ก่อนอื่นต้องยกนิ้วโป้งให้นักโทษหนีคุก “ทักษิณ ชินวัตร” ว่า..นายแน่มาก!
ทั้งที่ยังไม่ถึงวันสาดน้ำในเทศกาลสงกรานต์ ทักษิณก็เล่นสงกรานต์สาดน้ำลายข้ามชาติใส่ “ชนชั้นสูง” ประธานองคมนตรีและองคมนตรีอีกหลายคน รวมทั้งอดีตประธานศาลฎีกา ประธานศาลปกครองคนปัจจุบัน และศาลอีกแทบทุกศาล.. อ้อ..ยกเว้นศาลพระภูมิ..
แถมน้ำลายยังกระเซ็นเปียกต่อไปถึงคุณปีย์ มาลากุล ณ อยุธยา น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อ.ปราโมทย์ นาครทรรพ แต่ชื่อที่ชวนแปลกใจที่สุด ก็คือ คุณสุริยะใส กตะศิลา พลอยโดนร่างแหน้ำลายสกปรกทักษิณด้วยครับ
แน่นอน..นักโทษชายทักษิณที่ต้องระเห็จ ลงจากอำนาจรัฐก่อนเวลาอันสมควร ด้วยพิษรัฐประหาร มีหรือจะปล่อยให้นายทหารใหญ่น้อยที่ล้มตนบางคน นั่งจิบไวน์กระดิก “ไอ้โอ๊บ” อย่างสบายอารมณ์ งานนี้ “บิ๊กบัง” และ “บิ๊กป๊อก” ทหารใหญ่ จึงโดนน้ำลายใส่เต็มๆ ด้วยกันทั้งคู่
คนที่ทักษิณ “แกว่งปากหาเสี้ยน” มีมากมายหลายคน แต่เรื่องเจ้าของบ้านสุขุมวิทที่ชื่อคุณ “ปีย์ มาลากุล ณ อยุธยา” นั้น
ผมเรียกขาน “พี่ปีย์” จนชินปาก เป็นบุรุษรูปร่างสูงโปร่งวัยเกิน 70 ปีแล้ว แต่แข็งแรงกว่าทักษิณเยอะเลย “พี่ปีย์” เป็นคนมีพลังความคิดสร้างสรรค์สูงมาก ใช้ชีวิตอยู่ในโลกที่ทันสมัย-ทันเทคโนโลยี-ทันโลก แต่ทันคนอย่างทักษิณ-พัลลภไหม..ตรงนี้ผมไม่ทราบ...
“พี่ปีย์” ชอบคิดและทำประโยชน์ให้กับสังคม เป็นผู้ริเริ่มใช้คลื่นวิทยุ จส. 100 มารายงานข่าวสภาพการจราจรว่า ตรงไหนรถติดแง๊ก ตรงไหนรถว่าง..วิ่งฉิว ที่สำคัญตรงไหนรถชนกันจนติดราวตังเม ควรใช้เส้นทางไหนหลีกหนีการจราจรที่เป็นจลาจล จส. 100 จึงเป็นคลื่นวิทยุมหาชนที่นักขับรถฟังกันงอมแงม
“พี่ปีย์” เป็นผู้ใหญ่ใจดีไม่ถือตัวและมีเรื่องตลกเล่าให้ขำขันเสมอ เพื่อนฝูงทุกวัยจึงมักแวะมาแลกเปลี่ยนปัญหาสารพัดบนโต๊ะอาหาร ที่บ้านสุขุมวิทนี่..เลยนิยมพูดถึงเรื่องอาหาร ส่วนเรื่อง “ล่าสังหาร-รัฐประหาร” นั้น..ผมไม่เคยได้ยินครับ
ที่สำคัญพัลลภรู้หรือเปล่า? ถ้ารู้แล้วทำไมไม่เล่าให้ทักษิณฟังล่ะ? แต่ถ้าไม่รู้..ผมจะเล่าให้พัลลภฟัง..แล้วช่วยเอาไปเมาท์เล่าต่อให้ทักษิณฟังด้วยนะว่า
บ้านสุขุมวิทของ “พี่ปีย์” เนี่ย..ถือได้ว่าเป็นบ้าน “สหประชาชาติ” ไปแล้วล่ะ เพราะเป็นบ้านที่ทุกฝ่ายชอบแวะมาคุย ทั้งเรื่องการบ้าน-การเมือง-การมุ้งมิได้ขาด
ดังนั้น บ้านสุขุมวิทจึงมีนักวิชาการนามอุโฆษ ที่เคยเป็นและไม่เคยเป็นนักการเมือง อย่าให้ผมเอ่ยชื่อเลย..เอาเป็นว่าคนเหล่านั้น มานั่งแลกเปลี่ยนแง่คิดเรื่องชาติบ้านการเมือง-เศรษฐกิจ-สังคม-การศึกษา-ศิลปวัฒนธรรม- การประชาสัมพันธ์-วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี-ข้อกฎหมายทั้งกฎหมายรัฐธรรมนูญ และกฎหมายสารพัดที่ไม่เป็นธรรม แม้นกระทั่งการสาธารณสุขก็หาเว้นไม่
