พี่น้องประชาชนที่เคารพรักทุกท่านครับ กระผมขออนุญาตกราบเรียนสรุปสถานการณ์ตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน มาถึงเย็นวันนี้ 13 เมษายน 2552 วันที่ 12 ตอนเช้าครับ มีกลุ่ม นปช.ไปปิดล้อมศาลอาญา เพื่อที่จะบีบบังคับให้ศาลปล่อยตัวนายอริสมันต์ ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม ตามที่ศาลได้อนุญาตให้หมายศาลเอาไว้ เนื่องจากเป็นผู้ยุยง ปลุกปั่นให้ประชาชนออกมาก่อความไม่สงบ กลุ่มผู้ชุมนุมพยายามกดดันจนกระทั่งมีลักษณะของการรุนแรงมากขึ้นๆ และขยายตัวเพิ่มขึ้น จนในที่สุดท่านนายกรัฐมนตรีได้ประกาศ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของประเทศ
ในขณะที่ท่านนายกรัฐมนตรี และตัวกระผม พร้อมด้วยท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ไปชี้แจงถึงเหตุผล ความจำเป็นในการประกาศ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่กระทรวงมหาดไทยนั้น กลุ่ม นปช.จำนวนประมาณ 1,500 คน นำโดยนายสุภรณ์ ได้ไปทำการปิดล้อมกระทรวงมหาดไทย บุกเข้าไปค้นในกระทรวง ทำลายทรัพย์สิน และพยายามทำร้ายเจ้าหน้าที่ระดับสูง รวมทั้งตัวท่านนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีทุกคน อย่างที่พี่น้องประชาชนได้เห็นในภาพที่ปรากฏในโทรทัศน์ช่องต่างๆ ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐหลายคนได้รับบาดเจ็บ และต้องนำไปส่งรักษา อย่างเช่น เลขาธิการนายกรัฐมนตรี คุณนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เป็นต้น
เพื่อให้การรักษาความสงบเรียบร้อยเกิดขึ้นโดยราบรื่น มีการทำงานที่ประสานกันอย่างดี ท่านนายกรัฐมนตรีจึงได้แต่งตั้ง คณะกรรมการอำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ขึ้นมาทำหน้าที่อำนวยการในการแก้ไขปัญหา ทั้งนี้ ท่านนายกรัฐมนตรีได้แถลงชี้แจงข่าวให้กับพี่น้องประชาชนได้ฟังเป็นระยะๆ มาโดยตลอด
ในเช้าวันนี้ ทางกลุ่ม นปช.ได้เปลี่ยนวิธีการจากการที่ชุมนุมอยู่เพียงจุดเดียว ได้ขยายไปยึดถนนในหลายๆ จุดทั่วกรุงเทพมหานคร เพื่อจะให้การจราจรนั้นไปไม่ได้ เกิดความยุ่งยากลำบากสำหรับพี่น้องประชาชนในการสัญจรไปมา อย่างเช่นกรณีที่กลุ่ม นปช.ได้ไปยึดพื้นที่บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง บริเวณแยกสุทธิสาร แล้วใช้เครื่องยิงระเบิด เอ็ม 79 ยิงไปบริเวณชั้น 2 ภายในอาคารศาลรัฐธรรมนูญ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้รับบาดเจ็บ รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกลาง
แม้ว่าฝ่ายผู้ชุมนุมจะได้ดำเนินการด้วยวิธีการรุนแรง ยั่วยุ ด้วยวิธีการต่างๆ แต่ว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอดกลั้น ด้วยความอดทน ภายใต้การบริหารอำนวยการของ กองอำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่มีท่านผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นผู้อำนวยการ มีผู้บัญชาการเหล่าทัพทุกเหล่าทัพ เป็นกรรมการร่วมอยู่ มีปลัดกระทรวงและข้าราชการระดับสูงจำนวนมากร่วมกันทำงานทั้งกลางวันกลางคืน ติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง และปรากฏว่า การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่บูรณาการกันมานี้ ได้บังเกิดผลสำเร็จมาตามลำดับ เจ้าหน้าที่สามารถเข้าไปยึดพื้นที่คืนจากฝ่ายที่ก่อการจลาจล แล้วทำให้การจราจรในกรุงเทพมหานครเคลื่อนตัวได้ สัญจรไปมาได้อย่างปกติ ทั้งที่สามเหลี่ยมดินแดง ทั้งที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ทั้งที่ศรีอยุธยา เป็นต้น การทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐครั้งนี้ ได้แสดงออกถึงความรับผิดชอบอย่างสูงส่ง
