ASTVผู้จัดการรายวัน - กลุ่ม 40 ส.ว.ผนึก นักวิชาการ แพทย์ นักธุรกิจ นายทหาร ตั้งกลุ่มสยามสามัคคี ออกแถลงการณ์ประฌาม ทักษิณ ละเมิดสถาบัน นำ เสื้อแดง-คอมมิวนิสต์อกหัก-นักการเมืองเสียอำนาจ โค้น โครงสร้างเดิมสังคมไทย-รัฐบาล-กองทัพ โดยอ้างประชาธิปไตยบังหน้า เรียกร้องประชาชนออกมาร่วมต้าน พล.อ.สมเจตน์ เผยนักธุรกิจทนไม่ได้กับพฤติกรรม นช.แม้ว ลงขัน 1 ล้านบาท เป็นรางวัลให้กับคนที่สามารถล่าตัวมาดำเนินคดี เชื่อ 5 เม.ย.เผด็จศึกไม่สำเร็จ ยืดได้ไม่เกิน 3 วัน ต้องเลิกม็อบ
ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต กลุ่มสยามสามัคคี ประกอบด้วย ข้าราชการบำนาญ กลุ่ม 40 ส.ว. นักวิชาการอิสระ แนวร่วมแพทย์เพื่อประชาธิปไตย และนักธุรกิจ จำนวน 20 คน อาทิ พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม อดีตเลขาธิการสำนักงานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) พล.อ.ภาษิต สนธิขันธ์ พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ นายคำนูณ สิทธิสมาน นายสมชาย แสวงการ นายไพบูลย์ นิติตะวัน นายวรินทร์ เทียมจรัส นางพรพรรณ บุญยรัตพันธุ์ ส.ว.สรรหา ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 1 เรื่องการล่วงละเมิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
นายสาย กังกเวคิน ส.ว.ระยอง และน.ส.สุมล สุตวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี ฯลฯ ร่วมกันออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 เรื่องการล่วงละเมิดต่อสถาบัน โดยระบุการกระทำของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงมีเจตนา จาบจ้วงสถาบัน ทั้งในทางเปิดเผยและทางลับ จึงขอเรียกร้องให้ประชาชนลุกขึ้น ต่อต้านการกระทำของคนเสื้อแดง
นายสมชาย แสวงการ อ่านแถลงการณ์ต่อว่า การล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ดำเนินการ มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งทางเปิดเผยและทางลับ ตั้งแต่เหตุการณ์วันที่ 19 กันยายน 2549 จากบุคคลบางคน เช่น คอมมิวนิสต์อกหัก นักการเมืองที่สูญเสียอำนาจ โดยการเคลื่อนไหวผ่านสื่ออินเทอร์เน็ต ใบปลิวและวิทยุชุมชน โดยมีกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นฐานกำลังโดยการเคลื่อนไหว โดยอ้างว่า ต้องการเรียกร้องประชาธิปไตย และต่อสู้กับเผด็จการแต่กลุ่มคนดังกล่าวได้ใช้ถ้อยคำ เพื่อหลีกเลี่ยงข้อกฎหมายต่อสู้กับระบอบอำมาตยาธิปไตย ที่สืบทอดกันมานับร้อยปี ในการที่จะโค่นล้มโครงสร้างเดิมของสังคมไทย นอกจากนี้ ยังปรากฏว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวได้โจมตีศาลและกระบวนการยุติธรรมองค์กรอิสระ โดยยังเรียกร้องให้ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษลาออก ทั้งที่รัฐธรรมนูญ ได้กำหนดว่า การพ้นจากตำแหน่ง ขององคมนตรี ต้องเป็นไปตามพระราชอำนาจ การกระทำดังกล่าวเป็นการล่วงละเมิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