แต่เรื่องข้างบนไม่สำคัญเท่ากับพัลลภรู้ไหม นายเนวิน ชิดชอบ ยุคยังใส่เสื้อสีแดงก่อนจะเปลี่ยนมาใส่เสื้อน้ำเงินในยุคนี้ ก็เคยมานั่งคุยกับ “พี่ปีย์” อยู่ตั้งนานสองนาน
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง คนพูดจาดุดันน่ากลัว..ก็เคยมากับคนสนิททักษิณ แต่ “เฉลิม” มิได้มานั่งทำตาเชื่อมเปล่าๆ เปลืองอาหารนะ “คุณปีย์” ถือโอกาสให้ “เฉลิม” กับเพื่อนทักษิณคนนั้น แก้ไขปัญหาเว็บไซต์บางเว็บที่จาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง จนปิดเว็บเลวๆ ได้สำเร็จในค่ำคืนนั้นเอง
อีกคนตอนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พอรู้ว่าอธิบดีกรมสุขภาพจิตซึ่งวันนี้เป็นปลัดกระทรวงฯ ไปแล้ว กำลังจะขึ้นรถตู้มาบ้าน “พี่ปีย์” เท่านั้น นักการเมืองหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่ “พี่ปีย์” เรียกเธอว่า “มาร์กาเรต แธตเชอร์” ก็ถือวิสาสะกระโดดขึ้นรถตู้ตามอธิบดีผู้นั้นมาพบ “คุณปีย์” อย่างกะทันหันอีกคน
คราครั้งนั้น..“เจ๊หน่อย” สุดารัตน์นั่งคุยกับ “พี่ปีย์” ที่ห้องกระจกนานกว่า 5 ชั่วโมง!
เอ้า..บอกให้เอาบุญเผื่อพัลลภจะไปเล่าให้ทักษิณฟัง เพื่อเอาความดีความชอบใส่ตัวอีกว่า ญาติพี่น้องบางคนของทักษิณนั่นแหละ ก็เคยแวะเวียนมาบ้านสุขุมวิทเช่นกัน
ทักษิณและทาสรับใช้ที่สร้างเรื่องแบบชุ่ยๆ และพูดอะไรบางอย่างจริงบ้างปลอมบ้างเป็นตุเป็นตะ จนน้ำลายเหม็นๆ สาดใส่บุคคลสำคัญของชาติหลายคน เพราะเชื่อว่า..บุคคลสำคัญทั้งหมดเหล่านี้ เป็นพวกมือที่มองเห็นบ้าง-เห็นลางๆ บ้าง-ไม่เห็นบ้าง รวมหัวกันล้มรัฐบาลทักษิณ เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ครับ!
อ้อ..แต่ที่พิเศษหน่อย..เห็นจะเป็นเพื่อนเลิฟ ที่ทักษิณเรียกขานอย่างไม่ให้เกียรติว่า “ไอ้ป๊อกซื่อบื้อ” นั้น อยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนขั้วรัฐบาลจาก สมชาย วงศ์สวัสดิ์ มาเป็นรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ทักษิณจึงถือว่า “ป๊อก” คนนี้ล้มรัฐบาลของเขามาแล้วถึงสองครั้งสองคราครับ
นักโทษชายสติแตก “ทักษิณ” จึงประกาศทุกครั้งครา ของการโฟนอินกับวิดีโอลิงก์...เรียกร้องให้พวกเสื้อแดงขับไล่รัฐบาลอภิสิทธิ์ ที่เชื่อว่ามีทหารหนุนหลังออกไปหรือยุบสภาเสีย หรือไม่ก็ยุบพรรคปชป.แล้ว “ล้างไพ่” มาเล่นกันใหม่
เพราะนักโทษหน้าเหลี่ยมคนนี้เชื่อว่า มีเลือกตั้งใหม่เมื่อไหร่..จะเป็นช่องให้ทุ่มเงินซื้อเสียงพวกรากหญ้า พาพรรคโจรใส่สูทหวนกลับเข้าสภามากเป็นอันดับหนึ่ง ตามด้วยการยึดอำนาจรัฐไว้ในกำมืออีกครั้งไงล่ะครับ!
