ศูนย์ข่าวภาคใต้ – คอนเสิร์ตการเมืองบนเกาะไข่มุกอันดามันที่เพิ่งผ่านพ้นประสบความสำเร็จเกินคาด พันธมิตรฯ จากทั่วประเทศเข้าร่วมล้นหลามหลายหมื่นคนจนบัตรไม่เพียงพอ เผยไฮไลต์การโฟนอินของ “จิตตนาถ ลิ้มทองกุล” วิเคราะห์ชัดบิ๊กทหาร-ตำรวจฮั้วก๊วนการเมืองเสื้อสีน้ำเงิน ที่ต้องการสร้างฐานอำนาจใหม่บงการฆ่า “สนธิ ลิ้มทองกุล” ด้านแกนนำพันธมิตรฯ ดาหน้าแฉมีแผนชั่วจ้องล้างบางกลุ่มคนเสื้อเหลืองที่คอยปกป้องชาติ ศาสน์ กษัตริย์ จี้ “มาร์ค” ต้องจริงใจแก้ปัญหาและกล้าปรับเปลี่ยนฝ่ายความมั่นคงที่ส่วนใหญ่ใส่เกียร์ว่าง
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับ ASTV ทีวีของประชาชน จัดคอนเสิร์ตการเมืองครั้งที่ 6 ที่บริเวณปลายแหลมสะพานหิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 18 เมษายน ที่ผ่านมา มีพี่น้องพันธมิตรฯ จากทั่วประเทศเข้าร่วมหลายหมื่นคนจนบัตรที่จัดทำขึ้นไม่เพียงพอ โดยมีแกนนำพันธมิตรฯ ผู้ดำเนินรายการ ASTV และศิลปินเข้าร่วมคึกคักไม่แพ้คอนเสิร์ตการเมืองครั้งใดๆ ไม่ว่าจะเป็น พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายพิภพ ธงไชย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นายสำราญ รอดเพชร นางมาลีรัตน์ แก้วก่า พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรสุข พ.อ.(พิเศษ)ไพโรจน์ นิยมพันธ์ เจ๊ปอง-อัญชะลี ไพรีรัก วงแฮมเมอร์ วงซูซูและเศก ศักดิ์สิทธิ์ ตั๋ว-ศรัณยู วงค์กระจ่าง พร้อมวงดนตรีในพื้นที่อีกมากมาย
ไฮไลต์ของเวทีคอนเสิร์ตการเมืองครั้งนี้อยู่ที่การโฟนอินของ นายจิตตนาถ ลิ้มทองกุล ลูกชายคนเดียวของนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ที่ไม่สามารถเดินทางมาร่วมได้ เนื่องจากถูกคนร้ายลอบยิงรอดตายปาฏิหาริย์เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 17 เมษายน ที่ผ่านมา โดย นายจิตตนาถได้บอกเล่าถึงอาการของนายสนธิว่าปลอดภัยดีแล้ว และยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย
ขณะที่เนื้อหาในการปราศรัยบนเวทีส่วนใหญ่ ก็เป็นการวิเคราะห์ถึงสาเหตุที่นายสนธิถูกลอบยิง ติติงการทำงานของรัฐบาลและจี้ให้มีการเปลี่ยนตัวผู้ที่ดูแลงานด้านความมั่นคง โดยเฉพาะรองนายกฯ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
*** แฉบิ๊กทหาร-ตำรวจฮั้วเสื้อน้ำเงินสั่งฆ่า “สนธิ”
นายจิตตนาถ ลิ้มทองกุล ได้โฟนอินบอกเล่าอาการของนายสนธิว่า คณะแพทย์ได้ผ่าตัดเอากระสุนออกจากหัวและให้การรักษาอย่างดียิ่ง จนอาการของนายสนธิดีขึ้นมาก ถอดสายน้ำเกลือแล้ว แต่เวลาลุกขึ้นจะเวียนหัวเล็กน้อย ต้องให้ยาเพื่อกันชัก ขณะนี้พูดจาได้และมีสติ ส่วนอาการของนายอดุลย์ แดงประดับ คนขับรถ และนายวายุภักษ์ มังคละสินธุ์ ผู้ติดตามนั้น ในส่วนของนายอดุลย์ยังไม่ได้สติ สมองบวมและเพิ่งได้รับการผ่าตัดอีกครั้งเมื่อช่วงบ่าย ด้านนายวายุภักษ์อาการดีขึ้นเรื่อยๆ
