xs
xsm
sm
md
lg

ลุ้นส่งออกครึ่งปีหลังชี้ชะตาแรงงาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - สำรวจออร์เดอร์ธุรกิจ 39 กลุ่มไตรมาส 2 ยังไม่กระเตื้อง ส่งสัญญาณภาคส่งออกยังติดลบต่อ เอกชนกัดฟันรักษาแรงงานได้แค่ครึ่งปีแรกหากไตรมาส 3-4 ส่งออกไม่กระเตื้อง อาจจำเป็นต้องปลดพนักงานประจำ หลังจากทยอยปลดพนักงานชั่วคราวแล้วส่วนใหญ่ จวกรัฐมาตรการแก้แรงงานไม่ตรงจุด คาดเม.ย.นี้ แรงงานกลับคืนถิ่นชนบทพุ่งเหตุโรงงานลดเวลาทำงาน ไม่มีโอที ทำให้รายได้ไม่คุ้มกับรายจ่าย ขณะที่แรงงานจ่อถูกปลดเพิ่มอีก 4-5 แสนคน

นายทวีกิจ จตุรเจริญคุณ รองประธานด้านแรงงาน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า จากคำสั่งซื้อ(ออร์เดอร์) ไตรมาส 2 เบื้องต้นยังคงไม่ฟื้นตัวมากนักโดยภาพรวมยังติดลบใกล้เคียงกับไตรมาสแรก ดังนั้นผู้ประกอบการจึงมีแนวโน้มที่ยังคงเดินเครื่องการผลิตภาพรวมในระดับ 40- 50% ซึ่งยังคงทำให้ผู้ประกอบการรักษาระดับแรงงานไปได้อีกระยะหนึ่งแต่หากออร์เดอร์ในช่วงไตรมาส 3-4 ยังลดลงต่อเนื่องคาดว่าหลายอุตสาหกรรมจะมีการปลดแรงงานเพิ่มขึ้นในช่วง 6 เดือนหลัง

“ขณะนี้แม้แต่ยอดขายในห้างสรรพสินค้ายังลดลงทั้งเสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า ขณะที่การส่งออกก็ยังไม่ดีขึ้นเพราะเศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นตัว หลายฝ่ายเองก็ยังไม่แน่ใจว่าเวลานี้ถึงจุดต่ำสุดของเศรษฐกิจโลกหรือยัง เมื่อผลิตแล้วขายไม่ได้ก็อยู่ไม่ได้ แรงงานส่วนหนึ่งถูกปลดไปพอสมควรแล้วโดยเฉพาะผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม(เอสเอ็มอี) แต่บังเอิญเสียงไม่ดังและไม่มีใครรวบรวมข้อมูล ”นายทวีกิจกล่าว

ทั้งนี้ออร์เดอร์ล่วงหน้าช่วงครึ่งปีหลังยังมีน้อยมากเป็นการส่งสัญญาณที่ไม่ดีนักซึ่งต้องติดตามอีกระยะหนึ่งคาดว่าปลายไตรมาส 2 ออร์เดอร์ล่วงหน้าช่วงสิ้นปีก็จะมาแล้วคงสามารถชี้ชัดได้ถึงแนวโน้มการว่างงาน ดังนั้นรัฐบาลจำเป็นต้องหามาตรการในการรับมือการเลิกจ้างที่เพิ่มขึ้นไว้ล่วงหน้าซึ่งโครงการที่รัฐบาลดำเนินการอยู่โดยเฉพาะต้นกล้าอาชีพไม่สามารถแก้ไขปัญหาด้านแรงงานของภาคอุตสาหกรรมได้เพราะเงื่อนไขให้กับผู้ประกอบการที่มีพนักงานไม่เกิน 200 คนและให้อบรมได้เพียง 40คนเท่านั้นเงื่อนไขดังกล่าวเท่ากับเป็นการบีบอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ไม่ให้เข้าร่วมโครงการ

นอกจากนี้โครงการดังกล่าวกลับส่งเสริมให้แรงงานยินดีที่จะตกงานมากขึ้นเนื่องจาก ผู้ว่างงานที่เข้าร่วมโครงการ จะได้รับเบี้ยเลี้ยงและค่าเดินทางระหว่างอบรม และเมื่ออบรมเสร็จ จะได้เงินรายเดือนเดือนละ 4,800 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ซึ่งถือว่ามากกว่าผู้ประกันตน ที่ได้รับเช็คช่วยเหลือจากรัฐบาล 2,000 บาทครั้งเดียว ขณะเดียวกันถ้าผู้ประกันตนที่ออกจากงาน มาเข้าร่วมโครงการต้นกล้าอาชีพ จะทำให้ผู้ประกันตนได้เงินช่วยเหลือเดือนละ 4,800 บาท เป็นเวลา 3 เดือนแล้วยังจะได้รับเงินประกันการว่างงาน 50% ของเงินเดือน เป็นเวลา 8 เดือน

