น่าภาคภูมิใจที่ขนมปังสังขยาแบบไทยๆ มีโอกาสแจ้งเกิดในต่างประเทศ เพราะความคิดต่างและไม่หยุดนิ่งในการสรรหาวัตถุดิบแปลกใหม่มาทำเป็นสังขยา จนถูกอกถูกใจในหมู่คนไทยและต่างชาติ ของร้าน Heads or Tails ที่ยกระดับขนมปังสังขยาใบเตยขึ้นห้าง เพื่อแสดงศักยภาพขนมไทยให้ต่างชาติได้ลิ้มลอง
จันทิมา ชีวมงคล เจ้าของร้านขนมปังสังขยา Heads or Tails ได้ย้อนตำนานร้านขนมปังเนื้อนุ่ม พร้อมสังขยาที่มีรสชาติและสูตรเฉพาะตัว ว่า การเปิดร้านนี้ เป็นการตัดสินใจ และเชื่อมั่นในฝีมือการอบขนมปัง และสังขยา ของตนเอง ที่ได้สูตรมาจากคุณย่า ที่มักทำให้ทานกันภายในครอบครัว จนเป็นที่ติดอกติดใจ จนกระทั่งเมื่อลูกๆ ของจันทิมา มีหน้าที่การงานแล้ว ทำให้ตนเองคิดหาธุรกิจทำสักอย่างหนึ่ง จึงหันมามองตลาด และความถนัดของตัวเองว่าชอบอะไร และจะทำอะไรที่ตนเองมีความชำนาญ ซึ่งต้องมีความเป็นไปได้ทางการตลาดด้วย นั่นก็คือ ร้านขนมปังสังขยา ที่เชื่อมั่นในสูตรที่ได้มา และสังขยาที่มีสูตรเฉพาะ
สุดท้ายจึงเลือกทำเลย่านมหาวิทยาลัยเอแบคเป็นจุดเริ่มต้นธุรกิจ ซึ่งก็ต้องพบกับอุปสรรคมากมาย ทั้งตึกที่ต้องการเช่า กลับเปลี่ยนใจ ทำให้ต้องไปเลือกอาคารข้างๆ ขนาด 2 คูหา ซึ่งสภาพเก่ามาก ทำให้ต้องเสียค่าตกแต่งภายในสูงถึงหลักล้าน ซึ่งผู้เป็นสามีได้พูดว่า “งานนี้ไม่รู้ว่าจะออกหัวหรือก้อย (Heads or Tails)” ซึ่งก็เป็นที่มาของชื่อร้าน ซึ่งตรงกับความต้องการของจันทิมาที่ไม่ต้องการตั้งชื่อร้านที่บ่งบอกถึงสินค้าร้านมากเกินไป และตรงกับวิธีการปิ้งขนมปังที่ต้องปิ้งทั้ง 2 ด้าน ส่วนโลโก้ก็ได้ชาวต่างชาติมาวาดให้ โดยแบบที่ใช้คือ คุณจันทิมา นั่นเอง ทำให้โลโก้ของร้านมีคล้ายธุรกิจของชาวต่างชาติ
“หลังจากที่เราเปิดร้านที่ม.เอแบค ผลตอบรับดีมาก จนทางห้างเอ็มโพเรียม ติดต่อให้ไปเปิดสาขา เพราะคอนเซ็ปต์ของร้านตรงกับความต้องการที่เน้นสินค้าเรียบง่าย แต่ดูดี มีระดับ ซึ่งตรงจุดนี้ทำให้เราตัดสินใจเซ้งร้านที่เอแบคให้ผู้ประกอบการรายอื่น เพราะเกรงจะดูแลทั้ง 2 สาขาไม่ทั่วถึง โดยปัจจุบันร้านที่ห้างเอ็มโพเรียม” เปิดให้บริการมาแล้วถึง 9 ปี และขณะนี้ได้ขยายอีก 1 สาขา คือที่ห้างสยามพารากอน เปิดมาแล้วกว่า 3 ปี”
