว่าน่าจะติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่หมูแล้ว 81 ราย แม้มีเพียง 20 รายเท่านั้นที่ได้รับการยืนยันแล้ว ผู้เสียชีวิตเหล่านี้ส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 25-45 ปี ขณะที่ทางการเม็กซิโกกำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่อีก 1,324 ราย ซึ่งผู้เชี่ยวชาญประเมินว่าคนเหล่านี้อาจกลายเป็นผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่หมูรายใหม่เพิ่มขึ้นอีกภายในไม่กี่วันข้างหน้านี้
กอร์โดบา เปิดเผยว่า ยอดผู้เสียชีวิตได้เพิ่มขึ้นอีก 13 ราย ภายในเวลา 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา หลังจากการประเมินยอดผู้เสียชีวิตครั้งแรกตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ (24) ที่ผ่านมา ซึ่งระบุว่า มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสดังกล่าว 68 คนทั่วประเทศ
รัฐมนตรีสาธารณสุขเม็กซิโกระบุว่า ในขณะนี้เม็กซิโกมีปริมาณยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ธรรมดา ทั้งยา“ทามิฟลู” ของบริษัท โรช เอจี และ ยา “เรเลนซา” ของบริษัทแกล็กโซสมิธไคลน์ รวมกันประมาณ1 ล้านโดส ซึ่งเพียงพอที่จะใช้รักษาผู้ติดเชื้อเท่าที่มีรายงานเข้ามาในขณะนี้ แต่หากมีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น เม็กซิโกก็จะประสบปัญหาขาดแคลนยาต้านไวรัสในทันที
นอกจากนั้น กอร์โดบา ระบุว่า ทางการเม็กซิโกได้สั่งให้สถานศึกษาทุกแห่งในกรุงเม็กซิโกซิตี ซึ่งมีประชากรถึง 20 ล้านคน และพื้นที่โดยรอบ รวมทั้งในรัฐซัน ลุยส์ โปโตซี ทางภาคกลางของประเทศยุติการเรียนการสอนเป็นการชั่วคราวจนกว่าจะถึงวันที่ 6 พ.ค. นอกจากนั้น ทางการเม็กซิโกยังสั่งยกเลิกการจัดงานในที่สาธารณะอีกหลายร้อยแห่ง เพื่อป้องกันไม่ให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก
มีรายงานว่าด้วยว่าบรรดาพิพิธภัณฑ์ ศูนย์การค้า โรงภาพยนตร์ต่างพากันประกาศปิดให้บริการเป็นเวลาอย่างน้อย 10 วัน ขณะที่การแข่งขันฟุตบอลในศึก “ ปริเมรา ดิบิสิอ็อน” ซึ่งเป็นลีกสูงสุดของเม็กซิโกในเมื่อวานนี้ (26) ก็เป็นการแข่งขันกันภายในสนามที่ว่างเปล่า เนื่องจากมีประกาศห้ามแฟนฟุตบอลเดินทางเข้าไปชมเกมในสนาม นอกจากนั้น บรรดาผู้คนตามท้องถนนต่างพากันออกมาซื้ออาหาร น้ำดื่มและของใช้ที่จำเป็นกักตุนไว้ โดยสวมหน้ากากอนามัยปิดปากปิดจมูก เพื่อป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อดังกล่าว
ทางด้านประธานาธิบดี เฟลิเป กัลเดรอน อิโนโฮซา แห่งเม็กซิโก ได้ออกแถลงการณ์โดยยืนยันว่า รัฐบาลของเขากำลังจับตาดูการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่หมูทั่วประเทศแบบนาทีต่อนาที พร้อมยอมรับว่า พบผู้ติดเชื้อใน 6 รัฐ จากทั้งหมด 31 รัฐ และการแพร่ระบาดยังลุกลามไปทั่วตั้งแต่รัฐทางตอนเหนือที่อยู่ติดกับพรมแดนสหรัฐฯ อย่าง รัฐบาฮา กาลิฟอร์เนีย ไปจนถึงรัฐในแถบเขตร้อนทางตอนใต้ของประเทศซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยว อย่างรัฐเบรากรูซ
โดยกัลเดรอนซึ่งเพิ่งสั่งอนุมัติงบประมาณเร่งด่วนจำนวน 450ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อใช้รับมือการแพร่ระบาดครั้งนี้ ยอมรับว่า การแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่หมูสายพันธุ์ใหม่ ถือเป็นการซ้ำเติมเศรษฐกิจของเม็กซิโกให้ย่ำแย่ลงไปอีก หลังจากก่อนหน้านี้ก็ได้รับผลกระทบจากปัญหาการถดถอยของเศรษฐกิจโลก และปัญหาความรุนแรงจากขบวนการค้ายาเสพย์ติดในประเทศมาแล้ว
**“ฮู”จี้นานาชาติรับมือก่อน
ระบุอาจเพิ่มระดับเตือนภัย
องค์การอนามัยโลก หรือ “ฮู” ออกประกาศเตือนเมื่อวันเสาร์(25) ให้ไข้หวัดใหญ่ชนิดนี้เป็น “เหตุการณ์ทางสาธารณสุขที่นานาชาติต้องระมัดระวัง” และมาร์กาเรต ชาน ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก เรียกร้องให้ประเทศต่างๆ เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังการระบาดของโรคไข้หวัดหมู ซึ่งจะทำให้ผู้ติดเชื้อมีไข้สูงและปอดอักเสบอย่างรุนแรง
ก่อนหน้านี้ ฮูบอกว่า เชื้อไข้หวัดใหญ่หมูสายพันธุ์ใหม่ที่กำลังระบาดอยู่ในเม็กซิโกขณะนี้ เป็นเชื้อที่มีการผสมกันของไวรัสไข้หวัดใหญ่ทั้งในในหมู มนุษย์ และสัตว์ปีก และชานก็ได้ย้ำว่า เชื้อไข้หวัดหมูสายพันธุ์ใหม่ถือว่ามีศักยภาพที่จะก่อให้เกิดโรคระบาดร้ายแรงแพร่กระจายเป็นบริเวณกว้างได้ เนื่องจากสามารถทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว
ชานเปิดเผยว่า ผลการทดสอบในห้องทดลองพบว่า เชื้อไวรัสจากผู้ติดเชื้อในเม็กซิโกจำนวน 12 คน มีลักษณะทางพันธุกรรมแบบเดียวกันเชื้อไข้หวัดใหญ่ในหมูซึ่งเรียกชื่อกันว่า เชื้อไวรัสH1N1 ซึ่งสามารถติดต่อสู่มนุษย์ได้ และในขณะนี้ก็ยังไม่มีวัคซีนใดๆ ที่จะป้องกันไข้หวัดหมูสายพันธุ์ใหม่นี้ได้เช่นกัน ขณะเดียวกันก็มีความเป็นไปได้ที่จะต้องประกาศเพิ่มระดับการเตือนภัยโรคระบาดขึ้นอีกจากระดับที่ 3 ในขณะนี้หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น