ต้องรู้นะครับว่า..ทักษิณเป็นคนเอาแต่ได้ เอาทั้งๆ ที่เป็นเรื่องผิดกฎหมายและขัดต่อความรู้สึกของประชาชนเสมอมา ดังเช่น
บีบบังคับและซื้อนักการเมืองและพรรคการเมืองน้ำเน่าให้มาอยู่กับตน เพื่อจะได้สนับสนุนให้ทักษิณเป็นรัฐบาลและเป็นนายกรัฐมนตรี ทักษิณก็จะชมพวกน้ำเน่าเหล่านั้นว่า..มีอุดมการณ์ (รับใช้ตน) ส่วนนักการเมืองที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามหรือตีจากพรรคตน ก็จะถูกทักษิณโจมตีว่า..เป็นนักการเมืองและพรรคการเมืองชั่วช้าในทันที
รัฐธรรมนูญฉบับไหนเอื้อประโยชน์ต่อตนและพวกพ้อง ทักษิณก็จะถือเป็นรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย รัฐธรรมนูญไหนขวางขัดต่อผลประโยชน์ตน ยากต่อการโกงและซื้อเสียงเลือกตั้ง ก็ให้ร้ายและคอยจ้องแต่จะแก้รัฐธรรมนูญฉบับนั้นๆ ให้เข้าสู่เส้นทางผลประโยชน์ของตนร่ำไป?
ศาลใดตัดสินคดีความของทักษิณให้ชนะ ก็ป้อนคำป้อยว่า..เป็นศาลที่ยุติธรรมยิ่งนัก แต่หากศาลใดตัดสินคดีความของตนแพ้..ก็ไม่ยอมรับ แถมพาลพาโลกล่าวหาว่า..มิใช่เป็นศาลสถิตยุติธรรม หากแต่เป็นศาลที่ยุติความยุติธรรมไปเสียฉิบ
แต่ด้วยตัวตนที่ปลิ้นปล้อน ทักษิณที่ด่าศาล..กลับใช้ศาลที่ตัวเองด่านั่นแหละ เที่ยวฟ้องร้องอริทางการเมืองอย่างพันธมิตรฯ มากมายหลายสิบคดีความ เมื่อทักษิณด่าศาลอย่างสาดเสียเทเสียว่า..ไร้ความยุติธรรม แล้วไฉนทำไมนักโทษชายทักษิณคนนี้ ยังหน้าด้านใช้ประโยชน์จากศาลที่ตนย่ำยีด่าว่าทำไมล่ะ?
นี่แหละตัวตนทักษิณ..อะไรเป็นประโยชน์ต่อตน ก็จะพูดให้ดำกลายเป็นขาว-ขาวกลับกลายเป็นดำได้ตลอดเวลา!
เฮ้อ..เหนื่อย..เหนื่อยใจจริงๆ กับนักโทษชายหนีคุกทักษิณ ชินวัตร คนนี้ เพราะไอ้หมอนี่โรคจิตไม่สงบจึงไร้สมองไตร่ตรอง คอยแต่จ้องมองคนอื่นว่าผิด-ผิด-ผิดตลอด และมองตัวเองเป็น “เทพเจ้าแห่งความถูกต้อง” ทำอะไรก็ถูก-ถูก-ถูกลูกเดียว!
