กระบี่ -ผู้ว่ากระบี่และภาคเอกชนกระบี่ จี้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อม(สวล.) ผ่านความเห็นชอบการก่อสร้างสะพานเชื่อมเกาะลันตาน้อย-เกาะลันตาใหญ่ แก้ปัญหาการคมนาคมบนเกาะลันตาที่การท่องเที่ยวกำลังขยายตัวอย่างสูง คาดใช้งบประมาณ 400 ล้านบาทเศษ
นายศิวะ ศิริเสาวลักษณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวถึงโครงการก่อสร้างสะพานเชื่อมเกาะลันตาน้อยกับเกาะลันตาใหญ่ บริเวณระหว่างบ้านศาลาด่าน-หลังสอด ว่า โครงการดังกล่าวเป็นไปตามความเรียกร้องของประชาชนและภาคเอกชนในพื้นที่เกาะลันตาและจังหวัดกระบี่ เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนด้านการคมนาคมและรองรับการขยายตัวของเมืองท่องเที่ยว โดยล่าสุดได้ให้คณะกรรมการที่ปรึกษาลงพื้นที่ทำประชาพิจารณ์และรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน ซึ่งได้รับการตอบรับเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์
ทั้งนี้เหตุผลหลักที่ก่อสร้างสะพานเชื่อมเกาะลันตาน้อยเกาะลันตาใหญ่ นอกจากเพื่อแก้ปัญหาด้านการคมนาคมแล้วยังเป็นการรองรับการขยายตัวของเกาะลันตาในฐานะเมืองท่องเที่ยวของจังหวัด จากการศึกษาข้อมูลด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดพบว่า จากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เข้ามาโดยผ่านสนามบินกระบี่ มีจำนวนนักท่องเที่ยวกว่า 4 แสนคนต่อปีพบว่าประมาณ 70เปอร์เซ็นต์มุ่งหน้าเที่ยวที่เกาะลันตา
“โครงการสร้างสะพานเชื่อมเกาะลันตาทั้งสองเข้าด้วยกัน จะเป็นโอกาสทองเพื่อรองรับการขยายตัวของเมืองท่องเที่ยวประกอบกับการสำรวจข้อมูลของทางโยธาและผังเมืองจังหวัด พบว่าพื้นที่เกาะลันตาใหญ่ค่อนข้างเกิดความแออัดมากขึ้น ซึ่งคาดว่าหลังจากการก่อสร้างสะพานเชื่อมแล้วเสร็จจะมีการขยายตัวความเจริญไปยังเกาะลันตาน้อยมากขึ้น แต่ปัญหาที่ความคืบหน้าของการก่อสร้างไม่ขยับ เนื่องจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมยังไม่ผ่านความเห็นชอบให้มีการก่อสร้างสะพาน ไม่ใช่อยู่ที่จังหวัด”นายศิวะกล่าว
นายศิวะ กล่าวด้วยว่า ในเมื่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม(สวล.)ยังไม่ผ่านความเห็นชอบ กรมทางหลวงชนบทซึ่งเป็นเจ้าภาพในการก่อสร้าง ก็ไม่สามารถที่จะตั้งงบประมาณในการก่อสร้างได้ ทั้งที่งบประมาณมีอยู่แล้ว โดยคาดว่างบประมาณที่ใช้ในการก่อสร้างประมาณ 400 ล้านบาทเศษ จึงขอฝากไปยังสวล.ช่วยชี้แจงให้ทราบด้วยว่าจะผ่านความเห็นชอบหรือไม่ เพราะประชาชนชาวกระบี่รออยู่ว่าเมื่อไรจะได้ใช้สะพาน และในส่วนของจังหวัดมีความพร้อมอย่างเต็มที่ที่จะให้มีการก่อสร้างเพื่อประโยชน์ของทุกคน
ด้าน นายอมฤต ศิริพรจุฑากุล นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า ตามที่กรมทางหลวงชนบท ได้จัดให้มีโครงการศึกษาความเหมาะสม ผลกระทบสิ่งแวดล้อม และสำรวจออกแบบสะพานเชื่อมเกาะลันตาน้อย-เกาะลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่และส่งเสริมการท่องเที่ยวของเกาะลันตา ซึ่งตนมองว่าการก่อสร้างสะพานดังกล่าวน่าจะเกิดขึ้นมาตั้งนานแล้ว และตนก็เห็นด้วยที่จะให้มีการก่อสร้างสะพานเกิดขึ้นโดยเร็ว และก็ไม่ใช่แต่ตนเท่านั้นที่เห็นด้วย ประชาชนและผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวที่อาศัยอยู่บนเกาะลันตาเองก็เห็นด้วยที่จะให้มีการสร้างสะพาน
“ปัจจุบันการเดินทางข้ามฟากไปยังเกาะลันตา จะมีความทุลักทุเลเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าจะมีแพขนานยนต์วิ่งให้บริการอยู่ แต่ด้วยศักยภาพของแพขนานยนต์เอง ต้องยอมรับว่าปัจจุบันไม่สามารถที่จะรองรับความเจริญของเกาะลันตาที่มีความเจริญเพิ่มขึ้นทุกวันและแบบก้าวกระโดด ทั้งจำนวนนักท่องเที่ยว ประชาชนและผู้รับเหมาก่อสร้าง ที่ขนสิ่งของต่างๆจากบนฝั่งข้ามฟากไปยังเกาะลันตา ทำให้บางครั้งมีรถติดแพเป็นจำนวนมากและนานหลายชั่วโมงเพื่อรอขึ้นแพ บางครั้งนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางกลับ ได้จองเที่ยวบินไว้ก็ไปไม่ทันเที่ยวบินที่จองไว้ต้องยกเลิกเที่ยวบิน”นายอมฤต กล่าว
