ASTVผู้จัดการรายวัน - "มาร์ค"ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต่อด้วยตั้งกองอำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินแต่กลับไร้น้ำยาในการปกป้องชีวิตและทรัพย์สินประชาชนผู้บริสุทธิ์ ชาวบ้านย่านถนนเพชรบุรีฯ ต้องลุกขึ้นสู้ เหตุสัตว์นรกเสื้อแดงไล่ยิง ล่าสุดผู้บริสุทธิ์ตลาดนางเลิ้งเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 1 ศพ แถมวางเพลิงตามชุมชนต่างๆ คุกคามชีวิตและทรัพย์สิน ตั้งแต่ใช้รถบรรทุกแก๊สขู่บึ้มหน้าแฟลตดินแดง ทำลายรถยนต์-มัสยิด เผารถเมล์ ขว้างระเบิดเข้าใส่ทหารที่เข้าเคลียร์พื้นที่ ไม่เว้น บก.ทบ. ชาวบ้านข้างสนามมวยราชดำเนินต้องตอบโต้แทน แต่ทหารขี้ขลาดกลับออกทีวีเแถลงพอใจยังไม่มีเสื้อแดงตาย เหตุทหารไม่ใช้อาวุธ
เมื่อเวลา 06.00น. วานนี้ (13 เม.ย.) ภายหลังทหารเข้าสลายม็อบเสื้อแดงบริเวณแยกดินแดง มีรายงานว่าสถานีโทรทัศน์ดีสเตชั่นยังคงออกอากาศ โดยรายงานบิดเบือนสถานการณ์ที่เกิดขึ้นโดยมีการรายงานแก่ผู้ชุมนุมว่าทหารได้ใช้อาวุธหนักเข้าสลายการชุมนุม จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและยึดศพไว้ ทั้งที่เหตุที่เกิดขึ้น ณ ขณะนั้น มีเพียงผู้บาดเจ็บรวมทั้งมีทหารก็ได้รับบาดเจ็บด้วย
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ออกมาแถลงว่า ทหารมีความจำเป็นต้องใช้กำลังในการสลายการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่ปิดถนนบริเวณแยกดินแดง เนื่องจากก่อนเข้าดำเนินการเจ้าหน้าที่มีการเจรจา ให้ผู้ชุมนุมเปิดถนน แต่ได้รับการปฎิเสธ ขณะเดียวกัน กลุ่มผู้ชุมนุมฯ เองก็พยายามทำร้ายร่างกายทหาร โดยมีการขับรถประจำทางเข้าพุ่งชนจนทำให้มีทหาร ได้รับบาดเจ็บ ทำให้ทหารต้องยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อข่มขู่แต่กลุ่มผู้ชุมนุมก็ยังไม่ยอมหยุดกดดันทหาร ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ปะทะและการยิงปืนก็จะใช้เมื่อจวนตัวหรือป้องกันตัวด้วยกระสุนหัวติดกระดาษหรือกระสุนซ้อมเท่านั้น
พ.อ.สรรเสริญให้สัมภาษณ์เอเอสทีวีว่า การสลายม็อบที่สามเหลี่ยมดินแดงว่าเป็นเพราะมีการปิดการจราจร มีประชาชนที่ร้องเรียนมาก ก่อนสลายการชุมนุม ก็ได้มีการชี้แจงทำความเข้าใจผ่านเครื่องขยายเสียงแล้ว แต่ไม่เป็นผล เจ้าหน้าที่จึงดำเนินภารกิจจากเบาไปหาหนัก แต่ผู้ชุมนุมก็มีแก๊สน้ำตา มีทั้งระเบิดเพลิง และมีการใช้อาวุธปืนยิงเข้ามาที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารที่เขาปฏิบัติหน้าที่อยู่ ซึ่งเป็นการยิงมาจากทางด่วน ที่สำคัญคือมีการขับรถเมล์เป็นยานพาหนะพุ่งเข้าใส่เจ้าหน้าที่อีก จึงมีความจำเป็นที่จะต้องสลายการชุมนุม
“วิธีการปฏิบัติภารกิจคือเราใช้ปืนยิงขึ้นฟ้า ขอย้ำนะครับว่ายิงขึ้นฟ้า เพื่อใช้เสียงข่มขวัญกลุ่มผู้ชุมนุม ไม่ได้ใช้อาวุธกับผู้ชุมนุมโดยตรง ภาพจากสถานีโทรทัศน์ทั้งหลายเป็นเครื่องยืนยันอย่างดีถึงเจตนารมณ์เจ้าหน้าที่ว่า เราพยายามอย่างที่สุดที่จะหลีกเลี่ยงความรุนแรง ให้เกิดผลกระทบและความสูญเสียน้อยที่สุด ซึ่งตอนนี้เราก็ควบคุมบริเวณทางด่วนดินแดงไว้ได้แล้ว” พ.อ.สรรเสริญกล่าวและว่า แกนนำเสื้อแดงจะเอาประเด็นการสลายมาปลุกระดม อย่างไรก็ตาม ได้จับแกนนำที่อยู่ในพื้นที่ก็จำเป็นต้องจับเพื่อดำเนินคดี ส่วนจะนำไปไว้ที่ใดนั้น ขอไม่เปิดเผย เพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่าย จะได้ไม่มีการไปชุมนุมกดดันเจ้าหน้าที่
นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกฯ ทำหน้าที่โฆษกสำนักนายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลจะทำทุกวิถีทางให้ประเทศกลับคืนสู่สภาวะปกติ จะทำงานด้วยความระมัดระวัง จะใช้หลักเหตุผล ความเหมาะสม และตรวจสอบได้ เพื่อให้การควบคุมสถานการณ์ฉุกเฉินยุติลงโดยเร็ว โดยรัฐบาลคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนทุกคนที่อยู่ในพื้นที่เขต กทม. และเน้นย้ำว่า ประชาชนที่ต้องการให้สถานการณ์สิ้นสุดโดยเร็วได้โปรดไว้ใจ เข้าใจรัฐบาล และแจ้งเบาะแสสิ่งผิดปกติให้รัฐบาลทราบโดยเร็ว
"สถานการณ์ ณ เวลานี้ในหลายจุดสามารถควบคุมได้แล้ว และในโอกาสต่อไป ช่วงเที่ยง ช่วงบ่าย รัฐบาลจะมีเจ้าหน้าที่และผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้คำชี้แจงกับประชาชนเป็นระยะ" นายปณิธานกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการเข้าสลายการชุมนุม สัตว์นรกในคราบผู้ชุมนุมเสื้อแดงได้ออกอาละวาดทั่วเมืองหลวง มีรายงานว่าบรรยากาศแยกศรีอยุธยาใกล้กับกระทรวงการต่างประเทศ กลุ่มคนเสื้อแดงได้มีการปิดการจราจรทั้ง 4 ด้าน มีรถเมล์จอดขวาง รวมถึงมีการเผายางรถยนต์ขวางทางถึง 3 จุด จนส่งผลให้มีควันดำคลุ้งไปทั่วบริเวณ ขณะที่บรรดาแกนนำ นปช.ก็ยังปราศรัยปลุกระดมต่อเนื่อง ควันดำที่คลุ้งจากการเผายางรถยนต์ส่งผลกระทบต่อโรงพยาบาลและผู้ที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวเป็นอย่างมาก