ก่อนหน้านี้องค์การอนามัยโลกเคยประกาศเตือนตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อนนี้ว่า จะมีไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เกิดขึ้น ซึ่งอาจทำให้มีผู้ติดเชื้อและแพร่ระบาดไปทั่วโลกจนอาจทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายล้านคน
* * พบชาวมะกันติดเชื้อหวัดหมูแล้ว 11 ราย
แคธลีน เซเบเลียส รัฐมนตรีสาธารณสุขสหรัฐฯ ออกมายืนยันว่า พบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่หมูแล้ว11 ราย ใน 3 มลรัฐใหญ่คือ แคลิฟอร์เนีย เท็กซัส และแคนซัส โดยในจำนวนนี้เป็นผู้ติดเชื้อในแคลิฟอร์เนียถึง6 รายซึ่งผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เพิ่งเดินทางกลับมาจากเม็กซิโก
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า พบเด็กนักเรียนในมหานครนิวยอร์ก 8-9 รายมีอาการต้องสงสัยว่าอาจติดเชื้อไข้หวัดหมูด้วยเช่นกัน
** ฝรั่งเศส สเปน อังกฤษ พบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อ
ดิดิเยร์ อุสแซ็ง ผู้อำนวยสำนักงานสาธารณสุขแห่งชาติของฝรั่งเศส ได้ออกมาเปิดเผยกับหนังสือพิมพ์เลอ ปาริเซียง เมื่อวานนี้ (26) ว่า พบผู้ต้องสงสัยว่าจะติดเชื้อไข้หวัดหมูในเบื้องต้นแล้ว 2 ราย โดยทั้งคู่เป็นนักท่องเที่ยวที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากเม็กซิโก แต่คาดว่าน่าจะพบผู้ต้องสงสัยเพิ่มเติมอีกจากบรรดาผู้โดยสารทั้งทางเครื่องบินและทางเรือ ที่กำลังจะเดินทางกลับมาจากเม็กซิโกใน2-3วันข้างหน้า
ทางด้านสเปน ทางการผู้รับผิดชอบแจ้งว่า ได้นำบุคคล 3 คนเข้าอยู่ในสถานที่เพื่อการติดตามเฝ้าสังเกตอย่างต่อเนื่อง ภายหลังพวกเขากลับจากเม็กซิโก โดยมีอาการไข้หวัดใหญ่ กระทรวงสาธารณสุขสเปนแจ้งว่า ต้องใช้เวลาในการติดตามสังเกตอาการราว 48 ชั่วโมง จึงจะสามารถระบุชัดว่าบุคคลทั้ง 3 ป่วยเพราะติดเชื้อหวัดหมูหรือไม่
ส่วนที่อังกฤษมีรายงานว่า ลูกเรือคนหนึ่งของสายการบินบริติช แอร์เวย์ส ที่เพิ่งกลับมาพร้อมกับเที่ยวบินที่เดินทางไปยังกรุงเม็กซิโก ซิตีถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลนอร์ทวิก พาร์ก ในกรุงลอนดอนหลังจากมีอาการคล้ายเป็นไข้ อย่างไรก็ตาม โฆษกของโรงพยาบาลแถลงในเวลาต่อมายืนยันว่า ลูกเรือผู้นี้ไม่ได้ติดเชื้อหวัดหมู
ขณะที่ทางการอาร์เจนตินาประกาศเตือนภัยฉุกเฉิน โดยเตรียมกักตัวผู้เดินทางเข้าประเทศทุกคนที่เดินทางมาจากเม็กซิโก หากพบว่ามีอาการคล้ายกับเป็นไข้
ทางด้านอิสราเอล เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลหลายรายเผยว่า มีชายอิสราเอลวัย 26 ปีผู้หนึ่ง ซึ่งเพิ่งกลับจากเม็กซิโก เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลลานิอาโด เมืองเนทันยา ด้วยอาการแบบไข้หวัดใหญ่ และแพทย์กำลังติดตามอาการเพื่อวินิฉัยว่าเขาติดเชื้อไข้หวัดใหญ่นกหรือไม่
** นิวซีแลนด์พบนร.ติดเชื้อแล้ว 10 ราย **
โทนี ไรออลล์ รัฐมนตรีสาธารณสุขนิวซีแลนด์ออกมายืนยันเมื่อวานนี้ (26)ว่า พบเด็กนักเรียน 10 คนจากโรงเรียนแห่งหนึ่งในเมืองออคแลนด์ ที่คาดว่าน่าจะติดเชื้อไข้หวัดใหญ่หมูแล้ว หลังจากทั้งหมดเพิ่งเดินทางกลับมาจากการไปทัศนศึกษาเป็นเวลา 3 สัปดาห์ที่เม็กซิโกเมื่อวันเสาร์ (25) ที่ผ่านมา แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าอาจารย์อีก 3 คนและนักเรียนคนอื่นๆอีก 12 คนที่ร่วมเดินทางไปพร้อมกันจะติดเชื้อด้วยหรือไม่
**10 ชาติเอเชียตื่นตัวเตรียมรับมือเต็มที่**
รายงานข่าวระบุว่า หน่วยงานด้านสาธารณสุขของประเทศต่างๆทั่วเอเชียจำนวน 10 ประเทศ คือ จีน สิงคโปร์ เวียดนาม เกาหลีใต้ ฮ่องกง ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย บังคลาเทศ และประเทศไทย ต่างตื่นตัวด้วยการเตรียมประกาศมาตรการต่างๆ ไว้รับมือการระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่หมูเข้ามายังเอเชีย เช่น มาตรการตรวจสอบผู้โดยสารและผลิตภัณฑ์เนื้อหมูจากเม็กซิโกอย่างเข้มงวด รวมทั้ง การปฏิบัติตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกอย่างเคร่งครัด
โดยทางการฮ่องกงและญี่ปุ่นแถลงว่า กำลังพิจารณาเพิ่มระดับในการติดตามเฝ้าระวังการแพร่ระบาด รวมทั้งจะตรวจร่างกายบรรดานักท่องเที่ยวอย่างเข้มงวดว่ามีอาการคล้ายเป็นไข้หวัดใหญ่หรือไม่ ขณะที่ทางการจีนระบุว่า ผู้ที่เดินทางมาจากประเทศที่มีรายงานไข้หวัดใหญ่หมูระบาด และมีอาการไข้ในช่วง 2 สัปดาห์ก่อนเข้าประเทศจีน จะต้องมารายงานต่อเจ้าหน้าที่ด้วย
**”อภิสิทธิ์”เรียกถกวันนี้
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิด เอ สายพันธุ์ เอช 1 เอ็น 1 (H1N1) ซึ่งเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ของคน หรือไข้หวัดหมู ในประเทศเม็กซิโกและบางส่วนของสหรัฐอเมริกาว่า รัฐบาลจะเรียกประชุมเชิงนโยบายกับหน่วยงานสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในวันที่ 27 เม.ย. ถึงวันที่ 29 เม.ย. เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวและหาแนวทางป้องกันเพื่อไม่ให้เชื้อมีการแพร่กระจายไปในวงกว้าง
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ติดต่อเกี่ยวข้องกับฟาร์มหมู, โรงฆ่าหมู, เขียงหมู รวมถึงผู้บริโภคเนื้อและเลือดหมู ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงในการติดเชื้อดังกล่าว ดังนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงการบริโภคเนื้อหมูที่มีลักษณะสุกๆดิบๆ และหากมีความจำเป็นต้องสัมผัสก็ควรป้องกันด้วยการสวมถุงมือทุกครั้ง
