ไทยมีศักยภาพด้านดีไซน์การ์ตูนคาเรกเตอร์ แต่ยังขาดโอกาสทางธุรกิจ “บางกอก อีเว้นท์” คว้าโอกาส ประเดิมงานแรกทุ่ม 50ล้านบาท จัดงาน”Bangkok Toy&Comic Convention” พร้อมจีบภาครัฐช่วยหนุน หวังเป็นสื่อกลางช่วยดันคาเรกเตอร์คนไทยสู่ระดับอินเตอร์
นายธนสรรค์ พัชรภิญโญพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอก อีเว้นท์ แอนด์ เอ็กซิบิชั่น จำกัด เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมการ์ตูนคาเรกเตอร์ในประเทศไทยนั้นเชื่อว่ามีมูลค่าหลายพันล้านบาท โดยธุรกิจนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งทั้งในตลาดของเล่น และอุตสาหกรรมซอฟท์แวร์ ซึ่งทั้ง 2 ตลาดนี้ เมื่อรวมมูลค่าตลาดเข้าด้วยกัน เชื่อว่าจะมีมูลค่านับแสนล้านบาท
โดยในส่วนของตลาดการ์ตูนคาร์เรกเตอร์นั้น กว่า 80-90% จะเป็นคาเรกเตอร์จากต่างประเทศ เช่น วอลล์ดิสนีย์ หรือคาร์เรกเตอร์จากประเทศญี่ปุ่น เช่น คิตตี้ และพวกมาร์กไรเดอร์ ขณะที่การ์ตูนคาร์เรกเตอร์ในประเทศไทย ที่เริ่มหารายได้บ้างแล้วทั้งในและต่างประเทศ คือ ก้านกล้วย กับปังปอนด์ที่เห็นภาพชัดเจน ซึ่งหากพิจารณาดูแล้ว
ประเทศไทยมีศักยภาพทั้งในส่วนของกลุ่มนักดีไซน์ ที่จะสร้างสรรค์การ์ตูนคาร์เรกเตอร์เป็นจำนวนมาก
ขณะเดียวกันไทยยังเป็นประเทศที่มีจำนวนประชากรค่อนข้างสูง สินค้ามีความหลากหลาย และพร้อมที่จะใช้การ์ตูนคาร์เรกเตอร์มาเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความแตกต่างให้กับสินค้าได้อีกเป็นจำนวนมาก เชื่อว่าไทยมีศักยภาพพอในการที่จะทำตลาดการ์ตูนคาร์เรกเตอร์เพื่อแข่งขันกับต่างประเทศได้
ดังนั้นทางบริษัท จึงได้ทุ่มงบประมาณถึง 50 ล้านบาท ในการที่จะจัดงานเอ็กซิบิชั่นด้านการ์ตูนคาร์เรกเตอร์ขึ้นมาโดยเฉพาะ โดยวางแผนที่จะจัดขึ้นในปีหน้า ระหว่างวันที่ 7-10 ม.ค. 2553 ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ซึ่งก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงของการจัดงานนั้น ทางบริษัทจะมีการทำตลาดปูทางและประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภครับทราบถึงการจัดงานดังกล่าว
ทั้งนี้เพื่อต้องการที่จะทำให้ธุรกิจด้านการ์ตูนคาร์เรกเตอร์ในประเทศไทยเติบโตขึ้น
อีกทั้งระหว่างนี้ทางบริษัทยังมีการเจรจากับทางภาครัฐ เช่น กรมทรัพย์สินทางปัญญา กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมส่งเสริมการส่งออก และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(องค์การมหาชน) เข้าร่วมสนับสนุนการจัดงานครั้งนี้ด้วย นอกจากนี้บริษัทจะมีการเดินทางไปต่างประเทศทั้ง อเมริกา ยุโรป และเอเชีย เพื่อเชิญชวนให้ธุรกิจด้านการ์ตูนคาร์เรกเตอร์ในประเทศเหล่านั้นเข้ามาดูงานในเมืองไทยอีกส่วนหนึ่งด้วยโดยคาดการณ์ไว้ว่าจะมีผู้ประกอบการไทย และจากต่างประเทศ เข้าร่วมออกบูธราว 350บูธ จากทั้งหมด 300 บริษัท ส่วนผู้เข้าชมงาน เชื่อว่าจะมีไม่ต่ำกว่า 50,000-80,000 คน
