ASTVผู้จัดการรายวัน-ปตท.เปิดปั๊มให้บริการตามปกติ หลังปิดไป 30 แห่งจากเหตุเสื้อแดงป่วนกรุง พร้อมจัดส่งก๊าซแอลพีจีได้ตามปกติแล้วเช่นเดียวกัน ด้านรถไฟฟ้าบีทีเอสได้รับผลกระทบด้วย จำนวนผู้โดยสารลดวูบ คาดจากนี้ไปเริ่มดีขึ้น บขส.ร.ฟ.ท. เตรียมพร้อมเพิ่มรถขนคนกลับกรุงเทพฯ
นายวิทยา หวังจิตรารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ตลาดขายปลีก กลุ่มธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานีบริการน้ำมัน ปตท.ในพื้นที่ที่เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายได้เปิดให้บริการครบหมดทั้งหมดแล้ว หลังจากก่อนหน้านี้ได้ปิดให้บริการไป 30 แห่งในพื้นที่รอบกรุงเทพฯ ที่มีความเสี่ยง ซึ่งในจำนวนปั๊มที่ปิดให้บริการนั้น เป็นปั๊มของปตท.ครึ่งหนึ่ง และของดีลเลอร์อีกครึ่งหนึ่ง โดยในแง่ของยอดขายไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะช่วงสงกรานต์ยอดขายน้ำมันในกรุงเทพฯ ค่อนข้างน้อยอยู่แล้ว แต่จะไปเพิ่มขึ้นในต่างจังหวัดแทน
“ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากปิดปั๊มน้ำมันปตท.ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวาย ปตท.ไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบในแง่รายได้ แต่ไม่ต้องการให้เกิดทรัพย์สินสูญเสีย จึงให้นโยบายกับปั๊มน้ำมันว่า ทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์ไม่ปกติ ให้เจ้าของปั๊มดูแลอย่างใกล้ชิด หากมีเหตุที่ทำให้ไม่สามารถทำธุรกิจต่อไปได้ก็ให้ปิดปั๊มได้เลยโดยไม่ต้องรอคำสั่งจากปตท.”
ส่วนกรณีที่ก๊าซแอลพีจีขาดแคลนในช่วงสงกรานต์ เนื่องจากผู้ส่งก๊าซฯ ไม่สามารถจัดส่งก๊าซแอลพีจีให้ได้มาตั้งแต่ม็อบเสื้อแดงปิดอนุสาวรีย์ต่อเนื่องไปจนถึงการยึดรถก๊าซแอลพีจี ทำให้ต้องหยุดส่งก๊าซแอลพีจีในเขตกรุงเทพฯ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ยึดรถก๊าซฯ อีก แต่หลังจากเหตุการณ์สลายผู้ชุมนุมเสื้อแดงเสร็จสิ้นตั้งแต่วันที่ 14 เม.ย.เป็นต้นมา ก็สามารถจัดส่งก๊าซแอลพีจีได้ตามปกติ
ดร.อาณัติ อาภาภิรม ที่ปรึกษาคณะกรรมการ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส กล่าวว่า ปริมาณผู้โดยสารที่ใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสในวันที่ 9 เม.ย.ที่ม็อบเสื้อแดงปิดถนนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเป็นวันแรก ทำให้การจราจรติดขัดมาก ส่งผลให้ยอดผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเป็น 5.46 แสนเที่ยวคน/วัน สูงกว่ายอดโดยสารเฉลี่ยปกติ 4.30 แสนเที่ยวคน/วัน แต่ในวันที่ 10 เม.ย.รัฐบาลประกาศให้เป็นวันหยุดราชการ ซึ่งปกติแล้วในวันศุกร์จะมียอดผู้โดยสารค่อนข้างมากแต่วันนั้นเหลือเพียง 4.4 แสนเที่ยวคน/วัน