**นายกฯ สั่งตั้ง กอฉ.ดูแลพื้นที่เสี่ยง
ต่อมาเวลาประมาณ 0.700น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ออกคำสั่งตั้งกองอำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (กอฉ.) ดูแลพื้นที่ที่มีการประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉิน ทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และ ปริมณฑล โดยมีการแต่งตั้ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ปรึกษาผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นผู้อำนวยการ ร่วมด้วย ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการสำนักข่าวกรอง ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงต่างประเทศ ปลัดกระทรวงยุติธรรม และ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เสนาธิการทหาร เสนาธิการทหารบก เสนาธิการทหารเรือ เสนาธิการทหารอากาศ และข้าราชการทหาร ตำรวจ พลเรือน ปฎิบัติหน้าที่ตามคำสั่งผู้อำนวยการ
โดยให้ปฎิบัติหน้าที่ตาม พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง เท่าที่จำเป็น จัดองค์กรที่เหมาะสมเพื่อให้สอดคล้องกับการปฎิบัติงาน จัดหน่วยข่าวกรอง ประชาสัมพันธ์ข่าวสารที่ถูกต้องให้กับประชาชนและผู้ชุมนุม รวมทั้งทำงานด้านจิตวิทยา ต่อต้านข่าวกรองที่เป็นภัยต่อความมั่นคง จัดชุดปฎิบัติการกำลังตำรวจทหาร อารักขาบุคคลสำคัญและคุ้มกันสถานที่ราชการ และจัดชุดปฎิบัติการทหารตำรวจจัดการกับผู้ก่อความไม่สงบ นอกจากนี้ยังมีอำนาจในการสอบสวนได้ยกเว้นคดีอาญา ตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน 2552 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้ประกาศตามมาตรา 11 วงเล็บ 6 มีคำสั่ง ห้ามมีการกระทำการใดๆ ที่เป็นการปิดการจราจร และเส้นทางคมนาคม ในพื้นที่ที่มีการประกาศใช้ พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล
**ยึดรถแก๊สกะบึ้มแฟลตดินแดง
เหตุการณ์ที่ระทึกขวัญคนกรุงโดยเฉพาะชาวดินแดงเมื่อวานนี้ก็คือบริเวณหน้าแฟลตดินแดง เนื่องจากเสื้อแดงได้ยึดรถบรรทุกแก๊สขู่จะระเบิดรถจนชาวบ้านในละแวกดังกล่าวต้องหลบหนีออกจากบ้านเรือน นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข ยอมรับว่ารู้สึกกังวลกับการยึดรถบรรทุกแก๊ส เนื่องจากไม่มีแผนฉุกเฉินรองรับสถานการณ์ที่ไม่ปกติ แต่ได้เตือนประชาชนบริเวณดังกล่าว หากได้กลิ่นแก๊ส โดยมีรัศมีครึ่งกิโลเมตร ต้องหลบหนีออกจากพื้นที่โดยเร็วที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 9.50 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง เจ้าหน้าที่ทหารที่ตั้งแนวรับกับกลุ่มม็อบเสื้อแดงเริ่มมีการเผชิญหน้ากันอีกครั้ง โดยกลุ่มม็อบเสื้อแดงพยายามปาระเบิดเพลิงเข้าใส่กลุ่มทหาร ทำให้ทหารต้องเดินหน้ากดดันให้ถอยออกไป อย่างไรก็ตาม ทหารไม่ได้ใช้กำลังตอบโต้แต่อย่างใด ในขณะที่ม็อบเสื้อแดงกลับระดมปาระเบิดเพลิงใส่ทหารอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มผู้ชุมนุมมีทั้งระเบิดเพลิง ท่อนไม้ ขวดแก้วและก้อนหิน
เวลาประมาณ 11.30 น. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประกาศให้คนเสื้อแดงหยุดเดินทางไปสมทบเพื่อนคนเสื้อแดงตามจุดต่างๆ ที่ปิดถนนอยู่อ้างต้องรักษาฐานที่มั่นที่ทำเนียบรัฐบาล หลังจากคนลดจำนวนลงอย่างมาก
นายพิเณศวร์ พัวพัฒนกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ระบุว่า วานนี้ (13 เม.ย.) รถร่วม ขสมก.ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงยึดไป 12 คันแล้ว หากรวมกับเมื่อวานนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงยึดรถไปแล้วเกือบ 30 คัน
บ่ายวันเดียวกัน นายปณิธานได้ออกมาอีกครั้ง โดยหวังสร้างความเชื่อมั่นแก่ชาวต่างชาติ นักท่องเที่ยวต่างชาติที่อยู่ภายในกรุงเทพมหานคร ว่า ขอยืนยันเพื่อสร้างความมั่นใจว่า รัฐบาลสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ หากนักท่องเที่ยว ชาวต่างชาติเกิดความกังวล สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงเพื่อขอดูแลความปลอดภัยได้ พร้อมย้ำว่า ขณะนี้รัฐบาลพยายามอย่างเต็มที่ในการควบคุมสถานการณ์ และจะทำให้ความสงบกลับคืนมาอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
**มาร์คภูมิใจสลายชุมนุมม็อบไม่ตาย
เวลา 11.40น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ สาระสำคัญส่วนหนึ่งระบุว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งในส่วนผู้ชุมนุม และในส่วนเจ้าหน้าที่ ผู้ชุมนุมทุกรายที่ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ได้นำไปส่งโรงพยาบาล ไม่มีผู้ใดเสียชีวิต และเจ้าหน้าที่พยายามทุกวิถีทางให้การทำงานครั้งนี้ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีความเสียหายน้อยที่สุด
