ASTV ผู้จัดการรายวัน – บอร์ด “อิออน ธนสินทรัพย์” อนุมัติจ่ายเงินปันผลเพิ่มอีกหุ้นละ 1.05 บาท ส่งผลให้เงินปันผลทั้งปีอยู่ที่ 2.10 บาท หลังผลงานปี 51 กำไรสุทธิ 1,192 ล้านบาท พร้อมทั้งอนุมัติให้ออกหุ้นกู้เพิ่มอีก 3 พันล้านบาท
นายมาซาโอะ มิซูโน กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AEONTS กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 1/2552 ได้มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลเพิ่มในอัตราหุ้นละ 1.05 บาท ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2552 หลังจากได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2551 ในอัตราหุ้นละ 1.05 บาท ส่งผลให้เงินปันผลรวมทั้งปีอยู่ที่ 2.10 บาท หรือคิดเป็นอัตราส่วน 44.04% ของกำไรสุทธิ
พร้อมกันนี้ คณะกรรมการได้อนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นกู้ในวงเงินไม่เกิน 3,000 ล้านบาท หรือเทียบเท่า เพื่อเพิ่มความหลากหลายในการจัดหาแหล่งเงินทุนของบริษัท โดยรายละเอียดต่างๆ อาทิ สกุลเงิน อายุหุ้นกู้ อัตราดอกเบี้ย และเงื่อนไขอื่นๆ จะนำเสนอให้กรรมการพิจารณาอีกครั้งก่อนการออกและเสนอขายหุ้นกู้ในแต่ละครั้ง ขณะเดียวกันยังอนุมัติทำสัญญาว่าจ้างและการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่บุคคลที่เกี่ยวโยง
สำหรับรายละเอียดการให้ความช่วยเหลือทางการเงินดังกล่าว คือ บริษัทจะให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่บริษัท เอซีเอส แคปปิตอล คอร์ปอเรชั่น จำกัด และ บริษัท เอซีเอส เซอร์วิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด มูลค่ารวมของรายการบวกดอกเบี้ยตลอดอายุสัญญาจะไม่เกิน 100 ล้านบาท โดยกำหนดระยะเวลา 1 ปี คิดอัตราดอกเบี้ยเท่ากันต้นทุนทางการเงินของบริษัท +0.25% ต่อปี (ซึ่งขณะนี้มีอัตราดอกเบี้ยประมาณ 3.5% ต่อปี) และชำระดอกเบี้ยทุก 6 เดือน จนกว่าจะชำระคืนเงินกู้ทั้งหมด โดยอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ทั้ง 2 บริษัทจ่ายให้กับสถาบันการเงินของญี่ปุ่นภายใต้เงื่อนไขเดียวกันอยู่ที่ประมาณ 3.25% ต่อปี
ส่วนสัญญาว่าจ้างที่เป็นรายการเกี่ยวโยงกัน ได้แก่ บริษัท เอซีเอส แคปปิตอล คอร์ปอเรชั่น จำกัด มูลค่าสัญญา 28 ล้านบาท บริษัท เอซีเอส อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด มูลค่า 6 ล้านบาท บริษัท เอซีเอส ไลฟ์ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด มูลค่า 6 ล้านบาท บริษัท เอซีเอส เซอร์วิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด มูลค่า 10 ล้านบาท และบริษัท อิออน เครดิต เซอร์วิส จำกัด มูลค่า 40 ล้านบาท ขณะเดียวกันบริษัทอาจทำสัญญาจำหน่ายลูกหนี้ที่เป็นหนี้สูญที่มีมูลหนี้ไม่เกิน 3,000 ล้านบาท ให้กับบริษัทเอซีเอส เซอร์วิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ในมูลค่า 40 ล้านบาท
ด้านผลการดำเนินงานงวด 1 ปีสิ้นสุด ณ วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2552 บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,192.19 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 4.77 บาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่กำไรสุทธิ 1,173.50 ล้านบาท และกำไรสุทธิต่อหุ้น 4.69 บาท
โดยบริษัทและบริษัทย่อย มีรายได้รวมทั้งสิ้นจำนวน 9,834 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 847 ล้านบาท หรือคิดถึง 9% จากปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นผลจากการเติบโตของรายได้จากสินเชื่อเงินกู้และบัตรเครดิต โดย ณ วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2552 บริษัทมียอดรวมของฐานสมาชิกเพิ่มขึ้นประมาณ 135,000 บัญชี เป็น 3.16 ล้านบัญชี ในขณะที่สมาชิกที่ใช้บริการสินเชื่อเพิ่มขึ้นประมาณ 127,000 ราย เป็น 2.24 ล้านราย
ขณะที่ค่าใช้จ่ายรวมทั้งสิ้นจำนวน 8,179 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 11% แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและการบริหาร 3,696 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% หนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 2,744 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยและต้นทุนทางการเงินจำนวน 1,739 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16%
