ทิปโก้ เดินเกมปลุกตลาดน้ำผลไม้เต็มสูบ หลังปีนี้ตลาด 7,500 ล้านบาท ส่อแววหดตัวครั้งแรก ลั่นขอโตจากการขยายตลาดต่างประเทศ อัด 50 ล้านบาท ระเบิดนวัตกรรมน้ำผลไม้ 100% สร้างสีสันและแก้เกี้ยวคู่แข่งอัดสงครามราคา ครึ่งปีหลังยกเครื่องบรรจุภัณฑ์ใหม่ สิ้นปีรั้งบัลลังก์ครองแชร์ 49% จาก 2,500 ล้านบาท
นายวิวัฒน์ ลิ้มศักดากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทิปโก้ฟูดส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำผลไม้ทิปโก้ เปิดเผยว่า ภาวะตลาดเครื่องดื่มโดยรวมปีนี้ การเติบโตของทุกตลาดไม่มีความหวือหวามากนัก เพราะได้รับผลพวงจากวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น ส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคมีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอยส่วนหนึ่งเพราะเครื่องดื่มก็ถือว่าเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยเช่นกัน โดยพบว่า ในตลาดน้ำผลไม้มี ทวิสเตอร์ และสแปลช ส่งน้ำผลไม้ผสมเนื้อส้มลงตลาดเท่านั้น
สำหรับภาวะการแข่งขันตลาดเครื่องดื่มปีนี้ ผู้ประกอบการหันมามุ่งเน้นจุดขายในเรื่องของการดื่ม และใช้กลยุทธ์ราคาเพิ่มขึ้น โดยพบว่า ผู้ประกอบการน้ำผลไม้ลดราคาขนาด 1 ลิตร เหลือกว่า 40 บาท เท่านั้น จากปกติราคากว่า 50 บาท อีกทั้งยังผู้ประกอบการเครื่องดื่มอื่นๆ ก็จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย อย่างแคมเปญชิงโชค เพื่อกระตุ้นยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมาย
“ผู้ประกอบการน้ำผลไม้หันมาเล่นสงครามราคามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการทำตลาด เพราะผู้บริโภคจะเกิดความเคยชิน และซื้อสินค้าก็ต่อเมื่อลดราคาหรือมีการทำโปรโมชัน เช่นเดียวกับตลาดชาเขียวพร้อมดื่ม ที่ความต้องการของผู้บริโภคเกิดจากการกระตุ้นจัดกิจกรรม”
นโยบายการตลาดปีนี้บริษัท ให้ความสำคัญการขยายตลาดต่างประเทศในเชิงรุกมากขึ้น เพื่อทดแทนกับตลาดภายในประเทศ จากภาวะปีนี้ตลาดน้ำผลไม้โดยรวมมูลค่ากว่า 7,500ล้านบาท มีแนวโน้มหดตัวหากสถานการณ์การเมืองภายในประเทศยังไม่มีเสถียรภาพ และนับว่าเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี จากปกติตลาดน้ำผลไม้มี อัตราการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักมาอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดไตรมาสแรกของปีนี้ตลาดน้ำผลไม้เเติบโต 2-3%
สำหรับการทำตลาดภายในประเทศ ปีนี้มุ่งนำเสนอนวัตกรรมสินค้าใหม่ เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดน้ำผลไม้ 100% ล่าสุดเตรียมเปิดตัวน้ำผลไม้ 100 % เป็นนวัตกรรมใหม่ครั้งแรกในเอเชีย ในเดือนพฤษภาคม นี้ ภายใต้การใช้งบการตลาด 50 ล้านบาท จากงบรวมทั้งหมด 150 ล้านบาท ทั้งนี้เพื่อสร้างสีสันให้กับตลาดน้ำผลไม้และกระตุ้นยอดขายพร้อมกันนี้บริษัทยังหันมาสร้างตลาดน้ำทับทิมให้ขยายตัวมากขึ้น จากที่ผ่านมา น้ำส้มเป็นตลาดใหญ่ที่สุด
ส่วนในครึ่งปีหลังนี้บริษัทจะดำเนินการตลาดเชิงรุก โดยบริษัทปรับบรรจุภัณฑ์ใหม่น้ำผลไม้ 100% เพื่อให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น และเพื่อรองรับกับช่วงไฮซีซั่นในไตรมาส 4 จากปกติช่วงไตรมาส 2 จะสร้างรายได้หลักให้กับผู้ประกอบการ เพราะเป็นช่วงฤดูร้อน แต่ปีนี้พบว่าภาวะตลาดไม่ค่อยดีมากนัก จากสถานการณ์ทางการเมือง
สำหรับผลประกอบการสิ้นปีนี้ บริษัทตั้งเป้ามีอัตราการเติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียว หลังจากก่อนหน้านี้ตั้งเป้ามีการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก โดยปัจจุบันกลุ่มผลไม้ทิปโก้ เป็นสินค้าเรือธงสร้างรายได้หลัก ซึ่งสิ้นปีนี้ ตั้งเป้ารักษาผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 49% ส่วนอันดับ 2 มาลี 18-19% และยูนิฟ 15-16% จากมูลค่าตลาด 2,400 ล้านบาท ส่วนกลุ่มที่สร้างรายได้หลักอันดับ 2 คือน้ำแร่ตามด้วยเนเจอร์ อัพ และเครื่องดื่งฟังก์ชันนัลดริงก์