“เราได้เสนอกระทรวงแรงงานไปแล้วเพื่อขอจัดสรรงบแรงงานเป็นการเฉพาะใหม่เพื่อชะลอการเลิกจ้างในภาคอุตสาหกรรมเฉลี่ยการจ่ายไม่เกิน 7,000 บาทต่อ 4 เดือนต่อคน โดยจะเป็นการลงนามกับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมเพื่อเป็นการยืนยันว่าจะไม่ปลดแรงงานหากปลดต้องจ่ายคืนและมีค่าปรับ ซึ่งล็อตแรกจะเสนอ 5.7 หมื่นคน”นายทวีกิจกล่าว

**ไตรมาส 2 ส่อตกงาน 4-5 แสนคน

นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสายงานลอจิสติกส์ ส.อ.ท. กล่าวว่าเบื้องต้นทราบว่าภาคขนส่งโดยเฉพาะรถบรรทุกจะมีการว่างงานเพิ่มขึ้นอีกในช่วงหลังสงกรานต์นี้ประมาณ 3 แสนคนจากภาคขนส่งทั้งระบบที่มีแรงงานทั้งสิ้น 2-2.5 ล้านคนเนื่องจากผลกระทบวิกฤติเศรษฐกิจทำให้รถบรรทุกแทบจะไม่มีงานเข้ามาทำให้รถบรรทุกจำนวน 2.5 แสนคนจอดอยู่เฉยๆ

นายจารึก เฮงรัศมี ผู้อำนวยการสถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ กล่าวว่าบริษัทกลุ่มไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์เตรียมปลดแรงงานอีก 5 หมื่นคน เพื่อลดต้นทุนหลังจากต้นปีปลดไปแล้วกว่า 3 หมื่นคน เพราะยอดคำสั่งซื้อลดลงตามวิกฤติเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้บริษัทต้องลดกำลังผลิต 30-40% ซึ่งเป็นสถานการณ์น่าเป็นห่วงอย่างมาก ล่าสุดคาดว่าการส่งออกสินค้าไฟฟ้าฯ ในปี 52 อยู่ที่ 1.3-1.4 ล้านล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 2-3 แสนล้านบาท ส่วนแรงงาน 5 แสนคน เริ่มทยอยปลดไป

นายวัลลภ เตียศิริ ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ กล่าวว่า อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์มีแนวโน้มเตรียมปลดแรงงานสูง 4.5 หมื่นคน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มรับจ้างชั่วคราว เนื่องจากค่ายรถยนต์ลดกำลังการผลิตต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนกว่า 50% ขณะที่เดือน มี.ค.คาดยอดกำลังการผลิตอยู่ที่ 7 หมื่นคัน ลดลงอีก 50% ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ทรุดตัวอย่างหนัก

นายถาวร ชลัษเฐียร ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนและอะไหล่ยานยนต์ ส.อ.ท. กล่าวว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์แรงงานอาจกลับบ้านยาวได้เพราะส่วนหนึ่งไม่สามารถแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในขณะที่รายได้ลดลงเพราะโรงงานส่วนใหญ่ไม่มีเงินค่าล่วงเวลาหรือโอทีเช่นอดีตและยังลดเวลาทำงานและลดเงินเดือนลง ประกอบกับพนักงานต้องการให้ผู้ประกอบการจ่ายเงินให้ออกเพื่อไปรับเงินประกันว่างงาน 8 เดือน ของกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม และไปเข้าโครงการต้นกล้าอาชีพของรัฐบาล

**ชนบทว่างงานพุ่ง

นายอนันต์ ดาโลดม นายกสมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัญหาการว่างงานในชนบทแล้งนี้คาดว่าจะเป็นปีที่หนักสุด เพราะปกติแล้วแรงงานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งส่วนใหญ่จะปลูกข้าวและพืชไร่เช่น มันสำปะหลัง อ้อย ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จะมีเวลาทำงานเพียง 4-5 เดือนเท่านั้นเมื่อถึงฤดูแล้งไม่สามารถทำการเกษตรได้จึงอพยพเข้าในเมืองเพื่อหันไปทำงานในภาคอุตสาหกรรมและบริการแทนแต่เพราะวิกฤติเศรษฐกิจการอพยพแรงงานในภาคเกษตรเพื่อสู่การจ้างงานในเมืองใหญ่จึงเป็นไปได้ยาก

“เมื่อแรงงานส่วนใหญ่กลับคืนชนบทการกลับไปทำไร่ ไถนาเช่นอดีตก็ยากขึ้นเพราะเกษตรกรส่วนหนึ่งได้ขายที่ดินไปในช่วงที่เศรษฐกิจบูม และปัญหาระบบชลประทานที่ยังไม่เพียงพอต้องอาศัยฝนในการทำเกษตรซึ่ง พื้นที่ทางการเกษตรของไทยประมาณ 75% ต้องอาศัยน้ำฝนหรือเรียกว่าเป็นเกษตรอาศัยน้ำฝน(Rainfed Agriculture) เป็นหลักหากภัยแล้งรุนแรงระยะยาวจะลำบากมากขึ้น”นายอนันต์กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น