"ขอย้ำอีกครั้งหนึ่ง ทั้งต่อผู้ชุมนุมและพี่น้องประชาชนครับว่า เราคนไทยทุกคนไม่ควรคิดสร้างความเสียหายให้กับชีวิตและทรัพย์สินของใครทั้งสิ้น เจ้าหน้าที่ของรัฐและรัฐบาลขณะนี้ มุ่งมั่นอย่างเดียวคือ คลี่คลายสถานการณ์ เพื่อนำเอากฎหมายของบ้านเมืองกลับคืนมาให้มีความศักดิ์สิทธิ์"
"รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นทหาร ตำรวจ หรือข้าราชการพลเรือนอื่นๆ นั้น ล้วนแล้วแต่เป็นมิตรกับประชาชนทั้งสิ้น ทำงานเพื่อบ้านเมือง ทำงานเพื่อส่วนรวม จะไม่มีความคิดไปทำร้ายประชาชนเป็นอันขาด ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากให้พี่น้องประชาชน ให้ขวัญกำลังใจกับเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ได้ยึดมั่นในแนวทางนี้ ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ในการแจ้งเบาะแส ให้ความร่วมมือเวลามีการร้องขอ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถปฏิบัติการใดๆ ได้สะดวก และเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยโดยเร็วที่สุด"
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า หลังจากนี้ไปจะมีการรายงานทั้งสถานการณ์ รวมทั้งแนวทางการทำงานต่อไป เพื่อที่จะนำความสงบเรียบร้อยกลับคืนมา ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดที่เชื่อว่า พี่น้องประชาชนคนไทยอยากจะเห็นในการขึ้นปีใหม่ไทยนี้
**ผบ.สส.ฟุ้งทหารไม่ใช้อาวุธ
พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ได้ออกแถลงการ์ณ ตามนโยบาบของนายกรัฐมนตรี ที่ได้ลงนามฉบับที่ 98 /2552 ลงวันที่ 13 เม.ย.2552 ว่าคณะกรรมการกองอำนวยการฯ ได้มีมติร่วมกันเพื่อให้ประชาชนทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมในการชุมนุม แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบกฏหมายโดยไม่ไปละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น ขอยืนยันคณะกรรมการกองอำนวยการฯ จะดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อนำพาประเทศชาติกลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด ตามสิทธิของประชาชนที่จะพึงมี และจะรักษาสิทธิในการสัญจรตามเส้นทางคมนาคมต่างๆ ยืนยันว่ากองทัพและจะไม่ใช้อาวุธเข้าทำร้ายประชาชน แต่ขอสงวนสิทธิ์ที่จะใช้อาวุธเพื่อปกป้องตนเอง และรักษาสิทธิของคนส่วนใหญ่ เพื่อให้คนในสังคมได้อยู่ร่วมกันปกติสุข
**ทหารถูกยิง-โดนระเบิด-แดงหัวแตก
นายแพทย์ทีวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความคืบหน้าผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุชุมนุมในเขตกทม.ว่า ณ เวลา 14.00 น. มีผู้บาดเจ็บรวมทั้งหมด 74 ราย เป็นชาย 71 ราย หญิง 4 ราย ยังไม่มีผู้เสียชีวิต
นายแพทย์ชูศิลป์ คุณาไทย ผู้อำนวยการสงเคราะห์โรงพยาบาลทหารผ่านศึก สรุปภาพผู้บาดเจ็บ ในส่วนเจ้าหน้าที่ทหาร และผู้ชุมนุม สำหรับผู้ชุมนุม บาดแผลจะมีแผลแตกที่ศีรษะ ถูกกระแทก ถูกตีด้วยของแข็ง ส่วนทหารนั้น แผลที่พบมาจากกระสุนปืน สะเก็ดระเบิด และบาดแผลจากการขว้างปาสิ่งของ โดยทั้งหมดอาการปลอดภัย
**ตร.ปล่อยสัตว์นรกอาละวาดทั่วกรุง
เมื่อเวลาประมาณ 16.00น. ย่านอุรุพงษ์ เสื้อแดงขว้างปาระเบิดขวดเข้าใส่เจ้าหน้าที่ ยังพบมีรถเมล์ถูกเผาอีกหนึ่งคัน ส่วนที่โบสถ์แม่พระ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ม็อบเสื้อแดงได้เผาสิ่งกีดขวางทำให้มีกลุ่มควันสีดำพวยพุ่งขึ้นมา ในขณะที่ทหารได้เร่งดับไฟ พร้อมกับยิงปืนขึ้นฟ้า ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมวิ่งหนีไปตามทางออกหลายๆ จุด ทำให้จุดความวุ่นวายขยายวงออกจากแยกราชประสงค์ ส่วนรถบรรทุกก๊าซที่ถูกปล้นมาเตรียมบึ้มหน้าแฟลตดินแดง ตั้งแต่เช้ามืด ทหารก็เพิ่งยึดไว้ได้ เป็นผลงานที่เกิดจากความร่วมมือของประชาชนในละแวกดังกล่าวที่ร่วมกันขับไล่เสื้อแดง
เวลา 16.40น. ที่บริเวณธนาคารกรุงเทพ สาขาอุรุพงษ์ กลุ่มเสื้อแดงได้ทุบกระจกและจุดไฟเผา ทำให้สัญญาณเตือนไฟดังสนั่น ขณะที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กัน ก็มีร่องรอยถูกเผาเช่นกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบทำได้แค่ถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตรงจุดนี้มีเสื้อแดงอยู่จำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นแก๊งมอเตอร์ไซค์ ซึ่งแต่ละคนล้วนมีอาวุธครบมือ พร้อมจะประจันหน้า โดยมีพฤติกรรมก่อการร้ายเช่นเดียวกับจุดอื่นๆ คือเผารถเมล์และยางรถ เพื่อสกัดเจ้าหน้าที่ นอกจากนั้นยังพบว่า ตู้โทรศัพท์สาธารณะถูกทุบทำลายและเผาระเนระนาดทั่วถนนอุรุพงษ์ เป็นที่น่าสังเกตว่า ตรงบริเวณนี้ ไม่พบว่ามีทหารแม้แต่คนเดียว มีเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่กี่คน และรถตำรวจหนึ่งคัน ที่ขับหนี
**สุดทนลุกขึ้นสู้ด้วยตัวเองตายแล้ว 1
เวลา 17.15น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากปฏิบัติการถ่อย เสื้อแดงได้ถอยร่นออกจากแยกอุรุพงษ์ แกนนำสัตว์นรกขึ้นรถประกาศว่าให้ไปรวมตัวกันที่หน้าทำเนียบรัฐบาล
