ASTVผู้จัดการรายวัน – พิษวิกฤตเศรษฐกิจและการเมืองโหมกระหน่ำตลาดทุน ฉุดงานมหกรรมการเงิน มันนี่เอ็กซ์โป ปีนี้ไม่คึกคักเหมือนที่ผ่านมา แม้ประธานจัดงานมันนี่เอ็กซ์โป จะเชื่อมั่นผู้เข้าร่วมงานถึง 7 แสนรายเหมือนปีก่อน แต่จะมีเม็ดเงินสะพัด เพียง 5-6 หมื่นล้านบาท หรือลดลง 50% จากปี2551 ที่มีถึง 1.2 แสนล้านบาท ด้านสถาบันการเงินตบเท้าเข้าร่วมครบทุกค่าย แข่งเสนอบริการการทางการเงิน การลงทุนคราบครัน ส่วน"โสภาวดี" หวัง มีผู้เปิดบัญชีลงทุน 1 หมื่นบัญชี ทั้งหุ้น อนุพันธ์ ตราสารหนี้ กองทุน
นายสันติ วิริยะรังสฤษฎ์ บรรณาธิการ วารสารการเงินธนาคาร และในฐานะประธานจัดงานมหกรรมการเงิน มันนี่เอ็กซ์โป เปิดเผยว่า งานมหกรรมการเงิน ครั้งที่ 9 MONEY EXPO 2009 โดยในงานจะมีการให้บริการทางการะงิน และการลงทุนที่สามารถตอบสนองธุรกิจและความต้องการทุกช่วงชีวิต ซึ่งจะมีธนาคารพาณิชย์ สถาบันการะงิน หน่วยงานรัฐและเอกชน เข้าร่วมในงานรวม 173 แห่ง เพื่อนำเสนอบริการทางการเงินและการลงทุนที่ครบวงจรให้กับประชาชนผู้เข้าชมงาน
ทั้งนี้คาดว่าจะมีประชาชนเข้าร่วมงานปีนี้จำนวน 7 แสนคนซึ่งเป็นระดับเดียวกับปีที่ผ่าน แต่เม็ดเงินที่จะสะพัดในงานคาดว่าจะมีจำนวน 5-6 หมื่นล้านบาท ซึ่งลดลง ประมาณ 50% จากปีที่ผ่านมาที่มีมูลค่า 1.2 แสนล้านบาท เนื่องจาก ภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาทำให้ประชาชนมีความระมัดระวังในการใช้จ่ายทำให้มีความต้องการในการขอวงเงินสินเชื่อน้อยลงบ้าง และจากการที่ธนาคารพาณิชย์ที่มีการให้บริการฝากเงินออมที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าปัจจุบัน 1.5% ทำให้ประชาชนจะให้ความสนใจในการฝากเงินออมเงินจำนวนมาก
“แม้ภาวะเศรษฐกิจซบเซากระทบต่อความต้องการสินเชื่อบ้าง แต่เชื่อว่ายังคงมีความต้องการทางการเ งินและการลงทุนก็ยังมีอยู่เป็นจำนวนมาก กไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อ บ้าน สินเชื่อธุรกิจ สินเชื่อเอสเอ็มอี สินเชื่อบุคคล บัตรเครดิต สินเชื่อรถยนต์ บริการเงินฝาก สลากออมทรัพย์ และการลงทุนในรูปแบบต่างๆ ทั้งหุ้นกองทุนรวม ตราสารหนี้ อนุพันธ์ ทองคำ ”นายสันติ กล่าว
นางโสภาวดี เลิศมนัสชัย รองผู้จัดการ สายงานการตลาดและ งานบริการหลังการซื้อขายหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ช่วงนี้เป็นจังหวะที่นักลงทุนควรที่จะมีการลงทุน ในตราสารทางการเงิน หุ้น กองทุน อนุพันธ์ ทองคำ ตราสารหนี้ เนื่องจาก มี5 ปัจจัยที่เอื้อ ในการลงทุน คือ การที่ราคาหุ้นปัจจุบันที่อยู่ในระดับต่ำ และมีแนวโน้มที่ดัชนีจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น รัฐบาลของประเทศต่างๆ มีการอัดฉีดเม็ดเงินในการตระตุ้นเศรษฐกิจ และมีแนวโน้มที่เศรษฐกิจโลกจะมีการฟื้นตัวในไม่ช้า