นายมาซาโอะ มิซูโน กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AEONTS กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 1/2552 ได้มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลเพิ่มในอัตราหุ้นละ 1.05 บาท ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2552 หลังจากได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2551 ในอัตราหุ้นละ 1.05 บาท ส่งผลให้เงินปันผลรวมทั้งปีอยู่ที่ 2.10 บาท หรือคิดเป็นอัตราส่วน 44.04% ของกำไรสุทธิ
พร้อมกันนี้ คณะกรรมการได้อนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นกู้ในวงเงินไม่เกิน 3,000 ล้านบาท หรือเทียบเท่า เพื่อเพิ่มความหลากหลายในการจัดหาแหล่งเงินทุนของบริษัท โดยรายละเอียดต่างๆ อาทิ สกุลเงิน อายุหุ้นกู้ อัตราดอกเบี้ย และเงื่อนไขอื่นๆ จะนำเสนอให้กรรมการพิจารณาอีกครั้งก่อนการออกและเสนอขายหุ้นกู้ในแต่ละครั้ง ขณะเดียวกันยังอนุมัติทำสัญญาว่าจ้างและการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่บุคคลที่เกี่ยวโยง
สำหรับรายละเอียดการให้ความช่วยเหลือทางการเงินดังกล่าว คือ บริษัทจะให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่บริษัท เอซีเอส แคปปิตอล คอร์ปอเรชั่น จำกัด และ บริษัท เอซีเอส เซอร์วิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด มูลค่ารวมของรายการบวกดอกเบี้ยตลอดอายุสัญญาจะไม่เกิน 100 ล้านบาท โดยกำหนดระยะเวลา 1 ปี คิดอัตราดอกเบี้ยเท่ากันต้นทุนทางการเงินของบริษัท +0.25% ต่อปี (ซึ่งขณะนี้มีอัตราดอกเบี้ยประมาณ 3.5% ต่อปี) และชำระดอกเบี้ยทุก 6 เดือน จนกว่าจะชำระคืนเงินกู้ทั้งหมด โดยอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ทั้ง 2 บริษัทจ่ายให้กับสถาบันการเงินของญี่ปุ่นภายใต้เงื่อนไขเดียวกันอยู่ที่ประมาณ 3.25% ต่อปี
ส่วนสัญญาว่าจ้างที่เป็นรายการเกี่ยวโยงกัน ได้แก่ บริษัท เอซีเอส แคปปิตอล คอร์ปอเรชั่น จำกัด มูลค่าสัญญา 28 ล้านบาท บริษัท เอซีเอส อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด มูลค่า 6 ล้านบาท บริษัท เอซีเอส ไลฟ์ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด มูลค่า 6 ล้านบาท บริษัท เอซีเอส เซอร์วิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด มูลค่า 10 ล้านบาท และบริษัท อิออน เครดิต เซอร์วิส จำกัด มูลค่า 40 ล้านบาท ขณะเดียวกันบริษัทอาจทำสัญญาจำหน่ายลูกหนี้ที่เป็นหนี้สูญที่มีมูลหนี้ไม่เกิน 3,000 ล้านบาท ให้กับบริษัทเอซีเอส เซอร์วิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ในมูลค่า 40 ล้านบาท
ด้านผลการดำเนินงานงวด 1 ปีสิ้นสุด ณ วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2552 บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,192.19 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 4.77 บาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่กำไรสุทธิ 1,173.50 ล้านบาท และกำไรสุทธิต่อหุ้น 4.69 บาท
โดยบริษัทและบริษัทย่อย มีรายได้รวมทั้งสิ้นจำนวน 9,834 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 847 ล้านบาท หรือคิดถึง 9% จากปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นผลจากการเติบโตของรายได้จากสินเชื่อเงินกู้และบัตรเครดิต โดย ณ วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2552 บริษัทมียอดรวมของฐานสมาชิกเพิ่มขึ้นประมาณ 135,000 บัญชี เป็น 3.16 ล้านบัญชี ในขณะที่สมาชิกที่ใช้บริการสินเชื่อเพิ่มขึ้นประมาณ 127,000 ราย เป็น 2.24 ล้านราย
ขณะที่ค่าใช้จ่ายรวมทั้งสิ้นจำนวน 8,179 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 11% แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและการบริหาร 3,696 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% หนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 2,744 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยและต้นทุนทางการเงินจำนวน 1,739 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16%