“สำหรับคุณสนธิตอนนี้สามารถด่าลูกได้แสดงว่าอาการดีขึ้นแล้ว แต่ก็อยากจะให้พี่น้องพันธมิตรฯ ทุกศาสนาช่วยกันสวดมนต์ให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้คุ้มครองทั้ง 3 คนด้วย โดยเฉพาะคุณอดุลย์ที่น่าเป็นห่วงที่สุด ซึ่งพ่อของคุณอดุลย์คับแค้นใจมากที่คนร้ายกระทำได้ถึงเพียงนี้ ซึ่งหากใครได้เห็นครอบครัวของเขาแล้วก็จะเห็นใจและรู้ถึงความเสียใจ ซึ่งได้มีการเสนอให้ความช่วยเหลือผ่านเลขที่บัญชีกสิกรสาขาบางลำพู ชื่อบัญชีนายอดุลย์ แดงประดับ ออมทรัพย์ 008-2-04106-2 เพื่อเปิดโอกาสให้คนทั่วไปได้มีส่วนร่วมช่วยเหลือ และจะแจ้งทาง ASTV ด้วย”
นายจิตตนาถกล่าวอีกว่า ถึงแม้ว่าอาการของนายสนธิจะดีขึ้นแล้ว แต่พี่น้องพันธมิตรฯ ก็อย่าเพิ่งชะล่าใจ เพราะนายสนธิยังเป็นเป้าหมายของการมุ่งหมายทำลายอยู่ แม้ว่าเสื้อแดงจะไม่เคลื่อนไหวแล้วก็ตาม แต่จากการวิเคราะห์แล้วพบว่า สงครามรูปแบบใหม่กำลังจะเกิดขึ้น มีการจรยุทธ์โดยกลุ่มผู้ต้องการสร้างฐานอำนาจใหม่ ซึ่งได้ดำเนินการจัดตั้งกองกำลังแบบเกสตาโปในสมัยเผด็จการฮิตเลอร์ของเยอรมนี ซึ่งมีความอันตรายไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากลุ่มเสื้อแดง
การดำเนินการของกลุ่มที่ต้องการสร้างฐานอำนาจใหม่นี้เป็นไปใน 2 ลักษณะคือ ทำให้เกิดเหตุการณ์พิเศษขึ้น เช่น การปฏิวัติรัฐประหาร ซึ่งได้มีการวางตัวไว้แล้ว และว่ากันว่ามีรัฐมนตรีคนหนึ่งที่ต้องการจะได้ครุฑตัวที่สอง ซึ่งบังเอิญพัวพันกับเหตุการณ์ที่พยายามสังหารองคมนตรีอีกด้วย โดยสร้างกลุ่มล่าสังหารขึ้นมา สังเกตได้ว่าจะมีข่าวมือปืนเตรียมก่อเหตุและความรุนแรงในหลายพื้นที่ ทำให้การสืบสวนของตำรวจกลายเป็นเรื่องโจ๊ก หรือพยายามทำให้เห็นว่าไม่เกิดขึ้นจริง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับนายสนธิพิสูจน์แล้วว่าเป็นเรื่องจริง
ลักษณะต่อมาคือ สร้างสถานการณ์สู่การยุบสภา ทำให้อำนาจทหาร ตำรวจ คนใส่เสื้อแดงพร้อมที่จะเปลี่ยนมาเป็นเสื้อน้ำเงินได้ ซึ่งทั้งหมดนี้ได้วางแผนมานานหลายชั้น และเอาชีวิตของนายสนธิ นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ องคมนตรีเป็นเครื่องสังเวย ว่ากันว่าเหตุการณ์ที่เกิดที่กระทรวงมหาดไทยในครั้งนั้นทหารและตำรวจใส่เกียร์ว่างเพื่อต้องการเอาชีวิตนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และให้มวลชนเสื้อแดงเป็นแพะรับบาป ซึ่งดูได้จากนักการเมืองที่แปรพักตร์ ถ้าไม่มีความมั่นใจว่าฝ่ายไหนจะมีอำนาจ เขาก็จะไม่กล้าหักหน้านายตัวเอง ใช้ประชาชนกลายเป็นเครื่องมือให้ก้าวมาเป็นใหญ่ แต่บังเอิญ นายสนธิรู้ทางพวกเขา เขาจึงต้องการที่จะหยุดนายสนธิเพื่อลดทอนพลังเสื้อเหลือง
“กลุ่มอำนาจใหม่นี้กำลังล้อมรั้วทหาร ชั้นนอกล้อมไม่ให้ นช.ทักษิณ ชินวัตร กลับเข้าประเทศได้ ส่วนชั้นในก็ล้อมนายอภิสิทธิ์ แต่เราจะสามารถแหกด่านแก้ไขบ้านเมืองได้ โดยไม่ให้ประชาชนกลายเป็นตัวประกัน แต่จะผิดถูกอย่างไรผมขอพูดในนามส่วนตัวที่มีการวิเคราะห์ และอยากให้ประชาชนจับมือกันไว้ เวรกรรมมีจริงและจะตามทันคนชั่วเข้าสักวัน” นายจิตตนาถ กล่าวและว่า
