พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์การเมือง ในกรุงเทพว่า ขณะนี้เรียบร้อยในระดับหนึ่ง แต่จะมีอะไรเกิดขึ้นหลังจากนี้ ต้องติดตามดูต่อไป ซึ่งผลการปฏิบัติงานของทหารจากการที่มีคนไปก่อความไม่สงบ เราไม่ได้ไปปราบ แต่เราเข้าไปดำเนินการให้บ้านเมืองมีกฎระเบียบ เพราะประชาชนที่มาชุมนุมเป็นคนไทย และเราไม่ได้ใช้มาตรการที่รุนแรง ส่วนการคงไว้ หรือยกเลิกประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้น เป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี ที่จะตัดสินใจว่าจะยกเลิก หรือจะคงไว้นานเท่าไร แต่ถ้าดูในภาพรวมพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตปกติของใครทั้งสิ้น และการที่ยังมีกำลังทหารอยู่ในพื้นที่ เพราะเป็นไปตาม พรก.ฉุกเฉิน เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย
ผมได้เน้นว่า ในวันที่ 20 เม.ย.นี้ที่เป็นวันเปิดทำงาน ในช่วงกลางวันจะไม่เห็นกำลังในส่วนนี้ แต่ในยามค่ำคืนจะออกมารักษาความสงบเรียบร้อย ยกเว้นแต่จะเลิกปฏิบัติก่อนจึงจะลดกำลังออกไป ส่วนพื้นที่ที่น่าเป็นห่วง เป็นพื้นที่ที่มีสาธารณูปโภค หรือสถานที่ที่อาจเกิดการรวมตัวและเกิดปัญหาขึ้นได้
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ามีการนำศพผู้เสียชีวิตจากเหตุสลายการชุมนุมไปเผาที่วัดสาครสุ่นประชาสรรค์นั้น พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า อยากยืนยันว่า การปฏิบัติที่ผ่านมา ไม่มีการเสียชีวิตของประชาชนคนไทยแม้แต่คนเดียว ในส่วนการปฏิบัติของทหาร ขอยืนยันว่า ไม่มีการใช้ความรุนแรงกับประชาชน ผมกล้าที่จะยืนยัน และขอเรียนประชาชนว่า ขอให้มั่นใจ ผมเอาชีวิตของผมเป็นเดิมพัน ถ้ามีการที่ทหารไปทำใครตาย อย่างที่เขาลือกัน ผมเอาชีวิตผมเป็นเดิมพันให้ได้ และไม่ต้องสงสัยอีก
นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าได้ชี้แจงสื่อต่างชาติ ที่ให้ความสนใจกรณีที่อ้างว่ามีการปกปิดและบิดเบื้อนข้อมูลผู้เสียชีวิต จากการสลายการชุมนุมที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ชี้แจงว่ามีเครือข่ายปล่อยข่าวและข้อมูลเท็จของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และกลุ่มเสื้อแดงอย่างเป็นระบบเพื่อสร้างความสับสนให้กับประชาชนและใส่ร้ายเจ้าหน้าที่ โดยแยกเป็น 8 เครือข่ายสำคัญ คือ 1. การให้สัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ผ่านสื่อต่างชาต ว่ามีการยิงผู้ชุมนุมเสียชีวิตและนำศพโยนทิ้งน้ำ ซึ่งสอดคล้องกับการให้สัมภาษณ์ของแกนนำกลุ่มเสื้อแดงในประเทศ 2.กลุ่มไซเบอร์ อาทิ นักรบไซเบอร์ เรดกรุ๊ป โดยเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่บิดเบือน ผ่านทางสื่อ อินเตอร์เน็ต
