xs
xsm
sm
md
lg

บาทกระเตื้องหลังเสื้อแดงสลาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - เงินบาทกลับมาแข็งค่าที่ระดับ 35.35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ หลังจากอ่อนค่าจากวิกฤตเสื้อแดงป่วนเมือง บิ๊กแบงก์ชาติยันไทยถูกลดเครดิตไม่กระทบการลงทุน-ภาระหนี้ต่างประเทศ อ้างสัดส่วนต่างชาติซื้อพันธบัตรไทยแค่ 1.5% ขณะที่การกู้เงินจากนอกต่างชาติน้อย มั่นใจรัฐบาลดูแลไม่ให้ก่อหนี้สูงขึ้นในอนาคตได้

กรณีที่สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ฟิทช์ เรทติ้งส์ลดเครดิตประเทศไทยเหลือ BBB+ จากเดิม A- พร้อมทั้งลดเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของไทยอยู่ที่ BBB จากเดิม BBB+ และลดเครดิตสกุลเงินบาทระยะยาวเหลือ A- จากเดิม A ขณะที่สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือสแตนดาร์ดแอนด์พัวร์ (S&P) ลดเครดิตสกุลเงินบาทระยะยาวเหลือ A- จากเดิม A นั้น
นางผ่องเพ็ญ เรืองวีรยุทธ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตลาดการเงินและบริหารเงินสำรอง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า การปรับลดเครดิตสกุลเงินบาทไทยไม่ได้มีผลต่อการลงทุนต่างประเทศหรือภาระหนี้ต่างประเทศ แม้จะมีต้นทุนสูงขึ้นในการจ่ายอัตราดอกเบี้ยตามความเสี่ยง เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติไม่ได้สนใจพันธบัตรสกุลเงินบาทมาก ซึ่งขณะนี้มีสัดส่วนที่นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรไทยแค่ 1.5% ถือว่าน้อยมาก
ขณะเดียวกันการกู้เงินจากต่างประเทศก็ไม่ได้รับผลกระทบเช่นกัน เนื่องจากรัฐบาลเริ่มหันมากู้ยืมเงินในประเทศมากขึ้นจากปัญหาต่างประเทศที่มีความไม่แน่นอนสูง แต่เชื่อว่ารัฐบาลจะสามารถดูแลไม่ให้ก่อหนี้สูงมากเกินไป เพราะหากกู้มากต้องจ่ายอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น จึงต้องพิจารณาปริมาณกู้ให้สามารถรับได้ด้วย ดังนั้น การออกพันธบัตรรัฐบาลมีความต้องการขายที่ชัดเจน คือ ระดมทุนมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการต่างๆ และขณะนี้ความต้องการซื้อพันธบัตรรัฐบาลไม่ได้เยอะมากจนล้นตลาด (Over Supply)
การเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทเมื่อวานนี้ (16 เม.ย.) ในช่วงปิดตลาดช่วงเช้า ค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 35.35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ กลับมาแข็งค่าขึ้นหลังจากเหตุการณ์ชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงคลี่คลาย จึงไม่มีผลต่อการปรับลดเครดิตสกุลเงินบาท ต่างกับช่วงเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นค่าเงินบาทกลับไปอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 35.38 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ค่าเงินบาทวานนี้(16 เม.ย.)เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ มีปริมาณการทำธุรกรรมค่อนข้างเบาบาง โดยเงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 35.38-35.43 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จากนั้นก็วิ่งอยู่ในกรอบ 35.33-35.43 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐตลอดการซื้อขาย และปิดตลาดที่ระดับ 35.38-35.40 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ เงินบาทกลับขึ้นมาแข็งค่าขึ้นหลังจากในช่วงวันหยุดสงกรานต์ที่อ่อนค่าลงจากภาวะวิกฤตทางการเมืองภายในประเทศของไทย ซึ่งในช่วงนั้นเงินบาทได้อ่อนค่าลงแตะประมาณ 35.69 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ สาเหตุการแข็งค่าขึ้นของเงินบาทเกิดจากปัจจัยทางการเมืองที่คลี่คลายลงไปมากแล้ว ประกอบกับเงินดอลลาร์สหรัฐวานนี้ก็อ่อนค่าลงเล็กน้อย จากตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาไม่ค่อยดีนัก โดยดัชนีผู้บริโภค(CPI)ที่ออกมาอยู่ในระดับที่ต่ำมากจนเกือบจะต่ำสุดในรอบ 54 ปี ทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงบ้าง
"ปริมาณธุรกรรมของเงินบาทวานนี้มีไม่มากนัก เนื่องจากได้มีการทำธุรกรรมไปมากแล้วในช่วงก่อนปิดเทศกาล และก็ยังมีบางธุรกิจที่ยังไม่เปิดทำการ จึงยังทำให้เห็นแนวโน้มการที่ชัดเจนนัก และก็ยังไม่น่ามีการเข้ามาดูแลของทางการเนื่องจากยังไม่มีการเคลื่อนไหวที่มากนัก"
สำหรับแนวโน้มในวันนี้นั้น ก็คงจะยังทรงตัวในระดับใกล้เคียงกัน โดยคาดว่าจะอยู่ในกรอบ 35.20-35.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ปัจจัยที่จับตามองจะมาอยู่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากความรุนแรงจากเหตุการเมืองในประเทศคงจะคลี่คลายไปมากแล้ว.
กำลังโหลดความคิดเห็น