สาทิตย์ เล็งหาพื้นที่เวลาให้คนถูกพาดพิงจากอดีตนายกฯทักษิณชี้แจง ผ่าน สถานีโทรทัศน์แห่งชาติ แย้มขึ้นอยู่กับตัวรายการสามารถทำได้ ล่าสุดเปิดม่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ มาพร้อมโลโก้ใหม่ ผังรายการใหม่ ดึงผู้ผลิตร่วมรายการใหม่กว่า 24รายการ วางตัวเป็นเครื่องมือของรัฐ มุ่งเน้นเรื่องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และปัญหาความขัดแย้ง ลดรายการข่าวเสริมรายการให้สาระความรู้ จีบหน่วยงานภาครัฐร่วมสนับสนุนรายการเพิ่ม
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กรณีที่ นช.ทักษิณ ชินวัตร ได้ออกมากล่าวพาดพิงถึงบุคคลอื่นผ่านวิดีโอลิงก์นั้น ตนมีแนวคิดว่า จะใช้พื้นที่เวลาของทางสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ(ช่อง11เดิม) ให้สำหรับบางบุคคลที่ถูกพาดพิงได้มาชี้แจง แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับแต่ละรายการด้วยว่า จะตรงกับนโยบายของทางรายการนั้นๆหรือไม่ ในการที่จะเปิดโอกาสให้บุคคลเหล่านี้ได้ออกมาชี้แจงผ่านรายการ
ล่าสุดในส่วนของช่อง11 ในวันที่ 1เม.ย.นี้ ได้ก้าวเข้าสู่ความเป็นสถานีโทรทัศน์แห่งชาติอย่างเต็มรูปแบบ โดยจะต้องพร้อมที่จะเข้าไปแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคม พร้อมสะท้อนมุมมองและให้ความหวังผ่านตัวรายการด้วย ซึ่งผังรายการใหม่ที่เกิดขึ้นพร้อมกันนี้ จะมีการประเมินอีกครั้งใน 3 เดือนหลังจากนี้ โดยคณะกรรมการการประเมิน ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการแต่งตั้งต่อไป
สำหรับการก้าวสู่ความเป็นสถานีโทรทัศน์แห่งชาติของทางช่อง 11 ครั้งนี้ จะวางตำแหน่งของสถานีฯ เป็นสถานีโทรทัศน์ที่มีเครือข่ายที่เข้มแข็ง ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ เสนอข่าวที่เป็นทางการและเชื่อถือได้ เป็นสถานีฯข่าวดีประเทศไทย พร้อมทั้งมุ่งเน้นการพัฒนาบุคคลากรและองค์กรให้คงความเป็นมืออาชีพ ด้านการสื่อสารมวลชน พัฒนาองค์กรส่วนกลางและส่วนภูมิภาค
ทั้งนี้ ในส่วนของความเป็นสถานีฯข่าวดีประเทศไทยนั้น จะมุ่งเน้นการนำเสนอข่าวสาร แนวทางแก้ปัญหาของชาติ เพื่อสร้างพื้นที่ข่าวที่ให้ความหวัง และรวมพลังในการแก้ปัญหา นำเสนอนโยบายของรัฐบาล เพื่อสื่อถึงประชาชนและสะท้อนมุมมองของประชาชน ให้สาระความรู้ คืนกำไรให้สังคม และเป็นการให้สาระข้อมูลที่รอบด้านเป็นกลาง เชื่อถือได้
เปิดม่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ
นายสุริยงค์ หุณฑสาร ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ (ช่อง11) กล่าวว่า ภายหลังจากที่ได้รับนโยบายจากนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทางสถานีฯ ได้มีการปรับตัวเพื่อให้พร้อมในการเปิดตัวครั้งใหม่ในวันที่ 1เม.ย. กับโพซิชั่นนิ่งสถานีสู่ความเป็นสถานีโทรทัศน์แห่งชาติอย่างเต็มรูปแบบ
โดยในส่วนของสัญลักษณ์(โลโก้)สถานีฯนั้น ได้มีการจัดทำขึ้นใหม่ มาจากการออกแบบโดยบุคคลภายนอก หลังเปิดโอกาสให้ส่งผลงานเข้าร่วมประกวดกว่า 2,559 ชิ้น ทางสถานีฯได้คัดเลือกสัญลักษณ์ของสถานีฯ จากคณะกรรมการซึ่งเป็นบุคคลภายนอกองค์กรทั้งสิ้น โดยโลโก้ใหม่ของสถานีโทรทัศน์แห่งชาติครั้งนี้ จะเป็นลักษณะของ สังข์ มีสีม่วง ซึ่งเป็นสีของกรมประชาสัมพันธ์ พร้อมตัวอักษรสามตัว คือ สทท. คือคำย่อของสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ด้วยคอนเซ็ปต์ต้องการคงไว้ซึ่งเรื่องราวความหมายที่เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม การให้คุณค่าของไทย นำมาดัดแปลงให้ร่วมสมัย
