xs
xsm
sm
md
lg

ดัชนีความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจญี่ปุ่น ทั้งลดฮวบและลงต่ำเป็นประวัติการณ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเอฟพี- ดัชนีความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจญี่ปุ่นรายไตรมาส หรือที่เรียกกันว่าดัชนีตังกัง ซึ่งเป็นข้อมูลเศรษฐกิจของแดนอาทิตย์อุทัยที่ได้รับการจับตามองกันมากที่สุด ได้ตกลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งนี้จากการแถลงดัชนีไตรมาสล่าสุดของธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นเมื่อวานนี้(1) ซึ่งก็สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่กำลังทรุดตัวเข้าสู่ภาวะถดถอยรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2
ในสภาพที่การส่งออกลดลงเหลือประมาณครึ่งหนึ่งของปีที่แล้ว ขณะที่อัตราการว่างงานทะยานขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี และการบริโภคลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งหมดล้วนเป็นปัจจัยที่สร้างความหวั่นไหวอย่างรุนแรงให้แก่ความมั่นอกมั่นใจของอุตสาหกรรมการผลิตของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศ
จากการแถลงของธนาคารกลางญี่ปุ่น ดัชนีตังกังเฉพาะในกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมการผลิตขนาดใหญ่ ซึ่งครอบคลุมทั้งภาคอิเล็กทรอนิกส์, ยานยนต์, และอื่นๆ พบว่า ความเชื่อมั่นของบริษัทในกลุ่มนี้ได้ลดลงจนอยู่ต่ำกว่าระดับต่ำสุดเมื่อปี 1975 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ญี่ปุ่นต้องเผชิญกับวิกฤตการณ์น้ำมันครั้งรุนแรง
"ผลการสำรวจครั้งนี้แสดงให้เห็นชัดเจนว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับภาวะถดถอยครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคหลังสงคราม" ฮิเดกิ มัตสึมูระ นักวิเคราะห์อาวุโสของสถาบันวิจัย แจแปน รีเสิร์ช กล่าวและเสริมว่า "เบื้องต้นเศรษฐกิจญี่ปุ่นทรุดตัวลงตามภาวะการหดตัวของภาคการส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเงินโลก แต่ถึงขณะนี้ผลกระทบในเชิงลบกำลังแผ่ขยายเข้าสู่อุปสงค์ภายในประเทศแล้ว"
ดัชนีความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรมการผลิตขนาดใหญ่ประจำไตรมาสที่สิ้นสุดเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ได้ลดต่ำลงสู่ระดับ -58 จากระดับ -24 ในไตรมาสก่อนหน้านี้ นับเป็นการลดต่ำลงครั้งรุนแรงที่สุดเป็นประวัติการณ์ของดัชนีตังกัง อันเป็นเครื่องมือชี้วัดความรู้สึกของผู้ประกอบการที่มีต่อสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ โดยในปี 1975 ดัชนีตังกันทำสถิติต่ำสุดที่ระดับ -57
ก่อนหน้านี้ องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ หรือ โออีซีดี ก็คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นในปีนี้จะหดตัวลง 6.6 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งนับเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายกว่าในยุโรปและสหรัฐเป็นอย่างมาก
"ยังมองไม่เห็นเลยว่าภาวะถดถอยจะสิ้นสุดลงเมื่อไร ขณะนี้มีแต่ข่าวร้ายหนุนเนื่องเข้ามาเป็นระลอก ทั้งภายในประเทศและจากต่างประเทศ" มัตสึมูระกล่าว
รายงานดัชนีตังกังล่าสุดนี้ยังชี้ว่า พวกอุตสาหกรรมการผลิตขนาดใหญ่เชื่อว่าบรรยากาศทางธุรกิจจะยังคงอยู่ในสภาพซบเซาต่อไป โดยคาดการณ์ว่า ดัชนีตังกังสำหรับไตรมาสต่อไปที่สิ้นสุดเดือนมิถุนายนจะอยู่ที่ระดับ -51
ผลการสำรวจของธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นคราวนี้ระบุด้วยว่า บรรดาอุตสาหกรรมการผลิตรายใหญ่คาดการณ์ว่าผลกำไรก่อนหักภาษี ณ วันที่ 31 มีนาคม ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดปีการเงิน 2008 นั้น จะลดลง 62.7 เปอร์เซ็นต์ และคาดว่าปีการเงินใหม่ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่วานนี้(1) ผลกำไรจะลดลงอีก 19.7 เปอร์เซ็นต์
เกี่ยวกับเรื่องการลงทุน การสำรวจพบว่าผู้ประกอบการรายใหญ่ทั้งในและนอกภาคอุตสาหกรรมการผลิต มีแผนจะปรับลดกำลังการผลิตและการลงทุนในเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่าง ๆ ลงโดยเฉลี่ยประมาณ 6.6 เปอร์เซ็นต์ในปีการเงินใหม่ สวนทางกับการแผนเพิ่มการลงทุนในปีการเงิน 2008 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เศรษฐกิจญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะถดถอยเต็มตัวตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว โดยในไตรมาสสุดท้ายมีอัตราขยายตัวของจีดีพีติดลบถึง 12.1 เปอร์เซ็นต์
เมื่อวันอังคาร(31มี.ค.) รัฐบาลญี่ปุ่นแถลงว่า อัตราการว่างงานในเดือนกุมภาพันธ์ทะลุระดับ 4.4% นับว่าสูงที่สุดในรอบ 3 ปี ขณะที่การใช้จ่ายของผู้บริโภคในเดือนเดียวกันเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้านั้น ก็ตกลงมา 3.5%
เพื่อชุบชีวิตเศรษฐกิจให้กลับคักคักขึ้นมาใหม่ นายกรัฐมนตรีทาโร อาโซะ ของญี่ปุ่นได้แถลงกรอบโครงแผนการของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระลอกใหม่ ซึ่งจะเป็นแผนการระลอก 4 ของรัฐบาลแดนอาทิตย์อุทัยแล้วนับแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว
อาโซะไม่ได้ระบุมูลค่าของแผนกระตุ้นเศรษฐกิจระลอกล่าสุดนี้ แต่มีรายงานคาดหมายว่ายอดการใช้จ่ายเพิ่มเติมรวมทั้งสิ้นจะสูงกว่า 10 ล้านล้านเยน (101,000 ล้านดอลลาร์) และตั้งจุดมุ่งหมายไว้ว่าจะช่วยสร้างตำแหน่งงานใหม่ๆ ได้ 2 ล้านตำแหน่งในระยะ 3 ปีต่อจากนี้ไป
กำลังโหลดความคิดเห็น