xs
xsm
sm
md
lg

“ขนมปังวังหลัง” สูตร 36 ปี รสชาติคงที่การันตีด้วยความนุ่ม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTV ผู้จัดการรายวัน – ย้อนกลับไปเมื่อ 36 ปีที่แล้ว จากลูกจ้างในร้านขนมปัง อาศัยความขยัน อดทน และใฝ่มราจะเรียนรู้ ทำให้สามารถเปิดโรงงานเล็กๆ เพื่อทำขนมปังส่งขายตามร้านขายของชำได้เป็นผลสำเร็จ ซึ่งขนมปังสูตรเก่าแก่นี้ ปัจจุบันได้กลายมาเป็นธุรกิจที่หล่อเลี้ยงครอบครัว และถ่ายทอดมาจนถึงรุ่นลูกเข้ามาบริหาร ร้าน “วังหลัง เบเกอรี่” ขนมปังหนักไส้ ที่ยึดหัวหาดย่านโรงพยาบาลศิริราชมานานกว่า 15 ปี จนกลายเป็นขนมที่ผู้ผ่านไปย่านนั้นต้องซื้อกลับเป็นของฝากไม่ขาดไม่ได้

นายบุญชู โชติรัตนไพบูลย์ ผู้จัดการร้าน วังหลัง เบเกอรี่ หรือที่ลูกค้าเรียกกันจนติดปากว่า ขนมปังวังหลัง ทายาทธุรกิจ ที่เติบโตมากับขนมปังปอนด์สอดไส้ทั้งคาว และหวาน ธุรกิจนี้เริ่มต้นจากผู้เป็นพ่อ ที่เป็นคนต่างจังหวัด เข้ามาทำงานในเมืองหลวงตั้งแต่อายุ 16 ปี โดยโชคชะตาก็ลิขิตให้มาเป็นลูกจ้างร้านขนมปังปอนด์ ที่ถือเป็นจุดเริ่มต้นบนถนนของการเป็นเถ้าแก่ร้านขนมปังที่ครองตลาดมายาวนานถึง 36 ปี เพราะการใฝ่ที่จะเรียนรู้ของผู้เป็นพ่อ คอยศึกษากรรมวิธี สูตรขนม เนื้อแป้ง และการทำตลาด จนเกิดความมั่นใจ และลงทุนเปิดโรงงานเล็กๆ เพื่อทำขนมปังปอนด์ส่งตามร้านขายของชำในที่สุด

เมื่อการตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต ด้วยการออกมาเปิดโรงานเล็กๆ เพื่อผลิตขนมปังจำหน่าย เริ่มต้นขึ้นที่ย่านสำเหร่ นำร่องด้วยขนมปังปอนด์หั่นเป็นแผ่น และขนมปังแบบมีไส้ ไม่มีหน้าร้าน เน้นขายส่งร้านของชำทั่วไป จนกระทั่งธุรกิจเริ่มอยู่ตัว ทำให้ในปี 2523 ผู้เป็นพ่อจึงคิดเปิดร้านขายขนมปังด้วยตนเอง ที่วิทยาลัยพณิชยการธนบุรี ต่อมาจึงขยายสาขามาที่ตลาดนัดวังหลัง โรงพยาบาลศิริราช ในปี 2535 จนก่อเกิดเป็นแบรนด์ “ วังหลัง เบเกอรี่” จนถึงปัจจุบัน

สำหรับจุดขายที่โดดเด่น และสร้างสร้างชื่อให้กับวังหลัง เบเกอรี่ คือ ขนมปังปอนด์ หนักไส้ที่ปัจจุบันมีถึง 22 ไส้ โดยไส้รวมแฮม หมูหยอง ลูกเกด เนยสด และสลัดแฮม ถือเป็นไส้ที่ขายดีที่สุด ในขณะที่พิซซ่า ก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้าดีเป็นลำดับเช่นกัน จาก 3 หน้าหลัก คือ หน้าไส้กรอก, ทะเล และเบคอน จุดขายอีกอย่างหนึ่งคือ ความนุ่มของเนื้อแป้งขนมปัง ที่ใม่ซ้ำใคร จากสูตรดั้งเดิมเมื่อครั้งยังไม่มีแบรนด์วังหลัง เบเกอรี่ ที่ลูกค้าต่างยอมรับในรสชาติ และเป็นที่กล่าวขวัญกันว่าเมื่อนำขนมปังของวังหลัง เบเกอรี่ ไปแช่ในตู้เย็น เมื่อนำออกมารับประทาน โดยวางทิ้งไว้เพื่อให้คลายความเย็น เนื้อแป้งของขนมปังก็ยังคงความนุ่มเหมือนเพิ่งอบออกมาจากเตาเลยทีเดียว