ส่วนนโยบายที่ทางสถานีฯรับมานั้น จากเดิมสถานีฯมีความเป็นสื่อของรัฐบาล ต้องตอบสนองนโยบายของรัฐ ดังนั้นจึงต้องรับนโยบายมา แล้วแปลงมาเพื่อการปฏิบัติ โดยเฉพาะในเรื่องของความเป็นสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ ที่จะต้องเป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาของชาติ โดยหลักๆในเวลานี้ คือ เรื่องของปัญหาเศรษฐกิจ และเรื่องของความขัดแย้งภายในชาติที่กำลังเกิดขึ้น โดยเราจะต้องมุ่งเน้นให้ความรู้แก่ประชาชน
ส่งผลให้ผังรายการใหม่ที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1เม.ย.นี้เป็นต้นไป ในส่วนของช่วงเวลาข่าวนั้น จากเดิมที่มีสัดส่วนกว่า 50% ของชั่วโมง ในการนำเสนอรายการต่อวัน หรือกว่าวันละ 9 ชั่วโมงครึ่ง ปรับลดเหลือเพียง7-8 ชั่วโมง โดยจะนำช่วงเวลาที่หายไปนี้ ไปเพิ่มในส่วนรายการที่ให้สาระประโยชน์แก่ประชาชนแทน โดยเฉพาะในช่วงไพร์มไทม์ ซึ่งจะตรงกับนโยบายของทางสถานีฯต่อไป
สำหรับผังรายการใหม่ครั้งนี้ประกอบด้วย ข่าว 35% สาระเพื่อสังคม 28% กีฬา/สันทนาการ 12% นโยบายภาครัฐ 12% ศาสนา การศึกษา 7% สถาบัน 4% และสุขภาพ 1% ซึ่งรูปแบบรายการช่วงไพร์มไทม์นั้น จะมีรายการใหม่เข้ามาทั้งในรูปแบบทอร์คและสารคดี เช่น สถานีแรงงาน ในวันจันทร์ เวลา 21.00-22.00น.,เป็นรายการรับจ้างผลิต โดยทางสถานีฯร่วมกับทางกระทรวงแรงงานผลิตร่วมกัน และทางทีวีบูรพา(ในเครือเจเอสแอล) เข้ามารับจ้างผลิตรายการ, รายการ หมู่บ้านฐานไท ในวันพฤหัสบดี เวลา 21.00-22.00น. เน้นเรื่องของชุมชนพอเพียง ผลิตโดย ทีวีบูรพา และรายการ ลงเอย อย่างไร คืนวันศุกร์ เวลา21.00-22.00น. ดำเนินรายการโดยนายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง และรายการฟังเราบ้าง คืนวันอังคาร เวลา 21.00-22.00น. โดยนายปองพล อดิเรกสาร เป็นผู้ดำเนินรายการ
ทั้งนี้จะเห็นว่าผังรายการใหม่นี้ จะมีรายการใหม่เข้ามารวมกว่า 24รายการ ซึ่งมีทั้งร่วมผลิต รับจ้างผลิต และการเช่าเวลา อย่างไรก็ตามผังรายการครั้งนี้ ทางสถานีฯได้เพิ่มรายการ แก็ง การ์ตูน จูเนียร์ ทุกเย็นวันอังคารถึงวันศุกร์ เวลา 17.00-17.30น.ซึ่งผังรายการใหม่นี้ คาดหวังว่าทางสถานีฯจะมีฐานคนดูเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเด็ก แรงงาน คนพิการ และบุคคลทั่วไป
นายสุริยงค์ กล่าวต่อว่า ในส่วนเรื่องของรายได้นั้น ส่วนใหญ่จะมาจากการให้เช่าเวลา และรายการร่วมผลิต ซึ่งปีนี้ยังไม่ได้วางเป้ารายได้ไว้ว่าจะมีมากน้อยเพียงใด แต่ในปีที่ผ่านมาทางสถานีฯหารายได้ได้กว่า 207ล้านบาท ขณะที่รายการที่ออกอากาศฟรี คิดเป็นมูลค่าถึง 350ล้านบาท โดยทางกรมประชาสัมพันธ์มีงบประมาณสนับสนุนให้ทางสถานีฯราว15ล้านบาทต่อปี ภายใต้พนักงานภายในองค์กรประมาณ 411คน เป็นข้าราชการ 90คน นอกนั้นเป็นลูกจ้างประจำและชั่วคราว จากรายได้ที่กล่าวมา จะเห็นว่าค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับสถานีโทรทัศน์ช่องอื่นๆ ดังนั้นทางสถานีจึงต้องมีการหาช่องทางอื่นเพื่อเพิ่มรายได้ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าไปติดต่อกับทางหน่วยงานราชการ เพื่อของบสนับสนุนในการทำรายการต่างๆอีกช่องทางหนึ่งด้วย