ทั้งๆ ที่ตอนทักษิณเป็นรัฐบาล แทนที่จะทำดีเสือกดันทำแต่เรื่องสามานย์ โกงกินสารพัด สร้างรัฐตำรวจ เป็นเผด็จการรัฐสภา จาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง จนเป็นต้นเหตุให้เกิดการต่อต้านคัดค้านจากสนธิ ลิ้มทองกุลและกลุ่มพันธมิตรฯ รวมทั้งถูกพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ.ในยุคนั้น จำต้องทำรัฐประหารตัดตอนหรือยุติอำนาจอธรรมของทักษิณ
วันนี้ผมยิ่งมั่นใจว่า..ระบอบทุนนิยมสามานย์ทักษิณนั้น..ชั่วร้ายจริงๆ เพราะเขาจะทำทุกอย่าง-ทุกวิถีทาง-ทุกวิธีการ โดยไม่สนใจว่าบ้านเมืองจะวินาศสันตะโรสักแค่ไหน ขอแต่เพียงพวกทักษิณได้ประโยชน์และได้อำนาจใส่ตนสถานเดียว นอกนั้นฉันไม่สน-ไม่แคร์-ไม่แยแสครับ!
เหตุและผลเลวร้ายในวันนี้..เกิดขึ้นได้เพราะรัฐบาลและทหารใหญ่บางคน ที่ดูแลความมั่นคง ประมาทและประเมินทักษิณต่ำเกินไป เพราะคิดเพียงแค่เปลี่ยนถ่ายอำนาจรัฐจากทักษิณมาใส่มือพวกตน คิดเพียงแค่จะอาศัยระบอบการเมืองและนักการเมืองเก่า เป็นบันไดไต่เต้าสืบทอดอำนาจทางการเมืองต่อ จนไม่ยอมปฏิรูปการเมืองและสื่อสารมวลชนแม้นแต่น้อย
ที่สำคัญยิ่ง คือ แยกแยะถูก-ผิดไม่ออก แยกมิตร-แยกศัตรูไม่กระจ่างชัด เห็นกงจักรเป็นดอกบัว..เดินผิดแล้วผิดอีก บนหนทางปรองดอง-ประนีประนอมกับโจรหน้าไหว้หลังหลอกอย่างทักษิณและพวก จนทำให้การต่อสู้กับระบอบทุนนิยมสามานย์ ไม่เข้มแข็งถึงลูกถึงคนเท่าที่ควร
คิดแล้วเหลือเชื่อ..คนเพียงคนเดียวอย่างทักษิณ ที่เสมือนซาตานแปลงร่างมาในคราบเทวดาจอมปลอม ได้ทำให้สังคมไทยต้องตกต่ำ-แตกแยก-แบ่งฝักแบ่งฝ่ายกัน จนเลือดใกล้นองท้องช้างกันแล้ว
แต่รัฐบาลอภิสิทธิ์และกองทัพไทยกับหน่วยงานความมั่นคงทั้งหลาย ยังคงทำงานกันแบบ “เต่าคลาน” ไม่ทันการณ์ ไม่มีปัญญาทำอะไรกับคนคนเดียวที่ชื่อทักษิณ ซึ่งเป็นหัวขบวนคนทำลายความมั่นคงสถาบันเบื้องสูงและชาติไทยอย่างเปิดเผยได้เลย
รัฐบาลอภิสิทธิ์และ “บิ๊กป๊อก” ต้องรับผิดชอบโดยตรง เพราะมีอำนาจรัฐอันทรงศักยภาพไว้ในกำมือ เพื่อต่อกรกับคนสติแตกเหมือน “หมาบ้า” แบบทักษิณ ศึกครั้งนี้เดิมพันกันด้วยอนาคตของชาติ หากชนะทักษิณ-บ้านเมืองก็จะสงบและศานติ แต่หากแพ้ทักษิณ-สถาบันสูงสุดและชาติไทย จะตกอยู่ในห้วงอันตรายร้ายแรงทันที
ส่วนทักษิณนั้น..นายแน่มาก ที่กล้า “แกว่งปากไปหาเสี้ยน” ให้ร้ายป้ายสีบุคคลสำคัญเหล่านั้น ซึ่งล้วนแต่ทำคุณงามความดีให้กับชาติ จนเป็นที่ประจักษ์มาแล้วเกือบชั่วชีวิต อีกทั้งผู้คนในสังคมต่างให้ความเคารพนับถืออย่างกว้างขวางอีกด้วย
ระวังเถอะ..นักโทษชายหนีคุก ทักษิณ ชินวัตร อาจโดน “เสี้ยนตำปากตาย” ก่อนวัยอันสมควรนะว้อย..!!!