บริษัทจดทะเบียนมีการจ่ายเงินปันผลที่สูง โดยบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯให้ผลตอบแทนจากเงินปันผล 6.5% และบริษัทในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงถึง 7% ซึ่งสูงกว่าอัตราเงินฝาก และ ขณะนี้การลงทุนในทองคำเป็นที่น่าสนใจนั้นตลาดหลักทรัพย์ฯได้มีการเปิดให้มีการซื้อขายสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า (โกลด์ฟิวเจอร์ส) และ จากการที่แนวโน้มดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาลงนั้น นั้นยังมีตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบที่สูง จึงเป็นจังหวะที่ดีหากนักลงทุนยังไม่มีการลงทุนในสินค้าต่างๆ ได้มีการเลือกการลงทุนและกระจายการลงทุนในสินค้าต่างๆ เพื่อที่จะให้ผลตอบแทนที่สูง
ทั้งนี้คาดว่าจะมีนักลงทุนที่จะเข้ามาเปิดบัญชีการซื้อขาย หุ้น กองทุน ตราสารหนี้ อนุพันธ์ จำนวน 8 ,000-10,000 บัญชี ซึ่งในโซนของตลาดหลักทรัพย์นั้นจะมีผู้ให้คำปรึกษาการลงทุน การจัดสัมมนา และมีบริษัทหลักทรัพย์ฯเข้าร่วในโซน SET in the City จำนวน 19 แห่ง และมี บลจ.จำนวน 20 แห่ง และยังมีผู้ค้าทองคำเข้าร่วมในงานนี้ด้วย
**สถาบันการเงินร่วมมันนี เอ็กโป**
นางรัชนี นพเมือง ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้อำนวยการลูกค้าธุรกิจบุคคลนครหลวง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารนำเสนอรูปแบบการให้บริการทางการเงินด้วยแนวคิด'เข็มทิศทางการเงิน: Financial Navigator'แก่ลูกค้าเสมือนผู้ชี้แนะทางเลือกที่หลากหลายที่จะเป็นประโยชน์และเหมาะสมกับลูกค้าในแต่ละบุคคลโดยจะใช้นำเสนอในงานมหกรรมการเงิน ครั้งที่ 9 'Money Expo 2009'ทั้งนี้ธนาคารได้จัดเตรียมผู้บริหารและพนักงานที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญทางด้านการเงินมาให้คำปรึกษาแนะนำ และตอบข้อซักถามในรายละเอียดต่างๆ ของลูกค้าให้สามารถบรรลุเป้าหมายด้านการจัดการทางการเงินที่เป็นประโยชน์
นางสุภี พงษ์พานิช ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและส่งเสริมการขาย ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แคมเปญของธนาคารนั้นจะออกมาเพื่อรองรับความต้องการและเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าให้มากขึ้น ภายใต้แนวคิด ยิ่งกู้ ยิ่งออม เช่น บริการสินเชื่อบ้านที่จะคืนดอกเบี้ยให้แบบขั้นบันได 10 ปีแรกของสินเชื่อ รวมสูงสุด 55% เป็นต้น
**กสิกรฯตั้งเป้ายอดขอสินเชื่อ1.5หมื่นล.**
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เครือธนาคารกสิกรไทย จะมุ่งนำเสนอบริการที่ปรึกษา (Advisory Service) โดยทีมงานที่ปรึกษามืออาชีพ ที่พร้อมจะให้คำแนะนำแก่ลูกค้าบุคคลและผู้ประกอบธุรกิจ พร้อมยกผลิตภัณฑ์ทางการเงินแบบครบวงจรของเครือธนาคารกสิกรไทยมาแนะนำเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม ภายใต้แนวคิด "เคียงข้างคุณทุกสถานการณ์ โดยทีมงานที่ปรึกษามืออาชีพจาก KGroup"
ทั้งนี้ลูกค้าในงานที่สมัครใช้บริการของเครือธนาคารกสิกรไทยจะได้รับคะแนนสะสมเพื่อนำมาแลกรับของสมนาคุณตามความต้องการ โดยเครือธนาคารกสิกรไทยตั้งเป้าหมายผู้สนใจเข้าชมบูธราว 18,000 คน และมีผู้สมัครขอสินเชื่อภายในงาน 15,000 ล้านบาท