นายธนสรรค์ พัชรภิญโญพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอก อีเว้นท์ แอนด์ เอ็กซิบิชั่น จำกัด เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมการ์ตูนคาเรกเตอร์ในประเทศไทยนั้นเชื่อว่ามีมูลค่าหลายพันล้านบาท โดยธุรกิจนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งทั้งในตลาดของเล่น และอุตสาหกรรมซอฟท์แวร์ ซึ่งทั้ง 2 ตลาดนี้ เมื่อรวมมูลค่าตลาดเข้าด้วยกัน เชื่อว่าจะมีมูลค่านับแสนล้านบาท
โดยในส่วนของตลาดการ์ตูนคาร์เรกเตอร์นั้น กว่า 80-90% จะเป็นคาเรกเตอร์จากต่างประเทศ เช่น วอลล์ดิสนีย์ หรือคาร์เรกเตอร์จากประเทศญี่ปุ่น เช่น คิตตี้ และพวกมาร์กไรเดอร์ ขณะที่การ์ตูนคาร์เรกเตอร์ในประเทศไทย ที่เริ่มหารายได้บ้างแล้วทั้งในและต่างประเทศ คือ ก้านกล้วย กับปังปอนด์ที่เห็นภาพชัดเจน ซึ่งหากพิจารณาดูแล้ว
ประเทศไทยมีศักยภาพทั้งในส่วนของกลุ่มนักดีไซน์ ที่จะสร้างสรรค์การ์ตูนคาร์เรกเตอร์เป็นจำนวนมาก
ขณะเดียวกันไทยยังเป็นประเทศที่มีจำนวนประชากรค่อนข้างสูง สินค้ามีความหลากหลาย และพร้อมที่จะใช้การ์ตูนคาร์เรกเตอร์มาเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความแตกต่างให้กับสินค้าได้อีกเป็นจำนวนมาก เชื่อว่าไทยมีศักยภาพพอในการที่จะทำตลาดการ์ตูนคาร์เรกเตอร์เพื่อแข่งขันกับต่างประเทศได้
ดังนั้นทางบริษัท จึงได้ทุ่มงบประมาณถึง 50 ล้านบาท ในการที่จะจัดงานเอ็กซิบิชั่นด้านการ์ตูนคาร์เรกเตอร์ขึ้นมาโดยเฉพาะ โดยวางแผนที่จะจัดขึ้นในปีหน้า ระหว่างวันที่ 7-10 ม.ค. 2553 ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ซึ่งก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงของการจัดงานนั้น ทางบริษัทจะมีการทำตลาดปูทางและประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภครับทราบถึงการจัดงานดังกล่าว
ทั้งนี้เพื่อต้องการที่จะทำให้ธุรกิจด้านการ์ตูนคาร์เรกเตอร์ในประเทศไทยเติบโตขึ้น
อีกทั้งระหว่างนี้ทางบริษัทยังมีการเจรจากับทางภาครัฐ เช่น กรมทรัพย์สินทางปัญญา กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมส่งเสริมการส่งออก และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(องค์การมหาชน) เข้าร่วมสนับสนุนการจัดงานครั้งนี้ด้วย นอกจากนี้บริษัทจะมีการเดินทางไปต่างประเทศทั้ง อเมริกา ยุโรป และเอเชีย เพื่อเชิญชวนให้ธุรกิจด้านการ์ตูนคาร์เรกเตอร์ในประเทศเหล่านั้นเข้ามาดูงานในเมืองไทยอีกส่วนหนึ่งด้วยโดยคาดการณ์ไว้ว่าจะมีผู้ประกอบการไทย และจากต่างประเทศ เข้าร่วมออกบูธราว 350บูธ จากทั้งหมด 300 บริษัท ส่วนผู้เข้าชมงาน เชื่อว่าจะมีไม่ต่ำกว่า 50,000-80,000 คน