ทั้งนี้จุดเด่นของร้าน Heads or Tails อยู่ที่ความสดใหม่ของขมปัง และสังขยา ที่ผลิตใหม่วันต่อวัน ไม่ทิ้งค้างคืน ซึ่งสูตรเป็นสูตรเฉพาะของครอบครัว โดยเนื้อขนมปัง จะกรอบนอกนุ่มใน คล้ายขนมปังปอนด์ที่ชาวต่างชาตินิยมรับประทานกัน ซึ่งสูตรขนมปังของร้านเป็นของประเทศเยอรมนี ในขณะที่สังขยาที่ลูกค้านิยม คือ สังขยาใบเตย เพราะมีรสชาติแบบไทยๆ ไม่เหมือนเจ้าอื่น คือใช้น้ำใบเตยแท้มาทำเป็นสังขยา ไม่ใส่วัตถุกันเสีย
“นอกจากขนมปังที่เป็นสูตรจากเยอรมนีแล้ว สังขยายังสดใหม่ทุกวัน และผลิตอย่างต่อเนื่องตลอดวัน ทำให้ลูกค้าได้สังขยาที่ร้อน ซึ่งทางร้านมีสังขยาให้เลือกหลากหลาย เช่น สังขยาใบเตย สังขยาสีส้มจากสีสำหรับทำขนมเค้ก สังขยาเผือก และฟักทองเกาลัดญี่ปุ่น ผลไม้นำเข้า ที่ปีหนึ่งๆ จะหารับประทานได้เพียง 4 เดือนเท่านั้น คือตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-กันยายน ซึ่งหน้านี้ลูกค้าชื่นชอบมาก เพราะเป็นรสชาติสังขยาที่แปลกใหม่ไม่เคยมีใครกล้านำฟักทองเกาลัดญี่ปุ่นมาทำ และมีราคาค่อนข้างสูง ซึ่งการหาวัตถุดิบใหม่ๆ มาทำเป็นสังขยาถือเป็นจุดขายอีกอย่างหนึ่งของทางร้าน”
สำหรับราคาขายอยู่ที่ 25 บาท/แผ่น ยกเว้นสังขยาหน้าฟักทองเกาลัดญี่ปุ่นที่ตกแผ่นละ 30 บาท ซึ่งหน้าสังขยาเหล่านี้ลูกค้าสามารถเลือกได้สูงถึง 4 หน้าใน 1 แผ่นเลยทีเดียว เพราะทางร้านเข้าใจความต้องการของลูกเป็นอย่างดี ที่อาจจะอยากรับประทานสังขยาในหลายๆ รสชาติ ซึ่งที่ผ่านมาลูกค้ามีทุกเพศทุกวัยมาอุดหนุน โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุที่มีเลือกร้าน Heads or Tails เป็นสภากาแฟ เพราะนอกจากขนมปังสังขยาจะมีรสชาติไม่เหมือนใครแล้ว เครื่องดื่มทุกอย่างทางร้านยังทำเอง เช่น กาแฟสด นมสด และชามะนาว เป็นต้น รวมถึงลูกค้าชาวต่างชาติที่มาลิ้มลองประมาณ 20%
ปัจจุบันทางร้านได้ขยายตลาดไปต่างประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ โดยให้ทางแฟรนไชส์แต่ละประเทศส่งผู้ที่ความรู้ด้านเบเกอรี่มาอบรม รวมถึงนำวัตถุดิบในการทำขนมปังของประเทศนั้นๆ มาด้วย เพื่อการทำขนมปังให้มีรสชาติใกล้เคียงของร้านต้นตำรับมากที่สุด ส่วนแฟรนไชส์ในไทย จันทิมา บอกว่า จะคัดสรรมากเป็นพิเศษ โดยล่าสุดได้ตัดสินใจเลือกแฟรนไชซีเพียงรายเดียวเท่านั้น แต่เปิด 3 สาขา ทำเลในห้างสรรพสินค้าทั้งหมด ซึ่งใช้เงินลงทุนในแต่ละสาขาเฉียด 2 ล้านบาท ส่วนแผนธุรกิจต่อไป จันทิมา คิดที่จะเปิดร้านขายสลัด และแซนวิช เพื่อสุขภาพ ย่านแหล่งวัยรุ่น หวังเอาใจคนกลัวอ้วน
***ติดต่อ 0-2610-7594, 08-4556-4156***