ที่โรงแรมเดอะโบนันซ่า เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา วานนี้ (31 มี.ค.) มีการจัดสัมมนาวุฒิสภา ภายใต้ชื่อ แลกเปลี่ยนเรียนรู้สู่วุฒิสภาคุณภาพ วันที่ 2 ซึ่งเปิดให้ สมาชิกอภิปรายการทำงานในรอบ 1 ปี ของวุฒิสภา ประธานวุฒิสภารวมถึงรองประธานวุฒิสภา โดยที่ประชุมได้ขอให้เป็นการประชุมลับไม่เปิดให้สื่อมวลชนเข้ารับฟัง ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศในการประชุมไม่ค่อยดุเดือดทั้งที่ก่อนหน้านี้ มีการคาดการณ์ว่า น่าจะมีการถกเถียงกันหนักระหว่าง ส.ว.กลุ่มต่างๆ ทั้งนี้เนื่องจาก ก่อนเดินทางมาสัมมนา มี ส.ว.ระดับผู้ใหญ่ได้หารือนอกรอบซึ่งตกลงกันได้ในเบื้องต้นว่า จะให้นายประสพสุขทำงานต่อไป เพราะถือว่าทำหน้าที่ได้ดีแม้จะมีข้อผิดพลาดอยู่บ้าง รวมทั้งไม่ต้องการให้ภาพลักษณ์องค์กรเสียหาย ท่ามกลางบรรยากาศการเมืองที่ขัดแย้งรุนแรงขณะนี้
ทั้งนี้ส.ว.ส่วนใหญ่แสดงความเห็นว่าอยากให้วุฒิสภาเป็นแบบอย่างที่ดีแก่นักการเมืองทุกระดับ ไม่อยากให้มีปัญหาเรื่องความสามัคคี ขณะที่ส.ว.หลายคน ได้รุมกล่าวตำหนิการทำงานแบบวันแมนโชว์ของส.ว.บางกลุ่ม
นายสิงห์ชัย ทุ่งทอง ส.ว.อุทัยธานี เสนอว่าการแถลงข่าวใดๆ ควรเป็นไปนาม ของวุฒิสภา คณะกรรมาธิการ หรือในนามส่วนตัว ไม่ใช่ในนามของ ส.ว. กลุ่มหนึ่งกลุ่มใด เพราะเป็นภาพของความไม่สามัคคี จึงอยากเสนอว่า หากเกิดสถานการณ์สำคัญ อยากให้ประธานวุฒิสภาเรียกประชุม ส.ว.ทั้ง 150 คน เพื่อหารือกัน และให้ถือเป็นมติของ ส.ว.ทั้งหมด และให้ทุกคนยอมรับ ไม่เห็นด้วยที่จะให้บางคนไปแถลงเป็นอย่างอื่น หากทำไม่ได้ก็ให้ลาออกจาก ส.ว.ไปเลย
ขณะที่กลุ่ม 40 ส.ว. อาทิ นายสาย กังกเวคิน ส.ว.ระยอง ได้แย้งว่า การทำงาน เป็นกลุ่มบางครั้งเพื่อความรวดเร็ว เพราะเหตุการณ์มันด่วนมาก ไม่ได้ต้องการหน้าตา โดดเด่นเป็นพิเศษ ชื่อเสียงที่กลุ่ม 40 ส.ว.ทำ ก็เป็นชื่อเสียงของ ส.ว. ทั้งหมด มั่นใจว่า ในนาทีคับขัน ส.ว. ทั้งหมดจะทำหน้าที่ได้อย่างเข้มแข็ง แต่เนื่องจากบางครั้งต้องการความรวดเร็ว ก็อยากขอโทษที่ประชุมด้วย
ด้านน.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. กล่าวว่า กลุ่ม 40 ส.ว.เป็นชื่อที่นักข่าวตั้งให้ บางครั้งไปแถลงข่าวในนามกรรมาธิการ สื่อมวลชนก็ยังใช้นาม 40 ส.ว. บางครั้งก็ไม่พอใจเพราะไม่อยากให้เกิดการแบ่งข้าง ทั้งนี้การไปแถลงข่าวอะไรก็ไม่คิดว่า ทำในนาม 40 ส.ว. หรือกรรมาธิการ แต่คิดว่าทำในนามของสมาชิกทุกคน ดังนั้นจึงอยากเสนอให้ทุกคนมีอะไรก็เข้าร่วมด้วย แต่ไม่จำเป็นออกมติร่วมกันทั้ง 150 คน
พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ส.ว.สรรหา กล่าวว่า อยากให้ ส.ว. มีความสามัคคี โดยเฉพาะเรื่องกลุ่มก๊วน ไม่เห็นด้วยที่ทุกอย่างจะต้องเป็นมติ 150 คน เพราะถือเป็นความคิดของแต่ละคนที่จะแสดงจุดยืนได้ ยิ่งบอกว่าเป็นกลุ่ม 40 ส.ว. ยิ่งดี เพราะแสดงว่าไม่ใช่มติของ ส.ว.ทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการแสดงความเห็นได้มีส.ว.สรรหาหลายคน แสดงความน้อยเนื้อต่ำใจ ที่มักโดนดูถูกจาก ส.ส. เวลามีการประชุมร่วมรัฐสภา เรื่องที่มาจากการสรรหา ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง จึงอยากเสนอว่าหากมีการดูถูก หรือดิสเครดิตเช่นนี้อีก ขอให้ส.ว.เลือกตั้ง ลุกขึ้นมาช่วยแก้ต่างบ้าง โดย น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี กล่าวว่า หากมีใครบอกว่า ส.ว.สรรหา เป็นตัวประหลาด มาบอกได้จะชี้แจงให้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเปิดให้สมาชิกได้อภิปรายบทบาทการทำงานตลอด 1 ปีที่ผ่านมาแล้ว นายประสพสุข ได้กล่าวสรุปโดยขอบคุณส.ว.ทุกคนที่ร่วมทำงาน มาครบ 1 ปี และได้ให้สัญญากับสมาชิกว่า ภายในเดือน เม.ย. 2553 หลังการประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา ที่รัฐสภาไทยจะเป็นเจ้าภาพแล้ว จะลาออกจากตำแหน่งประธานวุฒิสภา เพื่อเปิดโอกาสให้มีการคัดสรรประธานวุฒิสภาคนใหม่
ขณะที่นายสาย กังกเวคิน ส.ว.ระยอง ได้ตะโกนลั่นกลางวงสัมมนา ด้วยความรู้สึกไม่พอใจ ต่อนายยุทธนา ยุพฤทธิ์ ส.ว.ยโสธรว่า ได้ไปเข้าห้องน้ำมา ได้ยินนายยุทธนาประเมินผลงานประธานฯไม่ผ่าน ซึ่งเป็นการตัดสินด้วยคนๆ เดียว ไม่ใช่มติของที่ประชุม ผมไม่ยอม ของขึ้นแล้ว ขอให้นายยุทธนาชี้แจงข้อเท็จจริงด้วย
นายยุทธนาจึงชี้แจงว่า ได้ประเมินผลงานประธานฯเพียงคนเดียว และให้คะแนนท่าน 8.25 จากคะแนนเต็ม 10 เมื่อนายยุทธนาได้ชี้แจงแล้ว นายสายยังไม่พอใจ และพูดว่าถ้าอย่างนั้น ขอเสนอให้ที่ประชุมมีมติโหวตตรงนี้เลย แต่นายตวง อันทะไชย ส.ว.สรรหา ซึ่งทำหน้าที่ผู้ดำเนินรายการ ได้กล่าวตัดบทว่าแค่นี้ก็รู้อยู่แล้ว อย่าให้เรื่องบานปลายมากไปกว่านี้เลย จากนั้นจึงสั่งเลิกประชุมทันที
นายประสพสุขให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า สาเหตุที่จะลาออกจากการเป็นประธานฯในปี 2553 เพราะต้องการปรับเปลี่ยนให้คนอื่นมาทำงานบ้าง เพราะคนเก่งๆ มีเยอะ เมื่อถามว่าหากมีการเสนอชื่อกลับเข้ามาอีกครั้งจะลงสมัครอีกหรือไม่ นายประสพสุข กล่าวพร้อมกับหัวเราะว่า ยังไม่ถึงเวลา รอให้ถึงตอนนั้นก่อน
นายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา หนึ่งในผู้สนับสนุนนายประสพสุข กล่าวว่า เชื่อว่านายประสพสุขจะไม่ลงสมัครอีก เพราะต้องการเปิดโอกาสให้คนอื่น มาทำหน้าที่บ้าง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศในการประชุมไม่ค่อยดุเดือดทั้งที่ก่อนหน้านี้ มีการคาดการณ์ว่า น่าจะมีการถกเถียงกันหนักระหว่าง ส.ว.กลุ่มต่างๆ ทั้งนี้เนื่องจาก ก่อนเดินทางมาสัมมนา มี ส.ว.ระดับผู้ใหญ่ได้หารือนอกรอบซึ่งตกลงกันได้ในเบื้องต้นว่า จะให้นายประสพสุขทำงานต่อไป เพราะถือว่าทำหน้าที่ได้ดีแม้จะมีข้อผิดพลาดอยู่บ้าง รวมทั้งไม่ต้องการให้ภาพลักษณ์องค์กรเสียหาย ท่ามกลางบรรยากาศการเมืองที่ขัดแย้งรุนแรงขณะนี้
ทั้งนี้ส.ว.ส่วนใหญ่แสดงความเห็นว่าอยากให้วุฒิสภาเป็นแบบอย่างที่ดีแก่นักการเมืองทุกระดับ ไม่อยากให้มีปัญหาเรื่องความสามัคคี ขณะที่ส.ว.หลายคน ได้รุมกล่าวตำหนิการทำงานแบบวันแมนโชว์ของส.ว.บางกลุ่ม
นายสิงห์ชัย ทุ่งทอง ส.ว.อุทัยธานี เสนอว่าการแถลงข่าวใดๆ ควรเป็นไปนาม ของวุฒิสภา คณะกรรมาธิการ หรือในนามส่วนตัว ไม่ใช่ในนามของ ส.ว. กลุ่มหนึ่งกลุ่มใด เพราะเป็นภาพของความไม่สามัคคี จึงอยากเสนอว่า หากเกิดสถานการณ์สำคัญ อยากให้ประธานวุฒิสภาเรียกประชุม ส.ว.ทั้ง 150 คน เพื่อหารือกัน และให้ถือเป็นมติของ ส.ว.ทั้งหมด และให้ทุกคนยอมรับ ไม่เห็นด้วยที่จะให้บางคนไปแถลงเป็นอย่างอื่น หากทำไม่ได้ก็ให้ลาออกจาก ส.ว.ไปเลย
ขณะที่กลุ่ม 40 ส.ว. อาทิ นายสาย กังกเวคิน ส.ว.ระยอง ได้แย้งว่า การทำงาน เป็นกลุ่มบางครั้งเพื่อความรวดเร็ว เพราะเหตุการณ์มันด่วนมาก ไม่ได้ต้องการหน้าตา โดดเด่นเป็นพิเศษ ชื่อเสียงที่กลุ่ม 40 ส.ว.ทำ ก็เป็นชื่อเสียงของ ส.ว. ทั้งหมด มั่นใจว่า ในนาทีคับขัน ส.ว. ทั้งหมดจะทำหน้าที่ได้อย่างเข้มแข็ง แต่เนื่องจากบางครั้งต้องการความรวดเร็ว ก็อยากขอโทษที่ประชุมด้วย
ด้านน.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. กล่าวว่า กลุ่ม 40 ส.ว.เป็นชื่อที่นักข่าวตั้งให้ บางครั้งไปแถลงข่าวในนามกรรมาธิการ สื่อมวลชนก็ยังใช้นาม 40 ส.ว. บางครั้งก็ไม่พอใจเพราะไม่อยากให้เกิดการแบ่งข้าง ทั้งนี้การไปแถลงข่าวอะไรก็ไม่คิดว่า ทำในนาม 40 ส.ว. หรือกรรมาธิการ แต่คิดว่าทำในนามของสมาชิกทุกคน ดังนั้นจึงอยากเสนอให้ทุกคนมีอะไรก็เข้าร่วมด้วย แต่ไม่จำเป็นออกมติร่วมกันทั้ง 150 คน
พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ส.ว.สรรหา กล่าวว่า อยากให้ ส.ว. มีความสามัคคี โดยเฉพาะเรื่องกลุ่มก๊วน ไม่เห็นด้วยที่ทุกอย่างจะต้องเป็นมติ 150 คน เพราะถือเป็นความคิดของแต่ละคนที่จะแสดงจุดยืนได้ ยิ่งบอกว่าเป็นกลุ่ม 40 ส.ว. ยิ่งดี เพราะแสดงว่าไม่ใช่มติของ ส.ว.ทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการแสดงความเห็นได้มีส.ว.สรรหาหลายคน แสดงความน้อยเนื้อต่ำใจ ที่มักโดนดูถูกจาก ส.ส. เวลามีการประชุมร่วมรัฐสภา เรื่องที่มาจากการสรรหา ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง จึงอยากเสนอว่าหากมีการดูถูก หรือดิสเครดิตเช่นนี้อีก ขอให้ส.ว.เลือกตั้ง ลุกขึ้นมาช่วยแก้ต่างบ้าง โดย น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี กล่าวว่า หากมีใครบอกว่า ส.ว.สรรหา เป็นตัวประหลาด มาบอกได้จะชี้แจงให้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเปิดให้สมาชิกได้อภิปรายบทบาทการทำงานตลอด 1 ปีที่ผ่านมาแล้ว นายประสพสุข ได้กล่าวสรุปโดยขอบคุณส.ว.ทุกคนที่ร่วมทำงาน มาครบ 1 ปี และได้ให้สัญญากับสมาชิกว่า ภายในเดือน เม.ย. 2553 หลังการประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา ที่รัฐสภาไทยจะเป็นเจ้าภาพแล้ว จะลาออกจากตำแหน่งประธานวุฒิสภา เพื่อเปิดโอกาสให้มีการคัดสรรประธานวุฒิสภาคนใหม่
ขณะที่นายสาย กังกเวคิน ส.ว.ระยอง ได้ตะโกนลั่นกลางวงสัมมนา ด้วยความรู้สึกไม่พอใจ ต่อนายยุทธนา ยุพฤทธิ์ ส.ว.ยโสธรว่า ได้ไปเข้าห้องน้ำมา ได้ยินนายยุทธนาประเมินผลงานประธานฯไม่ผ่าน ซึ่งเป็นการตัดสินด้วยคนๆ เดียว ไม่ใช่มติของที่ประชุม ผมไม่ยอม ของขึ้นแล้ว ขอให้นายยุทธนาชี้แจงข้อเท็จจริงด้วย
นายยุทธนาจึงชี้แจงว่า ได้ประเมินผลงานประธานฯเพียงคนเดียว และให้คะแนนท่าน 8.25 จากคะแนนเต็ม 10 เมื่อนายยุทธนาได้ชี้แจงแล้ว นายสายยังไม่พอใจ และพูดว่าถ้าอย่างนั้น ขอเสนอให้ที่ประชุมมีมติโหวตตรงนี้เลย แต่นายตวง อันทะไชย ส.ว.สรรหา ซึ่งทำหน้าที่ผู้ดำเนินรายการ ได้กล่าวตัดบทว่าแค่นี้ก็รู้อยู่แล้ว อย่าให้เรื่องบานปลายมากไปกว่านี้เลย จากนั้นจึงสั่งเลิกประชุมทันที
นายประสพสุขให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า สาเหตุที่จะลาออกจากการเป็นประธานฯในปี 2553 เพราะต้องการปรับเปลี่ยนให้คนอื่นมาทำงานบ้าง เพราะคนเก่งๆ มีเยอะ เมื่อถามว่าหากมีการเสนอชื่อกลับเข้ามาอีกครั้งจะลงสมัครอีกหรือไม่ นายประสพสุข กล่าวพร้อมกับหัวเราะว่า ยังไม่ถึงเวลา รอให้ถึงตอนนั้นก่อน
นายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา หนึ่งในผู้สนับสนุนนายประสพสุข กล่าวว่า เชื่อว่านายประสพสุขจะไม่ลงสมัครอีก เพราะต้องการเปิดโอกาสให้คนอื่น มาทำหน้าที่บ้าง