โบรกเกอร์ 3 ราย "สินเอเซีย -ไซรัส- ฟินันซ่า" ประกาศควบกิจการ เสริมความแกร่งทางธุรกิจหลักทรัพย์ รองรับการแข่งขันเปิดเสรีค่าคอมมิชชัน ระบุธนาคารสินเอเซียและฟินันซ่า เข้าถือหุ้นในสัดส่วนแต่ละราย ร้อยละ 24.9 ขณะที่ ผู้ถือหุ้นเดิมของ บล.ไซรัส ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 50 มั่นใจ3ประสานช่วยผลักดันธุรกิจเติบโต
นายธงชัย อานันโทไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารสินเอเซีย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการประกอบธุรกิจและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน รองรับการเปิดเสรีธุรกิจหลักทรัพย์ในอนาคต บริษัทหลักทรัพย์ สินเอเซีย จำกัด (บล.สินเอเซีย) บริษัทหลักทรัพย์ไซรัส จำกัด (มหาชน) (บล.ไซรัส) และบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด (บล.ฟินันซ่า) จึงได้บรรลุข้อตกลงในการควบรวมธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ และธุรกิจเป็นตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของทั้ง 3 แห่งเข้าด้วยกัน
โดยการควบรวมธุรกิจครั้งนี้ ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบล.ไซรัสจะขายหุ้นให้กับบริษัท ฟินันซ่า จำกัด (มหาชน) (บมจ.ฟินันซ่า) ในสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 24.9 ที่ราคาตามมูลค่าทางบัญชี ณ วันที่ 31 มี.ค.52 คิดเป็นจำนวนเงินประมาณ 250 ล้านบาท ขณะเดียวกัน บล.ฟินันซ่า จะดำเนินการขายสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์และธุรกิจการเป็นตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของบล.ฟินันซ่า และโอนย้ายพนักงานที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจดังกล่าวและบัญชีลูกค้า แต่ไม่รวมใบอนุญาตในการประกอบธุรกิจดังกล่าวให้แก่ บล.ไซรัส และบล.ไซรัสจะดำเนินการชำระคืน (Refinance) หนี้เงินกู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ของลูกค้าซื้อขายหลักทรัพย์ในระบบเครดิตบาลานซ์ที่รับโอนจาก บล.ฟินันซ่าให้แก่ บล.ฟินันซ่า อีกด้วย
นอกจากนี้ บล.ไซรัส จะดำเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียนจำนวนประมาณ 79 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจงให้กับ ธนาคารสินเอเซีย จำกัด (มหาชน) และผู้ถือหุ้นรายย่อยของ บล.สินเอเซียที่ราคาตามมูลค่าทางบัญชีของบล.ไซรัส ณ วันที่ 31 มีนาคม 2552 ปรับปรุงด้วยรายการลดทุนที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคมเป็นจำนวนเงินประมาณ 250 ล้านบาท โดยธนาคารสินเอเซียมีสัดส่วนการถือหุ้นในบล.ไซรัส ใกล้เคียงกับบมจ.ฟินันซ่า คือประมาณร้อยละ 24.9
ทั้งนี้ ภายหลังการเพิ่มทุนแล้ว บล.ไซรัส จะดำเนินการซื้อหุ้นประมาณร้อยละ 86.52 – 100 ของ บล.สินเอเซียจากธนาคารสินเอเซีย จำกัด (มหาชน) และผู้ถือหุ้นรายย่อยของ บล.สินเอเซีย ในราคาตามมูลค่าทางบัญชีของ บล.สินเอเซีย ณ วันที่ 31 มี.ค.52 รวมเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 460 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในอนาคตภายหลังการดำเนินการตามแนวทางดังกล่าวแล้ว บล.สินเอเซีย และบล.ไซรัส จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด โดยมีแนวโน้มที่จะควบรวมทั้งสองบริษัทหลักทรัพย์เข้าเป็นหนึ่งเดียวกัน
ด้านนายวรสิทธิ์ โภคาชัยพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ฟินันซ่า เปิดเผยว่า บริษัทจะทำการชำระเงินค่าหุ้นจำนวนประมาณ 250 ล้านบาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นของ บล.ไซรัส ด้วยเงินสด พร้อมทั้งโอนย้ายเจ้าหน้าที่การตลาดและพนักงานที่เกี่ยวข้องประมาณ 200 คน และบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์กว่า 9,600 บัญชี รวมทั้งสาขาของบริษัทจำนวน 11 สาขา เข้าไปดำเนินงานร่วมกับ บล.ไซรัส
ทั้งนี้ หลังจากปรับโครงสร้างการดำเนินธุรกิจร่วมกันของ 3 บริษัทแล้ว มั่นใจว่าจะมีการเพิ่มศักยภาพสูงขึ้น และการทำงานไม่เกิดความซับซ้อน
ขณะที่นายชัชวาลย์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ บล.ไซรัส กล่าวว่า ภาวะการแข่งขันด้านธุรกิจหลักทรัพย์มีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะในอีก 1-2 ปีข้างหน้าจะมีการเปิดเสรีค่าคอมมิชชั่น ทำให้ทุกบล. ต้องหาทางควบรวมกิจการเพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจ ซึ่งภายหลังการควบรวมกิจการครั้งนี้ จะทำให้ส่วนแบ่งการตลาดด้านธุรกิจหลักทรัพย์ของ 3 บล.ขยับมาเป็นอันดับ 4 คืออยู่ที่ประมาณ 5% และฐานบัญชีลูกค้าจะเพิ่มขึ้นเป็น 18,000 บัญชี
