เมื่อเวลา 10.00 น. พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก แถลงว่า "กองอำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (กอฉ.) ขอเรียนให้ทราบถึงข้อมูลการปฏิบัติทางทหารที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในรอบวันให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบ ดังต่อไปนี้
ประเด็นแรก คือ เจตนารมณ์ในการปฏิบัติภารกิจทางทหารในช่วงที่ผ่านมา เรามีความประสงค์เพียงเพื่อต้องการที่จะเปิดเส้นทางการจราจร ซึ่งเป็นกรณีที่เกิดขึ้นจากกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนได้ก่อเหตุความวุ่นวายและปิดการจราจรในพื้นที่ต่างๆ เจตนารมณ์ที่ 2 คือ ป้องกันการเกิดเหตุร้ายและการก่อวินาศกรรมต่างๆ ไม่ได้มีความประสงค์โดยตรงที่จะเข้าสลายการชุมนุมกลุ่มผู้ชุมนุม ทั้งนี้ เนื่องจากว่าไม่ต้องการให้กลุ่มผู้ชุมนุมได้รับความบาดเจ็บ ได้รับการสูญเสียแต่ประการใด ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของทางรัฐบาลและผู้บังคับบัญชา
ประเด็นที่สอง คือ เรื่องของการปฏิบัติทางทหาร เรามีขั้นตอนในการปฏิบัติในการเข้าสลายการชุมนุม โดยจะเริ่มต้นจากการเจรจาผ่านเครื่องขยายเสียง ใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก มีการใช้น้ำฉีด เพื่อจะสลายการชุมนุม ควบคู่ไปกับการใช้แก๊สน้ำตา และการเคลื่อนที่เข้าประชิดด้วยการใช้โล่และกระบอง สำหรับการใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าเพื่อข่มขวัญนั้น จะใช้เมื่อมีความจำเป็นจริงๆ ในกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะเข้ามาทำร้ายเจ้าหน้าที่เท่านั้น
ประเด็นที่สาม คือ ช่วงเช้าของเมื่อวานนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมได้ปิดเส้นทางการจราจรถึง 15 จุดทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร สามารถที่จะคลี่คลายปัญหาดังกล่าวได้แล้วทุกจุด แต่ยังคงมีความจำเป็นที่จะต้องปิดจุดการจราจรบางจุด ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัย สำหรับจุดที่ยังปิดการจราจร มีแยกอุรุพงษ์ แยกยมราช แยกผ่านฟ้าฯ ลานพระบรมรูปทรงม้า เส้นทางดินแดง-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และเส้นทางสุทธิสาร-ถนนมิตรไมตรี
ประเด็นที่สี่ การปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ต่างจังหวัดนั้น คงมีการคลี่คลายสถานการณ์คล้ายๆ กับการปฏิบัติภารกิจในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เช่นเดียวกัน แต่มีพื้นที่หลักๆ ที่ได้ดำเนินการเรียบร้อยไปแล้ว 3 พื้นที่ คือ ที่สถานีโทรทัศน์ NBT จ.ขอนแก่น ที่สถานีรถไฟ จ.สุรินทร์ และสถานีดาวเทียมไทยคม อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี
ประเด็นที่ห้า เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา กองอำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ได้ส่งกำลังทหารออกลาดตระเวนตรวจพื้นที่ต่างๆ ทั่วกรุงเทพมหานคร และได้ตั้งจุดตรวจร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งนี้ เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับพี่น้องประชาชนในการป้องกันเหตุร้ายต่างๆ
จากการปฏิบัติหน้าที่เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา มีสิ่งบอกเหตุที่พอจะบ่งบอกได้ว่า มีกลุ่มบุคคลผู้ไม่หวังดี พยายามจะสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายให้เกิดขึ้น โดยเมื่อเวลา 23.30 น. ได้มีคนร้าย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ และใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่จุดตรวจของเจ้าหน้าที่ทหาร ที่บริเวณสะพานหัวช้าง ฝั่งห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 นาย ถูกยิงที่แขนซ้าย และบริเวณหน้าอกด้านซ้าย ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่ห้อง ไอ.ซี.ยู. โรงพยาบาลตำรวจ
อีกเหตุการณ์หนึ่ง เมื่อเวลา 02.45 น. มีคนร้ายใช้รถยนต์เป็นพาหนะ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่ทหารที่จุดตรวจบริเวณแยกตึกชัย แต่การก่อเหตุในครั้งนี้ไม่ได้สร้างความสูญเสียให้กับเจ้าหน้าที่ทหาร
สุดท้าย กองอำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ขอเรียนให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบว่า ขณะนี้กองอำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน สามารถควบคุมการชุมนุมได้เป็นที่น่าพอใจ จากการตรวจสอบข้อมูลเมื่อ 20 นาทีสุดท้ายที่ผ่านมา การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงยังคงมีอยู่ที่บริเวณรอบทำเนียบฯ เพียงแห่งเดียว และมียอดผู้ชุมนุมประมาณ 2,000 คน
อย่างไรก็ตาม กองอำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ขอเรียนให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบว่า การออกพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินนั้น มิได้มุ่งหวังที่จะให้ส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนที่ใช้ชีวิตโดยทั่วไป ดังนั้น กิจกรรมต่างๆ ในการรวมตัวเพื่อจะมีกิจกรรมที่สนุกสนานในเทศกาลสงกรานต์ คงจะสามารถทำได้ตามปกติ ซึ่งการประกาศพระราชกำหนดฯ นั้น มุ่งหวังแค่เพียงต้องการจำกัดการชุมนุมที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของบ้านเมืองเท่านั้น หากมีความคืบหน้าเกี่ยวกับการปฏิบัติภารกิจทางทหาร กระผมจะกลับมาเรียนข้อมูลที่สำคัญให้ทราบในโอกาสต่อไป ขอบพระคุณครับ"
