ทั่วโลกตื่นตัวเฝ้าระวังไข้หวัดหมู โอบามาระบุ อย่า"ตื่นตูม"

เอเจนซี/เอเอฟพี -ประเทศต่างๆ ทั่วเอเชียต่างพากันเพิ่มการตรวจตราการเข้าออกตามท่าอากาศยาน และออกประกาศเตือนประชาชนให้เฝ้าระวังสมาชิกในครอบครัวหากมีอาการคล้ายไข้หวัดหมู

รัฐบาลญี่ปุ่นสั่งเรียกประชุมคณะรัฐมนตรีเป็นกรณีฉุกเฉินเพื่อหาทางรับมือการระบาดของไข้หวัดหมู พร้อมสั่งให้ท่าอากาศยานในญี่ปุ่น เพิ่มการตรวจผู้โดยสารทุกคนที่เดินทางมาจากเม็กซิโก โดยให้สวมหน้ากากปิดจมูกและปาก รวมทั้ง ใช้กล้องวัดอุณหภูมิตรวจหาผู้ที่มีไข้ ขณะที่ท่าอากาศยานในไต้หวันและเกาหลีใต้ขอให้ผู้โดยสารที่เดินทางมาจากประเทศที่มีผู้ป่วยไข้หวัดหมู เข้ารับการตรวจโรคโดยละเอียด และมีการกักตัวไว้ดูอาการ นอกจากนั้น ทางการเกาหลีใต้ยังสั่งตรวจกักเนื้อหมูที่นำเข้าจากเม็กซิโกและสหรัฐฯ ด้วย<

ส่วนจีนและฮ่องกงซึ่งเคยมีผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจแบบเฉียบพลัน หรือโรคซาร์ส เกือบ 800 คนเมื่อปี 2003 นั้น มีรายงานว่า จีนกำลังพิจารณาใช้มาตรการตรวจกักโรค ขณะที่ฮ่องกงได้เพิ่มมาตรการตรวจตราตามจุดผ่านแดนอย่างเข้มงวด

โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขฮ่องกง ซึ่งเคยมีประสบการณ์รับมือการระบาดของโรคซาร์สในปี และโรคไข้หวัดนกมาก่อน แนะนำให้ประชาชนงดการเดินทางไปยังเม็กซิโก หากไม่มีธุระจำเป็น นอกจากนี้ ยังดำเนินมาตรการป้องกัน เช่น ใช้เครื่องตรวจวัดอุณหภูมิที่สนามบินและตามจุดเข้าเมือง ซึ่งหากมีผู้โดยสารรายใดไม่ยอมให้ความร่วมมือผ่านการตรวจด้วยเครื่องดังกล่าว จะถูกกักตัวไว้สอบประวัติการเดินทางในช่วง 7 วันที่ผ่านมา และส่งไปตรวจที่โรงพยาบาล นอกจากนี้ ได้มีการแจ้งเตือนผู้โดยสารบนเครื่องบินที่มาจากเม็กซิโกและสหรัฐฯ และแนะนำให้รายงานอาการเป็นไข้ฉับพลันให้เจ้าหน้าที่รับทราบด้วยเช่นกัน

โธมัส ชาง เจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันโรค เชื่อว่า มาตรการเหล่านี้ซึ่งเป็นวิธีเดียวกับที่ใช้ในช่วงเกิดการระบาดของไข้หวัดนกและโรคซาร์สจะช่วยให้โอกาสที่ไข้หวัดหมูซึ่งติดมาในมนุษย์จะเข้าสู่ฮ่องกงมีน้อยลง
ส่วนทางอินโดนีเซีย ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิต จากการติดเชื้อไข้หวัดนกมากที่สุดในโลกนั้น ทางการได้สั่งให้ใช้กล้องวัดอุณหภูมิตรวจผู้โดยสารทุกคนทั้งในท่าอากาศยานและท่าเรือทั่วประเทศ

ขณะที่สำนักงานสาธารณสุขฟิลิปปินส์ ประกาศเตือนให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการกอดและจูบในที่สาธารณะท่ามกลางประชาชนจำนวนมาก หลังเกิดความวิตกว่าโรคไข้หวัดหมูที่อาจระบาดลุกลามไปทั่วโลก
ทางการฟิลิปปินส์ กล่าวว่า แม้จะยังไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อไข้หวัดหมูในฟิลิปปินส์ แต่การที่มีรายงานผู้เสียชีวิตและติดเชื้อจำนวนมากในเม็กซิโก ทำให้ทั่วโลกจำเป็นต้องเพิ่มมาตรการเข้มงวดด้านสาธารณสุขและความปลอดภัยมากขึ้น