นายธงชัย อานันโทไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารสินเอเซีย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการประกอบธุรกิจและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน รองรับการเปิดเสรีธุรกิจหลักทรัพย์ในอนาคต บริษัทหลักทรัพย์ สินเอเซีย จำกัด (บล.สินเอเซีย) บริษัทหลักทรัพย์ไซรัส จำกัด (มหาชน) (บล.ไซรัส) และบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด (บล.ฟินันซ่า) จึงได้บรรลุข้อตกลงในการควบรวมธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ และธุรกิจเป็นตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของทั้ง 3 แห่งเข้าด้วยกัน
โดยการควบรวมธุรกิจครั้งนี้ ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบล.ไซรัสจะขายหุ้นให้กับบริษัท ฟินันซ่า จำกัด (มหาชน) (บมจ.ฟินันซ่า) ในสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 24.9 ที่ราคาตามมูลค่าทางบัญชี ณ วันที่ 31 มี.ค.52 คิดเป็นจำนวนเงินประมาณ 250 ล้านบาท ขณะเดียวกัน บล.ฟินันซ่า จะดำเนินการขายสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์และธุรกิจการเป็นตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของบล.ฟินันซ่า และโอนย้ายพนักงานที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจดังกล่าวและบัญชีลูกค้า แต่ไม่รวมใบอนุญาตในการประกอบธุรกิจดังกล่าวให้แก่ บล.ไซรัส และบล.ไซรัสจะดำเนินการชำระคืน (Refinance) หนี้เงินกู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ของลูกค้าซื้อขายหลักทรัพย์ในระบบเครดิตบาลานซ์ที่รับโอนจาก บล.ฟินันซ่าให้แก่ บล.ฟินันซ่า อีกด้วย
นอกจากนี้ บล.ไซรัส จะดำเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียนจำนวนประมาณ 79 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจงให้กับ ธนาคารสินเอเซีย จำกัด (มหาชน) และผู้ถือหุ้นรายย่อยของ บล.สินเอเซียที่ราคาตามมูลค่าทางบัญชีของบล.ไซรัส ณ วันที่ 31 มีนาคม 2552 ปรับปรุงด้วยรายการลดทุนที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคมเป็นจำนวนเงินประมาณ 250 ล้านบาท โดยธนาคารสินเอเซียมีสัดส่วนการถือหุ้นในบล.ไซรัส ใกล้เคียงกับบมจ.ฟินันซ่า คือประมาณร้อยละ 24.9
ทั้งนี้ ภายหลังการเพิ่มทุนแล้ว บล.ไซรัส จะดำเนินการซื้อหุ้นประมาณร้อยละ 86.52 – 100 ของ บล.สินเอเซียจากธนาคารสินเอเซีย จำกัด (มหาชน) และผู้ถือหุ้นรายย่อยของ บล.สินเอเซีย ในราคาตามมูลค่าทางบัญชีของ บล.สินเอเซีย ณ วันที่ 31 มี.ค.52 รวมเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 460 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในอนาคตภายหลังการดำเนินการตามแนวทางดังกล่าวแล้ว บล.สินเอเซีย และบล.ไซรัส จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด โดยมีแนวโน้มที่จะควบรวมทั้งสองบริษัทหลักทรัพย์เข้าเป็นหนึ่งเดียวกัน
ด้านนายวรสิทธิ์ โภคาชัยพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ฟินันซ่า เปิดเผยว่า บริษัทจะทำการชำระเงินค่าหุ้นจำนวนประมาณ 250 ล้านบาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นของ บล.ไซรัส ด้วยเงินสด พร้อมทั้งโอนย้ายเจ้าหน้าที่การตลาดและพนักงานที่เกี่ยวข้องประมาณ 200 คน และบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์กว่า 9,600 บัญชี รวมทั้งสาขาของบริษัทจำนวน 11 สาขา เข้าไปดำเนินงานร่วมกับ บล.ไซรัส
ทั้งนี้ หลังจากปรับโครงสร้างการดำเนินธุรกิจร่วมกันของ 3 บริษัทแล้ว มั่นใจว่าจะมีการเพิ่มศักยภาพสูงขึ้น และการทำงานไม่เกิดความซับซ้อน
ขณะที่นายชัชวาลย์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ บล.ไซรัส กล่าวว่า ภาวะการแข่งขันด้านธุรกิจหลักทรัพย์มีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะในอีก 1-2 ปีข้างหน้าจะมีการเปิดเสรีค่าคอมมิชชั่น ทำให้ทุกบล. ต้องหาทางควบรวมกิจการเพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจ ซึ่งภายหลังการควบรวมกิจการครั้งนี้ จะทำให้ส่วนแบ่งการตลาดด้านธุรกิจหลักทรัพย์ของ 3 บล.ขยับมาเป็นอันดับ 4 คืออยู่ที่ประมาณ 5% และฐานบัญชีลูกค้าจะเพิ่มขึ้นเป็น 18,000 บัญชี