ประเด็นแรก คือ เจตนารมณ์ในการปฏิบัติภารกิจทางทหารในช่วงที่ผ่านมา เรามีความประสงค์เพียงเพื่อต้องการที่จะเปิดเส้นทางการจราจร ซึ่งเป็นกรณีที่เกิดขึ้นจากกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนได้ก่อเหตุความวุ่นวายและปิดการจราจรในพื้นที่ต่างๆ เจตนารมณ์ที่ 2 คือ ป้องกันการเกิดเหตุร้ายและการก่อวินาศกรรมต่างๆ ไม่ได้มีความประสงค์โดยตรงที่จะเข้าสลายการชุมนุมกลุ่มผู้ชุมนุม ทั้งนี้ เนื่องจากว่าไม่ต้องการให้กลุ่มผู้ชุมนุมได้รับความบาดเจ็บ ได้รับการสูญเสียแต่ประการใด ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของทางรัฐบาลและผู้บังคับบัญชา
ประเด็นที่สอง คือ เรื่องของการปฏิบัติทางทหาร เรามีขั้นตอนในการปฏิบัติในการเข้าสลายการชุมนุม โดยจะเริ่มต้นจากการเจรจาผ่านเครื่องขยายเสียง ใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก มีการใช้น้ำฉีด เพื่อจะสลายการชุมนุม ควบคู่ไปกับการใช้แก๊สน้ำตา และการเคลื่อนที่เข้าประชิดด้วยการใช้โล่และกระบอง สำหรับการใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าเพื่อข่มขวัญนั้น จะใช้เมื่อมีความจำเป็นจริงๆ ในกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะเข้ามาทำร้ายเจ้าหน้าที่เท่านั้น
ประเด็นที่สาม คือ ช่วงเช้าของเมื่อวานนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมได้ปิดเส้นทางการจราจรถึง 15 จุดทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร สามารถที่จะคลี่คลายปัญหาดังกล่าวได้แล้วทุกจุด แต่ยังคงมีความจำเป็นที่จะต้องปิดจุดการจราจรบางจุด ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัย สำหรับจุดที่ยังปิดการจราจร มีแยกอุรุพงษ์ แยกยมราช แยกผ่านฟ้าฯ ลานพระบรมรูปทรงม้า เส้นทางดินแดง-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และเส้นทางสุทธิสาร-ถนนมิตรไมตรี
ประเด็นที่สี่ การปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ต่างจังหวัดนั้น คงมีการคลี่คลายสถานการณ์คล้ายๆ กับการปฏิบัติภารกิจในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เช่นเดียวกัน แต่มีพื้นที่หลักๆ ที่ได้ดำเนินการเรียบร้อยไปแล้ว 3 พื้นที่ คือ ที่สถานีโทรทัศน์ NBT จ.ขอนแก่น ที่สถานีรถไฟ จ.สุรินทร์ และสถานีดาวเทียมไทยคม อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี
ประเด็นที่ห้า เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา กองอำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ได้ส่งกำลังทหารออกลาดตระเวนตรวจพื้นที่ต่างๆ ทั่วกรุงเทพมหานคร และได้ตั้งจุดตรวจร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งนี้ เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับพี่น้องประชาชนในการป้องกันเหตุร้ายต่างๆ
จากการปฏิบัติหน้าที่เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา มีสิ่งบอกเหตุที่พอจะบ่งบอกได้ว่า มีกลุ่มบุคคลผู้ไม่หวังดี พยายามจะสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายให้เกิดขึ้น โดยเมื่อเวลา 23.30 น. ได้มีคนร้าย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ และใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่จุดตรวจของเจ้าหน้าที่ทหาร ที่บริเวณสะพานหัวช้าง ฝั่งห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 นาย ถูกยิงที่แขนซ้าย และบริเวณหน้าอกด้านซ้าย ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่ห้อง ไอ.ซี.ยู. โรงพยาบาลตำรวจ
อีกเหตุการณ์หนึ่ง เมื่อเวลา 02.45 น. มีคนร้ายใช้รถยนต์เป็นพาหนะ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่ทหารที่จุดตรวจบริเวณแยกตึกชัย แต่การก่อเหตุในครั้งนี้ไม่ได้สร้างความสูญเสียให้กับเจ้าหน้าที่ทหาร
สุดท้าย กองอำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ขอเรียนให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบว่า ขณะนี้กองอำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน สามารถควบคุมการชุมนุมได้เป็นที่น่าพอใจ จากการตรวจสอบข้อมูลเมื่อ 20 นาทีสุดท้ายที่ผ่านมา การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงยังคงมีอยู่ที่บริเวณรอบทำเนียบฯ เพียงแห่งเดียว และมียอดผู้ชุมนุมประมาณ 2,000 คน
อย่างไรก็ตาม กองอำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ขอเรียนให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบว่า การออกพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินนั้น มิได้มุ่งหวังที่จะให้ส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนที่ใช้ชีวิตโดยทั่วไป ดังนั้น กิจกรรมต่างๆ ในการรวมตัวเพื่อจะมีกิจกรรมที่สนุกสนานในเทศกาลสงกรานต์ คงจะสามารถทำได้ตามปกติ ซึ่งการประกาศพระราชกำหนดฯ นั้น มุ่งหวังแค่เพียงต้องการจำกัดการชุมนุมที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของบ้านเมืองเท่านั้น หากมีความคืบหน้าเกี่ยวกับการปฏิบัติภารกิจทางทหาร กระผมจะกลับมาเรียนข้อมูลที่สำคัญให้ทราบในโอกาสต่อไป ขอบพระคุณครับ"