เราจึงขอเรียกร้องให้ประชาชนร่วมลุกขึ้นมาต่อต้านประณามการกระทำของ พ.ต.ท.ทักษิณและกลุ่มบุคคลที่ร่วมมือกันกระทำการบังอาจล่วงละเมิดสถาบันและมีเป้าหมายให้เกิดสงครามประชาชน เพื่อโค่นล้มโครงสร้างเดิมของสังคมรัฐบาลและกองทัพ ต้องดำเนินการตามกฏหมายอย่างเคร่งครัดต่อผู้ล่วงละเมิดสถาบัน กระบวนการยุติธรรมต้องเร่งรัดดำเนินการกับพ.ต.ท.ทักษิณและขอให้ประชาชนที่หลงเชื่อ ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนได้ใคร่คราญให้รอบคอบว่าจะเป็นการก้าวเข้าสู่การก้าวล่วงสถาบันหรือไม่
พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม กล่าวเสริมว่าสถานการณ์ที่เกิดในประเทศขณะนี้ ถือเป็นสถานการณ์ที่วิกฤตของชาติ กลุ่มเราจึงได้มาร่วมกันที่จะตรวจสอบสถานการณ์ และมีความเห็นว่าตลอดระยะเวลา 9-10 วันที่ผ่านมา การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง มีการปราศรัยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่อาจทำให้สังคมไทยเกิดความแตกแยกมากขึ้น รวมทั้งมีการบิดเบือน สร้างความสับสนให้กระทบกระเทือนไปถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่เคารพของชาวไทยที่เป็นศูนย์รวมใจจิตใจของชนชาวไทยทั้งชาติ เหตุการณ์ที่เกิดเราต้องการชื้ให้เห็นว่าสิ่งที่เกิดเป็นภัยร้ายแรงของประเทศชาติ เราจึงร่วมกันหาหนทางให้คนไทยทุกคนต้องเข้าใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงเสนอให้หลายฝ่ายเข้ามาแก้ปัญหาไม่ให้สู่จุดวิกฤต
พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า ขณะนี้นักธุรกิจผู้มีความปรารถนาดีต่อประเทศชาติ ได้เล็งเห็นว่าพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนักโทษหลบหนีคดีจึงได้มอบรางวัลเงินเบื้องต้น 1 ล้านบาท เพื่อเป็นรางวัลนำจับให้กลุ่มบุคคลที่สามารถนำ พ.ต.ท.ทักษิณมาดำเนินการ ตามกฎหมายได้
ทั้งนี้ตนไม่สามารถเปิดเผยชื่อได้ เพราะขณะนี้มีหลายคน ที่แสดงความปรารถนาจะบริจาคให้ทางกลุ่มอีก ยืนยันกลุ่มผู้บริจาคไม่ได้เกี่ยวกับการเมืองแต่เป็นนักธุรกิจไม่ได้มาจากหน่วยงานไหน และมีหลายคนเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นภัยร้ายแรงต่อประเทศ ที่นำความทุกข์ร้อนมาให้ประชาชนทุกเหล่า จึงคิดว่า หากนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณมารับโทษตามกระบวนการยุติธรรมแล้วปัญหาต่างๆจะคลี่คลายลง
นายคำนูณ กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมใหญ่ของกลุ่มเสื้อแดงที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 8 เม.ย.ว่า ขึ้นอยู่ว่าจะมีคนมามากน้อยแค่ไหน ถ้ารัฐบาลได้รักษากฎหมาย เปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็นได้เสรีภายใต้กฎหมายปราศจากอาวุธถ้าทำได้เช่นนั้นก็ไม่น่ามีเหตุวุ่นวายได้ และที่ผ่านมาก็มีการชุมนุมเกือบ 200 วันแล้ว หากทั้งสองฝ่าย ยึดมั่นโดยสงบ และผู้รักษากฎหมายอดทน ก็เชื่อว่าไม่น่ามีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น ส่วนการชุมนุมดังกล่าวจะแตกหักยืดเยื้อหรือไม่นั้นก็สามารถยืดเยื้อได้ 3 วัน เพราะประชาชนจะเดินทางออกต่างจังหวัดไปเทศกาลสงกรานต์แล้ว ดังนั้นเชื่อว่า การชุมนุมใหญ่ครั้งนี้จะประกาศยุติการชุมนุมและกลับมาชุมนุมใหม่อีกครั้งหลังเทศกาลสงกรานต์
