ASTVผู้จัดการรายวัน - PTTAR เตรียมออกหุ้นกู้วงเงินประมาณ 1 หมื่นล้านบาท อายุ 5-7 ปีเสนอขายให้นักลงทุนสถาบันและประชาชนทั่วไป เพื่อนำมาคืนหนี้เงินกู้ระยะสั้นทั้งหมด มั่นใจไตรมาสแรกพลิกมีกำไร เนื่องจากไม่มีการบันทึกขาดทุนจากสต็อกน้ำมันและกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น แย้มราคาผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์ดีดตัวขึ้นแล้ว หลังจีนอัดฉีดเงินสนับสนุนอุตสาหกรรมสิ่งทอ
นายชายน้อย เผื่อนโกสุม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น จำกัด (มหาชน) (PTTAR) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมออกหุ้นกู้ขายให้นักลงทุนสถาบันและประชาชนทั่วไปวงเงินประมาณ 1 หมื่นล้านบาท อายุหุ้นกู้ 5-7 ปีภายในปลายเดือนเม.ย.นี้ โดยวงเงินดังกล่าวจะนำมาชำระคืนหนี้เงินกู้ระยะสั้นทั้งหมด เนื่องจากในช่วงนี้มีการออกหุ้นกู้จำนวนมากและบริษัทฯได้ถูกลดเครดิตเรตติ้งหุ้นกู้ลงเหลือ A- ทำให้อัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้น่าจะสูงเพื่อจูงใจนักลงทุน ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้นี้สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยของบริษัทฯที่อยู่ประมาณ 4%ต่อปี
ปัจจุบันบริษัทมีหนี้สินระยะสั้นประมาณ 1 หมื่นกว่าล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีเงินกู้ระยะสั้นจากสถาบันการเงินเพียง 2.5 พันล้านบาท ทั้งนี้เนื่องจากช่วงปลายปีราคาน้ำมันปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วทำให้บริษัทฯต้องกู้เงินระยะสั้นเพื่อมาใช้ในกิจการ ขณะที่โครงการอะโรเมติกส์หน่วย 2อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ดังนั้นบริษัทฯจึงวางแผนที่จะออกหุ้นกู้วงเงิน 7,000-10,000 ล้านบาทเพื่อเสนอขายต่อนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับสถาบันการเงินเพื่อกำหนดวงเงินกู้หุ้น และอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสม โดยจะมีการออกกรีนชู ออฟชั่นเพื่อรองรับความต้องการหุ้นกู้ของประชาชนทั่วไป
นายชายน้อย กล่าวต่อไปว่า ผลการดำเนินงานไตรมาสแรกปีนี้ บริษัทฯหวังว่าจะมีกำไรสุทธิ จากปี 2551 ที่บริษัทขาดทุนสุทธิ 8.46 พันล้านบาท เนื่องจากปีนี้บริษัทฯมีกำลังการผลิตทั้งโรงกลั่นและอะโรเมติกส์เพิ่มขึ้น ไม่มีบันทึกขาดทุนจากสต็อกน้ำมันเหมือนปลายปีที่แล้ว ขณะเดียวกัน ราคาผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์ได้ปรับตัวดีขึ้น โดยล่าสุดราคาตลาดจรของพาราไซลีนมาอยู่ที่ 1022 เหรียญสหรัฐ/ตัน สูงกว่าราคาคอนแทรคเมื่อเดือนมี.ค.ที่เฉลี่ย 880 เหรียญสหรัฐ/ตัน ขณะที่ราคาเบนซีนปรับขึ้นมาอยู่ที่ 604 เหรียญสหรัฐ/ตัน จากราคาคอนแทรคเมื่อเดือนก.พ.อยู่ที่ 388 เหรียญสหรัฐ/ตัน ทั้งนี้เนื่องจากจีนมีการอัดฉีดเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคสิ่งทอ ทำให้มีกำลังซื้อฟื้นกลับขึ้นมาในส่วนพาราไซลีนและเบนซีนทำให้ราคาผลิตภัณฑ์สูงขึ้น