ระหว่างทางเสื้อแดงได้ยึดรถยูโรมาเผาอีกคัน เมื่อเจ้าหน้าที่ดับเพลิงพยายามจะขับรถดับเพลิงเข้าไปดับไฟ แต่เสื้อแดงลุกฮือจะเข้าขวาง และยังเอารถร่วมบริการอีกคันจอดขวางทางขึ้นสะพานข้ามแยกยมราช และจุดไฟเผา สร้างความไม่พอใจของชาวบ้านชุมชนรถไฟ กรูเข้าไปขว้างก้อนหินใส่เสื้อแดง ทหารจึงเข้าเคลียร์พื้นที่ เสื้อแดงได้หันกลับมาดาหน้าเข้าหาทหารที่ตรึงกำลังอยู่ พร้อมกับปาระเบิดขวดเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง ประชาชนละแวกนั้นจำนวนมาก ต่างรายล้อมรอบทหาร และยืนอยู่หน้าทหารหันไปประจันกับเสื้อแดงโดยถือหินถือไม้ โห่ไล่เสื้อแดง
เช่นเดียวกัน ชาวบ้านย่านยมราชและชาวบ้านตลาดนางเลิ้งสุดทน ต้องลุกขึ้นสู้ หลังชาวบ้านถูกสัตว์นรกทำร้ายเจ็บระนาว บางรายโดนยิง ณ เวลา10.00น. ได้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย นอกจากนี้เสื้อแดงพยายามจะวางเพลิงหน้าชุมชน จนคนในชุมชนต้องป้องป้องชีวิตและทรัพย์สิน หลังจากตำรวจเพิกเฉยเช่นเดียวกับทหารที่พยายามไม่ให้ประชาชนตอบโต้ม็อบถ่อย
ย่านกิ่งเพชร ถ.เพชรบุรี เขตราชเทวี กทม. มีรายงานว่าชาวบ้านและผู้พักอาศัยบริเวณ เพชรบุรี ซอย 5 และ ซอย 7 ได้รวมตัวกันหลายร้อยคนเพื่อออกมาต่อต้านการคุกคามของสัตว์นรกที่มาก่อกวนบริเวณดังกล่าว โดยมีการยิงปืนลูกซองใส่กลุ่มชาวมุสลิม ใช้อาวุธปืนยิงเข้าไปยังกระจกมัสยิดมัสยิดดารุ้ลอะมาน (มัสยิดพญาไท) ได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ยังมีการทุบและทำความเสียหายแก่ทรัพย์สินของชาวบ้าน เช่น รถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ อีกด้วย
มีรายงานว่าก่อนเกิดเหตุ กลุ่มคนเสื้อแดงได้ขับรถมาบริเวณซอยดังกล่าวแล้วเห็นคนเสื้อเหลืองกำลังเล่น น้ำอยู่ภายในซอย จึงได้ก่อเหตุรุนแรงขึ้น เมื่อถูกขับไล่ให้ล่าถอยออกไป ก็มีการข่มขู่ชาวบ้านในบริเวณนั้นว่าจะยกพลกลับมาเอาคืน ด้านประชาชนในบริเวณดังกล่าวซึ่งอาชีพค้าขาย และเป็นนักเรียน นิสิต นักศึกษา ก็ได้รวมตัวกันเพิ่มมากขึ้นจากไม่กี่ร้อย จนปัจจุบันมีจำนวนเกือบหนึ่งพันคน เพื่อมาจัดการกับผู้ก่อความไม่สงบ
ในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามเข้าระงับเหตุ แต่ก็กลับมีปากเสียงกับชาวบ้านในบริเวณดังกล่าว เนื่องจากชาวบ้านเห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ทำหน้าที่จัดการกับผู้ก่อความไม่สงบ แต่กลับมาเจรจากับชาวบ้านผู้ได้รับความเดือดร้อน ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องล่าถอยไป นอกจากนี้ กลุ่มคนเสื้อแดง ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ รวมถึง แท็กซี่ที่สวมเสื้อแดง-โพกผ้าแดง ที่ผ่านไปมาในย่านดังกล่าวต่างถูกชาวบ้านเข้ารุมประณามและรุมประชาทัณฑ์
**เหยียบหน้าทหาร! ปาระเบิด บก.ทบ.
ช่วงเดียวกันที่บริเวณกองบัญชาการกองทัพบก เสื้อแดงโยนระเบิดเพลิงเข้าไปภายในกองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ทำให้เกิดไฟลุกขึ้นที่รถ GMC ทหารใน บก.ทบ.ทำได้แค่ระดมกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยปราบจลาจลเพิ่มเติม
ช่วงเดียวกันเสื้อแดงได้เผาตึกอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ โดยปาระเบิดเพลิงเข้าไป รปภ.ต้องนำถังดับเพลิงไปดับไฟ ทำให้ไฟฟ้าในตัวอาคารไม่สามารถใช้งานได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดการยิงปะทะกันขึ้นระหว่างประชาชนในชุมชนตรงข้ามกองทัพบก ข้างสนามมวยราชดำเนินกับกลุ่มคนเสื้อแดง จนเจ้าหน้าที่กองทัพบก ต้องออกมาประกาศว่า ให้ประชาชนบริเวณใกล้เคียงอย่าดำเนินการใดๆ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่คลี่คลายสถานการณ์
**สุเทพรู้ดีบอกจะมีก่อวินาศกรรม
ค่ำวานนี้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ว่า เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ ได้พยายามใช้ความอดทนอดกลั้นและคลี่คลายสถานการณ์ด้วยความละมุนละม่อม แม้ว่าผู้ชุมนุมจะพยายามยั่วยุ ก่อเหตุต่างๆ นานา
“ผมขอเตือนพี่น้องประชาชนในกทม.ทุกพื้นที่ รัฐบาลกังวลใจว่าคืนนี้ผู้ก่อจลาจลอาจจะก่อวินาศกรรมในหลายพื้นที่ เช่นวางเพลิง ขว้างระเบิด ซึ่งประชาชนสามารถช่วยรัฐบาลได้ ด้วยการกวดขันอาคาร สำนักงาน ห้างร้าน บ้านเรือนของท่านเอง”นายสุเทพ กล่าว และว่า อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เองก็จะช่วยดูแลอยู่แล้ว เพียงแต่จำเป็นที่ประชาชนจะต้องช่วยเป็นหูเป็นตาอีกทางเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างราบรื่น" นายสุเทพกล่าวและว่า ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้ตื่นตระหนก เพียงแต่เตือนเพื่อไม่ประมาทเท่านั้นเอง อย่างไรก็ตาม ตนได้พูดคุยกับผู้ปฏิบัติงานทุกฝ่ายแล้ว ทุกคนยืนยันว่ายังมีขวัญและกำลังใจที่จะปฏิบัติงานเพื่อพีน้องประชาชนต่อไป.