ผู้สื่อข่าวถามว่าทางกลุ่มประเมินอย่างไรที่กลุ่มคนเสื้อแดงจะไปชุมนุมกดดันที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ด้วย นายคำนูณ กล่าวว่า บ้านเมืองเราทุกฝ่ายตลอดเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ทุกคนมีบทเรียนไม่ว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะขนาดเล็กหรือใหญ่ และหากรัฐบาลจะตั้งรับอย่างไร มันมีสัจธรรมว่าใครใช้ความรุนแรงก่อน ดังนั้นมวลชนที่เข้ามาก็ต้องระมัดระวังให้อยู่ในกรอบสันติ และรัฐบาลต้องอดทน
ทั้งนี้ หากดูคำกล่าวของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี หลังกลับจากต่างประเทศก็ได้เฝ้าติดตามคำพูดของกลุ่มผู้ชุมนุมที่พูดเนื้อหากระทบเข้าข่ายความมั่นคงของรัฐ ซึ่งรัฐบาลก็พิจารณาดำเนินการ ซึ่งรัฐบาลจะดำเนินการโดยรอบคอบ กลุ่มเราจึงสงวนท่าทีรัฐบาลตรงนี้ด้วย
นายสมชาย กล่าวเสริมว่า กลุ่มเรามองว่าการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง มีการละเมิดสถาบัน ส่วนที่กลุ่มคนเสื้อแดงอ้างว่าองคมนตรีไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์นั้น องคมนตรีเป็นคณะที่ปรึกษาตั้งโดยพระมหากษัตริย์ โดยพระราชอำนาจและพระราชอัธยาศัยจึงชัดเจนมาก
ผู้สื่อข่าวถามว่าแสดงว่าการโจมตีสถาบันองคมนตรีขณะนี้ก้าวล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ นายสมชาย กล่าวว่า ใช่ ละเมิดด้วย ส่วนทางกลุ่มจะมีมาตรการขั้นนต่อไปหากกลุ่มคนเสื้อแดงยังไม่หยุดโจมตีสถาบัน ทางคณะทำงานเราคงต้องขยาย เครือข่ายออกไป โดยจะไปประชุมในแต่ละกลุ่มพร้อมกับประเมินสถานการณ์และเคลื่อนไหวเพื่อแสดงออกถึงการไม่เห็นด้วย การอยู่เฉยไม่ใช่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทักษิณและพวกที่ละเมิดสถาบัน แต่กลุ่มเราก็คงจะมีการประเมินเป็นระยะในช่วงวิกฤตขณะนี้ และติดตามการทำงานของรัฐบาลด้วย
ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต กลุ่มสยามสามัคคี ประกอบด้วย ข้าราชการบำนาญ กลุ่ม 40 ส.ว. นักวิชาการอิสระ แนวร่วมแพทย์เพื่อประชาธิปไตย และนักธุรกิจ จำนวน 20 คน อาทิ พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม อดีตเลขาธิการสำนักงานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) พล.อ.ภาษิต สนธิขันธ์ พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ นายคำนูณ สิทธิสมาน นายสมชาย แสวงการ นายไพบูลย์ นิติตะวัน นายวรินทร์ เทียมจรัส นางพรพรรณ บุญยรัตพันธุ์ ส.ว.สรรหา ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 1 เรื่องการล่วงละเมิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
นายสาย กังกเวคิน ส.ว.ระยอง และน.ส.สุมล สุตวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี ฯลฯ ร่วมกันออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 เรื่องการล่วงละเมิดต่อสถาบัน โดยระบุการกระทำของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงมีเจตนา จาบจ้วงสถาบัน ทั้งในทางเปิดเผยและทางลับ จึงขอเรียกร้องให้ประชาชนลุกขึ้น ต่อต้านการกระทำของคนเสื้อแดง
นายสมชาย แสวงการ อ่านแถลงการณ์ต่อว่า การล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ดำเนินการ มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งทางเปิดเผยและทางลับ ตั้งแต่เหตุการณ์วันที่ 19 กันยายน 2549 จากบุคคลบางคน เช่น คอมมิวนิสต์อกหัก นักการเมืองที่สูญเสียอำนาจ โดยการเคลื่อนไหวผ่านสื่ออินเทอร์เน็ต ใบปลิวและวิทยุชุมชน โดยมีกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นฐานกำลังโดยการเคลื่อนไหว โดยอ้างว่า ต้องการเรียกร้องประชาธิปไตย และต่อสู้กับเผด็จการแต่กลุ่มคนดังกล่าวได้ใช้ถ้อยคำ เพื่อหลีกเลี่ยงข้อกฎหมายต่อสู้กับระบอบอำมาตยาธิปไตย ที่สืบทอดกันมานับร้อยปี ในการที่จะโค่นล้มโครงสร้างเดิมของสังคมไทย นอกจากนี้ ยังปรากฏว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวได้โจมตีศาลและกระบวนการยุติธรรมองค์กรอิสระ โดยยังเรียกร้องให้ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษลาออก ทั้งที่รัฐธรรมนูญ ได้กำหนดว่า การพ้นจากตำแหน่ง ขององคมนตรี ต้องเป็นไปตามพระราชอำนาจ การกระทำดังกล่าวเป็นการล่วงละเมิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
เราจึงขอเรียกร้องให้ประชาชนร่วมลุกขึ้นมาต่อต้านประณามการกระทำของ พ.ต.ท.ทักษิณและกลุ่มบุคคลที่ร่วมมือกันกระทำการบังอาจล่วงละเมิดสถาบันและมีเป้าหมายให้เกิดสงครามประชาชน เพื่อโค่นล้มโครงสร้างเดิมของสังคมรัฐบาลและกองทัพ ต้องดำเนินการตามกฏหมายอย่างเคร่งครัดต่อผู้ล่วงละเมิดสถาบัน กระบวนการยุติธรรมต้องเร่งรัดดำเนินการกับพ.ต.ท.ทักษิณและขอให้ประชาชนที่หลงเชื่อ ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนได้ใคร่คราญให้รอบคอบว่าจะเป็นการก้าวเข้าสู่การก้าวล่วงสถาบันหรือไม่
พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม กล่าวเสริมว่าสถานการณ์ที่เกิดในประเทศขณะนี้ ถือเป็นสถานการณ์ที่วิกฤตของชาติ กลุ่มเราจึงได้มาร่วมกันที่จะตรวจสอบสถานการณ์ และมีความเห็นว่าตลอดระยะเวลา 9-10 วันที่ผ่านมา การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง มีการปราศรัยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่อาจทำให้สังคมไทยเกิดความแตกแยกมากขึ้น รวมทั้งมีการบิดเบือน สร้างความสับสนให้กระทบกระเทือนไปถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่เคารพของชาวไทยที่เป็นศูนย์รวมใจจิตใจของชนชาวไทยทั้งชาติ เหตุการณ์ที่เกิดเราต้องการชื้ให้เห็นว่าสิ่งที่เกิดเป็นภัยร้ายแรงของประเทศชาติ เราจึงร่วมกันหาหนทางให้คนไทยทุกคนต้องเข้าใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงเสนอให้หลายฝ่ายเข้ามาแก้ปัญหาไม่ให้สู่จุดวิกฤต
พล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า ขณะนี้นักธุรกิจผู้มีความปรารถนาดีต่อประเทศชาติ ได้เล็งเห็นว่าพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนักโทษหลบหนีคดีจึงได้มอบรางวัลเงินเบื้องต้น 1 ล้านบาท เพื่อเป็นรางวัลนำจับให้กลุ่มบุคคลที่สามารถนำ พ.ต.ท.ทักษิณมาดำเนินการ ตามกฎหมายได้
ทั้งนี้ตนไม่สามารถเปิดเผยชื่อได้ เพราะขณะนี้มีหลายคน ที่แสดงความปรารถนาจะบริจาคให้ทางกลุ่มอีก ยืนยันกลุ่มผู้บริจาคไม่ได้เกี่ยวกับการเมืองแต่เป็นนักธุรกิจไม่ได้มาจากหน่วยงานไหน และมีหลายคนเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นภัยร้ายแรงต่อประเทศ ที่นำความทุกข์ร้อนมาให้ประชาชนทุกเหล่า จึงคิดว่า หากนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณมารับโทษตามกระบวนการยุติธรรมแล้วปัญหาต่างๆจะคลี่คลายลง
นายคำนูณ กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมใหญ่ของกลุ่มเสื้อแดงที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 8 เม.ย.ว่า ขึ้นอยู่ว่าจะมีคนมามากน้อยแค่ไหน ถ้ารัฐบาลได้รักษากฎหมาย เปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็นได้เสรีภายใต้กฎหมายปราศจากอาวุธถ้าทำได้เช่นนั้นก็ไม่น่ามีเหตุวุ่นวายได้ และที่ผ่านมาก็มีการชุมนุมเกือบ 200 วันแล้ว หากทั้งสองฝ่าย ยึดมั่นโดยสงบ และผู้รักษากฎหมายอดทน ก็เชื่อว่าไม่น่ามีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น ส่วนการชุมนุมดังกล่าวจะแตกหักยืดเยื้อหรือไม่นั้นก็สามารถยืดเยื้อได้ 3 วัน เพราะประชาชนจะเดินทางออกต่างจังหวัดไปเทศกาลสงกรานต์แล้ว ดังนั้นเชื่อว่า การชุมนุมใหญ่ครั้งนี้จะประกาศยุติการชุมนุมและกลับมาชุมนุมใหม่อีกครั้งหลังเทศกาลสงกรานต์
ผู้สื่อข่าวถามว่าทางกลุ่มประเมินอย่างไรที่กลุ่มคนเสื้อแดงจะไปชุมนุมกดดันที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ด้วย นายคำนูณ กล่าวว่า บ้านเมืองเราทุกฝ่ายตลอดเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ทุกคนมีบทเรียนไม่ว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะขนาดเล็กหรือใหญ่ และหากรัฐบาลจะตั้งรับอย่างไร มันมีสัจธรรมว่าใครใช้ความรุนแรงก่อน ดังนั้นมวลชนที่เข้ามาก็ต้องระมัดระวังให้อยู่ในกรอบสันติ และรัฐบาลต้องอดทน
ทั้งนี้ หากดูคำกล่าวของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี หลังกลับจากต่างประเทศก็ได้เฝ้าติดตามคำพูดของกลุ่มผู้ชุมนุมที่พูดเนื้อหากระทบเข้าข่ายความมั่นคงของรัฐ ซึ่งรัฐบาลก็พิจารณาดำเนินการ ซึ่งรัฐบาลจะดำเนินการโดยรอบคอบ กลุ่มเราจึงสงวนท่าทีรัฐบาลตรงนี้ด้วย
นายสมชาย กล่าวเสริมว่า กลุ่มเรามองว่าการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง มีการละเมิดสถาบัน ส่วนที่กลุ่มคนเสื้อแดงอ้างว่าองคมนตรีไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์นั้น องคมนตรีเป็นคณะที่ปรึกษาตั้งโดยพระมหากษัตริย์ โดยพระราชอำนาจและพระราชอัธยาศัยจึงชัดเจนมาก
ผู้สื่อข่าวถามว่าแสดงว่าการโจมตีสถาบันองคมนตรีขณะนี้ก้าวล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ นายสมชาย กล่าวว่า ใช่ ละเมิดด้วย ส่วนทางกลุ่มจะมีมาตรการขั้นนต่อไปหากกลุ่มคนเสื้อแดงยังไม่หยุดโจมตีสถาบัน ทางคณะทำงานเราคงต้องขยาย เครือข่ายออกไป โดยจะไปประชุมในแต่ละกลุ่มพร้อมกับประเมินสถานการณ์และเคลื่อนไหวเพื่อแสดงออกถึงการไม่เห็นด้วย การอยู่เฉยไม่ใช่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทักษิณและพวกที่ละเมิดสถาบัน แต่กลุ่มเราก็คงจะมีการประเมินเป็นระยะในช่วงวิกฤตขณะนี้ และติดตามการทำงานของรัฐบาลด้วย
