xs
xsm
sm
md
lg

ภาพที่เห็นหลังแดงเผาเมือง

เผยแพร่:   โดย: สุรวิชช์ วีรวรรณ

ภาพของความสูญเสีย ความหายนะของชาติที่เกิดจากกลุ่มเสื้อแดงนั้น ตอกย้ำให้เห็นถึงอุดมการณ์ที่แท้จริงของคนเหล่านี้ เพราะหลังจากไม่สามารถระดมมวลชนออกมาแสดงพลังได้อย่างที่คุยโม้โอ้อวดไว้แล้ว พวกเขาก็แปรพลังที่มีอยู่ให้เป็นกองโจรคลั่งเผาบ้านเผาเมืองทันที

โชคดีที่แผนก่อวินาศกรรมทั้งหมดถูกยับยั้งเอาไว้ได้ไม่ให้สูญเสียไปมากกว่านี้

โชคดีที่แผนการสลายการชุมนุมนั้นดำเนินไปอย่างขันติอดทน ต่อหน้าผู้สื่อข่าวทั้งไทยและเทศ ทำให้คำพูดของทักษิณ กลายเป็นคนลวงโลกที่แท้จริง

เสียดายแต่น้องๆ ในสหพันธ์นิสิตนักศึกษาหรือ สนนท.บางคนที่กลายเป็นเหยื่อ ถูกผู้ใหญ่บางคนดันหลังให้ออกมาเปิดหน้าแถลงว่า มีผู้เสียชีวิตจากการเข้าร่วมชุมนุมถึง 60 คน แต่กลับยอมรับว่า คำที่พูดออกมานั้นไม่มีหลักฐานแต่อย่างใด

และผู้ใหญ่ที่นั่งแถลงการณ์คู่กับนักศึกษาจาก สนนท.ก็คือ วิภา ดาวมณี วิภา ดาวมณี คือใคร วิภา ดาวมณี ก็คือ มือไม้ของ ใจ อึ๊งภากรณ์ ที่ยังคงเคลื่อนไหวลิงโลดอยู่ในประเทศไทย

อย่างไรก็ตาม นอกจากคำแถลงเลื่อนลอยแล้ว บทบาทของ สนนท.ก่อนหน้านี้ ก็ช่วยตอกย้ำให้รู้ว่า เสียงที่ออกมาจากปากของนักศึกษาผู้เยาว์เหล่านั้นไม่ใช่พลังบริสุทธิ์ เพราะพวกเขาออกแถลงการณ์และเคลื่อนไหวหนุนเนื่องการชุมนุมของคนเสื้อแดงตลอดมา

น่าเสียดายภาพของคนหนุ่มสาวที่มีอุดมการณ์เพื่อความถูกต้องและความเป็นธรรมในสังคม ภาพลักษณ์ของ สนนท.ที่ถูกทำลายย่อยยับด้วยน้ำมือของนักศึกษาไม่กี่คน

ความพยายามอ้างว่ามีผู้เสียชีวิตมาขยายผลเพื่อปลุกเร้ามวลชนและทักษิณเอาไปพูดกับสื่อมวลชนต่างชาตินั้น เกิดขึ้นตั้งแต่เช้าวันที่ 13 เมษายน บนเวทีวันนั้นมีการปลุกระดมตลอดเวลาว่า มีผู้เสียชีวิตจำนวนเท่านั้นเท่านี้ บางคนบอกว่า 5 คน บางคนบอกว่า 6 คน บางคนขึ้นมาพูดว่า 20 คน ตามแต่ว่าใครจะขึ้นมาคว้าไมค์บนเวที โดยไม่มีการไตร่ตรองและตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน ซึ่งผิดกับการเวทีพันธมิตรฯ ซึ่งผมยืนยันว่า คำพูดลักษณะนี้จะต้องเป็นคำพูดที่ระมัดระวังเป็นที่สุด