**สธ.ยันยังไม่พบเชื้อมรณะในไทย
นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ขอยืนยันให้ประชาชนไทยสบายใจว่า จนถึงขณะนี้ ประเทศไทยยังไม่เคยพบเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ดังกล่าว และจากการเฝ้าระวังโรคของสำนักระบาดวิทยา ตั้งแต่ต้นปี 2552 -ปัจจุบัน พบผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ จำนวน 3,159 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต ซึ่งไม่แตกต่างกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2551 อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อเร่งรัดการเฝ้าระวังโรค รวมทั้งเตรียมความพร้อมรับมือ ทั้งด้านการตรวจวินิจฉัย การดูแลรักษาพยาบาลผู้ป่วย การเตรียมเครื่องมือและเวชภัณฑ์ ตลอดจนการเดินทางระหว่างประเทศ โดยประสานงานกับองค์การอนามัยโลกและศูนย์ป้องกันควบคุมโรคแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา อย่างใกล้ชิดด้วย
**สั่งตั้งด่านวัดอุณหภูมิสนามบิน
นพ.มล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากการประชุมร่วมกับผู้แทนองค์การอนามัยโลกเมื่อคืนวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา องค์การอนามัยโลก ยังไม่ได้ประกาศให้การระบาดของโรคดังกล่าวเป็นภาวะฉุกเฉินระดับ 4 ซึ่งหมายถึงการระบาดใหญ่ แต่ยังเป็นแค่ระดับ 3 คือ ให้เน้นเรื่องของการเฝ้าระวังและควบคุมการระบาดในแต่ละพื้นที่เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของประเทศไทย ได้สั่งการให้ด่านควบคุมโรคระหว่างประเทศ เตรียมพร้อมในการติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิเทอร์โมสแกนเนอร์ บริเวณท่าอากาศยานนานาชาติโดยเฉพาะที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในจุดที่มีเครื่องบินหรือผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ที่มีการระบาดคือเม็กซิโก และ บางส่วนของสหรัฐอเมริกา พร้อมแจกเอกสารคำเตือนด้านสาธารณสุข( Health Card) แก่ผู้ที่จะเดินทางเข้าและออกนอกประเทศ ในส่วนของคนไทยได้เตือนให้งดการเดินทางไปประเทศเม็กซิโกและบางรัฐของสหรัฐอเมริกา เช่น แคลิฟอร์เนีย เท็กซัส ที่มีการระบาดของโรคในขณะนี้ รวมทั้งให้เปิดศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขขึ้นที่กรมควบคุมโรค และหากมีความจำเป็นอาจจะต้องเปิดศูนย์ปฏิบัติการในระดับกระทรวง เพื่อเป็นวอร์รูมในการติดตามสถานการณ์และเฝ้าระวังการระบาดของโรคอย่างใกล้ชิดต่อไป และเตรียมออกประกาศกระทรวงใน 1-2 วันนี้ เพื่อให้ความรู้ประชาชนเกี่ยวกับการปฏิบัติตนทั่ว ๆ ไป และเมื่อเป็นไข้หวัด หรือเมื่อจะเดินทางไปยังประเทศเม็กซิโก และตอนใต้ของสหรัฐ
“ข่าวการระบาดของโรคนี้ อาจทำให้ประชาชนไทยเกิดความวิตก กลัวติดเชื้อและไม่กล้ากินเนื้อหมู จึงขอให้ข้อมูลว่า โรคระบาดดังกล่าวไม่ใช่โรคที่ติดจากการรับประทานหมู แต่เป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ที่มีสารพันธุกรรมของหมูและคนผสมกัน เป็นการกลายพันธุ์ของเชื้อในตัวคน ติดต่อจากคนสู่คนไม่ใช่จากหมูมาสู่คน ซึ่งทางองค์การอนามัยโลกให้คำแนะนำว่า ให้เฝ้าระวังผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่และปอดบวมอย่างใกล้ชิด”
นพ.มล.สมชาย กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ กรมควบคุมโรคได้จัดเตรียมยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่สามารถรักษาโรคนี้ได้ ซึ่งมีเพียงพออยู่แล้ว ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีรายงานผู้เสียชีวิตในประเทศเม็กซิโก แต่เชื้อนี้มียาต้านไวรัสที่รักษาได้ นอกจากนี้ไทยยังมีระบบที่ใช้ตลอดปี คือการเฝ้าระวังผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ โรคปอดบวมเพื่อคัดกรองหาโรคไข้หวัดนก ซึ่งปกติไข้หวัดใหญ่ในคนจะพบเชื้อ เอช 3 เอ็น 2 มากกว่าเอช 1 เ อ็น 1 อยู่แล้ว การเฝ้าระวังจึงสามารถเพิ่มเติมรองรับใช้กับโรคไข้หวัดใหญ่ชนิดนี้ได้
**เปิดสายด่วนไข้หวัดหมู
นพ.มล.สมชาย กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ได้สั่งการให้มีการเปิดสายด่วนเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในเม็กซิโก ตลอด 24 ชั่วโมง ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-2590-3333 อัตโนมัติ 10 คู่สาย พร้อมทั้งจะเริ่มมีเจ้าหน้าที่ประจำคู่สายเพื่อให้ได้รับข้อมูลป้องกันการตื่นตระหนกของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีที่มีการสอบถามมากว่า สามารถรับประทานเนื้อหมูได้หรือไม่