ทั้งที่ยังไม่ถึงวันสาดน้ำในเทศกาลสงกรานต์ ทักษิณก็เล่นสงกรานต์สาดน้ำลายข้ามชาติใส่ “ชนชั้นสูง” ประธานองคมนตรีและองคมนตรีอีกหลายคน รวมทั้งอดีตประธานศาลฎีกา ประธานศาลปกครองคนปัจจุบัน และศาลอีกแทบทุกศาล.. อ้อ..ยกเว้นศาลพระภูมิ..
แถมน้ำลายยังกระเซ็นเปียกต่อไปถึงคุณปีย์ มาลากุล ณ อยุธยา น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อ.ปราโมทย์ นาครทรรพ แต่ชื่อที่ชวนแปลกใจที่สุด ก็คือ คุณสุริยะใส กตะศิลา พลอยโดนร่างแหน้ำลายสกปรกทักษิณด้วยครับ
แน่นอน..นักโทษชายทักษิณที่ต้องระเห็จ ลงจากอำนาจรัฐก่อนเวลาอันสมควร ด้วยพิษรัฐประหาร มีหรือจะปล่อยให้นายทหารใหญ่น้อยที่ล้มตนบางคน นั่งจิบไวน์กระดิก “ไอ้โอ๊บ” อย่างสบายอารมณ์ งานนี้ “บิ๊กบัง” และ “บิ๊กป๊อก” ทหารใหญ่ จึงโดนน้ำลายใส่เต็มๆ ด้วยกันทั้งคู่
คนที่ทักษิณ “แกว่งปากหาเสี้ยน” มีมากมายหลายคน แต่เรื่องเจ้าของบ้านสุขุมวิทที่ชื่อคุณ “ปีย์ มาลากุล ณ อยุธยา” นั้น
ผมเรียกขาน “พี่ปีย์” จนชินปาก เป็นบุรุษรูปร่างสูงโปร่งวัยเกิน 70 ปีแล้ว แต่แข็งแรงกว่าทักษิณเยอะเลย “พี่ปีย์” เป็นคนมีพลังความคิดสร้างสรรค์สูงมาก ใช้ชีวิตอยู่ในโลกที่ทันสมัย-ทันเทคโนโลยี-ทันโลก แต่ทันคนอย่างทักษิณ-พัลลภไหม..ตรงนี้ผมไม่ทราบ...
“พี่ปีย์” ชอบคิดและทำประโยชน์ให้กับสังคม เป็นผู้ริเริ่มใช้คลื่นวิทยุ จส. 100 มารายงานข่าวสภาพการจราจรว่า ตรงไหนรถติดแง๊ก ตรงไหนรถว่าง..วิ่งฉิว ที่สำคัญตรงไหนรถชนกันจนติดราวตังเม ควรใช้เส้นทางไหนหลีกหนีการจราจรที่เป็นจลาจล จส. 100 จึงเป็นคลื่นวิทยุมหาชนที่นักขับรถฟังกันงอมแงม
“พี่ปีย์” เป็นผู้ใหญ่ใจดีไม่ถือตัวและมีเรื่องตลกเล่าให้ขำขันเสมอ เพื่อนฝูงทุกวัยจึงมักแวะมาแลกเปลี่ยนปัญหาสารพัดบนโต๊ะอาหาร ที่บ้านสุขุมวิทนี่..เลยนิยมพูดถึงเรื่องอาหาร ส่วนเรื่อง “ล่าสังหาร-รัฐประหาร” นั้น..ผมไม่เคยได้ยินครับ
ที่สำคัญพัลลภรู้หรือเปล่า? ถ้ารู้แล้วทำไมไม่เล่าให้ทักษิณฟังล่ะ? แต่ถ้าไม่รู้..ผมจะเล่าให้พัลลภฟัง..แล้วช่วยเอาไปเมาท์เล่าต่อให้ทักษิณฟังด้วยนะว่า
บ้านสุขุมวิทของ “พี่ปีย์” เนี่ย..ถือได้ว่าเป็นบ้าน “สหประชาชาติ” ไปแล้วล่ะ เพราะเป็นบ้านที่ทุกฝ่ายชอบแวะมาคุย ทั้งเรื่องการบ้าน-การเมือง-การมุ้งมิได้ขาด
ดังนั้น บ้านสุขุมวิทจึงมีนักวิชาการนามอุโฆษ ที่เคยเป็นและไม่เคยเป็นนักการเมือง อย่าให้ผมเอ่ยชื่อเลย..เอาเป็นว่าคนเหล่านั้น มานั่งแลกเปลี่ยนแง่คิดเรื่องชาติบ้านการเมือง-เศรษฐกิจ-สังคม-การศึกษา-ศิลปวัฒนธรรม- การประชาสัมพันธ์-วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี-ข้อกฎหมายทั้งกฎหมายรัฐธรรมนูญ และกฎหมายสารพัดที่ไม่เป็นธรรม แม้นกระทั่งการสาธารณสุขก็หาเว้นไม่