นายศิวะ ศิริเสาวลักษณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวถึงโครงการก่อสร้างสะพานเชื่อมเกาะลันตาน้อยกับเกาะลันตาใหญ่ บริเวณระหว่างบ้านศาลาด่าน-หลังสอด ว่า โครงการดังกล่าวเป็นไปตามความเรียกร้องของประชาชนและภาคเอกชนในพื้นที่เกาะลันตาและจังหวัดกระบี่ เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนด้านการคมนาคมและรองรับการขยายตัวของเมืองท่องเที่ยว โดยล่าสุดได้ให้คณะกรรมการที่ปรึกษาลงพื้นที่ทำประชาพิจารณ์และรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน ซึ่งได้รับการตอบรับเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์
ทั้งนี้เหตุผลหลักที่ก่อสร้างสะพานเชื่อมเกาะลันตาน้อยเกาะลันตาใหญ่ นอกจากเพื่อแก้ปัญหาด้านการคมนาคมแล้วยังเป็นการรองรับการขยายตัวของเกาะลันตาในฐานะเมืองท่องเที่ยวของจังหวัด จากการศึกษาข้อมูลด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดพบว่า จากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เข้ามาโดยผ่านสนามบินกระบี่ มีจำนวนนักท่องเที่ยวกว่า 4 แสนคนต่อปีพบว่าประมาณ 70เปอร์เซ็นต์มุ่งหน้าเที่ยวที่เกาะลันตา
“โครงการสร้างสะพานเชื่อมเกาะลันตาทั้งสองเข้าด้วยกัน จะเป็นโอกาสทองเพื่อรองรับการขยายตัวของเมืองท่องเที่ยวประกอบกับการสำรวจข้อมูลของทางโยธาและผังเมืองจังหวัด พบว่าพื้นที่เกาะลันตาใหญ่ค่อนข้างเกิดความแออัดมากขึ้น ซึ่งคาดว่าหลังจากการก่อสร้างสะพานเชื่อมแล้วเสร็จจะมีการขยายตัวความเจริญไปยังเกาะลันตาน้อยมากขึ้น แต่ปัญหาที่ความคืบหน้าของการก่อสร้างไม่ขยับ เนื่องจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมยังไม่ผ่านความเห็นชอบให้มีการก่อสร้างสะพาน ไม่ใช่อยู่ที่จังหวัด”นายศิวะกล่าว
นายศิวะ กล่าวด้วยว่า ในเมื่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม(สวล.)ยังไม่ผ่านความเห็นชอบ กรมทางหลวงชนบทซึ่งเป็นเจ้าภาพในการก่อสร้าง ก็ไม่สามารถที่จะตั้งงบประมาณในการก่อสร้างได้ ทั้งที่งบประมาณมีอยู่แล้ว โดยคาดว่างบประมาณที่ใช้ในการก่อสร้างประมาณ 400 ล้านบาทเศษ จึงขอฝากไปยังสวล.ช่วยชี้แจงให้ทราบด้วยว่าจะผ่านความเห็นชอบหรือไม่ เพราะประชาชนชาวกระบี่รออยู่ว่าเมื่อไรจะได้ใช้สะพาน และในส่วนของจังหวัดมีความพร้อมอย่างเต็มที่ที่จะให้มีการก่อสร้างเพื่อประโยชน์ของทุกคน
ด้าน นายอมฤต ศิริพรจุฑากุล นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า ตามที่กรมทางหลวงชนบท ได้จัดให้มีโครงการศึกษาความเหมาะสม ผลกระทบสิ่งแวดล้อม และสำรวจออกแบบสะพานเชื่อมเกาะลันตาน้อย-เกาะลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่และส่งเสริมการท่องเที่ยวของเกาะลันตา ซึ่งตนมองว่าการก่อสร้างสะพานดังกล่าวน่าจะเกิดขึ้นมาตั้งนานแล้ว และตนก็เห็นด้วยที่จะให้มีการก่อสร้างสะพานเกิดขึ้นโดยเร็ว และก็ไม่ใช่แต่ตนเท่านั้นที่เห็นด้วย ประชาชนและผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวที่อาศัยอยู่บนเกาะลันตาเองก็เห็นด้วยที่จะให้มีการสร้างสะพาน
“ปัจจุบันการเดินทางข้ามฟากไปยังเกาะลันตา จะมีความทุลักทุเลเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าจะมีแพขนานยนต์วิ่งให้บริการอยู่ แต่ด้วยศักยภาพของแพขนานยนต์เอง ต้องยอมรับว่าปัจจุบันไม่สามารถที่จะรองรับความเจริญของเกาะลันตาที่มีความเจริญเพิ่มขึ้นทุกวันและแบบก้าวกระโดด ทั้งจำนวนนักท่องเที่ยว ประชาชนและผู้รับเหมาก่อสร้าง ที่ขนสิ่งของต่างๆจากบนฝั่งข้ามฟากไปยังเกาะลันตา ทำให้บางครั้งมีรถติดแพเป็นจำนวนมากและนานหลายชั่วโมงเพื่อรอขึ้นแพ บางครั้งนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางกลับ ได้จองเที่ยวบินไว้ก็ไปไม่ทันเที่ยวบินที่จองไว้ต้องยกเลิกเที่ยวบิน”นายอมฤต กล่าว