เมื่อเวลา 06.00น. วานนี้ (13 เม.ย.) ภายหลังทหารเข้าสลายม็อบเสื้อแดงบริเวณแยกดินแดง มีรายงานว่าสถานีโทรทัศน์ดีสเตชั่นยังคงออกอากาศ โดยรายงานบิดเบือนสถานการณ์ที่เกิดขึ้นโดยมีการรายงานแก่ผู้ชุมนุมว่าทหารได้ใช้อาวุธหนักเข้าสลายการชุมนุม จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและยึดศพไว้ ทั้งที่เหตุที่เกิดขึ้น ณ ขณะนั้น มีเพียงผู้บาดเจ็บรวมทั้งมีทหารก็ได้รับบาดเจ็บด้วย
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ออกมาแถลงว่า ทหารมีความจำเป็นต้องใช้กำลังในการสลายการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่ปิดถนนบริเวณแยกดินแดง เนื่องจากก่อนเข้าดำเนินการเจ้าหน้าที่มีการเจรจา ให้ผู้ชุมนุมเปิดถนน แต่ได้รับการปฎิเสธ ขณะเดียวกัน กลุ่มผู้ชุมนุมฯ เองก็พยายามทำร้ายร่างกายทหาร โดยมีการขับรถประจำทางเข้าพุ่งชนจนทำให้มีทหาร ได้รับบาดเจ็บ ทำให้ทหารต้องยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อข่มขู่แต่กลุ่มผู้ชุมนุมก็ยังไม่ยอมหยุดกดดันทหาร ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ปะทะและการยิงปืนก็จะใช้เมื่อจวนตัวหรือป้องกันตัวด้วยกระสุนหัวติดกระดาษหรือกระสุนซ้อมเท่านั้น
พ.อ.สรรเสริญให้สัมภาษณ์เอเอสทีวีว่า การสลายม็อบที่สามเหลี่ยมดินแดงว่าเป็นเพราะมีการปิดการจราจร มีประชาชนที่ร้องเรียนมาก ก่อนสลายการชุมนุม ก็ได้มีการชี้แจงทำความเข้าใจผ่านเครื่องขยายเสียงแล้ว แต่ไม่เป็นผล เจ้าหน้าที่จึงดำเนินภารกิจจากเบาไปหาหนัก แต่ผู้ชุมนุมก็มีแก๊สน้ำตา มีทั้งระเบิดเพลิง และมีการใช้อาวุธปืนยิงเข้ามาที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารที่เขาปฏิบัติหน้าที่อยู่ ซึ่งเป็นการยิงมาจากทางด่วน ที่สำคัญคือมีการขับรถเมล์เป็นยานพาหนะพุ่งเข้าใส่เจ้าหน้าที่อีก จึงมีความจำเป็นที่จะต้องสลายการชุมนุม
“วิธีการปฏิบัติภารกิจคือเราใช้ปืนยิงขึ้นฟ้า ขอย้ำนะครับว่ายิงขึ้นฟ้า เพื่อใช้เสียงข่มขวัญกลุ่มผู้ชุมนุม ไม่ได้ใช้อาวุธกับผู้ชุมนุมโดยตรง ภาพจากสถานีโทรทัศน์ทั้งหลายเป็นเครื่องยืนยันอย่างดีถึงเจตนารมณ์เจ้าหน้าที่ว่า เราพยายามอย่างที่สุดที่จะหลีกเลี่ยงความรุนแรง ให้เกิดผลกระทบและความสูญเสียน้อยที่สุด ซึ่งตอนนี้เราก็ควบคุมบริเวณทางด่วนดินแดงไว้ได้แล้ว” พ.อ.สรรเสริญกล่าวและว่า แกนนำเสื้อแดงจะเอาประเด็นการสลายมาปลุกระดม อย่างไรก็ตาม ได้จับแกนนำที่อยู่ในพื้นที่ก็จำเป็นต้องจับเพื่อดำเนินคดี ส่วนจะนำไปไว้ที่ใดนั้น ขอไม่เปิดเผย เพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่าย จะได้ไม่มีการไปชุมนุมกดดันเจ้าหน้าที่
นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกฯ ทำหน้าที่โฆษกสำนักนายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลจะทำทุกวิถีทางให้ประเทศกลับคืนสู่สภาวะปกติ จะทำงานด้วยความระมัดระวัง จะใช้หลักเหตุผล ความเหมาะสม และตรวจสอบได้ เพื่อให้การควบคุมสถานการณ์ฉุกเฉินยุติลงโดยเร็ว โดยรัฐบาลคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนทุกคนที่อยู่ในพื้นที่เขต กทม. และเน้นย้ำว่า ประชาชนที่ต้องการให้สถานการณ์สิ้นสุดโดยเร็วได้โปรดไว้ใจ เข้าใจรัฐบาล และแจ้งเบาะแสสิ่งผิดปกติให้รัฐบาลทราบโดยเร็ว
"สถานการณ์ ณ เวลานี้ในหลายจุดสามารถควบคุมได้แล้ว และในโอกาสต่อไป ช่วงเที่ยง ช่วงบ่าย รัฐบาลจะมีเจ้าหน้าที่และผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้คำชี้แจงกับประชาชนเป็นระยะ" นายปณิธานกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการเข้าสลายการชุมนุม สัตว์นรกในคราบผู้ชุมนุมเสื้อแดงได้ออกอาละวาดทั่วเมืองหลวง มีรายงานว่าบรรยากาศแยกศรีอยุธยาใกล้กับกระทรวงการต่างประเทศ กลุ่มคนเสื้อแดงได้มีการปิดการจราจรทั้ง 4 ด้าน มีรถเมล์จอดขวาง รวมถึงมีการเผายางรถยนต์ขวางทางถึง 3 จุด จนส่งผลให้มีควันดำคลุ้งไปทั่วบริเวณ ขณะที่บรรดาแกนนำ นปช.ก็ยังปราศรัยปลุกระดมต่อเนื่อง ควันดำที่คลุ้งจากการเผายางรถยนต์ส่งผลกระทบต่อโรงพยาบาลและผู้ที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวเป็นอย่างมาก
**นายกฯ สั่งตั้ง กอฉ.ดูแลพื้นที่เสี่ยง
ต่อมาเวลาประมาณ 0.700น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ออกคำสั่งตั้งกองอำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (กอฉ.) ดูแลพื้นที่ที่มีการประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉิน ทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และ ปริมณฑล โดยมีการแต่งตั้ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ปรึกษาผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นผู้อำนวยการ ร่วมด้วย ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการสำนักข่าวกรอง ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงต่างประเทศ ปลัดกระทรวงยุติธรรม และ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เสนาธิการทหาร เสนาธิการทหารบก เสนาธิการทหารเรือ เสนาธิการทหารอากาศ และข้าราชการทหาร ตำรวจ พลเรือน ปฎิบัติหน้าที่ตามคำสั่งผู้อำนวยการ