ไม่น่าเชื่อนะครับ การที่เข้าไปยึดพื้นที่คืนจากพื้นที่ที่ผู้ชุมนุมได้ร่วมปิดกั้นการจราจรทุกแห่ง ได้หลีกเลี่ยงที่จะให้มีการปะทะ แม้ว่าจะต้องใช้กำลังเจ้าไปดำเนินการ แต่ปรากฏว่าไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บจนถึงเสียชีวิตเลยแม้แต่คนเดียว ทั้งๆ ที่เป็นงานที่ทำด้วยความยากลำบาก ผมต้องขอถือโอกาสนี้แสดงความชื่นชมต่อพี่น้องประชาชน ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ทุกระดับที่ช่วยกันทำงาน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการดำเนินการจะเป็นผลดีตามลำดับจนถึงค่ำวันนี้ ทางฝ่ายรัฐบาลเองก็ยังมีความเป็นห่วงกังวลอยู่ จึงจะขออนุญาตนี้กราบเรียน เตือนพี่น้องประชาชนในกรุงเทพมหานครทุกพื้นที่ รัฐบาลกังวลใจว่า คืนนี้ ฝ่ายผู้ก่อการจลาจลอาจกระทำการก่อวินาศกรรมในหลายพื้นที่ เช่น การวางเพลิง การขว้างระเบิด สิ่งเหล่านี้ พี่น้องประชาชนสามารถช่วยรัฐบาลได้ ด้วยการกวดขันดูแล ระมัดระวังสำนักงาน บ้านเรือนของท่านเอง เจ้าหน้าที่จะทำเต็มกำลังความสามารถเต็มที่แล้ว แต่ถ้าพี่น้องประชาชนช่วยกันสอดส่องดูแล เป็นหูเป็นตาให้ด้วย ก็จะทำให้การทำงานของเราเป็นไปด้วยความรัดกุมยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม คงไม่ต้องตื่นตระหนกไป เพียงแต่เราไม่ประมาทเท่านั้น ผมพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ที่ปฏิบัติการคราวนี้ ยืนยันว่า มีขวัญกำลังใจเต็มที่จะทำงานแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน ที่เคารพรักทั้งหลาย
เรียนเพื่อให้ทราบสถานการณ์สั้นๆ สำหรับช่วงนี้ก่อน และตอนกลางคืนวันนี้ นายกรัฐมนตรีจะกราบเรียนกับพ่อแม่พี่น้องประชาชนอีกครั้งหนึ่ง ขอบคุณครับ
ในขณะที่ท่านนายกรัฐมนตรี และตัวกระผม พร้อมด้วยท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ไปชี้แจงถึงเหตุผล ความจำเป็นในการประกาศ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่กระทรวงมหาดไทยนั้น กลุ่ม นปช.จำนวนประมาณ 1,500 คน นำโดยนายสุภรณ์ ได้ไปทำการปิดล้อมกระทรวงมหาดไทย บุกเข้าไปค้นในกระทรวง ทำลายทรัพย์สิน และพยายามทำร้ายเจ้าหน้าที่ระดับสูง รวมทั้งตัวท่านนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีทุกคน อย่างที่พี่น้องประชาชนได้เห็นในภาพที่ปรากฏในโทรทัศน์ช่องต่างๆ ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐหลายคนได้รับบาดเจ็บ และต้องนำไปส่งรักษา อย่างเช่น เลขาธิการนายกรัฐมนตรี คุณนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เป็นต้น
เพื่อให้การรักษาความสงบเรียบร้อยเกิดขึ้นโดยราบรื่น มีการทำงานที่ประสานกันอย่างดี ท่านนายกรัฐมนตรีจึงได้แต่งตั้ง คณะกรรมการอำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ขึ้นมาทำหน้าที่อำนวยการในการแก้ไขปัญหา ทั้งนี้ ท่านนายกรัฐมนตรีได้แถลงชี้แจงข่าวให้กับพี่น้องประชาชนได้ฟังเป็นระยะๆ มาโดยตลอด