***แนวคิด "UP UP and Away Balloon"
นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารได้ออกแบบบูธภายใต้แนวคิด "UP UP and Away Balloon"
พร้อมทั้งโปรโมชั่นและข้อเสนอพิเศษ ตลอดจนกิจกรรมมากมาย โดยบริการทางการเงินพร้อมโปรโมชั่นที่น่าสนใจ ได้แก่ "บริการเงินฝากออมทรัพย์บุฟเฟต์ ปี 2552" เมื่อเปิดบัญชีพร้อมทำบัตร SCIB D-Card
รับดอกเบี้ยออมทรัพย์ปกติและบวกเพิ่มพิเศษอีก 0.25% ต่อปี พร้อมทั้งยังมีสิทธิลุ้นรับรางวัลทุกเดือนถึงสิ้นปี บริการสินเชื่อบ้าน โดยอัตราดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้นที่ 3.25% ต่อปี (อิงดอกเบี้ยลอยตัว) นาน 2 ปี วงเงินกู้สูงสุด 95% สมัครบัตรเครดิตนครหลวงไทยและบัตรสินเชื่อเงินสดหมุนเวียน รับสิทธิมากมาย อาทิ อัตราดอกเบี้ยเพียง 9% ต่อปี นานสูงสุดถึง 4 รอบบัญชี ส่วนบริการสินเชื่อบุคคล ดอกเบี้ยเริ่มต้น 16% ต่อปี เป็นต้น
นายสถาพร สิริสิงห รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อาวุโส ฝ่ายการตลาดเพื่อการสันทนาการ บริษัทบัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การร่วมงานครั้งนี้เคทีซีได้ถือโอกาสเปิดตัวแนวคิดใหม่ของแบรนด์เคทีซีก็คือ "ความจริง ความสุขยังมีอยู่" โดยมุ่งหวังให้คนไทยได้มองเห็นความสุขที่ยังคงมีอยู่รอบตัว เพียงแต่รู้จักใช้ชีวิตและใช้เงินอย่างชาญฉลาดและรู้เท่าทัน ยอมรับสภาพความเป็นจริงและเตรียมตัวรับมือกับผลกระทบและความรุนแรงของวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น โดยเคทีซีจะปรับใช้กิจกรรมการตลาดและวิธีการสื่อสารตลาดในรูปแบบใหม่ ที่สอดแทรกเคล็ดลับดี ๆ ของการวางแผนใช้จ่ายเข้าไปกับสิทธิประโยชน์ให้สมาชิกอย่างต่อเนื่อง แทนการกระตุ้นให้สมาชิกใช้จ่าย
นายสันติ วิริยะรังสฤษฎ์ บรรณาธิการ วารสารการเงินธนาคาร และในฐานะประธานจัดงานมหกรรมการเงิน มันนี่เอ็กซ์โป เปิดเผยว่า งานมหกรรมการเงิน ครั้งที่ 9 MONEY EXPO 2009 โดยในงานจะมีการให้บริการทางการะงิน และการลงทุนที่สามารถตอบสนองธุรกิจและความต้องการทุกช่วงชีวิต ซึ่งจะมีธนาคารพาณิชย์ สถาบันการะงิน หน่วยงานรัฐและเอกชน เข้าร่วมในงานรวม 173 แห่ง เพื่อนำเสนอบริการทางการเงินและการลงทุนที่ครบวงจรให้กับประชาชนผู้เข้าชมงาน
ทั้งนี้คาดว่าจะมีประชาชนเข้าร่วมงานปีนี้จำนวน 7 แสนคนซึ่งเป็นระดับเดียวกับปีที่ผ่าน แต่เม็ดเงินที่จะสะพัดในงานคาดว่าจะมีจำนวน 5-6 หมื่นล้านบาท ซึ่งลดลง ประมาณ 50% จากปีที่ผ่านมาที่มีมูลค่า 1.2 แสนล้านบาท เนื่องจาก ภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาทำให้ประชาชนมีความระมัดระวังในการใช้จ่ายทำให้มีความต้องการในการขอวงเงินสินเชื่อน้อยลงบ้าง และจากการที่ธนาคารพาณิชย์ที่มีการให้บริการฝากเงินออมที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าปัจจุบัน 1.5% ทำให้ประชาชนจะให้ความสนใจในการฝากเงินออมเงินจำนวนมาก