ส่วนวันที่ 11-13 เม.ย. ปริมาณผู้โดยสารที่ใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสกลับหดลดลงมากกว่าปกติเหลือเพียง 1.2-1.5 แสนเที่ยวคน/วัน ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำกว่าชช่วงสงกรานต์ในปีที่ผ่านมา ซึ่งแต่ละปีผู้โดยสารจะน้อยอยู่แล้ว แต่เนื่องจากเกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายในกรุงเทพฯยิ่งทำให้ประชาชนไม่อยากออกจากบ้าน แต่พอเหตุการณ์สลายม็อบในวันที่ 14 เม.ย.พบว่ายอดผู้โดยสารบีทีเอสกลับมาเพิ่มขึ้นเป็น 1.4 แสนเที่ยวคน/วันเนื่องจากยังเป็นวันหยุดราชการอยู่ แต่ เชื่อว่าในวันจันทร์ที่ 20 เม.ย. จำนวนผู้โดยสารจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด ( บขส. ) เปิดเผยว่า จากที่รัฐบาลได้ประกาศขยายวันหยุดเพิ่มอีก 2 วันคือ 16-17 เม.ย.2552 ทำให้ประชาชนเลื่อนระยะเวลาการกลับบ้านออกไปประมาณ 30% จากเดิมที่คาดว่าจะมีประชาชนเดินทางกลับในช่วง 2 วันดังกล่าวประมาณ 200,000 คน ซึ่งบขส.พร้อมให้บริการประชาชนที่ต้องการเลื่อนการเดินทางออกไปโดยแจ้งล่วงหน้า 1 วัน หรือ 24 ชม. โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ นอกจากนี้ บขส.ได้ขยายเวลาการสำรองรถออกไปตามระยะเวลาที่หยุด และคาดว่าประชาชนจะทยอยเดินทางกลับมากที่สุดวันที่ 17-18 เม.ย.2552
นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวว่า คาดว่าประชาชนจะทยอยเดินทางกลับในช่วงวันที่ 18-19 เม.ย. เป็นจำนวนมาก ร.ฟ.ท.จึงได้เพิ่มเที่ยวรถให้บริการเพิ่มขึ้น จากปกติวันละ 246 ขบวน เพิ่มอีก 4 ขบวนใน 4 เส้นทาง ได้แก่ กรุงเทพ-อุบลราชธานี กรุงเทพ-อุดรธานี กรุงเทพ-ศิลาอาสน์ และกรุงเทพ-ศรีสะเกษ เพื่อให้มีรถเพียงพอต่อการใช้บริการ เพื่อไม่ให้มีผู้โดยสารตกค้าง พร้อมกับเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟเพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยเพิ่มขึ้น
นายวิทยา หวังจิตรารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ตลาดขายปลีก กลุ่มธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานีบริการน้ำมัน ปตท.ในพื้นที่ที่เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายได้เปิดให้บริการครบหมดทั้งหมดแล้ว หลังจากก่อนหน้านี้ได้ปิดให้บริการไป 30 แห่งในพื้นที่รอบกรุงเทพฯ ที่มีความเสี่ยง ซึ่งในจำนวนปั๊มที่ปิดให้บริการนั้น เป็นปั๊มของปตท.ครึ่งหนึ่ง และของดีลเลอร์อีกครึ่งหนึ่ง โดยในแง่ของยอดขายไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะช่วงสงกรานต์ยอดขายน้ำมันในกรุงเทพฯ ค่อนข้างน้อยอยู่แล้ว แต่จะไปเพิ่มขึ้นในต่างจังหวัดแทน
“ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากปิดปั๊มน้ำมันปตท.ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวาย ปตท.ไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบในแง่รายได้ แต่ไม่ต้องการให้เกิดทรัพย์สินสูญเสีย จึงให้นโยบายกับปั๊มน้ำมันว่า ทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์ไม่ปกติ ให้เจ้าของปั๊มดูแลอย่างใกล้ชิด หากมีเหตุที่ทำให้ไม่สามารถทำธุรกิจต่อไปได้ก็ให้ปิดปั๊มได้เลยโดยไม่ต้องรอคำสั่งจากปตท.”