โดยให้ปฎิบัติหน้าที่ตาม พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง เท่าที่จำเป็น จัดองค์กรที่เหมาะสมเพื่อให้สอดคล้องกับการปฎิบัติงาน จัดหน่วยข่าวกรอง ประชาสัมพันธ์ข่าวสารที่ถูกต้องให้กับประชาชนและผู้ชุมนุม รวมทั้งทำงานด้านจิตวิทยา ต่อต้านข่าวกรองที่เป็นภัยต่อความมั่นคง จัดชุดปฎิบัติการกำลังตำรวจทหาร อารักขาบุคคลสำคัญและคุ้มกันสถานที่ราชการ และจัดชุดปฎิบัติการทหารตำรวจจัดการกับผู้ก่อความไม่สงบ นอกจากนี้ยังมีอำนาจในการสอบสวนได้ยกเว้นคดีอาญา ตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน 2552 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้ประกาศตามมาตรา 11 วงเล็บ 6 มีคำสั่ง ห้ามมีการกระทำการใดๆ ที่เป็นการปิดการจราจร และเส้นทางคมนาคม ในพื้นที่ที่มีการประกาศใช้ พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล
**ยึดรถแก๊สกะบึ้มแฟลตดินแดง
เหตุการณ์ที่ระทึกขวัญคนกรุงโดยเฉพาะชาวดินแดงเมื่อวานนี้ก็คือบริเวณหน้าแฟลตดินแดง เนื่องจากเสื้อแดงได้ยึดรถบรรทุกแก๊สขู่จะระเบิดรถจนชาวบ้านในละแวกดังกล่าวต้องหลบหนีออกจากบ้านเรือน นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข ยอมรับว่ารู้สึกกังวลกับการยึดรถบรรทุกแก๊ส เนื่องจากไม่มีแผนฉุกเฉินรองรับสถานการณ์ที่ไม่ปกติ แต่ได้เตือนประชาชนบริเวณดังกล่าว หากได้กลิ่นแก๊ส โดยมีรัศมีครึ่งกิโลเมตร ต้องหลบหนีออกจากพื้นที่โดยเร็วที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 9.50 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง เจ้าหน้าที่ทหารที่ตั้งแนวรับกับกลุ่มม็อบเสื้อแดงเริ่มมีการเผชิญหน้ากันอีกครั้ง โดยกลุ่มม็อบเสื้อแดงพยายามปาระเบิดเพลิงเข้าใส่กลุ่มทหาร ทำให้ทหารต้องเดินหน้ากดดันให้ถอยออกไป อย่างไรก็ตาม ทหารไม่ได้ใช้กำลังตอบโต้แต่อย่างใด ในขณะที่ม็อบเสื้อแดงกลับระดมปาระเบิดเพลิงใส่ทหารอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มผู้ชุมนุมมีทั้งระเบิดเพลิง ท่อนไม้ ขวดแก้วและก้อนหิน
เวลาประมาณ 11.30 น. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประกาศให้คนเสื้อแดงหยุดเดินทางไปสมทบเพื่อนคนเสื้อแดงตามจุดต่างๆ ที่ปิดถนนอยู่อ้างต้องรักษาฐานที่มั่นที่ทำเนียบรัฐบาล หลังจากคนลดจำนวนลงอย่างมาก
นายพิเณศวร์ พัวพัฒนกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ระบุว่า วานนี้ (13 เม.ย.) รถร่วม ขสมก.ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงยึดไป 12 คันแล้ว หากรวมกับเมื่อวานนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงยึดรถไปแล้วเกือบ 30 คัน
บ่ายวันเดียวกัน นายปณิธานได้ออกมาอีกครั้ง โดยหวังสร้างความเชื่อมั่นแก่ชาวต่างชาติ นักท่องเที่ยวต่างชาติที่อยู่ภายในกรุงเทพมหานคร ว่า ขอยืนยันเพื่อสร้างความมั่นใจว่า รัฐบาลสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ หากนักท่องเที่ยว ชาวต่างชาติเกิดความกังวล สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงเพื่อขอดูแลความปลอดภัยได้ พร้อมย้ำว่า ขณะนี้รัฐบาลพยายามอย่างเต็มที่ในการควบคุมสถานการณ์ และจะทำให้ความสงบกลับคืนมาอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
**มาร์คภูมิใจสลายชุมนุมม็อบไม่ตาย
เวลา 11.40น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ สาระสำคัญส่วนหนึ่งระบุว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งในส่วนผู้ชุมนุม และในส่วนเจ้าหน้าที่ ผู้ชุมนุมทุกรายที่ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ได้นำไปส่งโรงพยาบาล ไม่มีผู้ใดเสียชีวิต และเจ้าหน้าที่พยายามทุกวิถีทางให้การทำงานครั้งนี้ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีความเสียหายน้อยที่สุด
"ขอย้ำอีกครั้งหนึ่ง ทั้งต่อผู้ชุมนุมและพี่น้องประชาชนครับว่า เราคนไทยทุกคนไม่ควรคิดสร้างความเสียหายให้กับชีวิตและทรัพย์สินของใครทั้งสิ้น เจ้าหน้าที่ของรัฐและรัฐบาลขณะนี้ มุ่งมั่นอย่างเดียวคือ คลี่คลายสถานการณ์ เพื่อนำเอากฎหมายของบ้านเมืองกลับคืนมาให้มีความศักดิ์สิทธิ์"
"รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นทหาร ตำรวจ หรือข้าราชการพลเรือนอื่นๆ นั้น ล้วนแล้วแต่เป็นมิตรกับประชาชนทั้งสิ้น ทำงานเพื่อบ้านเมือง ทำงานเพื่อส่วนรวม จะไม่มีความคิดไปทำร้ายประชาชนเป็นอันขาด ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากให้พี่น้องประชาชน ให้ขวัญกำลังใจกับเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ได้ยึดมั่นในแนวทางนี้ ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ในการแจ้งเบาะแส ให้ความร่วมมือเวลามีการร้องขอ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถปฏิบัติการใดๆ ได้สะดวก และเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยโดยเร็วที่สุด"
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า หลังจากนี้ไปจะมีการรายงานทั้งสถานการณ์ รวมทั้งแนวทางการทำงานต่อไป เพื่อที่จะนำความสงบเรียบร้อยกลับคืนมา ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดที่เชื่อว่า พี่น้องประชาชนคนไทยอยากจะเห็นในการขึ้นปีใหม่ไทยนี้
**ผบ.สส.ฟุ้งทหารไม่ใช้อาวุธ
พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ได้ออกแถลงการ์ณ ตามนโยบาบของนายกรัฐมนตรี ที่ได้ลงนามฉบับที่ 98 /2552 ลงวันที่ 13 เม.ย.2552 ว่าคณะกรรมการกองอำนวยการฯ ได้มีมติร่วมกันเพื่อให้ประชาชนทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมในการชุมนุม แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบกฏหมายโดยไม่ไปละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น ขอยืนยันคณะกรรมการกองอำนวยการฯ จะดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อนำพาประเทศชาติกลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด ตามสิทธิของประชาชนที่จะพึงมี และจะรักษาสิทธิในการสัญจรตามเส้นทางคมนาคมต่างๆ ยืนยันว่ากองทัพและจะไม่ใช้อาวุธเข้าทำร้ายประชาชน แต่ขอสงวนสิทธิ์ที่จะใช้อาวุธเพื่อปกป้องตนเอง และรักษาสิทธิของคนส่วนใหญ่ เพื่อให้คนในสังคมได้อยู่ร่วมกันปกติสุข
**ทหารถูกยิง-โดนระเบิด-แดงหัวแตก
นายแพทย์ทีวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความคืบหน้าผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุชุมนุมในเขตกทม.ว่า ณ เวลา 14.00 น. มีผู้บาดเจ็บรวมทั้งหมด 74 ราย เป็นชาย 71 ราย หญิง 4 ราย ยังไม่มีผู้เสียชีวิต
นายแพทย์ชูศิลป์ คุณาไทย ผู้อำนวยการสงเคราะห์โรงพยาบาลทหารผ่านศึก สรุปภาพผู้บาดเจ็บ ในส่วนเจ้าหน้าที่ทหาร และผู้ชุมนุม สำหรับผู้ชุมนุม บาดแผลจะมีแผลแตกที่ศีรษะ ถูกกระแทก ถูกตีด้วยของแข็ง ส่วนทหารนั้น แผลที่พบมาจากกระสุนปืน สะเก็ดระเบิด และบาดแผลจากการขว้างปาสิ่งของ โดยทั้งหมดอาการปลอดภัย
**ตร.ปล่อยสัตว์นรกอาละวาดทั่วกรุง
เมื่อเวลาประมาณ 16.00น. ย่านอุรุพงษ์ เสื้อแดงขว้างปาระเบิดขวดเข้าใส่เจ้าหน้าที่ ยังพบมีรถเมล์ถูกเผาอีกหนึ่งคัน ส่วนที่โบสถ์แม่พระ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ม็อบเสื้อแดงได้เผาสิ่งกีดขวางทำให้มีกลุ่มควันสีดำพวยพุ่งขึ้นมา ในขณะที่ทหารได้เร่งดับไฟ พร้อมกับยิงปืนขึ้นฟ้า ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมวิ่งหนีไปตามทางออกหลายๆ จุด ทำให้จุดความวุ่นวายขยายวงออกจากแยกราชประสงค์ ส่วนรถบรรทุกก๊าซที่ถูกปล้นมาเตรียมบึ้มหน้าแฟลตดินแดง ตั้งแต่เช้ามืด ทหารก็เพิ่งยึดไว้ได้ เป็นผลงานที่เกิดจากความร่วมมือของประชาชนในละแวกดังกล่าวที่ร่วมกันขับไล่เสื้อแดง
เวลา 16.40น. ที่บริเวณธนาคารกรุงเทพ สาขาอุรุพงษ์ กลุ่มเสื้อแดงได้ทุบกระจกและจุดไฟเผา ทำให้สัญญาณเตือนไฟดังสนั่น ขณะที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กัน ก็มีร่องรอยถูกเผาเช่นกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบทำได้แค่ถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตรงจุดนี้มีเสื้อแดงอยู่จำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นแก๊งมอเตอร์ไซค์ ซึ่งแต่ละคนล้วนมีอาวุธครบมือ พร้อมจะประจันหน้า โดยมีพฤติกรรมก่อการร้ายเช่นเดียวกับจุดอื่นๆ คือเผารถเมล์และยางรถ เพื่อสกัดเจ้าหน้าที่ นอกจากนั้นยังพบว่า ตู้โทรศัพท์สาธารณะถูกทุบทำลายและเผาระเนระนาดทั่วถนนอุรุพงษ์ เป็นที่น่าสังเกตว่า ตรงบริเวณนี้ ไม่พบว่ามีทหารแม้แต่คนเดียว มีเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่กี่คน และรถตำรวจหนึ่งคัน ที่ขับหนี
**สุดทนลุกขึ้นสู้ด้วยตัวเองตายแล้ว 1
เวลา 17.15น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากปฏิบัติการถ่อย เสื้อแดงได้ถอยร่นออกจากแยกอุรุพงษ์ แกนนำสัตว์นรกขึ้นรถประกาศว่าให้ไปรวมตัวกันที่หน้าทำเนียบรัฐบาล