กรณีลอบสังหารนายสนธิ มีทีวีที่เชื่อมโยงกับกลุ่มคนที่ต้องการสร้างฐานอำนาจใหม่นี้บางช่องพยายามดิสเครดิตว่า เป็นเรื่องส่วนตัวบ้าง ชู้สาวบ้าง สอดรับกับคำให้สัมภาษณ์นายทหารใหญ่คนหนึ่งที่บอกว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน แล้วยังสั่งการให้ พล.ต.ท.จงรัก จุฑานนท์ ซึ่งเป็นไม้เบื่อไม้เมากับนายสนธิและพันธมิตรฯ เข้ามาดูแลคดี แล้วจะจับคนร้ายได้อย่างไร นี่คือความพยายามของกลุ่มเกสตาโป และสุดท้ายจึงต้องขอร้องพี่น้องพันธมิตรฯ ให้รวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนไว้
*** แกนนำดาหน้าแฉแผนกวาดล้างพันธมิตรฯ
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง กล่าวว่า สาเหตุลอบฆ่านายสนธิไม่ใช่แค่ขัดแย้งทางการเมือง แต่สาเหตุจริงๆ มาจาก 2 ประเด็น คือ 1.นายสนธิเป็นตัวการสำคัญในการปกป้องสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ทำให้ต้องการกำจัด เพราะมั่นใจว่าถ้านายสนธิถึงแก่ชีวิตคนเสื้อเหลืองจะลุกฮือ คนเสื้อแดงก็จะเข้ามาปะทะ และเกิดกลุ่มที่สามฉกฉวยโอกาสปฏิวัติเพื่อควบคุมอำนาจไว้เอง เพราะอ้างรัฐบาลควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ แต่ได้เกิดปาฏิหาริย์ทำให้นายสนธิรอดมาได้
2.เหตุที่การเมืองภาคประชาชนเติบโตและเดินหน้า มีคนรู้เรื่องการเมืองมากมายมารวมกลุ่มกัน ซึ่งไม่เคยมีครั้งไหนเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์การเมืองไทย เพราะมีนายสนธิเป็นศูนย์กลางในการเริ่มต้นรวบรวมคนทั่วประเทศ ถ้าขาดเขาสักคนหนึ่งคงคิดว่าพันธมิตรฯ จะอ่อนระโหยโรยแรง และไม่มี ASTV เป็นกระบอกเสียงให้แก่ประชาชน
นายพิภพ ธงไชย กล่าวว่า การลอบสังหาร นายสนธิ นอกจากต้องการทำลายความเข้มแข็งของพันธมิตรฯ แล้ว ยังต้องการปิด ASTV เพื่อปิดหูปิดตาสังคมด้วย มีบัญชีรายชื่อที่จะจัดการกับแกนนำคนต่อๆ ไป แต่เราก็ไม่หวั่นไหวและไม่เคยตกหลุมพราง เพราะเราเคยผ่านการเรียนรู้ด้วยสติปัญญาจากการชุมนุมมาก่อน นายอภิสิทธิ์ไม่ได้พูดว่าการชุมนุมกลุ่มไหนจริงใจ กลุ่มไหนเป็นอันธพาลรับจ้างป่วนเมือง แล้วจัดการเป็นส่วนๆ ไป นช.ทักษิณต้องการแก้ไขกฎเกณฑ์ให้ตัวเองกลับมาเสวยอำนาจ และได้ทรัพย์สินคืน แต่พันธมิตรฯ มียุทธศาสตร์ปกป้อง ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ล้างการเมืองเก่า ยังโชคดีที่นายอภิสิทธิ์ตั้งหลักได้ แม้ยังจะดูเหมือนหุ่นเชิดของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แต่เชื่อว่าความเป็นคนรุ่นใหม่จะลบคำครหานี้ได้
“กรณีลอบสังหารนายสนธิมีผู้ใหญ่บอกว่า เหตุการณ์นี้สามารถเกิดขึ้นได้ เพราะใครก็ได้มีอาวุธสงคราม ไม่น่าเชื่อว่าคำๆ นี้ออกมาจากผู้บัญชาการทหารบก เพราะอาวุธสงครามมาจากกลุ่มมาเฟีย ทหารและตำรวจ ทำไมไม่พูดว่าจะร่วมมืออย่างเต็มที่ที่จะตรวจสอบเหตุการณ์นี้ และทำไมกล้องวงจรปิดต้องมาเสียก่อนเกิดเหตุด้วย นายอภิสิทธิ์ต้องแสดงความเป็นผู้นำแก้ไขปัญหาเรื่องความไม่ปลอดภัย และอย่าให้มีการใช้สภาเพื่อปลดล็อกต่างๆ ให้แก่ นช.ทักษิณ ภาวะเช่นนี้ดีที่สุดที่นายอภิสิทธิ์ จะสามารถแสดงความเป็นผู้นำในระดับประเทศและในสายตาโลกได้”