3.มูลนิธิกู้ภัยบางแห่งมีการจัดฉากว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ เสียชีวิต 4.เครือข่ายวิทยุชุมนุม ที่พยายามปล่อยข่าว 5.เครือข่ายผู้นำชุมชนที่มีการจัดเตรียมสร้างสถานการณ์ให้ข้อมูลเท็จผ่านทางสื่อ 6. กลุ่มนิสิตนักศึกษาที่ประกาศตัวชัดเจนว่าเข้าร่วมกับกลุ่มเสื้อแดง โดยอ้างว่ามีการตั้งโต๊ะรับแจ้งบุคคลสูญหาย และได้รับแจ้งทางโทรศัพท์ว่ามีผู้สูญหายกว่า 60 คน
7.ตำรวจ และทหารนอกรีต ปล่อยข่าวพในกลุ่มต่างๆ ว่ามีการยิงผู้ชุมนุม 8.สื่อปลอม อาทิ หนังสือพิมพ์แท็ปลอยด์บางฉบับที่ใช้สร้างหลักฐานเท็จ ซึ่งเป็นการชี้นำให้สังคมเกิดความสับสน
ผมได้เน้นว่า ในวันที่ 20 เม.ย.นี้ที่เป็นวันเปิดทำงาน ในช่วงกลางวันจะไม่เห็นกำลังในส่วนนี้ แต่ในยามค่ำคืนจะออกมารักษาความสงบเรียบร้อย ยกเว้นแต่จะเลิกปฏิบัติก่อนจึงจะลดกำลังออกไป ส่วนพื้นที่ที่น่าเป็นห่วง เป็นพื้นที่ที่มีสาธารณูปโภค หรือสถานที่ที่อาจเกิดการรวมตัวและเกิดปัญหาขึ้นได้
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ามีการนำศพผู้เสียชีวิตจากเหตุสลายการชุมนุมไปเผาที่วัดสาครสุ่นประชาสรรค์นั้น พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า อยากยืนยันว่า การปฏิบัติที่ผ่านมา ไม่มีการเสียชีวิตของประชาชนคนไทยแม้แต่คนเดียว ในส่วนการปฏิบัติของทหาร ขอยืนยันว่า ไม่มีการใช้ความรุนแรงกับประชาชน ผมกล้าที่จะยืนยัน และขอเรียนประชาชนว่า ขอให้มั่นใจ ผมเอาชีวิตของผมเป็นเดิมพัน ถ้ามีการที่ทหารไปทำใครตาย อย่างที่เขาลือกัน ผมเอาชีวิตผมเป็นเดิมพันให้ได้ และไม่ต้องสงสัยอีก
นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าได้ชี้แจงสื่อต่างชาติ ที่ให้ความสนใจกรณีที่อ้างว่ามีการปกปิดและบิดเบื้อนข้อมูลผู้เสียชีวิต จากการสลายการชุมนุมที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ชี้แจงว่ามีเครือข่ายปล่อยข่าวและข้อมูลเท็จของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และกลุ่มเสื้อแดงอย่างเป็นระบบเพื่อสร้างความสับสนให้กับประชาชนและใส่ร้ายเจ้าหน้าที่ โดยแยกเป็น 8 เครือข่ายสำคัญ คือ 1. การให้สัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ผ่านสื่อต่างชาต ว่ามีการยิงผู้ชุมนุมเสียชีวิตและนำศพโยนทิ้งน้ำ ซึ่งสอดคล้องกับการให้สัมภาษณ์ของแกนนำกลุ่มเสื้อแดงในประเทศ 2.กลุ่มไซเบอร์ อาทิ นักรบไซเบอร์ เรดกรุ๊ป โดยเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่บิดเบือน ผ่านทางสื่อ อินเตอร์เน็ต
3.มูลนิธิกู้ภัยบางแห่งมีการจัดฉากว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ เสียชีวิต 4.เครือข่ายวิทยุชุมนุม ที่พยายามปล่อยข่าว 5.เครือข่ายผู้นำชุมชนที่มีการจัดเตรียมสร้างสถานการณ์ให้ข้อมูลเท็จผ่านทางสื่อ 6. กลุ่มนิสิตนักศึกษาที่ประกาศตัวชัดเจนว่าเข้าร่วมกับกลุ่มเสื้อแดง โดยอ้างว่ามีการตั้งโต๊ะรับแจ้งบุคคลสูญหาย และได้รับแจ้งทางโทรศัพท์ว่ามีผู้สูญหายกว่า 60 คน
7.ตำรวจ และทหารนอกรีต ปล่อยข่าวพในกลุ่มต่างๆ ว่ามีการยิงผู้ชุมนุม 8.สื่อปลอม อาทิ หนังสือพิมพ์แท็ปลอยด์บางฉบับที่ใช้สร้างหลักฐานเท็จ ซึ่งเป็นการชี้นำให้สังคมเกิดความสับสน