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กรณีที่ นช.ทักษิณ ชินวัตร ได้ออกมากล่าวพาดพิงถึงบุคคลอื่นผ่านวิดีโอลิงก์นั้น ตนมีแนวคิดว่า จะใช้พื้นที่เวลาของทางสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ(ช่อง11เดิม) ให้สำหรับบางบุคคลที่ถูกพาดพิงได้มาชี้แจง แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับแต่ละรายการด้วยว่า จะตรงกับนโยบายของทางรายการนั้นๆหรือไม่ ในการที่จะเปิดโอกาสให้บุคคลเหล่านี้ได้ออกมาชี้แจงผ่านรายการ
ล่าสุดในส่วนของช่อง11 ในวันที่ 1เม.ย.นี้ ได้ก้าวเข้าสู่ความเป็นสถานีโทรทัศน์แห่งชาติอย่างเต็มรูปแบบ โดยจะต้องพร้อมที่จะเข้าไปแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคม พร้อมสะท้อนมุมมองและให้ความหวังผ่านตัวรายการด้วย ซึ่งผังรายการใหม่ที่เกิดขึ้นพร้อมกันนี้ จะมีการประเมินอีกครั้งใน 3 เดือนหลังจากนี้ โดยคณะกรรมการการประเมิน ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการแต่งตั้งต่อไป
สำหรับการก้าวสู่ความเป็นสถานีโทรทัศน์แห่งชาติของทางช่อง 11 ครั้งนี้ จะวางตำแหน่งของสถานีฯ เป็นสถานีโทรทัศน์ที่มีเครือข่ายที่เข้มแข็ง ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ เสนอข่าวที่เป็นทางการและเชื่อถือได้ เป็นสถานีฯข่าวดีประเทศไทย พร้อมทั้งมุ่งเน้นการพัฒนาบุคคลากรและองค์กรให้คงความเป็นมืออาชีพ ด้านการสื่อสารมวลชน พัฒนาองค์กรส่วนกลางและส่วนภูมิภาค
ทั้งนี้ ในส่วนของความเป็นสถานีฯข่าวดีประเทศไทยนั้น จะมุ่งเน้นการนำเสนอข่าวสาร แนวทางแก้ปัญหาของชาติ เพื่อสร้างพื้นที่ข่าวที่ให้ความหวัง และรวมพลังในการแก้ปัญหา นำเสนอนโยบายของรัฐบาล เพื่อสื่อถึงประชาชนและสะท้อนมุมมองของประชาชน ให้สาระความรู้ คืนกำไรให้สังคม และเป็นการให้สาระข้อมูลที่รอบด้านเป็นกลาง เชื่อถือได้
เปิดม่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ
นายสุริยงค์ หุณฑสาร ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ (ช่อง11) กล่าวว่า ภายหลังจากที่ได้รับนโยบายจากนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทางสถานีฯ ได้มีการปรับตัวเพื่อให้พร้อมในการเปิดตัวครั้งใหม่ในวันที่ 1เม.ย. กับโพซิชั่นนิ่งสถานีสู่ความเป็นสถานีโทรทัศน์แห่งชาติอย่างเต็มรูปแบบ
โดยในส่วนของสัญลักษณ์(โลโก้)สถานีฯนั้น ได้มีการจัดทำขึ้นใหม่ มาจากการออกแบบโดยบุคคลภายนอก หลังเปิดโอกาสให้ส่งผลงานเข้าร่วมประกวดกว่า 2,559 ชิ้น ทางสถานีฯได้คัดเลือกสัญลักษณ์ของสถานีฯ จากคณะกรรมการซึ่งเป็นบุคคลภายนอกองค์กรทั้งสิ้น โดยโลโก้ใหม่ของสถานีโทรทัศน์แห่งชาติครั้งนี้ จะเป็นลักษณะของ สังข์ มีสีม่วง ซึ่งเป็นสีของกรมประชาสัมพันธ์ พร้อมตัวอักษรสามตัว คือ สทท. คือคำย่อของสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ด้วยคอนเซ็ปต์ต้องการคงไว้ซึ่งเรื่องราวความหมายที่เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม การให้คุณค่าของไทย นำมาดัดแปลงให้ร่วมสมัย