อีริค ทายัก ผู้อำนวยการสำนักงานระบาดวิทยาแห่งชาติ กล่าวว่า ฟิลิปปินส์เพิ่มมาตรการตรวจสอบผู้โดยสารขาเข้าตามท่าอากาศยานต่าง ๆ และขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการสัมผัสกันในที่สาธารณะ เช่น การจับ กอด และจูบ เป็นต้น และทางการได้ประกาศระงับการนำเข้าเนื้อหมูจากสหรัฐฯและเม็กซิโกเป็นการชั่วคราวแล้ว พร้อมสั่งการให้เกษตรกรในประเทศฉีดวัคซีนให้กับหมูที่เลี้ยงไว้ด้วย

ขณะเดียวกัน เมื่อวันนี้ (27) ทางการสิงคโปร์ ได้ออกคำสั่งด่วน ให้มีการระดมเครื่องวัดอุณหภูมิร่างกายจำนวนมากไปประจำที่ท่าอากาศยานชางงี เพื่อตรวจผู้โดยสารขาเข้า ตามมาตรการรับมือการแพร่ระบาดของไข้หวัดหมู

โฆษกสำนักการบินพลเรือนสิงคโปร์ ระบุว่า มีการระดมเครื่องวัดอุณหภูมิร่างกายผู้มีไข้ไปประจำที่ท่าอากาศยาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจผู้โดยสารขาเข้า ที่อาคารผู้โดยสารทั้ง 3 แห่งให้มีความเข้มงวดมากยิ่งขึ้น แม้ว่าก่อนหน้านี้ จะได้มีการนำเครื่องสแกนไปประจำที่อาคารผู้โดยสารสำหรับสายการบินต้นทุนต่ำ และเครื่องบินส่วนตัว ตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมาแล้วก็ตาม

รายงานข่าวระบุว่า เครื่องสแกนเหล่านี้ เคยถูกใช้ตรวจจับอาการไข้ของผู้โดยสารขาเข้า หลังเกิดการระบาดของโรคซาร์ส และไข้หวัดนกมาแล้ว

** พบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อหวัดหมูรายแรกในเอเชียแล้วที่ฮ่องกง

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า หญิงชาวฮ่องกงรายหนึ่งถูกนำตัวเข้ารักษาในโรงพยาบาลแล้ว หลังมีอาการต้องสงสัยว่า อาจติดเชื้อไวรัสไข้หวัดหมูสายพันธุ์ใหม่

รายงานข่าวระบุว่า หญิงผู้นี้มีอายุ 27 ปี และเพิ่งเดินทางกลับมาจากนครซาน ฟรานซิสโก ในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ของสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตามผลตรวจจากห้องปฏิบัติการในเวลาต่อมายืนยันว่าเธอไม่ได้ป่วยเป็นไข้หวัดหมู

ขณะที่หญิงชราวัย 77 ปี ซึ่งเพิ่งเดินทางกลับมาจากการไปท่องเที่ยวในเม็กซิโกและสหรัฐฯ พร้อมด้วยหลานสาวของเธอซึ่งไม่ได้ร่วมเดินทางไปด้วย ได้ถูกปล่อยตัวกลับบ้านแล้ว หลังจากผลการตรวจระบุว่า ทั้งคู่เป็นแค่ไข้หวัดธรรมดาเท่านั้น

อนามัยโลกชื่นชมเอเชียมีความพร้อมรับมือหวัดหมู ยืนยัน การบริโภคเนื้อหมูไม่ทำให้ติดเชื้อ

ปีเตอร์ คอร์ดิงลีย์ โฆษกขององค์การอนามัยโลกประจำภูมิภาคแปซิฟิกตะวันตก ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอเอฟพี ที่สำนักงานในกรุงมะนิลา ของฟิลิปปินส์ เมื่อวันนี้ (27) โดยแสดงความชื่นชมประเทศต่างๆ ในเอเชีย ที่ตื่นตัวและมีการเตรียมมาตรการต่างๆ ที่เข้มงวดไว้รับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดหมู หรือเชื้อไวรัส “เอช1 เอ็น1”