ส่วนกรณีที่ก๊าซแอลพีจีขาดแคลนในช่วงสงกรานต์ เนื่องจากผู้ส่งก๊าซฯ ไม่สามารถจัดส่งก๊าซแอลพีจีให้ได้มาตั้งแต่ม็อบเสื้อแดงปิดอนุสาวรีย์ต่อเนื่องไปจนถึงการยึดรถก๊าซแอลพีจี ทำให้ต้องหยุดส่งก๊าซแอลพีจีในเขตกรุงเทพฯ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ยึดรถก๊าซฯ อีก แต่หลังจากเหตุการณ์สลายผู้ชุมนุมเสื้อแดงเสร็จสิ้นตั้งแต่วันที่ 14 เม.ย.เป็นต้นมา ก็สามารถจัดส่งก๊าซแอลพีจีได้ตามปกติ
ดร.อาณัติ อาภาภิรม ที่ปรึกษาคณะกรรมการ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส กล่าวว่า ปริมาณผู้โดยสารที่ใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสในวันที่ 9 เม.ย.ที่ม็อบเสื้อแดงปิดถนนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเป็นวันแรก ทำให้การจราจรติดขัดมาก ส่งผลให้ยอดผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเป็น 5.46 แสนเที่ยวคน/วัน สูงกว่ายอดโดยสารเฉลี่ยปกติ 4.30 แสนเที่ยวคน/วัน แต่ในวันที่ 10 เม.ย.รัฐบาลประกาศให้เป็นวันหยุดราชการ ซึ่งปกติแล้วในวันศุกร์จะมียอดผู้โดยสารค่อนข้างมากแต่วันนั้นเหลือเพียง 4.4 แสนเที่ยวคน/วัน
ส่วนวันที่ 11-13 เม.ย. ปริมาณผู้โดยสารที่ใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสกลับหดลดลงมากกว่าปกติเหลือเพียง 1.2-1.5 แสนเที่ยวคน/วัน ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำกว่าชช่วงสงกรานต์ในปีที่ผ่านมา ซึ่งแต่ละปีผู้โดยสารจะน้อยอยู่แล้ว แต่เนื่องจากเกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายในกรุงเทพฯยิ่งทำให้ประชาชนไม่อยากออกจากบ้าน แต่พอเหตุการณ์สลายม็อบในวันที่ 14 เม.ย.พบว่ายอดผู้โดยสารบีทีเอสกลับมาเพิ่มขึ้นเป็น 1.4 แสนเที่ยวคน/วันเนื่องจากยังเป็นวันหยุดราชการอยู่ แต่ เชื่อว่าในวันจันทร์ที่ 20 เม.ย. จำนวนผู้โดยสารจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด ( บขส. ) เปิดเผยว่า จากที่รัฐบาลได้ประกาศขยายวันหยุดเพิ่มอีก 2 วันคือ 16-17 เม.ย.2552 ทำให้ประชาชนเลื่อนระยะเวลาการกลับบ้านออกไปประมาณ 30% จากเดิมที่คาดว่าจะมีประชาชนเดินทางกลับในช่วง 2 วันดังกล่าวประมาณ 200,000 คน ซึ่งบขส.พร้อมให้บริการประชาชนที่ต้องการเลื่อนการเดินทางออกไปโดยแจ้งล่วงหน้า 1 วัน หรือ 24 ชม. โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ นอกจากนี้ บขส.ได้ขยายเวลาการสำรองรถออกไปตามระยะเวลาที่หยุด และคาดว่าประชาชนจะทยอยเดินทางกลับมากที่สุดวันที่ 17-18 เม.ย.2552
นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวว่า คาดว่าประชาชนจะทยอยเดินทางกลับในช่วงวันที่ 18-19 เม.ย. เป็นจำนวนมาก ร.ฟ.ท.จึงได้เพิ่มเที่ยวรถให้บริการเพิ่มขึ้น จากปกติวันละ 246 ขบวน เพิ่มอีก 4 ขบวนใน 4 เส้นทาง ได้แก่ กรุงเทพ-อุบลราชธานี กรุงเทพ-อุดรธานี กรุงเทพ-ศิลาอาสน์ และกรุงเทพ-ศรีสะเกษ เพื่อให้มีรถเพียงพอต่อการใช้บริการ เพื่อไม่ให้มีผู้โดยสารตกค้าง พร้อมกับเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟเพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยเพิ่มขึ้น