นอกจากนี้ ในปี 2552 บริษัทฯจะได้ประโยชน์จากการSynegyร่วมกันทำให้ลดค่าใช้จ่ายลงได้ปีละ 100 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่บริษัทฯใช้กำลังการผลิตโรงอะโรเมติกส์อยู่ที่ 85%ของกำลังการผลิตรวม ซึ่งหากพบว่าราคาผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์ปรับตัวดีขึ้นก็อาจจะเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นมาอีก จากเดิมที่ต้องลดกำลังการผลิตลงเนื่องจากเบนซีนมีราคาต่ำมาก
สำหรับการลงทุนโครงการผลิตน้ำมันตามมาตรฐานยุโรป (ยูโร 4)ว่า หากกระทรวงพลังงานไม่มีการชะลอการบังคับใช้น้ำมันมาตรฐานยูโร 4 บริษัทฯก็พร้อมที่จะลงทุน ซึ่งหากลงทุนในช่วงนี้เชื่อว่าเสร็จทันก่อนที่จะบังคับใช้ในปี 2555 อย่างไรก็ตามในวันนี้จะมีการหารือร่วมกับกรมธุรกิจพลังงานต่อไป
***ค้านตั้ง"เสรีพิศุทธ์"เป็นกรรมการ
วานนี้ (7 เม.ย.) ในที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2552 บริษัท ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น จำกัด (มหาชน) ที่ประชุมฯได้มีการเสนอชื่อพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส เป็นกรรมการ แต่ผู้ถือหุ้นได้แสดงความเห็นคัดค้านไม่เห็นด้วย เนื่องจากเห็นว่าพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ มีคุณสมบัติไม่เหมาะสม ถูกปลดออกจากราชการ และมีคดีฟ้องร้อง จึงไม่น่าจะเสนอชื่อเป็นกรรมการ แต่ที่ปรึกษากฎหมายของบริษัทได้ชี้แจงว่าคดีฟ้องร้องของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ยังไม่ถึงที่สุด จึงยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นบุคคลที่มีความผิด ดังนั้นเมื่อมีการโหวตเลือกกรรมการพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์จึงได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการ
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส เป็นกรรมการในบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือปตท.
นายชายน้อย เผื่อนโกสุม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น จำกัด (มหาชน) (PTTAR) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมออกหุ้นกู้ขายให้นักลงทุนสถาบันและประชาชนทั่วไปวงเงินประมาณ 1 หมื่นล้านบาท อายุหุ้นกู้ 5-7 ปีภายในปลายเดือนเม.ย.นี้ โดยวงเงินดังกล่าวจะนำมาชำระคืนหนี้เงินกู้ระยะสั้นทั้งหมด เนื่องจากในช่วงนี้มีการออกหุ้นกู้จำนวนมากและบริษัทฯได้ถูกลดเครดิตเรตติ้งหุ้นกู้ลงเหลือ A- ทำให้อัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้น่าจะสูงเพื่อจูงใจนักลงทุน ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้นี้สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยของบริษัทฯที่อยู่ประมาณ 4%ต่อปี
ปัจจุบันบริษัทมีหนี้สินระยะสั้นประมาณ 1 หมื่นกว่าล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีเงินกู้ระยะสั้นจากสถาบันการเงินเพียง 2.5 พันล้านบาท ทั้งนี้เนื่องจากช่วงปลายปีราคาน้ำมันปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วทำให้บริษัทฯต้องกู้เงินระยะสั้นเพื่อมาใช้ในกิจการ ขณะที่โครงการอะโรเมติกส์หน่วย 2อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ดังนั้นบริษัทฯจึงวางแผนที่จะออกหุ้นกู้วงเงิน 7,000-10,000 ล้านบาทเพื่อเสนอขายต่อนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับสถาบันการเงินเพื่อกำหนดวงเงินกู้หุ้น และอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสม โดยจะมีการออกกรีนชู ออฟชั่นเพื่อรองรับความต้องการหุ้นกู้ของประชาชนทั่วไป