ในเช้าวันนี้ ทางกลุ่ม นปช.ได้เปลี่ยนวิธีการจากการที่ชุมนุมอยู่เพียงจุดเดียว ได้ขยายไปยึดถนนในหลายๆ จุดทั่วกรุงเทพมหานคร เพื่อจะให้การจราจรนั้นไปไม่ได้ เกิดความยุ่งยากลำบากสำหรับพี่น้องประชาชนในการสัญจรไปมา อย่างเช่นกรณีที่กลุ่ม นปช.ได้ไปยึดพื้นที่บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง บริเวณแยกสุทธิสาร แล้วใช้เครื่องยิงระเบิด เอ็ม 79 ยิงไปบริเวณชั้น 2 ภายในอาคารศาลรัฐธรรมนูญ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้รับบาดเจ็บ รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกลาง
แม้ว่าฝ่ายผู้ชุมนุมจะได้ดำเนินการด้วยวิธีการรุนแรง ยั่วยุ ด้วยวิธีการต่างๆ แต่ว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอดกลั้น ด้วยความอดทน ภายใต้การบริหารอำนวยการของ กองอำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่มีท่านผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นผู้อำนวยการ มีผู้บัญชาการเหล่าทัพทุกเหล่าทัพ เป็นกรรมการร่วมอยู่ มีปลัดกระทรวงและข้าราชการระดับสูงจำนวนมากร่วมกันทำงานทั้งกลางวันกลางคืน ติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง และปรากฏว่า การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่บูรณาการกันมานี้ ได้บังเกิดผลสำเร็จมาตามลำดับ เจ้าหน้าที่สามารถเข้าไปยึดพื้นที่คืนจากฝ่ายที่ก่อการจลาจล แล้วทำให้การจราจรในกรุงเทพมหานครเคลื่อนตัวได้ สัญจรไปมาได้อย่างปกติ ทั้งที่สามเหลี่ยมดินแดง ทั้งที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ทั้งที่ศรีอยุธยา เป็นต้น การทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐครั้งนี้ ได้แสดงออกถึงความรับผิดชอบอย่างสูงส่ง
ไม่น่าเชื่อนะครับ การที่เข้าไปยึดพื้นที่คืนจากพื้นที่ที่ผู้ชุมนุมได้ร่วมปิดกั้นการจราจรทุกแห่ง ได้หลีกเลี่ยงที่จะให้มีการปะทะ แม้ว่าจะต้องใช้กำลังเจ้าไปดำเนินการ แต่ปรากฏว่าไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บจนถึงเสียชีวิตเลยแม้แต่คนเดียว ทั้งๆ ที่เป็นงานที่ทำด้วยความยากลำบาก ผมต้องขอถือโอกาสนี้แสดงความชื่นชมต่อพี่น้องประชาชน ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ทุกระดับที่ช่วยกันทำงาน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการดำเนินการจะเป็นผลดีตามลำดับจนถึงค่ำวันนี้ ทางฝ่ายรัฐบาลเองก็ยังมีความเป็นห่วงกังวลอยู่ จึงจะขออนุญาตนี้กราบเรียน เตือนพี่น้องประชาชนในกรุงเทพมหานครทุกพื้นที่ รัฐบาลกังวลใจว่า คืนนี้ ฝ่ายผู้ก่อการจลาจลอาจกระทำการก่อวินาศกรรมในหลายพื้นที่ เช่น การวางเพลิง การขว้างระเบิด สิ่งเหล่านี้ พี่น้องประชาชนสามารถช่วยรัฐบาลได้ ด้วยการกวดขันดูแล ระมัดระวังสำนักงาน บ้านเรือนของท่านเอง เจ้าหน้าที่จะทำเต็มกำลังความสามารถเต็มที่แล้ว แต่ถ้าพี่น้องประชาชนช่วยกันสอดส่องดูแล เป็นหูเป็นตาให้ด้วย ก็จะทำให้การทำงานของเราเป็นไปด้วยความรัดกุมยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม คงไม่ต้องตื่นตระหนกไป เพียงแต่เราไม่ประมาทเท่านั้น ผมพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ที่ปฏิบัติการคราวนี้ ยืนยันว่า มีขวัญกำลังใจเต็มที่จะทำงานแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน ที่เคารพรักทั้งหลาย
เรียนเพื่อให้ทราบสถานการณ์สั้นๆ สำหรับช่วงนี้ก่อน และตอนกลางคืนวันนี้ นายกรัฐมนตรีจะกราบเรียนกับพ่อแม่พี่น้องประชาชนอีกครั้งหนึ่ง ขอบคุณครับ