ระหว่างทางเสื้อแดงได้ยึดรถยูโรมาเผาอีกคัน เมื่อเจ้าหน้าที่ดับเพลิงพยายามจะขับรถดับเพลิงเข้าไปดับไฟ แต่เสื้อแดงลุกฮือจะเข้าขวาง และยังเอารถร่วมบริการอีกคันจอดขวางทางขึ้นสะพานข้ามแยกยมราช และจุดไฟเผา สร้างความไม่พอใจของชาวบ้านชุมชนรถไฟ กรูเข้าไปขว้างก้อนหินใส่เสื้อแดง ทหารจึงเข้าเคลียร์พื้นที่ เสื้อแดงได้หันกลับมาดาหน้าเข้าหาทหารที่ตรึงกำลังอยู่ พร้อมกับปาระเบิดขวดเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง ประชาชนละแวกนั้นจำนวนมาก ต่างรายล้อมรอบทหาร และยืนอยู่หน้าทหารหันไปประจันกับเสื้อแดงโดยถือหินถือไม้ โห่ไล่เสื้อแดง
เช่นเดียวกัน ชาวบ้านย่านยมราชและชาวบ้านตลาดนางเลิ้งสุดทน ต้องลุกขึ้นสู้ หลังชาวบ้านถูกสัตว์นรกทำร้ายเจ็บระนาว บางรายโดนยิง ณ เวลา10.00น. ได้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย นอกจากนี้เสื้อแดงพยายามจะวางเพลิงหน้าชุมชน จนคนในชุมชนต้องป้องป้องชีวิตและทรัพย์สิน หลังจากตำรวจเพิกเฉยเช่นเดียวกับทหารที่พยายามไม่ให้ประชาชนตอบโต้ม็อบถ่อย
ย่านกิ่งเพชร ถ.เพชรบุรี เขตราชเทวี กทม. มีรายงานว่าชาวบ้านและผู้พักอาศัยบริเวณ เพชรบุรี ซอย 5 และ ซอย 7 ได้รวมตัวกันหลายร้อยคนเพื่อออกมาต่อต้านการคุกคามของสัตว์นรกที่มาก่อกวนบริเวณดังกล่าว โดยมีการยิงปืนลูกซองใส่กลุ่มชาวมุสลิม ใช้อาวุธปืนยิงเข้าไปยังกระจกมัสยิดมัสยิดดารุ้ลอะมาน (มัสยิดพญาไท) ได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ยังมีการทุบและทำความเสียหายแก่ทรัพย์สินของชาวบ้าน เช่น รถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ อีกด้วย
มีรายงานว่าก่อนเกิดเหตุ กลุ่มคนเสื้อแดงได้ขับรถมาบริเวณซอยดังกล่าวแล้วเห็นคนเสื้อเหลืองกำลังเล่น น้ำอยู่ภายในซอย จึงได้ก่อเหตุรุนแรงขึ้น เมื่อถูกขับไล่ให้ล่าถอยออกไป ก็มีการข่มขู่ชาวบ้านในบริเวณนั้นว่าจะยกพลกลับมาเอาคืน ด้านประชาชนในบริเวณดังกล่าวซึ่งอาชีพค้าขาย และเป็นนักเรียน นิสิต นักศึกษา ก็ได้รวมตัวกันเพิ่มมากขึ้นจากไม่กี่ร้อย จนปัจจุบันมีจำนวนเกือบหนึ่งพันคน เพื่อมาจัดการกับผู้ก่อความไม่สงบ
ในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามเข้าระงับเหตุ แต่ก็กลับมีปากเสียงกับชาวบ้านในบริเวณดังกล่าว เนื่องจากชาวบ้านเห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ทำหน้าที่จัดการกับผู้ก่อความไม่สงบ แต่กลับมาเจรจากับชาวบ้านผู้ได้รับความเดือดร้อน ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องล่าถอยไป นอกจากนี้ กลุ่มคนเสื้อแดง ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ รวมถึง แท็กซี่ที่สวมเสื้อแดง-โพกผ้าแดง ที่ผ่านไปมาในย่านดังกล่าวต่างถูกชาวบ้านเข้ารุมประณามและรุมประชาทัณฑ์
**เหยียบหน้าทหาร! ปาระเบิด บก.ทบ.
ช่วงเดียวกันที่บริเวณกองบัญชาการกองทัพบก เสื้อแดงโยนระเบิดเพลิงเข้าไปภายในกองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ทำให้เกิดไฟลุกขึ้นที่รถ GMC ทหารใน บก.ทบ.ทำได้แค่ระดมกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยปราบจลาจลเพิ่มเติม
ช่วงเดียวกันเสื้อแดงได้เผาตึกอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ โดยปาระเบิดเพลิงเข้าไป รปภ.ต้องนำถังดับเพลิงไปดับไฟ ทำให้ไฟฟ้าในตัวอาคารไม่สามารถใช้งานได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดการยิงปะทะกันขึ้นระหว่างประชาชนในชุมชนตรงข้ามกองทัพบก ข้างสนามมวยราชดำเนินกับกลุ่มคนเสื้อแดง จนเจ้าหน้าที่กองทัพบก ต้องออกมาประกาศว่า ให้ประชาชนบริเวณใกล้เคียงอย่าดำเนินการใดๆ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่คลี่คลายสถานการณ์
**สุเทพรู้ดีบอกจะมีก่อวินาศกรรม
ค่ำวานนี้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ว่า เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ ได้พยายามใช้ความอดทนอดกลั้นและคลี่คลายสถานการณ์ด้วยความละมุนละม่อม แม้ว่าผู้ชุมนุมจะพยายามยั่วยุ ก่อเหตุต่างๆ นานา
“ผมขอเตือนพี่น้องประชาชนในกทม.ทุกพื้นที่ รัฐบาลกังวลใจว่าคืนนี้ผู้ก่อจลาจลอาจจะก่อวินาศกรรมในหลายพื้นที่ เช่นวางเพลิง ขว้างระเบิด ซึ่งประชาชนสามารถช่วยรัฐบาลได้ ด้วยการกวดขันอาคาร สำนักงาน ห้างร้าน บ้านเรือนของท่านเอง”นายสุเทพ กล่าว และว่า อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เองก็จะช่วยดูแลอยู่แล้ว เพียงแต่จำเป็นที่ประชาชนจะต้องช่วยเป็นหูเป็นตาอีกทางเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างราบรื่น" นายสุเทพกล่าวและว่า ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้ตื่นตระหนก เพียงแต่เตือนเพื่อไม่ประมาทเท่านั้นเอง อย่างไรก็ตาม ตนได้พูดคุยกับผู้ปฏิบัติงานทุกฝ่ายแล้ว ทุกคนยืนยันว่ายังมีขวัญและกำลังใจที่จะปฏิบัติงานเพื่อพีน้องประชาชนต่อไป.