คอร์ดิงลีย์ ชี้ว่า จากประสบการณ์ของประเทศต่างๆในเอเชีย ที่เคยเผชิญหน้ากับการระบาดอย่างหนักของโรคซาร์ส และไข้หวัดนก ซึ่งคร่าชีวิตชาวเอเชียไปเป็นจำนวนมาก ทำให้ในขณะนี้ประเทศในเอเชีย ถือได้ว่า มีความพร้อมมากกว่าประเทศในภูมิภาคอื่นๆ ของโลก ในการรับมือกับการระบาดของเชื้อไข้หวัดหมูในครั้งนี้

ขณะเดียวกัน คอร์ดิงลีย์ ยืนยันว่า จนถึงขณะนี้ ทางองค์การอนามัยโลกยังไม่พบหลักฐานหรือข้อพิสูจน์ใดๆ ที่ระบุว่า การบริโภคเนื้อหมูจะทำให้มนุษย์ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดหมูดังกล่าวได้

จีน-รัสเซียสั่งห้ามนำเข้าเนื้อหมูจากเม็กซิโก

สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ของรัสเซีย รายงานว่า ทางการรัสเซียประกาศห้ามนำเข้าเนื้อหมูทุกประเภทจากเม็กซิโก และภาคใต้ของสหรัฐฯแล้ว และจะตรวจร่างกายผู้ที่เดินทางมาจากเม็กซิโกและสหรัฐฯ อย่างเข้มงวด ด้วยเครื่องวัดอุณหภูมิ เพื่อคัดกรองบุคคลที่ต้องสงสัยว่าอาจได้รับเชื้อไข้หวัดหมู

ส่วนที่จีน หน่วยงาน 2 แห่งของรัฐบาล คือ กระทรวงเกษตร และสำนักงานตรวจสอบและกักกันโรค ได้สั่งห้ามนำเข้าผลิตภัณฑ์จากหมูที่มาจากเม็กซิโก และจาก 3 รัฐในสหรัฐฯ คือ เท็กซัส แคนซัส และแคลิฟอร์เนีย แล้ว โดยคำสั่งดังกล่าวมีผลบังคับใช้โดยทันที

แม้ขณะนี้ยังไม่มีรายงานการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดหมูในจีน และไม่มีรายงานการติดเชื้อจากการรับประทานเนื้อหมู แต่รัฐบาลจีนเรียกร้องให้ประชาชนรีบรายงานกรณีที่ต้องสงสัยให้ทางการรับทราบ ขณะที่กระทรวงสาธารณสุข ออกแถลงการณ์เตือนประชาชนให้นำเนื้อหมูมาปรุงให้สุกก่อนรับประทาน พร้อมเตือนประชาชนให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสหมูอีกด้วย

ข่าวการระบาดของไข้หวัดหมูในเม็กซิโกและสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นของบริษัทผลิตอาหารในจีน เนื่องจากนักลงทุนเกรงว่า ความต้องการเนื้อหมูของผู้บริโภคในจีนจะลดลงอย่างรุนแรงในระยะเวลาอันใกล้นี้ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบไปถึงกำไรของบริษัทที่ทำธุรกิจด้านเนื้อสัตว์ ทำให้ดัชนีเซี่ยงไฮ้ คอมโพสิต เมื่อปิดตลาดภาคเช้าของวันนี้ (27) ปรับตัวลดลง 29.45 จุด ปิดที่ 2,419.15 จุด

นิวซีแลนด์ตรวจหาไข้หวัดหมูในนักเรียนเพิ่มอีก 3 คน

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขนิวซีแลนด์ เปิดเผยวานนี้ (27) ว่า เด็กนักเรียนมัธยม 3 คนที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากเม็กซิโกเป็นกลุ่มที่ 2 ได้เข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ เพื่อตรวจสอบว่าเป็นไข้หวัดหมูหรือไม่

โทนี ไรออลล์ รัฐมนตรีสาธารณสุขนิวซีแลนด์ กล่าวว่า เด็กนักเรียนทั้ง 3 คนอยู่ในกลุ่มเด็กนักเรียนมัธยม 15 คนจากวิทยาลัยนอร์ธโคตที่เพิ่งเดินทางกลับจากการท่องเที่ยวในเม็กซิโกมีอาการไข้หวัดแบบไม่รุนแรง และได้เข้ารับการตรวจหาเชื้อไข้หวัดหมูแล้ว

ขณะที่ มาร์ค เจค็อบส์ ผู้อำนวยการสำนักสาธารณสุขนิวซีแลนด์ ระบุว่า จะได้ผลการตรวจของเด็กต้องสงสัยทั้ง 3 คนในเร็ว ๆ นี้