แต่เรื่องข้างบนไม่สำคัญเท่ากับพัลลภรู้ไหม นายเนวิน ชิดชอบ ยุคยังใส่เสื้อสีแดงก่อนจะเปลี่ยนมาใส่เสื้อน้ำเงินในยุคนี้ ก็เคยมานั่งคุยกับ “พี่ปีย์” อยู่ตั้งนานสองนาน
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง คนพูดจาดุดันน่ากลัว..ก็เคยมากับคนสนิททักษิณ แต่ “เฉลิม” มิได้มานั่งทำตาเชื่อมเปล่าๆ เปลืองอาหารนะ “คุณปีย์” ถือโอกาสให้ “เฉลิม” กับเพื่อนทักษิณคนนั้น แก้ไขปัญหาเว็บไซต์บางเว็บที่จาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง จนปิดเว็บเลวๆ ได้สำเร็จในค่ำคืนนั้นเอง
อีกคนตอนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พอรู้ว่าอธิบดีกรมสุขภาพจิตซึ่งวันนี้เป็นปลัดกระทรวงฯ ไปแล้ว กำลังจะขึ้นรถตู้มาบ้าน “พี่ปีย์” เท่านั้น นักการเมืองหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่ “พี่ปีย์” เรียกเธอว่า “มาร์กาเรต แธตเชอร์” ก็ถือวิสาสะกระโดดขึ้นรถตู้ตามอธิบดีผู้นั้นมาพบ “คุณปีย์” อย่างกะทันหันอีกคน
คราครั้งนั้น..“เจ๊หน่อย” สุดารัตน์นั่งคุยกับ “พี่ปีย์” ที่ห้องกระจกนานกว่า 5 ชั่วโมง!
เอ้า..บอกให้เอาบุญเผื่อพัลลภจะไปเล่าให้ทักษิณฟัง เพื่อเอาความดีความชอบใส่ตัวอีกว่า ญาติพี่น้องบางคนของทักษิณนั่นแหละ ก็เคยแวะเวียนมาบ้านสุขุมวิทเช่นกัน
ทักษิณและทาสรับใช้ที่สร้างเรื่องแบบชุ่ยๆ และพูดอะไรบางอย่างจริงบ้างปลอมบ้างเป็นตุเป็นตะ จนน้ำลายเหม็นๆ สาดใส่บุคคลสำคัญของชาติหลายคน เพราะเชื่อว่า..บุคคลสำคัญทั้งหมดเหล่านี้ เป็นพวกมือที่มองเห็นบ้าง-เห็นลางๆ บ้าง-ไม่เห็นบ้าง รวมหัวกันล้มรัฐบาลทักษิณ เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ครับ!
อ้อ..แต่ที่พิเศษหน่อย..เห็นจะเป็นเพื่อนเลิฟ ที่ทักษิณเรียกขานอย่างไม่ให้เกียรติว่า “ไอ้ป๊อกซื่อบื้อ” นั้น อยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนขั้วรัฐบาลจาก สมชาย วงศ์สวัสดิ์ มาเป็นรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ทักษิณจึงถือว่า “ป๊อก” คนนี้ล้มรัฐบาลของเขามาแล้วถึงสองครั้งสองคราครับ
นักโทษชายสติแตก “ทักษิณ” จึงประกาศทุกครั้งครา ของการโฟนอินกับวิดีโอลิงก์...เรียกร้องให้พวกเสื้อแดงขับไล่รัฐบาลอภิสิทธิ์ ที่เชื่อว่ามีทหารหนุนหลังออกไปหรือยุบสภาเสีย หรือไม่ก็ยุบพรรคปชป.แล้ว “ล้างไพ่” มาเล่นกันใหม่
เพราะนักโทษหน้าเหลี่ยมคนนี้เชื่อว่า มีเลือกตั้งใหม่เมื่อไหร่..จะเป็นช่องให้ทุ่มเงินซื้อเสียงพวกรากหญ้า พาพรรคโจรใส่สูทหวนกลับเข้าสภามากเป็นอันดับหนึ่ง ตามด้วยการยึดอำนาจรัฐไว้ในกำมืออีกครั้งไงล่ะครับ!