ส่วนที่มีข่าวว่า ยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์อาจมีไม่เพียงพอหากเกิดการระบาด ยืนยันว่า ขณะนี้ยาโอเซลทามิเวียร์ในสต๊อกยามีมากเกินพอ จำนวนหลายล้านโดส ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นยาที่เตรียมพร้อมในส่วนของการควบคุมป้องกันโรคไข้หวัดนก ซึ่งไทยไม่พบผู้ป่วยมานานกว่า 2 ปีแล้ว เนื่องจากมีระบบการเฝ้าระวังโรคที่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ในขณะนี้องค์การเภสัชกรรมสามารถผลิตยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ได้ จึงทำให้ปริมาณของยาที่กระจายไปตามสถานพยาบาลต่างๆทั่วประเทศมีเพียงพอ ขอให้ประชาชนวางใจ ที่สำคัญ ขณะนี้ยังไม่มีการระบาดของไข้หวัดใหญ่ชนิดที่ระบาดในเม็กซิโกในประเทศไทย จึงไม่ควรตื่นตระหนก ยืนยันว่ากรมควบคุมโรคมีการติดตามสถานการณ์การระบาดของโรคอย่างใกล้ชิด
**เผยระบาดเหมือนหวัดใหญ่
นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่นี้ มีการแพร่ติดต่อเช่นเดียวกับโรคไข้หวัดใหญ่ในคนโดยทั่วไป คือเชื้อที่อยู่ในเสมหะ น้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย แพร่ไปยังผู้อื่นโดยการไอหรือจามรดกันในระยะใกล้ชิด หรือติดจากมือและสิ่งของที่มีเชื้อปนเปื้อนอยู่ และเชื้อจะเข้าสู่ร่างกายทางจมูกและตา เช่น การแคะจมูก การขยี้ตา ไม่ติดต่อจากการรับประทานเนื้อหมู ผู้ป่วยจะมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ คือ มีไข้สูง ปวดเมื่อยตามร่างกาย ไอ มีน้ำมูก หากป่วยและมีอาการดังกล่าว ควรสวมหน้ากากอนามัย และหลีกเลี่ยงการไปในที่ชุมชน หรือสถานที่แออัด ประชาชนทั่วไปควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง โดยรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผัก ผลไม้ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ งดสูบบุหรี่ งดดื่มเหล้า ล้างมือบ่อยๆ
ทั้งนี้ ข้อมูลเบื้องต้นจากการสอบสวนโรคบ่งชี้ว่า ไข้หวัดใหญ่เอช 1 เอ็น 1 เป็นการติดต่อจากคนสู่คนและทำให้มีผู้เสียชีวิต ซึ่งองค์การอนามัยโลกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และกำลังพิจารณาให้คำแนะนำเรื่องการเดินทางระหว่างประเทศ ดังนั้น ผู้ที่มีแผนการเดินทางไปยังประเทศเม็กซิโก รวมทั้งรัฐแคลิฟอร์เนียและเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา จึงควรติดตามสถานการณ์และคำแนะนำจากกระทรวงสาธารณสุขอย่างใกล้ชิดต่อไป
**เรียกประชุมผู้เชี่ยวชาญวันนี้
ด้านนพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานศูนย์ปฎิบัติการควบคุมโรคอุบัติใหม่กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า รมว.สธ.มีนโยบายกำชับให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข จัดเตรียมความพร้อมระบบเฝ้าระวังป้องกันของไทยขั้นสูงสุด ดังนั้น วานนี้(26 เม.ย.) จึงได้ประชุมอธิบดีกรมควบคุมโรค แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการในกระทรวงสาธารณสุข เพื่อติดตามและประเมินสถานการณ์โรคนี้อย่างใกล้ชิด โดยที่ประชุมได้วางระบบความพร้อมของไทย ซึ่งขณะนี้มีความพร้อมทุกจุดแล้ว ทั้งการป้องกันเฝ้าระวัง ทุกจุดผ่านแดน และสถานบริการสามารถให้การรักษาได้
นอกจากนั้น ในวันที่ 27 เม.ย.จะจัดประชุมผู้เชี่ยวชาญการควบคุมโรคทั้งในและนอกกระทรวงสาธารณสุขรวมทั้งองค์การอนามัยโลก ศูนย์ความร่วมมือไทยสหรัฐด้านสาธารณสุข เพื่อประเมินสถานการณ์และกำหนดแนวทางการดำเนินงานที่เหมาะสม และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
**”หมอประเสริฐ” ชี้ไม่ใช่หวัดใหญ่กลายพันธุ์
ศ.นพ.ประเสริฐ ทองเจริญ อดีตกรรมการผู้เชี่ยวชาญโรคติดเชื้อไวรัสขององค์การอนามัยโลก กล่าวว่า จากข้อมูลในวงการวิทยาศาสตร์สาธารณสุข พบว่า ไวรัสไข้หวัดใหญ่เอ็ช 1 เอ็น 1 ที่พบในเด็กชายและหญิงในสหรัฐอเมริกาที่ป่วยและหายดี ทั้งที่ไม่มีประวัติสัมผัสกับหมูที่ป่วยเป็นไข้หวัดหมูมาก่อน พบว่าไวรัสผิดไปจากไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่พบว่ามีการระบาดในสหรัฐฯมาก่อน อีกทั้งสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสก็เปลี่ยนแปลงไป แต่ไม่ใช่การกลายพันธุ์ เพราะไม่ทราบว่า เชื้อดังกล่าวที่เก็บได้จากเด็กทั้ง 2 รายจะเป็นลักษณะใดต่อไป วงการแพทย์ทำได้เพียงการติดตามเฝ้าระวังดูธรรมชาติของเชื้อโรคที่จะพัฒนาต่อไปเท่านั้น ไม่สามารถคาดการณ์อะไรได้
**คาดวัคซีนที่มีเอาไม่อยู่
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กล่าวว่า เชื้อไวรัสไข้หวัดหมู เป็นไข้หวัดใหญ่ชนิด A ที่พบได้ทั้งในหมูเลี้ยง และหมูป่า ในปัจจุบันที่พบบ่อยรวมทั้งในประเทศไทย จะเป็นสายพันธุ์ H1N1, H1N2 และ H3N2 ส่วนการระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดหมู ที่พบในประเทศ เม็กซิโก และอเมริกา เป็นสายพันธุ์ที่ไม่เคยพบมาก่อนในมนุษย์ เป็นสายพันธุ์ที่มีชิ้นส่วนของพันธุกรรมเกิดจากการผสมผสานของไข้หวัดหมู ที่เคยมีรายงานในอเมริกา หรือ ยุโรป และเอชีย รวมทั้งชิ้นส่วนพันธุกรรมของไข้หวัดที่เคยรายงานไว้ในอเมริกาเหนือ จึงถือได้ว่าเป็นไวรัสสายพันธุ์ใหม่ และเมื่อดูองค์ประกอบเปรียบเทียบกับวัคซีน H1N1 ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน มีความคล้ายคลึงกันไม่ถึง 80% บ่งชี้ให้เห็นว่าการป้องกันด้วยวัคซีนที่ใช้ในปัจจุบันก็ไม่น่าจะได้ผล อย่างไรก็ตามไวรัสดังกล่าวยังคงตอบสนองต่อยาต้านไวรัส ได้แก่ โอเซลทามิเวียร์ หรือทามิฟลู และซานามิเวียร์ แต่สามารถดื้อต่อ ยาอมานทาดีนได้