ส่วนนโยบายที่ทางสถานีฯรับมานั้น จากเดิมสถานีฯมีความเป็นสื่อของรัฐบาล ต้องตอบสนองนโยบายของรัฐ ดังนั้นจึงต้องรับนโยบายมา แล้วแปลงมาเพื่อการปฏิบัติ โดยเฉพาะในเรื่องของความเป็นสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ ที่จะต้องเป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาของชาติ โดยหลักๆในเวลานี้ คือ เรื่องของปัญหาเศรษฐกิจ และเรื่องของความขัดแย้งภายในชาติที่กำลังเกิดขึ้น โดยเราจะต้องมุ่งเน้นให้ความรู้แก่ประชาชน
ส่งผลให้ผังรายการใหม่ที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1เม.ย.นี้เป็นต้นไป ในส่วนของช่วงเวลาข่าวนั้น จากเดิมที่มีสัดส่วนกว่า 50% ของชั่วโมง ในการนำเสนอรายการต่อวัน หรือกว่าวันละ 9 ชั่วโมงครึ่ง ปรับลดเหลือเพียง7-8 ชั่วโมง โดยจะนำช่วงเวลาที่หายไปนี้ ไปเพิ่มในส่วนรายการที่ให้สาระประโยชน์แก่ประชาชนแทน โดยเฉพาะในช่วงไพร์มไทม์ ซึ่งจะตรงกับนโยบายของทางสถานีฯต่อไป
สำหรับผังรายการใหม่ครั้งนี้ประกอบด้วย ข่าว 35% สาระเพื่อสังคม 28% กีฬา/สันทนาการ 12% นโยบายภาครัฐ 12% ศาสนา การศึกษา 7% สถาบัน 4% และสุขภาพ 1% ซึ่งรูปแบบรายการช่วงไพร์มไทม์นั้น จะมีรายการใหม่เข้ามาทั้งในรูปแบบทอร์คและสารคดี เช่น สถานีแรงงาน ในวันจันทร์ เวลา 21.00-22.00น.,เป็นรายการรับจ้างผลิต โดยทางสถานีฯร่วมกับทางกระทรวงแรงงานผลิตร่วมกัน และทางทีวีบูรพา(ในเครือเจเอสแอล) เข้ามารับจ้างผลิตรายการ, รายการ หมู่บ้านฐานไท ในวันพฤหัสบดี เวลา 21.00-22.00น. เน้นเรื่องของชุมชนพอเพียง ผลิตโดย ทีวีบูรพา และรายการ ลงเอย อย่างไร คืนวันศุกร์ เวลา21.00-22.00น. ดำเนินรายการโดยนายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง และรายการฟังเราบ้าง คืนวันอังคาร เวลา 21.00-22.00น. โดยนายปองพล อดิเรกสาร เป็นผู้ดำเนินรายการ
ทั้งนี้จะเห็นว่าผังรายการใหม่นี้ จะมีรายการใหม่เข้ามารวมกว่า 24รายการ ซึ่งมีทั้งร่วมผลิต รับจ้างผลิต และการเช่าเวลา อย่างไรก็ตามผังรายการครั้งนี้ ทางสถานีฯได้เพิ่มรายการ แก็ง การ์ตูน จูเนียร์ ทุกเย็นวันอังคารถึงวันศุกร์ เวลา 17.00-17.30น.ซึ่งผังรายการใหม่นี้ คาดหวังว่าทางสถานีฯจะมีฐานคนดูเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเด็ก แรงงาน คนพิการ และบุคคลทั่วไป
นายสุริยงค์ กล่าวต่อว่า ในส่วนเรื่องของรายได้นั้น ส่วนใหญ่จะมาจากการให้เช่าเวลา และรายการร่วมผลิต ซึ่งปีนี้ยังไม่ได้วางเป้ารายได้ไว้ว่าจะมีมากน้อยเพียงใด แต่ในปีที่ผ่านมาทางสถานีฯหารายได้ได้กว่า 207ล้านบาท ขณะที่รายการที่ออกอากาศฟรี คิดเป็นมูลค่าถึง 350ล้านบาท โดยทางกรมประชาสัมพันธ์มีงบประมาณสนับสนุนให้ทางสถานีฯราว15ล้านบาทต่อปี ภายใต้พนักงานภายในองค์กรประมาณ 411คน เป็นข้าราชการ 90คน นอกนั้นเป็นลูกจ้างประจำและชั่วคราว จากรายได้ที่กล่าวมา จะเห็นว่าค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับสถานีโทรทัศน์ช่องอื่นๆ ดังนั้นทางสถานีจึงต้องมีการหาช่องทางอื่นเพื่อเพิ่มรายได้ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าไปติดต่อกับทางหน่วยงานราชการ เพื่อของบสนับสนุนในการทำรายการต่างๆอีกช่องทางหนึ่งด้วย