นายชายน้อย กล่าวต่อไปว่า ผลการดำเนินงานไตรมาสแรกปีนี้ บริษัทฯหวังว่าจะมีกำไรสุทธิ จากปี 2551 ที่บริษัทขาดทุนสุทธิ 8.46 พันล้านบาท เนื่องจากปีนี้บริษัทฯมีกำลังการผลิตทั้งโรงกลั่นและอะโรเมติกส์เพิ่มขึ้น ไม่มีบันทึกขาดทุนจากสต็อกน้ำมันเหมือนปลายปีที่แล้ว ขณะเดียวกัน ราคาผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์ได้ปรับตัวดีขึ้น โดยล่าสุดราคาตลาดจรของพาราไซลีนมาอยู่ที่ 1022 เหรียญสหรัฐ/ตัน สูงกว่าราคาคอนแทรคเมื่อเดือนมี.ค.ที่เฉลี่ย 880 เหรียญสหรัฐ/ตัน ขณะที่ราคาเบนซีนปรับขึ้นมาอยู่ที่ 604 เหรียญสหรัฐ/ตัน จากราคาคอนแทรคเมื่อเดือนก.พ.อยู่ที่ 388 เหรียญสหรัฐ/ตัน ทั้งนี้เนื่องจากจีนมีการอัดฉีดเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคสิ่งทอ ทำให้มีกำลังซื้อฟื้นกลับขึ้นมาในส่วนพาราไซลีนและเบนซีนทำให้ราคาผลิตภัณฑ์สูงขึ้น
นอกจากนี้ ในปี 2552 บริษัทฯจะได้ประโยชน์จากการSynegyร่วมกันทำให้ลดค่าใช้จ่ายลงได้ปีละ 100 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่บริษัทฯใช้กำลังการผลิตโรงอะโรเมติกส์อยู่ที่ 85%ของกำลังการผลิตรวม ซึ่งหากพบว่าราคาผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์ปรับตัวดีขึ้นก็อาจจะเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นมาอีก จากเดิมที่ต้องลดกำลังการผลิตลงเนื่องจากเบนซีนมีราคาต่ำมาก
สำหรับการลงทุนโครงการผลิตน้ำมันตามมาตรฐานยุโรป (ยูโร 4)ว่า หากกระทรวงพลังงานไม่มีการชะลอการบังคับใช้น้ำมันมาตรฐานยูโร 4 บริษัทฯก็พร้อมที่จะลงทุน ซึ่งหากลงทุนในช่วงนี้เชื่อว่าเสร็จทันก่อนที่จะบังคับใช้ในปี 2555 อย่างไรก็ตามในวันนี้จะมีการหารือร่วมกับกรมธุรกิจพลังงานต่อไป
***ค้านตั้ง"เสรีพิศุทธ์"เป็นกรรมการ
วานนี้ (7 เม.ย.) ในที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2552 บริษัท ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น จำกัด (มหาชน) ที่ประชุมฯได้มีการเสนอชื่อพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส เป็นกรรมการ แต่ผู้ถือหุ้นได้แสดงความเห็นคัดค้านไม่เห็นด้วย เนื่องจากเห็นว่าพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ มีคุณสมบัติไม่เหมาะสม ถูกปลดออกจากราชการ และมีคดีฟ้องร้อง จึงไม่น่าจะเสนอชื่อเป็นกรรมการ แต่ที่ปรึกษากฎหมายของบริษัทได้ชี้แจงว่าคดีฟ้องร้องของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ยังไม่ถึงที่สุด จึงยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นบุคคลที่มีความผิด ดังนั้นเมื่อมีการโหวตเลือกกรรมการพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์จึงได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการ
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส เป็นกรรมการในบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือปตท.