โฮเซ อังเฆล กอร์โดบา รัฐมนตรีสาธารณสุขเม็กซิโกเผยว่า นับตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตในเม็กซิโกซึ่งคาดว่าน่าจะติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่หมูแล้ว 81 ราย แม้มีเพียง 20 รายเท่านั้นที่ได้รับการยืนยันแล้ว ผู้เสียชีวิตเหล่านี้ส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 25-45 ปี ขณะที่ทางการเม็กซิโกกำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่อีก 1,324 ราย ซึ่งผู้เชี่ยวชาญประเมินว่าคนเหล่านี้อาจกลายเป็นผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่หมูรายใหม่เพิ่มขึ้นอีกภายในไม่กี่วันข้างหน้านี้
กอร์โดบา เปิดเผยว่า ยอดผู้เสียชีวิตได้เพิ่มขึ้นอีก 13 ราย ภายในเวลา 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา หลังจากการประเมินยอดผู้เสียชีวิตครั้งแรกตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ (24) ที่ผ่านมา ซึ่งระบุว่า มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสดังกล่าว 68 คนทั่วประเทศ
รัฐมนตรีสาธารณสุขเม็กซิโกระบุว่า ในขณะนี้เม็กซิโกมีปริมาณยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ธรรมดา ทั้งยา“ทามิฟลู” ของบริษัท โรช เอจี และ ยา “เรเลนซา” ของบริษัทแกล็กโซสมิธไคลน์ รวมกันประมาณ1 ล้านโดส ซึ่งเพียงพอที่จะใช้รักษาผู้ติดเชื้อเท่าที่มีรายงานเข้ามาในขณะนี้ แต่หากมีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น เม็กซิโกก็จะประสบปัญหาขาดแคลนยาต้านไวรัสในทันที
นอกจากนั้น กอร์โดบา ระบุว่า ทางการเม็กซิโกได้สั่งให้สถานศึกษาทุกแห่งในกรุงเม็กซิโกซิตี ซึ่งมีประชากรถึง 20 ล้านคน และพื้นที่โดยรอบ รวมทั้งในรัฐซัน ลุยส์ โปโตซี ทางภาคกลางของประเทศยุติการเรียนการสอนเป็นการชั่วคราวจนกว่าจะถึงวันที่ 6 พ.ค. นอกจากนั้น ทางการเม็กซิโกยังสั่งยกเลิกการจัดงานในที่สาธารณะอีกหลายร้อยแห่ง เพื่อป้องกันไม่ให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก
มีรายงานว่าด้วยว่าบรรดาพิพิธภัณฑ์ ศูนย์การค้า โรงภาพยนตร์ต่างพากันประกาศปิดให้บริการเป็นเวลาอย่างน้อย 10 วัน ขณะที่การแข่งขันฟุตบอลในศึก “ ปริเมรา ดิบิสิอ็อน” ซึ่งเป็นลีกสูงสุดของเม็กซิโกในเมื่อวานนี้ (26) ก็เป็นการแข่งขันกันภายในสนามที่ว่างเปล่า เนื่องจากมีประกาศห้ามแฟนฟุตบอลเดินทางเข้าไปชมเกมในสนาม นอกจากนั้น บรรดาผู้คนตามท้องถนนต่างพากันออกมาซื้ออาหาร น้ำดื่มและของใช้ที่จำเป็นกักตุนไว้ โดยสวมหน้ากากอนามัยปิดปากปิดจมูก เพื่อป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อดังกล่าว
ทางด้านประธานาธิบดี เฟลิเป กัลเดรอน อิโนโฮซา แห่งเม็กซิโก ได้ออกแถลงการณ์โดยยืนยันว่า รัฐบาลของเขากำลังจับตาดูการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่หมูทั่วประเทศแบบนาทีต่อนาที พร้อมยอมรับว่า พบผู้ติดเชื้อใน 6 รัฐ จากทั้งหมด 31 รัฐ และการแพร่ระบาดยังลุกลามไปทั่วตั้งแต่รัฐทางตอนเหนือที่อยู่ติดกับพรมแดนสหรัฐฯ อย่าง รัฐบาฮา กาลิฟอร์เนีย ไปจนถึงรัฐในแถบเขตร้อนทางตอนใต้ของประเทศซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยว อย่างรัฐเบรากรูซ
โดยกัลเดรอนซึ่งเพิ่งสั่งอนุมัติงบประมาณเร่งด่วนจำนวน 450ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อใช้รับมือการแพร่ระบาดครั้งนี้ ยอมรับว่า การแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่หมูสายพันธุ์ใหม่ ถือเป็นการซ้ำเติมเศรษฐกิจของเม็กซิโกให้ย่ำแย่ลงไปอีก หลังจากก่อนหน้านี้ก็ได้รับผลกระทบจากปัญหาการถดถอยของเศรษฐกิจโลก และปัญหาความรุนแรงจากขบวนการค้ายาเสพย์ติดในประเทศมาแล้ว
**“ฮู”จี้นานาชาติรับมือก่อน
ระบุอาจเพิ่มระดับเตือนภัย
องค์การอนามัยโลก หรือ “ฮู” ออกประกาศเตือนเมื่อวันเสาร์(25) ให้ไข้หวัดใหญ่ชนิดนี้เป็น “เหตุการณ์ทางสาธารณสุขที่นานาชาติต้องระมัดระวัง” และมาร์กาเรต ชาน ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก เรียกร้องให้ประเทศต่างๆ เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังการระบาดของโรคไข้หวัดหมู ซึ่งจะทำให้ผู้ติดเชื้อมีไข้สูงและปอดอักเสบอย่างรุนแรง
ก่อนหน้านี้ ฮูบอกว่า เชื้อไข้หวัดใหญ่หมูสายพันธุ์ใหม่ที่กำลังระบาดอยู่ในเม็กซิโกขณะนี้ เป็นเชื้อที่มีการผสมกันของไวรัสไข้หวัดใหญ่ทั้งในในหมู มนุษย์ และสัตว์ปีก และชานก็ได้ย้ำว่า เชื้อไข้หวัดหมูสายพันธุ์ใหม่ถือว่ามีศักยภาพที่จะก่อให้เกิดโรคระบาดร้ายแรงแพร่กระจายเป็นบริเวณกว้างได้ เนื่องจากสามารถทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว
ชานเปิดเผยว่า ผลการทดสอบในห้องทดลองพบว่า เชื้อไวรัสจากผู้ติดเชื้อในเม็กซิโกจำนวน 12 คน มีลักษณะทางพันธุกรรมแบบเดียวกันเชื้อไข้หวัดใหญ่ในหมูซึ่งเรียกชื่อกันว่า เชื้อไวรัสH1N1 ซึ่งสามารถติดต่อสู่มนุษย์ได้ และในขณะนี้ก็ยังไม่มีวัคซีนใดๆ ที่จะป้องกันไข้หวัดหมูสายพันธุ์ใหม่นี้ได้เช่นกัน ขณะเดียวกันก็มีความเป็นไปได้ที่จะต้องประกาศเพิ่มระดับการเตือนภัยโรคระบาดขึ้นอีกจากระดับที่ 3 ในขณะนี้หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น