แน่นอนว่า คำพูดบนเวทีเช่นนั้น ย่อมปลุกเร้าให้ประชาชนที่มาร่วมชุมนุมเชื่อตามที่พูดบนเวที ผมเข้าไปดูเว็บบอร์ด หรือห้องแชตของคนเสื้อแดงก็ล้วนแล้วแต่ปลุกเร้าในทำนองนี้ แต่เมื่อภาพที่ออกมาผ่านสื่อขัดแย้งกับสิ่งที่เสื้อแดงพูด แกนนำบนเวทีจึงพาลโกรธสื่อมวลชนทั้งไทยและเทศที่รายงานสถานการณ์ที่แท้จริงให้ทราบ และประกาศว่า ไม่รับรองความปลอดภัยของสื่อมวลชน

มีสื่อมวลชนค่ายมติชนบางคน เช่น บุญเลิศ ช้างใหญ่ สรกล อดุลยานนท์(นามปากกา วิหคเหินฟ้า) ผู้เขียนหนังสือ “ทักษิณ ชินวัตร อัศวินคลื่นลูกที่สาม” และคอลัมนิสต์หน้า 3 ไทยรัฐ พยายามสร้างกระแสว่า รัฐบาลและกองทัพปฏิบัติการ 2 มาตรฐานเมื่อเทียบกับการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

คนจำพวกนี้ตั้งคำถามว่า ทำไมตอนประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในสมัยรัฐบาลสมัคร ทหารจึงไม่ออกมาสลายพันธมิตรฯ แต่ไม่ยอมพูดว่า ก่อนหน้าที่ทหารออกมาสลายพวกเสื้อแดงนั้นพวกเขามีพฤติกรรมที่ต่างกับพันธมิตรฯอย่างไร

คนจำพวกนี้พูดว่า ทำไมตำรวจจับกุมนายอริสมันต์ทันที แต่ไม่จับกุมพันธมิตรฯ ทันทีที่บุกยึดสนามบิน

ผมว่า คนเหล่านี้มีเจตนาแกล้งโง่และแกล้งบิดเบือน

แต่ก่อนจะอธิบายว่า พวกเขาแกล้งโง่และแกล้งบิดเบือนผมอยากให้พวกเขาตอบคำถามให้ได้ก่อนว่า ที่พันธมิตรฯ ขับไล่ทักษิณเพราะปล้นชาติโกงแผ่นดินนั้น ทักษิณโกงชาติและแผ่นดินจริงหรือไม่

ถ้าพวกเขาบอกว่า การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงมีความชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญ การชุมนุมขับไล่รัฐบาลที่ไม่ชอบธรรมของพันธมิตรฯ นั้นเป็นความชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญและระบอบประชาธิปไตยหรือไม่

การที่ตำรวจและรัฐบาลปล่อยให้มีคนชั่วเอาอาวุธสงครามมายิงใส่ผู้ชุมนุมทุกวันจนมีผู้บาดเจ็บล้มตายจำนวนมากนั้นมีเหตุผลเพียงพอที่พันธมิตรฯจะยกระดับการชุมนุมไปที่หน้าสนามบินหรือไม่

ถ้าอ้างว่า พันธมิตรฯ สะสมอาวุธ ถามแค่ว่าการที่พันธมิตรฯ ถูกทำร้ายฆ่าตายและบาดเจ็บทุกวันโดยที่ตำรวจเมินเฉยนั้นเป็นเหตุผลที่เพียงพอหรือไม่

ถ้าเห็นว่า รัฐบาลและทหารไม่มีความชอบธรรมที่จะสลายการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงโดยละมุนละม่อม ถามว่า ที่ตำรวจเอาแก๊สน้ำตาหมดอายุจากจีนไปยิงใส่พันธมิตรฯ ที่ชุมนุมอยู่หน้ารัฐสภาจนมีผู้บาดเจ็บและล้มตายจำนวนมากนั้น ตำรวจมีความชอบธรรมหรือไม่

พวกแกล้งโง่หรือบิดเบือนแยกแยะไม่ได้เลยหรือว่า ระหว่างนายอริสมันต์ที่ยกกำลังไปปิดล้อมและบุกเข้าทุบทำลายสถานที่ประชุมอาเซียนกับการชุมนุมของพันธมิตรฯ ที่หน้าสนามบินนั้นแตกต่างกันอย่างไร