ขณะที่ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข กล่าวว่า นช.ทักษิณที่อยู่เบื้องหลังความปั่นป่วนในประเทศถือเป็นการแสดงถึงความขี้ขลาดตาขาว น่าสงสารนายอภิสิทธิ์ ที่แม้เป็นผู้นำประเทศแต่ก็แทบเอาชีวิตตัวเองไม่รอด แถมทหาร ตำรวจใส่เกียร์ว่าง นช.ทักษิณถูกตีตราแล้วว่าเป็นผู้ก่อการร้าย ไม่มีแผ่นดินจะอยู่ แม้ว่าตอนนี้มิตรประเทศเราจะไม่ให้เข้าประเทศ แต่รัฐบาลก็อย่าได้นิ่งนอนใจ เพราะเขาประกาศแล้วว่าจะต่อสู้ทุกวิถีทาง แม้แต่ใต้ดิน ตราบใดที่รัฐบาลไม่สามารถปราบได้ รัฐบาลเองก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน ด้านนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ก็ยังไม่รู้ว่าจะทำงานอย่างไร การรับมือกับโจรต้องรวดเร็ว เด็ดขาด อย่าพึ่งพาการทำงานด้วยไมโครโฟนเพียงอย่างเดียว
“ผมเชื่อมั่นว่าพันธมิตรฯ เราเดินทางมาด้วยความถูกต้องแล้ว ถ้าทั้ง นช.ทักษิณ นายสมัคร สุนทรเวช นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ยังมีอำนาจอยู่ประเทศไทยเราต้องฉิบหายอย่างแน่นอน ผมเดินทางไปสหรัฐอเมริกาครั้งก่อนได้ถามคนไทยที่นั่น เขาตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากให้พันธมิตรฯ ตั้งพรรคการเมืองเพื่อล้างบางการเมืองเก่า ถ้ารัฐบาลจัดการคนชั่วไม่ได้ ยังใช้วิธีการเจรจา ยังเชื่อฟังแต่ นายเนวิน ชิดชอบ ก็ย่อมมีความผิดว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และต้องดำเนินคดีจนถึงที่สุดด้วยเช่นกัน”
ด้าน นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ กล่าวขอบคุณชาวใต้ที่ไม่ได้ออกไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มเสื้อแดง เพราะมีปัญญา รู้ผิดชอบชั่วดี เป็นสัญญาณว่าคนใต้ตื่นแล้ว ยกเว้น 3 คนใต้ที่เป็นแกนนำเสื้อแดงแบบไม่อายแผ่นดินเกิด พร้อมชี้ว่าวันนี้สงครามประชาชนได้ถูกพัฒนาเป็นกองโจรดั่งที่เกิดในฟิลิปปินส์แล้ว มีการมุ่งก่อการร้าย มุ่งฆ่า เหลือเพียงการจับตัวประกันเท่านั้น เพื่อนำไปสู่การเจรจายกโทษที่เคยก่อไว้ทั้งหมดของ นช.ทักษิณ ยกเว้นคนใต้ที่รู้ทัน และวันนี้มติของคนไทยในอเมริกา เม็กซิโก แคนาดา สหราชอาณาจักร เห็นด้วยให้มีพรรคการเมืองพันธมิตรฯ เพื่อสร้างการเมืองใหม่ เพราะทนไม่ได้แล้วที่เพื่อนร่วมชาติเดือดร้อน
นายสมเกียรติกล่าวด้วยว่า กระบวนการคุกคามชีวิตผู้นำเพื่อหวังสร้างสถานการณ์เพื่อช่วงชิงอำนาจและผลประโยชน์เกิดขึ้นมานานแล้ว พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ องคมนตรี รวมถึงนายอภิสิทธิ์และนายสนธิ ตนเชื่อว่าถ้ามีการจัดการอำนาจดูแลด้านความมั่นคงใหม่จะทำให้แก้ปัญหาต่างๆ ได้ นายกรัฐมนตรีก็ไม่ต้องกลัวใคร ตราบใดที่ยังยืนอยู่ข้างประชาชน และขอให้ทุกคนแสดงความห่วงใย ส่งกำลังใจไปให้ปฏิรูปองค์กรความมั่นคงเพื่อปฏิรูปประเทศไทยใหม่