ก่อนหน้านี้องค์การอนามัยโลกเคยประกาศเตือนตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อนนี้ว่า จะมีไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เกิดขึ้น ซึ่งอาจทำให้มีผู้ติดเชื้อและแพร่ระบาดไปทั่วโลกจนอาจทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายล้านคน
* * พบชาวมะกันติดเชื้อหวัดหมูแล้ว 11 ราย
แคธลีน เซเบเลียส รัฐมนตรีสาธารณสุขสหรัฐฯ ออกมายืนยันว่า พบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่หมูแล้ว11 ราย ใน 3 มลรัฐใหญ่คือ แคลิฟอร์เนีย เท็กซัส และแคนซัส โดยในจำนวนนี้เป็นผู้ติดเชื้อในแคลิฟอร์เนียถึง6 รายซึ่งผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เพิ่งเดินทางกลับมาจากเม็กซิโก
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า พบเด็กนักเรียนในมหานครนิวยอร์ก 8-9 รายมีอาการต้องสงสัยว่าอาจติดเชื้อไข้หวัดหมูด้วยเช่นกัน
** ฝรั่งเศส สเปน อังกฤษ พบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อ
ดิดิเยร์ อุสแซ็ง ผู้อำนวยสำนักงานสาธารณสุขแห่งชาติของฝรั่งเศส ได้ออกมาเปิดเผยกับหนังสือพิมพ์เลอ ปาริเซียง เมื่อวานนี้ (26) ว่า พบผู้ต้องสงสัยว่าจะติดเชื้อไข้หวัดหมูในเบื้องต้นแล้ว 2 ราย โดยทั้งคู่เป็นนักท่องเที่ยวที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากเม็กซิโก แต่คาดว่าน่าจะพบผู้ต้องสงสัยเพิ่มเติมอีกจากบรรดาผู้โดยสารทั้งทางเครื่องบินและทางเรือ ที่กำลังจะเดินทางกลับมาจากเม็กซิโกใน2-3วันข้างหน้า
ทางด้านสเปน ทางการผู้รับผิดชอบแจ้งว่า ได้นำบุคคล 3 คนเข้าอยู่ในสถานที่เพื่อการติดตามเฝ้าสังเกตอย่างต่อเนื่อง ภายหลังพวกเขากลับจากเม็กซิโก โดยมีอาการไข้หวัดใหญ่ กระทรวงสาธารณสุขสเปนแจ้งว่า ต้องใช้เวลาในการติดตามสังเกตอาการราว 48 ชั่วโมง จึงจะสามารถระบุชัดว่าบุคคลทั้ง 3 ป่วยเพราะติดเชื้อหวัดหมูหรือไม่
ส่วนที่อังกฤษมีรายงานว่า ลูกเรือคนหนึ่งของสายการบินบริติช แอร์เวย์ส ที่เพิ่งกลับมาพร้อมกับเที่ยวบินที่เดินทางไปยังกรุงเม็กซิโก ซิตีถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลนอร์ทวิก พาร์ก ในกรุงลอนดอนหลังจากมีอาการคล้ายเป็นไข้ อย่างไรก็ตาม โฆษกของโรงพยาบาลแถลงในเวลาต่อมายืนยันว่า ลูกเรือผู้นี้ไม่ได้ติดเชื้อหวัดหมู
ขณะที่ทางการอาร์เจนตินาประกาศเตือนภัยฉุกเฉิน โดยเตรียมกักตัวผู้เดินทางเข้าประเทศทุกคนที่เดินทางมาจากเม็กซิโก หากพบว่ามีอาการคล้ายกับเป็นไข้
ทางด้านอิสราเอล เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลหลายรายเผยว่า มีชายอิสราเอลวัย 26 ปีผู้หนึ่ง ซึ่งเพิ่งกลับจากเม็กซิโก เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลลานิอาโด เมืองเนทันยา ด้วยอาการแบบไข้หวัดใหญ่ และแพทย์กำลังติดตามอาการเพื่อวินิฉัยว่าเขาติดเชื้อไข้หวัดใหญ่นกหรือไม่
** นิวซีแลนด์พบนร.ติดเชื้อแล้ว 10 ราย **
โทนี ไรออลล์ รัฐมนตรีสาธารณสุขนิวซีแลนด์ออกมายืนยันเมื่อวานนี้ (26)ว่า พบเด็กนักเรียน 10 คนจากโรงเรียนแห่งหนึ่งในเมืองออคแลนด์ ที่คาดว่าน่าจะติดเชื้อไข้หวัดใหญ่หมูแล้ว หลังจากทั้งหมดเพิ่งเดินทางกลับมาจากการไปทัศนศึกษาเป็นเวลา 3 สัปดาห์ที่เม็กซิโกเมื่อวันเสาร์ (25) ที่ผ่านมา แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าอาจารย์อีก 3 คนและนักเรียนคนอื่นๆอีก 12 คนที่ร่วมเดินทางไปพร้อมกันจะติดเชื้อด้วยหรือไม่
**10 ชาติเอเชียตื่นตัวเตรียมรับมือเต็มที่**
รายงานข่าวระบุว่า หน่วยงานด้านสาธารณสุขของประเทศต่างๆทั่วเอเชียจำนวน 10 ประเทศ คือ จีน สิงคโปร์ เวียดนาม เกาหลีใต้ ฮ่องกง ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย บังคลาเทศ และประเทศไทย ต่างตื่นตัวด้วยการเตรียมประกาศมาตรการต่างๆ ไว้รับมือการระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่หมูเข้ามายังเอเชีย เช่น มาตรการตรวจสอบผู้โดยสารและผลิตภัณฑ์เนื้อหมูจากเม็กซิโกอย่างเข้มงวด รวมทั้ง การปฏิบัติตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกอย่างเคร่งครัด
โดยทางการฮ่องกงและญี่ปุ่นแถลงว่า กำลังพิจารณาเพิ่มระดับในการติดตามเฝ้าระวังการแพร่ระบาด รวมทั้งจะตรวจร่างกายบรรดานักท่องเที่ยวอย่างเข้มงวดว่ามีอาการคล้ายเป็นไข้หวัดใหญ่หรือไม่ ขณะที่ทางการจีนระบุว่า ผู้ที่เดินทางมาจากประเทศที่มีรายงานไข้หวัดใหญ่หมูระบาด และมีอาการไข้ในช่วง 2 สัปดาห์ก่อนเข้าประเทศจีน จะต้องมารายงานต่อเจ้าหน้าที่ด้วย
**”อภิสิทธิ์”เรียกถกวันนี้
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิด เอ สายพันธุ์ เอช 1 เอ็น 1 (H1N1) ซึ่งเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ของคน หรือไข้หวัดหมู ในประเทศเม็กซิโกและบางส่วนของสหรัฐอเมริกาว่า รัฐบาลจะเรียกประชุมเชิงนโยบายกับหน่วยงานสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในวันที่ 27 เม.ย. ถึงวันที่ 29 เม.ย. เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวและหาแนวทางป้องกันเพื่อไม่ให้เชื้อมีการแพร่กระจายไปในวงกว้าง