ความจริงแล้วตำรวจที่อยู่ในที่เกิดเหตุควรจะควบคุมตัวนายอริสมันต์และพรรคพวกทันทีเหมือนกับการ์ดพันธมิตรฯ บางส่วนที่บุกเข้าไปในเอ็นบีทีไม่ใช่หรือ

แต่ถ้าเอาการชุมนุมของพันธมิตรฯ ที่หน้าสนามบินมาอ้างก็ต้องถามว่า ทำไมตำรวจไม่จับกุมแกนนำที่นำมวลชนเสื้อแดงไปปิดล้อมที่หน้ารัฐสภา มีการทุบทำลายรถ สาดน้ำกรด และหมายเอาชีวิต ส.ส.อย่างป่าเถื่อน

พวกแกล้งโง่หรือบิดเบือนไม่รู้เลยหรือว่า ตำรวจกำลังดำเนินคดีกับพันธมิตรฯ อย่างละเอียดยิบอยู่เกือบร้อยคดี และพวกเราเข้าไปรายงานตัว เข้าไปมอบตัว ไปขึ้นศาลในคดีต่างๆ อยู่ตลอดเวลา

พันธมิตรฯ ชุมนุมปิดล้อมดาวกระจายไปตามสถานที่ต่างๆ แต่พันธมิตรฯ ไม่ได้เอารถแก๊สไปขู่วินาศกรรมเมืองอย่างที่เสื้อแดงทำ พันธมิตรฯ ไม่ได้ไปปิดกั้นทางเข้าออกโรงพยาบาล พันธมิตรฯ ไม่ได้ยึดรถเมล์มาเผาทำลาย ปล้นสะดม เผาแบงก์ พันธมิตรฯ ไม่ได้บ้าคลั่งทำร้ายหมายเอาชีวิตนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และเลขานายกรัฐมนตรีจนปรากฏภาพความโหดเหี้ยมออกไปทั่วโลก

เหตุการณ์เหล่านั้นเกิดขึ้นก่อนที่ทหารจำเป็นต้องตัดสินใจใช้กำลังบีบให้พวกเสื้อแดงสลายการชุมนุมใช่หรือไม่

ภาพที่ดินแดงที่ทหารแถวหน้าถือโล่และกระบอง และทหารชุดหลังยิงปืนขึ้นฟ้าขับไล่เสื้อแดงที่เอารถแก๊สมาข่มขู่ โดยมีชาวบ้านย่านดินแดงเป็นกันชนให้ทหารนั้น เป็นความชอบธรรมที่ทหารจะดำเนินการเช่นนั้นหรือไม่

แน่นอนว่า หลังจากพันธมิตรฯ ออกจากทำเนียบรัฐบาลแล้วมีการตรวจสอบพบว่า มีการแอบเข้าไปทำลายทรัพย์สินบางส่วนในอาคารตึกกองบัญชาการ แม้พันธมิตรฯ ไม่รู้ว่านั่นเป็นฝีมือของใคร แต่เราก็ประกาศชัดเจนว่า พร้อมรับผิดชอบตามผลการสอบสวนของตำรวจชี้ชัดออกมา

ผมเฝ้าติดตามการชุมนุมของเสื้อแดงอย่างต่อเนื่อง เห็นชัดว่า บนเวทีนั้นเต็มไปด้วยวาทกรรมโกหกและบิดเบือน สงสารเพื่อนศิลปิน นักเขียน และกวีบางคนที่หลงว่านี่คือการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย เพื่อการกดขี่ทางชนชั้น ต่อสู้เพื่อความเสมอภาพในสังคม ทั้งที่แท้จริงแล้วเป็นการต่อสู้เพื่อทักษิณคนเดียว

ผมไม่เชื่อว่า ศิลปิน นักเขียน กวีที่มีหัวใจดีงามจะทนเห็นภาพการก่อจลาจลของคนเสื้อแดงได้อย่างไร พวกเขาไม่หลั่งน้ำตาให้กับชาวบ้านที่ลุกขึ้นมาปกป้องชุมชนของตัวเองจนมีผู้เสียชีวิตได้อย่างไร

การชุมนุมครั้งนี้นอกจากทำให้เห็นเนื้อแท้ของขบวนการเสื้อแดงแล้ว ยังเผยให้เห็นธาตุแท้ของคนบางคนด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น