เมื่อวันอาทิตย์ (26) ที่ผ่านมา กลุ่มเด็กนักเรียนกลุ่มแรกจำนวน 10 คนจากวิทยาลัยแรงกิโตโตเพิ่งเดินทางกลับจากการท่องเที่ยวในเม็กซิโกและได้รับการตรวจพบเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ชนิดเอ ซึ่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขนิวซีแลนด์ ระบุว่า เชื้อไวรัสที่ตรวจพบ อาจจะเป็นเชื้อไข้หวัดหมู หรือเชื้อไวรัสเอช 1 เอ็น 1 แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้อย่างชัดเจนในขณะนี้

ขณะเดียวกันมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่นิวซีแลนด์ได้ติดตามให้ผู้โดยสารจำนวนหลายร้อยคนจากเที่ยวบิน 2 เที่ยวที่เดินทางมาจากนครลอส แองเจลิส ของสหรัฐฯ ให้เข้ารับการตรวจร่างกายเป็นการด่วน รวมทั้ง มีการตรวจสอบผู้โดยสารขาเข้าที่ท่าอากาศยานนานาชาติออคแลนด์ ที่เดินทางมาจากสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ ในทวีปอเมริกาเหนือ เพื่อตรวจหาผู้ป่วยที่มีอาการไข้หวัดใหญ่เช่นเดียวกัน

ผลตรวจร่างกายชาวออสเตรเลีย 2 คน ปลอดหวัดหมู

ผลการตรวจร่างกายชาวออสเตรเลีย 2 คน ที่ต้องสงสัยว่า อาจจะได้รับเชื้อไวรัสไข้หวัดหมู ออกมาเป็นลบ

โฆษกของมุขมนตรีแห่งรัฐควีนส์แลนด์ ได้เปิดเผยว่า ชาวออสเตรเลีย 2 คน ที่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเมื่อคืนนี้ด้วยอาการเป็นไข้หวัดหลังเดินทางกลับจากเม็กซิโก ได้รับการตรวจร่างกายแล้ว แต่ผลการตรวจที่ออกมาระบุว่า คนทั้ง 2 ปลอดจากเชื้อไวรัสไข้หวัดหมู

อย่างไรก็ตาม ทางการออสเตรเลีย ออกมายืนยันว่า จะใช้มาตรการตรวจสอบผู้ที่เดินทางเข้าเมืองอย่างเข้มงวดต่อไป เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อไข้หวัดหมูสายพันธุ์ใหม่ เข้ามาระบาดยังดินแดนในซีกโลกใต้

ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลกระบุว่า เชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้เกิดขึ้นจากการที่หมูได้รับไวรัสไข้หวัดใหญ่จากมนุษย์ และเชื้อไวรัสไข้หวัดนก แล้วเชื้อเกิดการผสมกัน จนกลายพันธุ์เป็นไวรัสตัวใหม่ทำให้เป็นอันตรายมากขึ้นต่อมนุษย์พร้อมเรียกร้องให้ทุกประเทศดำเนินมาตรการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด

เชื้อไข้หวัดหมูค่าชีวิตคนเม็กซิกันแล้ว 103 ศพ

ทางการเม็กซิโกรายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตเพราะต้องสงสัยว่า ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่หมูสายพันธุ์ใหม่ ได้เพิ่มเป็น 103 คน แล้ววันนี้ (27)
โฮเซ อังเฆล กอร์โดบา รัฐมนตรีสาธารณสุขเม็กซิโก ประกาศผ่านทางสถานีโทรทัศน์เตเลบีซา และสำนักข่าวโนติเม็กซ์ ซึ่งเป็นของรัฐบาลว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตได้พุ่งถึง 103 คน แล้ว ซึ่งในจำนวนนี้ก็มีทั้งผู้เสียชีวิตที่ติดเชื้อไข้หวัดหมู และผู้ที่ยังอยู่ในข่ายต้องสงสัยว่าจะติดเชื้อ ขณะที่ตัวเลขของผู้ที่ต้องเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลทั่วประเทศ จากการระบาดของไข้หวัดหมู ได้เพิ่มเป็น 400 ราย