นายวิวัฒน์ ลิ้มศักดากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทิปโก้ฟูดส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำผลไม้ทิปโก้ เปิดเผยว่า ภาวะตลาดเครื่องดื่มโดยรวมปีนี้ การเติบโตของทุกตลาดไม่มีความหวือหวามากนัก เพราะได้รับผลพวงจากวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น ส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคมีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอยส่วนหนึ่งเพราะเครื่องดื่มก็ถือว่าเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยเช่นกัน โดยพบว่า ในตลาดน้ำผลไม้มี ทวิสเตอร์ และสแปลช ส่งน้ำผลไม้ผสมเนื้อส้มลงตลาดเท่านั้น
สำหรับภาวะการแข่งขันตลาดเครื่องดื่มปีนี้ ผู้ประกอบการหันมามุ่งเน้นจุดขายในเรื่องของการดื่ม และใช้กลยุทธ์ราคาเพิ่มขึ้น โดยพบว่า ผู้ประกอบการน้ำผลไม้ลดราคาขนาด 1 ลิตร เหลือกว่า 40 บาท เท่านั้น จากปกติราคากว่า 50 บาท อีกทั้งยังผู้ประกอบการเครื่องดื่มอื่นๆ ก็จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย อย่างแคมเปญชิงโชค เพื่อกระตุ้นยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมาย
“ผู้ประกอบการน้ำผลไม้หันมาเล่นสงครามราคามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการทำตลาด เพราะผู้บริโภคจะเกิดความเคยชิน และซื้อสินค้าก็ต่อเมื่อลดราคาหรือมีการทำโปรโมชัน เช่นเดียวกับตลาดชาเขียวพร้อมดื่ม ที่ความต้องการของผู้บริโภคเกิดจากการกระตุ้นจัดกิจกรรม”
นโยบายการตลาดปีนี้บริษัท ให้ความสำคัญการขยายตลาดต่างประเทศในเชิงรุกมากขึ้น เพื่อทดแทนกับตลาดภายในประเทศ จากภาวะปีนี้ตลาดน้ำผลไม้โดยรวมมูลค่ากว่า 7,500ล้านบาท มีแนวโน้มหดตัวหากสถานการณ์การเมืองภายในประเทศยังไม่มีเสถียรภาพ และนับว่าเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี จากปกติตลาดน้ำผลไม้มี อัตราการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักมาอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดไตรมาสแรกของปีนี้ตลาดน้ำผลไม้เเติบโต 2-3%
สำหรับการทำตลาดภายในประเทศ ปีนี้มุ่งนำเสนอนวัตกรรมสินค้าใหม่ เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดน้ำผลไม้ 100% ล่าสุดเตรียมเปิดตัวน้ำผลไม้ 100 % เป็นนวัตกรรมใหม่ครั้งแรกในเอเชีย ในเดือนพฤษภาคม นี้ ภายใต้การใช้งบการตลาด 50 ล้านบาท จากงบรวมทั้งหมด 150 ล้านบาท ทั้งนี้เพื่อสร้างสีสันให้กับตลาดน้ำผลไม้และกระตุ้นยอดขายพร้อมกันนี้บริษัทยังหันมาสร้างตลาดน้ำทับทิมให้ขยายตัวมากขึ้น จากที่ผ่านมา น้ำส้มเป็นตลาดใหญ่ที่สุด
ส่วนในครึ่งปีหลังนี้บริษัทจะดำเนินการตลาดเชิงรุก โดยบริษัทปรับบรรจุภัณฑ์ใหม่น้ำผลไม้ 100% เพื่อให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น และเพื่อรองรับกับช่วงไฮซีซั่นในไตรมาส 4 จากปกติช่วงไตรมาส 2 จะสร้างรายได้หลักให้กับผู้ประกอบการ เพราะเป็นช่วงฤดูร้อน แต่ปีนี้พบว่าภาวะตลาดไม่ค่อยดีมากนัก จากสถานการณ์ทางการเมือง
สำหรับผลประกอบการสิ้นปีนี้ บริษัทตั้งเป้ามีอัตราการเติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียว หลังจากก่อนหน้านี้ตั้งเป้ามีการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก โดยปัจจุบันกลุ่มผลไม้ทิปโก้ เป็นสินค้าเรือธงสร้างรายได้หลัก ซึ่งสิ้นปีนี้ ตั้งเป้ารักษาผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 49% ส่วนอันดับ 2 มาลี 18-19% และยูนิฟ 15-16% จากมูลค่าตลาด 2,400 ล้านบาท ส่วนกลุ่มที่สร้างรายได้หลักอันดับ 2 คือน้ำแร่ตามด้วยเนเจอร์ อัพ และเครื่องดื่งฟังก์ชันนัลดริงก์