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ติดต่อเกี่ยวข้องกับฟาร์มหมู, โรงฆ่าหมู, เขียงหมู รวมถึงผู้บริโภคเนื้อและเลือดหมู ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงในการติดเชื้อดังกล่าว ดังนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงการบริโภคเนื้อหมูที่มีลักษณะสุกๆดิบๆ และหากมีความจำเป็นต้องสัมผัสก็ควรป้องกันด้วยการสวมถุงมือทุกครั้ง
**สธ.ยันยังไม่พบเชื้อมรณะในไทย
นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ขอยืนยันให้ประชาชนไทยสบายใจว่า จนถึงขณะนี้ ประเทศไทยยังไม่เคยพบเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ดังกล่าว และจากการเฝ้าระวังโรคของสำนักระบาดวิทยา ตั้งแต่ต้นปี 2552 -ปัจจุบัน พบผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ จำนวน 3,159 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต ซึ่งไม่แตกต่างกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2551 อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อเร่งรัดการเฝ้าระวังโรค รวมทั้งเตรียมความพร้อมรับมือ ทั้งด้านการตรวจวินิจฉัย การดูแลรักษาพยาบาลผู้ป่วย การเตรียมเครื่องมือและเวชภัณฑ์ ตลอดจนการเดินทางระหว่างประเทศ โดยประสานงานกับองค์การอนามัยโลกและศูนย์ป้องกันควบคุมโรคแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา อย่างใกล้ชิดด้วย
**สั่งตั้งด่านวัดอุณหภูมิสนามบิน
นพ.มล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากการประชุมร่วมกับผู้แทนองค์การอนามัยโลกเมื่อคืนวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา องค์การอนามัยโลก ยังไม่ได้ประกาศให้การระบาดของโรคดังกล่าวเป็นภาวะฉุกเฉินระดับ 4 ซึ่งหมายถึงการระบาดใหญ่ แต่ยังเป็นแค่ระดับ 3 คือ ให้เน้นเรื่องของการเฝ้าระวังและควบคุมการระบาดในแต่ละพื้นที่เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของประเทศไทย ได้สั่งการให้ด่านควบคุมโรคระหว่างประเทศ เตรียมพร้อมในการติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิเทอร์โมสแกนเนอร์ บริเวณท่าอากาศยานนานาชาติโดยเฉพาะที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในจุดที่มีเครื่องบินหรือผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ที่มีการระบาดคือเม็กซิโก และ บางส่วนของสหรัฐอเมริกา พร้อมแจกเอกสารคำเตือนด้านสาธารณสุข( Health Card) แก่ผู้ที่จะเดินทางเข้าและออกนอกประเทศ ในส่วนของคนไทยได้เตือนให้งดการเดินทางไปประเทศเม็กซิโกและบางรัฐของสหรัฐอเมริกา เช่น แคลิฟอร์เนีย เท็กซัส ที่มีการระบาดของโรคในขณะนี้ รวมทั้งให้เปิดศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขขึ้นที่กรมควบคุมโรค และหากมีความจำเป็นอาจจะต้องเปิดศูนย์ปฏิบัติการในระดับกระทรวง เพื่อเป็นวอร์รูมในการติดตามสถานการณ์และเฝ้าระวังการระบาดของโรคอย่างใกล้ชิดต่อไป และเตรียมออกประกาศกระทรวงใน 1-2 วันนี้ เพื่อให้ความรู้ประชาชนเกี่ยวกับการปฏิบัติตนทั่ว ๆ ไป และเมื่อเป็นไข้หวัด หรือเมื่อจะเดินทางไปยังประเทศเม็กซิโก และตอนใต้ของสหรัฐ
“ข่าวการระบาดของโรคนี้ อาจทำให้ประชาชนไทยเกิดความวิตก กลัวติดเชื้อและไม่กล้ากินเนื้อหมู จึงขอให้ข้อมูลว่า โรคระบาดดังกล่าวไม่ใช่โรคที่ติดจากการรับประทานหมู แต่เป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ที่มีสารพันธุกรรมของหมูและคนผสมกัน เป็นการกลายพันธุ์ของเชื้อในตัวคน ติดต่อจากคนสู่คนไม่ใช่จากหมูมาสู่คน ซึ่งทางองค์การอนามัยโลกให้คำแนะนำว่า ให้เฝ้าระวังผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่และปอดบวมอย่างใกล้ชิด”
นพ.มล.สมชาย กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ กรมควบคุมโรคได้จัดเตรียมยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่สามารถรักษาโรคนี้ได้ ซึ่งมีเพียงพออยู่แล้ว ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีรายงานผู้เสียชีวิตในประเทศเม็กซิโก แต่เชื้อนี้มียาต้านไวรัสที่รักษาได้ นอกจากนี้ไทยยังมีระบบที่ใช้ตลอดปี คือการเฝ้าระวังผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ โรคปอดบวมเพื่อคัดกรองหาโรคไข้หวัดนก ซึ่งปกติไข้หวัดใหญ่ในคนจะพบเชื้อ เอช 3 เอ็น 2 มากกว่าเอช 1 เ อ็น 1 อยู่แล้ว การเฝ้าระวังจึงสามารถเพิ่มเติมรองรับใช้กับโรคไข้หวัดใหญ่ชนิดนี้ได้
**เปิดสายด่วนไข้หวัดหมู
นพ.มล.สมชาย กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ได้สั่งการให้มีการเปิดสายด่วนเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในเม็กซิโก ตลอด 24 ชั่วโมง ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-2590-3333 อัตโนมัติ 10 คู่สาย พร้อมทั้งจะเริ่มมีเจ้าหน้าที่ประจำคู่สายเพื่อให้ได้รับข้อมูลป้องกันการตื่นตระหนกของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีที่มีการสอบถามมากว่า สามารถรับประทานเนื้อหมูได้หรือไม่