กอร์โดบายังระบุว่า จำนวนของประชาชนที่ต้องถูกเฝ้าสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดได้เพิ่มจาก 1,324 คน เป็น 1,614 คน ภายในระยะเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ท่ามกลางกระแสตื่นตระหนกของประชาชนทั่วประเทศ และส่งผลให้เกิดความหวาดกลัวว่าจะเกิดการระบาดของเชื้อดังกล่าวไปทั่วโลก

การระบาดของไข้หวัดใหญ่หมูครั้งนี้ ยังส่งผลทำให้ชาวเม็กซิกัน ต่างพากันเก็บตัวเงียบอยู่ภายในบ้าน ส่งผลให้ถนน สวนสาธารณะ และร้านอาหารในกรุงเม็กซิโก ซิตี ถึงกับร้างผู้คน ธุรกิจห้างร้านต่างๆพากันปิดกิจการชั่วคราว นอกจากนั้น ยังมีประกาศเตือนจากทางการว่าให้ประชาชนหลีกเลี่ยงจากการติดต่อสัมผัสร่างกายระหว่างกันเพื่อป้องกันการติดเชื้ออีกด้วย

ชาวเม็กซิกันจำนวนมากต่างหวาดวิตกว่า สถานการณ์ไข้หวัดหมูจะทวีความรุนแรงถึงขีดสุด หลังรัฐบาลสั่งปิดโรงเรียน พิพิธภัณฑ์ และยกเลิกการจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมในกรุงเม็กซิโก ซิตี นานกว่า 1 สัปดาห์

นอกจากนั้น บางคนยังโจมตีว่า รัฐบาลเม็กซิโกรับมือสถานการณ์ได้ช้าเกินไปเมื่อเทียบกับทางการสหรัฐฯและแคนาดา ซึ่งแม้จะพบผู้ติดเชื้อเพียงเล็กน้อย แต่รัฐบาลของสองประเทศนี้ก็ให้ข้อมูลกับประชาชนได้อย่างครบถ้วน ขณะที่ชาวเม็กซิกันบางส่วนยังไม่แน่ใจว่ารัฐบาลจะยอมเปิดเผยข้อเท็จจริงทุกเรื่องให้ประชาชนได้รับทราบหรือไม่ ซึ่งทำให้ชาวเม็กซิกันยิ่งหวาดวิตกกับสถานการณ์มากขึ้น

รายงานข่าวระบุว่า ชาวเม็กซิกันยังถือโอกาสนี้แห่กักตุนซื้อของใช้ที่จำเป็น ส่งผลให้ห้างสรรพสินค้าต่างๆ ต้องเพิ่มปริมาณสินค้าในสต็อค และให้พนักงานทำงานล่วงเวลากันมากขึ้น

มะกันประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเตรียมรับมือการระบาดอย่างเต็มที่ หลังพบผู้ติดเชื้อ 20 ราย

ดร.ริชาร์ด เบสเซอร์ รักษาการณ์หัวหน้าศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ หรือซีดีซี แถลงว่า ในขณะนี้สามารถยืนยันได้ว่า พบผู้ที่ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดหมูในสหรัฐฯแล้ว 20 รายในพื้นที่ 5 มลรัฐ คือ แคลิฟอร์เนีย เท็กซัส แคนซัส นิวยอร์ก และโอไฮโอ โดยมลรัฐแคลิฟอร์เนีย พบผู้ติดเชื้อ 7 ราย มลรัฐเท็กซัสและแคนซัส แห่งละ 2 ราย และพบอีก 1 ราย ที่มลรัฐโอไฮโอ รวมทั้ง นักเรียนอีก 8 รายในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในมลรัฐนิวยอร์กด้วยเช่นกัน พร้อมยืนยันว่า เชื้อไวรัสที่พบในสหรัฐฯ เป็นสายพันธุ์เดียวกับที่ระบาดอยู่ในเม็กซิโก

ขณะที่ โรเบิร์ต กิบส์ โฆษกทำเนียบขาวระบุว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างใกล้ชิด และพร้อมให้ร่วมมือกับเม็กซิโกอย่างเต็มที่ ในการรับมือการแพร่ระบาด

โดยรัฐบาลสหรัฐฯประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินต่อสุขภาพของประชาชน ซึ่งเจเน็ต นาโปลิตาโน รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงภายใน กล่าวว่า การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวถือเป็นการเปิดทางให้รัฐบาลกลางสหรัฐฯ สามารถใช้ทรัพยากร เพื่อป้องกันและบรรเทาปัญหาการระบาดครั้งนี้ได้อย่างเต็มที่