ต้องรู้นะครับว่า..ทักษิณเป็นคนเอาแต่ได้ เอาทั้งๆ ที่เป็นเรื่องผิดกฎหมายและขัดต่อความรู้สึกของประชาชนเสมอมา ดังเช่น
บีบบังคับและซื้อนักการเมืองและพรรคการเมืองน้ำเน่าให้มาอยู่กับตน เพื่อจะได้สนับสนุนให้ทักษิณเป็นรัฐบาลและเป็นนายกรัฐมนตรี ทักษิณก็จะชมพวกน้ำเน่าเหล่านั้นว่า..มีอุดมการณ์ (รับใช้ตน) ส่วนนักการเมืองที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามหรือตีจากพรรคตน ก็จะถูกทักษิณโจมตีว่า..เป็นนักการเมืองและพรรคการเมืองชั่วช้าในทันที
รัฐธรรมนูญฉบับไหนเอื้อประโยชน์ต่อตนและพวกพ้อง ทักษิณก็จะถือเป็นรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย รัฐธรรมนูญไหนขวางขัดต่อผลประโยชน์ตน ยากต่อการโกงและซื้อเสียงเลือกตั้ง ก็ให้ร้ายและคอยจ้องแต่จะแก้รัฐธรรมนูญฉบับนั้นๆ ให้เข้าสู่เส้นทางผลประโยชน์ของตนร่ำไป?
ศาลใดตัดสินคดีความของทักษิณให้ชนะ ก็ป้อนคำป้อยว่า..เป็นศาลที่ยุติธรรมยิ่งนัก แต่หากศาลใดตัดสินคดีความของตนแพ้..ก็ไม่ยอมรับ แถมพาลพาโลกล่าวหาว่า..มิใช่เป็นศาลสถิตยุติธรรม หากแต่เป็นศาลที่ยุติความยุติธรรมไปเสียฉิบ
แต่ด้วยตัวตนที่ปลิ้นปล้อน ทักษิณที่ด่าศาล..กลับใช้ศาลที่ตัวเองด่านั่นแหละ เที่ยวฟ้องร้องอริทางการเมืองอย่างพันธมิตรฯ มากมายหลายสิบคดีความ เมื่อทักษิณด่าศาลอย่างสาดเสียเทเสียว่า..ไร้ความยุติธรรม แล้วไฉนทำไมนักโทษชายทักษิณคนนี้ ยังหน้าด้านใช้ประโยชน์จากศาลที่ตนย่ำยีด่าว่าทำไมล่ะ?
นี่แหละตัวตนทักษิณ..อะไรเป็นประโยชน์ต่อตน ก็จะพูดให้ดำกลายเป็นขาว-ขาวกลับกลายเป็นดำได้ตลอดเวลา!
เฮ้อ..เหนื่อย..เหนื่อยใจจริงๆ กับนักโทษชายหนีคุกทักษิณ ชินวัตร คนนี้ เพราะไอ้หมอนี่โรคจิตไม่สงบจึงไร้สมองไตร่ตรอง คอยแต่จ้องมองคนอื่นว่าผิด-ผิด-ผิดตลอด และมองตัวเองเป็น “เทพเจ้าแห่งความถูกต้อง” ทำอะไรก็ถูก-ถูก-ถูกลูกเดียว!