ส่วนที่มีข่าวว่า ยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์อาจมีไม่เพียงพอหากเกิดการระบาด ยืนยันว่า ขณะนี้ยาโอเซลทามิเวียร์ในสต๊อกยามีมากเกินพอ จำนวนหลายล้านโดส ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นยาที่เตรียมพร้อมในส่วนของการควบคุมป้องกันโรคไข้หวัดนก ซึ่งไทยไม่พบผู้ป่วยมานานกว่า 2 ปีแล้ว เนื่องจากมีระบบการเฝ้าระวังโรคที่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ในขณะนี้องค์การเภสัชกรรมสามารถผลิตยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ได้ จึงทำให้ปริมาณของยาที่กระจายไปตามสถานพยาบาลต่างๆทั่วประเทศมีเพียงพอ ขอให้ประชาชนวางใจ ที่สำคัญ ขณะนี้ยังไม่มีการระบาดของไข้หวัดใหญ่ชนิดที่ระบาดในเม็กซิโกในประเทศไทย จึงไม่ควรตื่นตระหนก ยืนยันว่ากรมควบคุมโรคมีการติดตามสถานการณ์การระบาดของโรคอย่างใกล้ชิด
**เผยระบาดเหมือนหวัดใหญ่
นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่นี้ มีการแพร่ติดต่อเช่นเดียวกับโรคไข้หวัดใหญ่ในคนโดยทั่วไป คือเชื้อที่อยู่ในเสมหะ น้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย แพร่ไปยังผู้อื่นโดยการไอหรือจามรดกันในระยะใกล้ชิด หรือติดจากมือและสิ่งของที่มีเชื้อปนเปื้อนอยู่ และเชื้อจะเข้าสู่ร่างกายทางจมูกและตา เช่น การแคะจมูก การขยี้ตา ไม่ติดต่อจากการรับประทานเนื้อหมู ผู้ป่วยจะมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ คือ มีไข้สูง ปวดเมื่อยตามร่างกาย ไอ มีน้ำมูก หากป่วยและมีอาการดังกล่าว ควรสวมหน้ากากอนามัย และหลีกเลี่ยงการไปในที่ชุมชน หรือสถานที่แออัด ประชาชนทั่วไปควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง โดยรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผัก ผลไม้ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ งดสูบบุหรี่ งดดื่มเหล้า ล้างมือบ่อยๆ
ทั้งนี้ ข้อมูลเบื้องต้นจากการสอบสวนโรคบ่งชี้ว่า ไข้หวัดใหญ่เอช 1 เอ็น 1 เป็นการติดต่อจากคนสู่คนและทำให้มีผู้เสียชีวิต ซึ่งองค์การอนามัยโลกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และกำลังพิจารณาให้คำแนะนำเรื่องการเดินทางระหว่างประเทศ ดังนั้น ผู้ที่มีแผนการเดินทางไปยังประเทศเม็กซิโก รวมทั้งรัฐแคลิฟอร์เนียและเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา จึงควรติดตามสถานการณ์และคำแนะนำจากกระทรวงสาธารณสุขอย่างใกล้ชิดต่อไป
**เรียกประชุมผู้เชี่ยวชาญวันนี้
ด้านนพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานศูนย์ปฎิบัติการควบคุมโรคอุบัติใหม่กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า รมว.สธ.มีนโยบายกำชับให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข จัดเตรียมความพร้อมระบบเฝ้าระวังป้องกันของไทยขั้นสูงสุด ดังนั้น วานนี้(26 เม.ย.) จึงได้ประชุมอธิบดีกรมควบคุมโรค แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการในกระทรวงสาธารณสุข เพื่อติดตามและประเมินสถานการณ์โรคนี้อย่างใกล้ชิด โดยที่ประชุมได้วางระบบความพร้อมของไทย ซึ่งขณะนี้มีความพร้อมทุกจุดแล้ว ทั้งการป้องกันเฝ้าระวัง ทุกจุดผ่านแดน และสถานบริการสามารถให้การรักษาได้
นอกจากนั้น ในวันที่ 27 เม.ย.จะจัดประชุมผู้เชี่ยวชาญการควบคุมโรคทั้งในและนอกกระทรวงสาธารณสุขรวมทั้งองค์การอนามัยโลก ศูนย์ความร่วมมือไทยสหรัฐด้านสาธารณสุข เพื่อประเมินสถานการณ์และกำหนดแนวทางการดำเนินงานที่เหมาะสม และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
**”หมอประเสริฐ” ชี้ไม่ใช่หวัดใหญ่กลายพันธุ์
ศ.นพ.ประเสริฐ ทองเจริญ อดีตกรรมการผู้เชี่ยวชาญโรคติดเชื้อไวรัสขององค์การอนามัยโลก กล่าวว่า จากข้อมูลในวงการวิทยาศาสตร์สาธารณสุข พบว่า ไวรัสไข้หวัดใหญ่เอ็ช 1 เอ็น 1 ที่พบในเด็กชายและหญิงในสหรัฐอเมริกาที่ป่วยและหายดี ทั้งที่ไม่มีประวัติสัมผัสกับหมูที่ป่วยเป็นไข้หวัดหมูมาก่อน พบว่าไวรัสผิดไปจากไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่พบว่ามีการระบาดในสหรัฐฯมาก่อน อีกทั้งสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสก็เปลี่ยนแปลงไป แต่ไม่ใช่การกลายพันธุ์ เพราะไม่ทราบว่า เชื้อดังกล่าวที่เก็บได้จากเด็กทั้ง 2 รายจะเป็นลักษณะใดต่อไป วงการแพทย์ทำได้เพียงการติดตามเฝ้าระวังดูธรรมชาติของเชื้อโรคที่จะพัฒนาต่อไปเท่านั้น ไม่สามารถคาดการณ์อะไรได้
**คาดวัคซีนที่มีเอาไม่อยู่
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กล่าวว่า เชื้อไวรัสไข้หวัดหมู เป็นไข้หวัดใหญ่ชนิด A ที่พบได้ทั้งในหมูเลี้ยง และหมูป่า ในปัจจุบันที่พบบ่อยรวมทั้งในประเทศไทย จะเป็นสายพันธุ์ H1N1, H1N2 และ H3N2 ส่วนการระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดหมู ที่พบในประเทศ เม็กซิโก และอเมริกา เป็นสายพันธุ์ที่ไม่เคยพบมาก่อนในมนุษย์ เป็นสายพันธุ์ที่มีชิ้นส่วนของพันธุกรรมเกิดจากการผสมผสานของไข้หวัดหมู ที่เคยมีรายงานในอเมริกา หรือ ยุโรป และเอชีย รวมทั้งชิ้นส่วนพันธุกรรมของไข้หวัดที่เคยรายงานไว้ในอเมริกาเหนือ จึงถือได้ว่าเป็นไวรัสสายพันธุ์ใหม่ และเมื่อดูองค์ประกอบเปรียบเทียบกับวัคซีน H1N1 ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน มีความคล้ายคลึงกันไม่ถึง 80% บ่งชี้ให้เห็นว่าการป้องกันด้วยวัคซีนที่ใช้ในปัจจุบันก็ไม่น่าจะได้ผล อย่างไรก็ตามไวรัสดังกล่าวยังคงตอบสนองต่อยาต้านไวรัส ได้แก่ โอเซลทามิเวียร์ หรือทามิฟลู และซานามิเวียร์ แต่สามารถดื้อต่อ ยาอมานทาดีนได้