“แม้ภาวะเศรษฐกิจซบเซากระทบต่อความต้องการสินเชื่อบ้าง แต่เชื่อว่ายังคงมีความต้องการทางการเ งินและการลงทุนก็ยังมีอยู่เป็นจำนวนมาก กไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อ บ้าน สินเชื่อธุรกิจ สินเชื่อเอสเอ็มอี สินเชื่อบุคคล บัตรเครดิต สินเชื่อรถยนต์ บริการเงินฝาก สลากออมทรัพย์ และการลงทุนในรูปแบบต่างๆ ทั้งหุ้นกองทุนรวม ตราสารหนี้ อนุพันธ์ ทองคำ ”นายสันติ กล่าว
นางโสภาวดี เลิศมนัสชัย รองผู้จัดการ สายงานการตลาดและ งานบริการหลังการซื้อขายหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ช่วงนี้เป็นจังหวะที่นักลงทุนควรที่จะมีการลงทุน ในตราสารทางการเงิน หุ้น กองทุน อนุพันธ์ ทองคำ ตราสารหนี้ เนื่องจาก มี5 ปัจจัยที่เอื้อ ในการลงทุน คือ การที่ราคาหุ้นปัจจุบันที่อยู่ในระดับต่ำ และมีแนวโน้มที่ดัชนีจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น รัฐบาลของประเทศต่างๆ มีการอัดฉีดเม็ดเงินในการตระตุ้นเศรษฐกิจ และมีแนวโน้มที่เศรษฐกิจโลกจะมีการฟื้นตัวในไม่ช้า
บริษัทจดทะเบียนมีการจ่ายเงินปันผลที่สูง โดยบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯให้ผลตอบแทนจากเงินปันผล 6.5% และบริษัทในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงถึง 7% ซึ่งสูงกว่าอัตราเงินฝาก และ ขณะนี้การลงทุนในทองคำเป็นที่น่าสนใจนั้นตลาดหลักทรัพย์ฯได้มีการเปิดให้มีการซื้อขายสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า (โกลด์ฟิวเจอร์ส) และ จากการที่แนวโน้มดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาลงนั้น นั้นยังมีตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบที่สูง จึงเป็นจังหวะที่ดีหากนักลงทุนยังไม่มีการลงทุนในสินค้าต่างๆ ได้มีการเลือกการลงทุนและกระจายการลงทุนในสินค้าต่างๆ เพื่อที่จะให้ผลตอบแทนที่สูง
ทั้งนี้คาดว่าจะมีนักลงทุนที่จะเข้ามาเปิดบัญชีการซื้อขาย หุ้น กองทุน ตราสารหนี้ อนุพันธ์ จำนวน 8 ,000-10,000 บัญชี ซึ่งในโซนของตลาดหลักทรัพย์นั้นจะมีผู้ให้คำปรึกษาการลงทุน การจัดสัมมนา และมีบริษัทหลักทรัพย์ฯเข้าร่วในโซน SET in the City จำนวน 19 แห่ง และมี บลจ.จำนวน 20 แห่ง และยังมีผู้ค้าทองคำเข้าร่วมในงานนี้ด้วย
**สถาบันการเงินร่วมมันนี เอ็กโป**
นางรัชนี นพเมือง ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้อำนวยการลูกค้าธุรกิจบุคคลนครหลวง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารนำเสนอรูปแบบการให้บริการทางการเงินด้วยแนวคิด'เข็มทิศทางการเงิน: Financial Navigator'แก่ลูกค้าเสมือนผู้ชี้แนะทางเลือกที่หลากหลายที่จะเป็นประโยชน์และเหมาะสมกับลูกค้าในแต่ละบุคคลโดยจะใช้นำเสนอในงานมหกรรมการเงิน ครั้งที่ 9 'Money Expo 2009'ทั้งนี้ธนาคารได้จัดเตรียมผู้บริหารและพนักงานที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญทางด้านการเงินมาให้คำปรึกษาแนะนำ และตอบข้อซักถามในรายละเอียดต่างๆ ของลูกค้าให้สามารถบรรลุเป้าหมายด้านการจัดการทางการเงินที่เป็นประโยชน์