ทางด้านกองทัพสหรัฐฯ ออกคำเตือนไปยังทหารที่ประจำการอยู่ทั่วโลก รวมทั้ง บุคลากรทางการแพทย์ในกองทัพให้ช่วยสอดส่องอาการของทหารที่ต้องสงสัยว่า อาจติดเชื้อไวรัสไข้หวัดหมู
ขณะที่โฆษกสมาคมการขนส่งทางอากาศของสหรัฐฯ กล่าวว่า ได้มีการพิจารณาเรื่องนี้อย่างจริงจัง โดยให้เจ้าหน้าที่ท่า

อากาศยาน และเจ้าหน้าที่บนเครื่องบินช่วยสอดส่องผู้โดยสารที่มีอาการเจ็บป่วย ส่วนที่ท่าอากาศยานนครลอสแองเจลิส ได้สั่งการให้พนักงานทำความสะอาดเพิ่มการทำความสะอาดวัสดุอุปกรณ์ที่เสี่ยงต่อการปนเปื้อนเชื้อไวรัส เช่น ลูกบิดประตู ราวจับ และก๊อกน้ำที่ห้องน้ำภายในสนามบิน

แคนาดาและสเปน ยืนยัน พบผู้ติดเชื้อไข้หวัดหมูแล้ว

รายงานข่าวล่าสุด วันนี้ (27) ระบุว่า แคนาดา ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ทางทิศเหนือของสหรัฐฯ กลายเป็นประเทศที่ 3 ที่มีรายงานยืนยันว่าพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดหมูแล้ว โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขแคนาดาพบผู้ป่วย 6 ราย ในรัฐบริติชโคลัมเบียทางภาคตะวันตก และรัฐโนวาสโกเชีย ทางภาคตะวันออกของประเทศ โดยผู้ป่วยทั้งหมดล้วนมีความเกี่ยวข้องกับคนที่เพิ่งเดินทางมาจากเม็กซิโกทั้งสิ้น

ดร.เดวิด บัตเลอร์-โจนส์ ผู้อำนวยการสำนักงานสาธารณสุขแคนาดา กล่าวว่า ผู้ป่วยทุกคนอาการดีขึ้นแล้ว แต่คาดว่า อาจพบผู้ป่วยเพิ่มอีกในแคนาดา

ทางด้าน ดร.ดานูตา สโกวรอนสกี แห่งศูนย์ควบคุมโรคติดต่อของแคนาดา กล่าวว่า ผู้ป่วย ทั้ง 6 รายมีอาการไม่รุนแรงและไม่จำเป็นต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล โดยพบว่าทั้งหมดเกี่ยวข้องกับผู้ที่เดินทางกลับมาจากเม็กซิโก และยังติดไวรัสไข้หวัดหมูสายพันธุ์เดียวกับที่พบในเม็กซิโกด้วย

ขณะที่ล่าสุด มีรายงานยืนยันว่า พบผู้ป่วยจากการติดเชื้อไข้หวัดหมูแล้ว 3 รายในประเทศสเปน ซึ่งถือเป็นประเทศแรกในสหภาพยุโรปที่มีการยืนยันพบผู้ติดเชื้ออย่างเป็นทางการ และเป็นประเทศที่ 4 ในโลกต่อจากเม็กซิโก สหรัฐอเมริกา และแคนาดา โดยผู้ป่วยทั้ง 3 รายของสเปนมาจากเมืองบิลเบาทางตอนเหนือ เมืองอัลเมนซาทางตะวันออกเฉียงใต้ และเมืองบาเลนเซียทางภาคตะวันออกของสเปน

นอกจากนั้น รายงานข่าวล่าสุดจากสำนักข่าวเอเอฟพี ระบุว่า ตรินิดาด ฮิเมเนซ รัฐมนตรีสาธารณสุขของสเปนได้ออกมายืนยันวันนี้ (27) ว่า ชาย วัย 23 ปี คนหนึ่งในเมืองอัลเมนซาซึ่งเพิ่งเดินทางกลับมาจากการไปท่องเที่ยวในเม็กซิโกเมื่อวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา และถูกนำตัวมากักบริเวณเพื่อตรวจอาการตั้งแต่เมื่อคืนวันเสาร์ (25) เป็นผู้ที่ติดเชื้อไข้หวัดหมูเรียบร้อยแล้ว ซึ่งถือเป็นผู้ติดเชื้อไข้หวัดหมูรายแรกของทวีปยุโรปที่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการ