ฝ่ามรสุม 2เดือนแรก “ทีวีบูรพา” เหนื่อย ขายโฆษณาได้ 50% หน้าร้อนนี้ยิ้มได้ เหตุปิดเทอมสินค้าหลายรายการจ่อคิวใช้เงินมากขึ้น อานิสงส์ช่อง9ไม่ปรับค่าโฆษณา ส่งยอดโฆษณากระเตื้องขึ้นเป็น 70% เผยคว้า 3รายการผลิตป้อนช่อง11 มั่นใจสิ้นปีโกย 100 ล้านบาทตามที่ตั้งเป้าไว้
นายสุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีวีบูรพา จำกัด และบริษัท บ้านบันดาลใจ จำกัด ในเครือบริษัท เจ เอส แอล จำกัด เปิดเผยว่า ช่วงเดือนม.ค.-ก.พ.ที่ผ่านมา พบว่าเป็นช่วงที่เศรษฐกิจค่อนข้างแย่ ลูกค้าเอเจนซี่ยอมจ่ายเงินซื้อสื่อโฆษณาโทรทัศน์ลดลง โดยในส่วนรายการที่บริษัทผลิตอยู่นั้น ภาพรวมสามารถขายโฆษณาได้เพียง 50%เทียบกับเวลาที่สามารถโฆษณาได้ แต่พอเข้าสู่เดือนมี.ค.-เม.ย.นี้ กลับพบว่า ลูกค้ามีแนวโน้มซื้อสื่อโฆษณาสูงขึ้น จนทำให้บริษัทขายโฆษณาได้เพิ่มขึ้นเป็น70-80%
“การที่มี.ค.-เม.ย.นี้บริษัทขายโฆษณาได้มากขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงปิดเทอม หลายผลิตภัณฑ์พร้อมใจที่จะเน้นเรื่องของโฆษณาขายมากขึ้น บวกกับ อสมท ไม่ได้มีการปรับราคาค่าโฆษณาเพิ่มขึ้น อย่างที่สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 และช่อง 7 ได้ปรับขึ้นอีก ทำให้ลูกค้าเอเจนซี่สนใจมาลงโฆษณากับ อสมท แทน”
นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม จากปัจจุบันบริษัทมีรายการโทรทัศน์ที่ผลิตอยู่ทั้งหมด 3 รายการ คือ ฅนค้นฅน กบนอกกะลา และล่าสุดกับ คิดข้ามเมฆ ออกอากาศทาง ช่อง9โมเดิร์นไนน์ ทั้งหมด แต่อีก1รายการที่รับจ้างผลิตให้กับทีวีไทย ซึ่งจบไประยะหนึ่งแล้วนั้น ส่งผลให้มีทีมการทำงานที่ว่างงานจำนวนหนึ่ง ทำให้บริษัทต้องมีการจัดการ คิดนอกแผนจากที่วางไว้ โดยการเข้าไปขอเวลากับทางสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ (ช่อง11) สำหรับผลิตรายการอีก1รายการ คือ รายการ แผ่นดินมหัศจรรย์ บ้านฉันบ้านเธอ ซึ่งเป็นรายการสำหรับเด็ก และเคยออกอากาศทางโมเดิร์นไนน์มาแล้ว ส่งผลให้บริษัทสามารถจัดการให้ทีมงานได้ทำงานกันครบ
ล่าสุดทางบริษัท ยังได้รับจ้างผลิตรายการป้อนช่อง11อีก 2รายการ เริ่มออกอากาศในผังรายการประจำเดือนเม.ย.อีกส่วนหนึ่งด้วย คือ หมู่บ้านฐานไทย ซึ่งทางสสส.หรือสำนักงานกองทุนการสร้างเสริมสุขภาพ ได้เป็นผู้สนับสนุนหลักให้กับรายการนี้ เป็นรายการที่มุ่งเน้นเรื่องของชุมชนเข้มแข็ง และเรื่องของเศรษฐกิจพอเพียง ส่วนอีก 1รายการคือ สถานีแรงงาน ได้รับการสนับสนุนจากทางกระทรวงแรงงาน ในการที่จะเป็นส่วนหนึ่งที่คาดว่าจะเพิ่มช่องทางให้แรงงานไทยดีขึ้น ซึ่งทางช่อง11มอบให้ทางบริษัทเป็นผู้ดูแลในการผลิตรายการทั้ง2ให้
“การรับจ้างผลิตมีผลดี คือ ความเสี่ยงน้อย แต่อย่างไรก็ตามบริษัทไม่ได้มุ่งเน้นมาทางรับจ้างผลิตแต่อย่างไร แต่ถือว่าครั้งนี้เป็นโอกาสที่ดี และเป็นสิ่งที่อยู่นอกแผน มองว่าในภาพรวม จะช่วยให้บริษัทมีรายได้เท่าปีที่ผ่านมา หรือมีรายได้ที่ 100ล้านบาท ตามที่วางไว้” นายสุทธิพงษ์ กล่าวในที่สุด
นายสุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีวีบูรพา จำกัด และบริษัท บ้านบันดาลใจ จำกัด ในเครือบริษัท เจ เอส แอล จำกัด เปิดเผยว่า ช่วงเดือนม.ค.-ก.พ.ที่ผ่านมา พบว่าเป็นช่วงที่เศรษฐกิจค่อนข้างแย่ ลูกค้าเอเจนซี่ยอมจ่ายเงินซื้อสื่อโฆษณาโทรทัศน์ลดลง โดยในส่วนรายการที่บริษัทผลิตอยู่นั้น ภาพรวมสามารถขายโฆษณาได้เพียง 50%เทียบกับเวลาที่สามารถโฆษณาได้ แต่พอเข้าสู่เดือนมี.ค.-เม.ย.นี้ กลับพบว่า ลูกค้ามีแนวโน้มซื้อสื่อโฆษณาสูงขึ้น จนทำให้บริษัทขายโฆษณาได้เพิ่มขึ้นเป็น70-80%
“การที่มี.ค.-เม.ย.นี้บริษัทขายโฆษณาได้มากขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงปิดเทอม หลายผลิตภัณฑ์พร้อมใจที่จะเน้นเรื่องของโฆษณาขายมากขึ้น บวกกับ อสมท ไม่ได้มีการปรับราคาค่าโฆษณาเพิ่มขึ้น อย่างที่สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 และช่อง 7 ได้ปรับขึ้นอีก ทำให้ลูกค้าเอเจนซี่สนใจมาลงโฆษณากับ อสมท แทน”
นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม จากปัจจุบันบริษัทมีรายการโทรทัศน์ที่ผลิตอยู่ทั้งหมด 3 รายการ คือ ฅนค้นฅน กบนอกกะลา และล่าสุดกับ คิดข้ามเมฆ ออกอากาศทาง ช่อง9โมเดิร์นไนน์ ทั้งหมด แต่อีก1รายการที่รับจ้างผลิตให้กับทีวีไทย ซึ่งจบไประยะหนึ่งแล้วนั้น ส่งผลให้มีทีมการทำงานที่ว่างงานจำนวนหนึ่ง ทำให้บริษัทต้องมีการจัดการ คิดนอกแผนจากที่วางไว้ โดยการเข้าไปขอเวลากับทางสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ (ช่อง11) สำหรับผลิตรายการอีก1รายการ คือ รายการ แผ่นดินมหัศจรรย์ บ้านฉันบ้านเธอ ซึ่งเป็นรายการสำหรับเด็ก และเคยออกอากาศทางโมเดิร์นไนน์มาแล้ว ส่งผลให้บริษัทสามารถจัดการให้ทีมงานได้ทำงานกันครบ
ล่าสุดทางบริษัท ยังได้รับจ้างผลิตรายการป้อนช่อง11อีก 2รายการ เริ่มออกอากาศในผังรายการประจำเดือนเม.ย.อีกส่วนหนึ่งด้วย คือ หมู่บ้านฐานไทย ซึ่งทางสสส.หรือสำนักงานกองทุนการสร้างเสริมสุขภาพ ได้เป็นผู้สนับสนุนหลักให้กับรายการนี้ เป็นรายการที่มุ่งเน้นเรื่องของชุมชนเข้มแข็ง และเรื่องของเศรษฐกิจพอเพียง ส่วนอีก 1รายการคือ สถานีแรงงาน ได้รับการสนับสนุนจากทางกระทรวงแรงงาน ในการที่จะเป็นส่วนหนึ่งที่คาดว่าจะเพิ่มช่องทางให้แรงงานไทยดีขึ้น ซึ่งทางช่อง11มอบให้ทางบริษัทเป็นผู้ดูแลในการผลิตรายการทั้ง2ให้
“การรับจ้างผลิตมีผลดี คือ ความเสี่ยงน้อย แต่อย่างไรก็ตามบริษัทไม่ได้มุ่งเน้นมาทางรับจ้างผลิตแต่อย่างไร แต่ถือว่าครั้งนี้เป็นโอกาสที่ดี และเป็นสิ่งที่อยู่นอกแผน มองว่าในภาพรวม จะช่วยให้บริษัทมีรายได้เท่าปีที่ผ่านมา หรือมีรายได้ที่ 100ล้านบาท ตามที่วางไว้” นายสุทธิพงษ์ กล่าวในที่สุด