นางสุภี พงษ์พานิช ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและส่งเสริมการขาย ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แคมเปญของธนาคารนั้นจะออกมาเพื่อรองรับความต้องการและเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าให้มากขึ้น ภายใต้แนวคิด ยิ่งกู้ ยิ่งออม เช่น บริการสินเชื่อบ้านที่จะคืนดอกเบี้ยให้แบบขั้นบันได 10 ปีแรกของสินเชื่อ รวมสูงสุด 55% เป็นต้น
**กสิกรฯตั้งเป้ายอดขอสินเชื่อ1.5หมื่นล.**
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เครือธนาคารกสิกรไทย จะมุ่งนำเสนอบริการที่ปรึกษา (Advisory Service) โดยทีมงานที่ปรึกษามืออาชีพ ที่พร้อมจะให้คำแนะนำแก่ลูกค้าบุคคลและผู้ประกอบธุรกิจ พร้อมยกผลิตภัณฑ์ทางการเงินแบบครบวงจรของเครือธนาคารกสิกรไทยมาแนะนำเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม ภายใต้แนวคิด "เคียงข้างคุณทุกสถานการณ์ โดยทีมงานที่ปรึกษามืออาชีพจาก KGroup"
ทั้งนี้ลูกค้าในงานที่สมัครใช้บริการของเครือธนาคารกสิกรไทยจะได้รับคะแนนสะสมเพื่อนำมาแลกรับของสมนาคุณตามความต้องการ โดยเครือธนาคารกสิกรไทยตั้งเป้าหมายผู้สนใจเข้าชมบูธราว 18,000 คน และมีผู้สมัครขอสินเชื่อภายในงาน 15,000 ล้านบาท
***แนวคิด "UP UP and Away Balloon"
นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารได้ออกแบบบูธภายใต้แนวคิด "UP UP and Away Balloon"
พร้อมทั้งโปรโมชั่นและข้อเสนอพิเศษ ตลอดจนกิจกรรมมากมาย โดยบริการทางการเงินพร้อมโปรโมชั่นที่น่าสนใจ ได้แก่ "บริการเงินฝากออมทรัพย์บุฟเฟต์ ปี 2552" เมื่อเปิดบัญชีพร้อมทำบัตร SCIB D-Card
รับดอกเบี้ยออมทรัพย์ปกติและบวกเพิ่มพิเศษอีก 0.25% ต่อปี พร้อมทั้งยังมีสิทธิลุ้นรับรางวัลทุกเดือนถึงสิ้นปี บริการสินเชื่อบ้าน โดยอัตราดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้นที่ 3.25% ต่อปี (อิงดอกเบี้ยลอยตัว) นาน 2 ปี วงเงินกู้สูงสุด 95% สมัครบัตรเครดิตนครหลวงไทยและบัตรสินเชื่อเงินสดหมุนเวียน รับสิทธิมากมาย อาทิ อัตราดอกเบี้ยเพียง 9% ต่อปี นานสูงสุดถึง 4 รอบบัญชี ส่วนบริการสินเชื่อบุคคล ดอกเบี้ยเริ่มต้น 16% ต่อปี เป็นต้น
นายสถาพร สิริสิงห รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อาวุโส ฝ่ายการตลาดเพื่อการสันทนาการ บริษัทบัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การร่วมงานครั้งนี้เคทีซีได้ถือโอกาสเปิดตัวแนวคิดใหม่ของแบรนด์เคทีซีก็คือ "ความจริง ความสุขยังมีอยู่" โดยมุ่งหวังให้คนไทยได้มองเห็นความสุขที่ยังคงมีอยู่รอบตัว เพียงแต่รู้จักใช้ชีวิตและใช้เงินอย่างชาญฉลาดและรู้เท่าทัน ยอมรับสภาพความเป็นจริงและเตรียมตัวรับมือกับผลกระทบและความรุนแรงของวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น โดยเคทีซีจะปรับใช้กิจกรรมการตลาดและวิธีการสื่อสารตลาดในรูปแบบใหม่ ที่สอดแทรกเคล็ดลับดี ๆ ของการวางแผนใช้จ่ายเข้าไปกับสิทธิประโยชน์ให้สมาชิกอย่างต่อเนื่อง แทนการกระตุ้นให้สมาชิกใช้จ่าย