ทั้งๆ ที่ตอนทักษิณเป็นรัฐบาล แทนที่จะทำดีเสือกดันทำแต่เรื่องสามานย์ โกงกินสารพัด สร้างรัฐตำรวจ เป็นเผด็จการรัฐสภา จาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง จนเป็นต้นเหตุให้เกิดการต่อต้านคัดค้านจากสนธิ ลิ้มทองกุลและกลุ่มพันธมิตรฯ รวมทั้งถูกพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ.ในยุคนั้น จำต้องทำรัฐประหารตัดตอนหรือยุติอำนาจอธรรมของทักษิณ
วันนี้ผมยิ่งมั่นใจว่า..ระบอบทุนนิยมสามานย์ทักษิณนั้น..ชั่วร้ายจริงๆ เพราะเขาจะทำทุกอย่าง-ทุกวิถีทาง-ทุกวิธีการ โดยไม่สนใจว่าบ้านเมืองจะวินาศสันตะโรสักแค่ไหน ขอแต่เพียงพวกทักษิณได้ประโยชน์และได้อำนาจใส่ตนสถานเดียว นอกนั้นฉันไม่สน-ไม่แคร์-ไม่แยแสครับ!
เหตุและผลเลวร้ายในวันนี้..เกิดขึ้นได้เพราะรัฐบาลและทหารใหญ่บางคน ที่ดูแลความมั่นคง ประมาทและประเมินทักษิณต่ำเกินไป เพราะคิดเพียงแค่เปลี่ยนถ่ายอำนาจรัฐจากทักษิณมาใส่มือพวกตน คิดเพียงแค่จะอาศัยระบอบการเมืองและนักการเมืองเก่า เป็นบันไดไต่เต้าสืบทอดอำนาจทางการเมืองต่อ จนไม่ยอมปฏิรูปการเมืองและสื่อสารมวลชนแม้นแต่น้อย
ที่สำคัญยิ่ง คือ แยกแยะถูก-ผิดไม่ออก แยกมิตร-แยกศัตรูไม่กระจ่างชัด เห็นกงจักรเป็นดอกบัว..เดินผิดแล้วผิดอีก บนหนทางปรองดอง-ประนีประนอมกับโจรหน้าไหว้หลังหลอกอย่างทักษิณและพวก จนทำให้การต่อสู้กับระบอบทุนนิยมสามานย์ ไม่เข้มแข็งถึงลูกถึงคนเท่าที่ควร
คิดแล้วเหลือเชื่อ..คนเพียงคนเดียวอย่างทักษิณ ที่เสมือนซาตานแปลงร่างมาในคราบเทวดาจอมปลอม ได้ทำให้สังคมไทยต้องตกต่ำ-แตกแยก-แบ่งฝักแบ่งฝ่ายกัน จนเลือดใกล้นองท้องช้างกันแล้ว
แต่รัฐบาลอภิสิทธิ์และกองทัพไทยกับหน่วยงานความมั่นคงทั้งหลาย ยังคงทำงานกันแบบ “เต่าคลาน” ไม่ทันการณ์ ไม่มีปัญญาทำอะไรกับคนคนเดียวที่ชื่อทักษิณ ซึ่งเป็นหัวขบวนคนทำลายความมั่นคงสถาบันเบื้องสูงและชาติไทยอย่างเปิดเผยได้เลย
รัฐบาลอภิสิทธิ์และ “บิ๊กป๊อก” ต้องรับผิดชอบโดยตรง เพราะมีอำนาจรัฐอันทรงศักยภาพไว้ในกำมือ เพื่อต่อกรกับคนสติแตกเหมือน “หมาบ้า” แบบทักษิณ ศึกครั้งนี้เดิมพันกันด้วยอนาคตของชาติ หากชนะทักษิณ-บ้านเมืองก็จะสงบและศานติ แต่หากแพ้ทักษิณ-สถาบันสูงสุดและชาติไทย จะตกอยู่ในห้วงอันตรายร้ายแรงทันที
ส่วนทักษิณนั้น..นายแน่มาก ที่กล้า “แกว่งปากไปหาเสี้ยน” ให้ร้ายป้ายสีบุคคลสำคัญเหล่านั้น ซึ่งล้วนแต่ทำคุณงามความดีให้กับชาติ จนเป็นที่ประจักษ์มาแล้วเกือบชั่วชีวิต อีกทั้งผู้คนในสังคมต่างให้ความเคารพนับถืออย่างกว้างขวางอีกด้วย
ระวังเถอะ..นักโทษชายหนีคุก ทักษิณ ชินวัตร อาจโดน “เสี้ยนตำปากตาย” ก่อนวัยอันสมควรนะว้อย..!!!