ปัจจุบันร้านวังหลัง เบเกอรี่ ได้ขยายสาขาไปตามย่านต่างๆ โดยเริ่มที่ท่าช้าง (ใกล้กับท่าพระจันทร์) เนื่องจากต้องการให้เป็นที่ผลิตขนมปังเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่บางวัน กำลังการผลิตที่สาขาโรงพยาบาลศิริราชไม่เพียงพอ ดังนั้นการเลือกที่ใกล้กับสาขาแรกจึงเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่เหมาะสมที่สุดในขณะนั้น ต่อมาจึงขยายสาขาไปท่าน้ำคลองสาน และย่านอโศก ซึ่งทุกสาขาจะมีเตาอบขนมปัง เพื่อความสดใหม่ ยกเว้นที่สาขาอโศกเท่านั้นที่ผลิตที่อื่นและนำมาจำหน่ายที่นี่

สำหรับราคาของขนมปัง และพิซซ่า อยู่ที่ 40-50 บาท หนักไส้สมราคา ปราศจากวัตถุกันเสีย รวมถึงขณธนี้ทางวังหลังเบเกอรี่ ได้แตกไลน์ขนมอื่นที่นอกเหนือจากขนมปังปอนด์ด้วย ได้แก่ ขนมเค้ก คุกกี้ เป็นต้น ซึ่งก็ได้รับการตอบรับดีจากลูกค้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยคาดว่าในอนาคตจะขยายสาขาอีก 1-2 สาขา แต่ไม่ได้เร่งรีบมากนัก จนกว่าจะเจอทำเลที่เหมาะสม และพอใจ จึงจะขยายธุรกิจ

“ธุรกิจนี้ถือเป็นความภาคภูมิใจของครอบครัว ที่พ่อแม่ได้วางรากฐานไว้ให้ และสามารถสร้างรายได้ให้กับครอบครัวมาได้อย่างยาวนาน และเมื่อธุรกิจได้ตกทอดมาถึงรุ่นลูกที่เป็นลูกชายทั้งหมด ก็ไม่ใช่อุปสรรคที่ผู้ชายจะมายึดอาชีพการทำขนมปัง หรือในแวดวงเบเกอรี่ เพราะตลอด 30 ปี ที่ผ่านมา ลูกๆ ทุกคนเรียกได้ว่าเติบโตมาพร้อมกับธุรกิจขนมปัง ที่พ่อจะให้เรียนรู้ทุกอย่างในการดำเนินธุรกิจนี้ ตั้งแต่เล็กๆ ที่ยังทำขนมไม่เป็น ก็ให้ฝึกขายขนม ส่งขนมตามร้านต่างๆ จนกระทั่งไปเข้ามาสู่ขั้นตอนการผลิต และบริหารร้านเองทั้งหมด”

การใช้ความคุ้นเคยในธุรกิจ ที่ถูกซึมซับมาตั้งแต่เกิด ถือเป็นข้อได้เปรียบอีกอย่างหนึ่งในการดำเนินธุรกิจในยุคนี้ ที่ไม่ต้องเสียเวลาลองผิดลองถูก แต่ผู้ประกอบการหน้าใหม่ก็อย่าเพิ่งไปกังวลเรื่องนี้ เพราะเราก็สามารถก้าวขึ้นเป็นเจ้าของธุรกิจที่ยั่งยืนได้ หากรักที่จะเรียน เหมือนที่ผู้เป็นพ่อ ที่เริ่มธุรกิจขนมปังวังหลังด้วยแรงใจใฝ่เรียนรู้

สนใจติดต่อ 0-2866-1649, 08-4909-2688 เปิดขายตั้งแต่เวลา 07.00-20.00 น. ทุกวัน
กำลังโหลดความคิดเห็น