ทำไมรัฐบาลไม่ทำอะไรเลย?
นี่เป็นความรู้สึกที่มีมากขึ้นๆ ของคนที่นั่งดูเหตุบ้านการเมืองช่วงที่กลุ่มคนเสื้อแดงชุมนุมปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลมาหลายวันแล้ว ซึ่งในที่ชุมนุมก็มีนักโทษหลบหนีคดีอย่างพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรออกมาแต่เสียงแบบ ‘โฟนอิน’ หรือโผล่มาทั้งภาพทั้งเสียงผ่าน ‘วิดีโอลิงก์’ บ้าง เอาข้อมูลเท็จมาบิดเบือนใส่ร้ายป้ายสีบุคคลสำคัญของประเทศ ปลุกระดมมวลชนให้เกลียดชัง ยุยงให้คนในสังคมแตกแยกได้อย่างสะดวกและต่อเนื่อง คำถามง่ายๆ ที่คนเขาถามกันอื้ออึงเวลานี้ก็คือ รัฐบาลจะต้องรอถึงเมื่อไหร่ค่อยจัดการ การจัดการในที่นี้เขาก็ไม่ได้คาดหวังว่ารัฐบาลจะสลายการชุมนุน หรือใช้ความรุนแรง แต่ความที่บอกว่า รอให้มีการกระทำผิดชัดเจน จะจัดการตามกฎหมายแน่ ขอบเขตของการกระทำผิดที่ว่าอยู่ตรงไหน?
การโฟนอิน หรือวิดีโอลิงก์อะไรก็ตามของพ.ต.ท.ทักษิณ เนื้อหาที่คนส่วนใหญ่ฟังแล้วเขาเข้าใจว่าเป็นเรื่องที่กระทบความมั่นคงของชาติ ทว่า รัฐบาลกลับไม่รู้สึกรู้สา แปลว่าอะไร?
หากรัฐบาลคิดว่า การอ้ำๆ อึ้งๆ ทำมึนๆ งงๆ แก้ปัญหาแบบการเมือง ตีสำนวนโวหารเอาตัวรอด ซื้อเวลาไปวันๆ หรือคิดว่า ‘เช็คช่วยชาติ’ ที่กลายเป็นหัวข้อสนทนาของคนทุกชนชั้นจะช่วยกลบกระแสความไม่พอใจนี้บอกได้เลยว่า คิดผิด!
จากนี้ไปคงมีหลายคนหลายกลุ่มในสังคมที่พิจารณาเห็นความผิด-ถูกเองได้จะออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการอย่างที่พูด อย่างเช่นที่เกิดขึ้นแล้วกับข้อเรียกร้องของ ‘กลุ่มคนรักป๋าเปรม’
กลุ่มคนรักป๋าเปรม ออกแถลงการณ์เรียกร้อง 1. ให้รัฐบาลใช้มาตรการทางกฎหมาย เพื่อหยุดยั้งการใส่ร้ายป้ายสี โจมตี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ทันที
2. ตัดสัญญาณโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทันทีเพื่อไม่ให้เกิดความแตกแยกในสังคม
3. รัฐบาลต้องติดต่อประเทศต่างๆ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซ่อนตัวอยู่ ให้ส่งตัวในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนมาจำคุกตามคำพิพากษาของศาล และ 4. ให้จับแกนนำคนเสื้อแดง 3 เกลอหัวขวดมาดำเนินคดีทันที
นี่เป็นข้อเรียกร้องที่รัฐบาลไม่ควรละเลย หรือไม่ใส่ใจเหมือนที่ผ่านๆ มา เพราะ เดิมพัน คือ ความเชื่อถือของรัฐบาลเอง
รัฐบาลต้องพิสูจน์ตัวเอง หากทำได้หรืออาจจะยังทำไม่ได้ในทันทีในบางข้อ แต่ขอให้ทำ เชื่อว่าความรู้สึกลบๆ และผิดหวังต่อรัฐบาลชุดนี้อาจจะดีขึ้นบ้าง
โดยเฉพาะบางข้อของข้อเรียกร้องที่เป็นต้นตอของความวุ่นวาย และโจมตีใส่ร้ายผู้อื่น เช่น ข้อ 2 ตัดสัญญาณโฟนอิน วิดีโอลิงก์ของพ.ต.ท.ทักษิณที่ทำให้สังคมแตกแยกทันที ไม่น่ายาก แต่รัฐบาลก็ไม่ทำ มีคนสงสัยกันมากว่าเพราะอะไร?
รัฐบาลเพียงพูดว่าจะทำๆ แต่ก็ไม่เห็นทำสักที ไม่แม้กระทั่งจะหาคำมาอธิบายต่อประชาชน
แล้วก็เป็นคุณสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่มีประสบการณ์ด้านสื่อมายาวนานเช่นเคยที่สนใจและหาข้อมูลเรื่องนี้ออกมาเปิดเผยผ่านรายการ “Good Morning Thailand” ที่คุณสนธิเป็นพิธีกรเองออกอากาศทางเอเอสทีวีทุกเช้าให้คนทั่วไปได้รับทราบ
คุณสนธิ เปิดเผยข้อมูลที่รัฐบาลน่าจะเอามือเขกกะโหลกตัวเอง เพราะกลไกและ เบื้องหลังของการโฟนอินหรือวิดีโอลิงก์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ได้สะดวกนั้นเพราะมี เจ้าหน้าที่หรือคนในกรมประชาสัมพันธ์ของรัฐบาลเองนั่นแหละ เป็นผู้คอยช่วยเหลือ
วันต่อมา คุณสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จึงทำขึงขัง กล่าวยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ปล่อยปละละเลยให้ พ.ต.ท.ทักษิณโฟนอินหรือวิดีโอลิงก์เข้ามาอย่างสะดวก รัฐบาลตามเรื่องนี้มาตั้งแต่ครั้งก่อนๆ แล้ว และก็ยอมรับตามข้อมูลที่คุณสนธิเปิดเผย คือ กลุ่มคนที่ทำวิดีโอลิงก์ให้พ.ต.ท.ทักษิณ ส่วนหนึ่งเป็นคนใน เป็นข้าราชการ!
ข้าราชการร่วมมือกับนักโทษหลบหนีคดีทำวิดีโอลิงก์ โฟนอิน ด่าทอใส่ร้ายคนนั้นคนนี้โดยปราศจากข้อเท็จจริง ความผิดมันชัดๆ มันเป็นเรื่องใหญ่มาก
ทว่า ก็แค่นั้น คุณสาทิตย์ ไม่ได้ทำอะไรอีกเลย เพียงแต่บอกว่า กำลังติดตามข้อมูลอยู่ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจง
“ต้องยอมรับว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชำนาญในเรื่องเทคโนโลยี แต่ยืนยันว่า ที่ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย ก็ไม่มีปัญหาในเรื่องวิธีการ แต่หากเป็นวิธีการที่หลบเลี่ยงข้อกฎหมายก็ต้องดำเนินการกัน ส่วนเรื่องเนื้อหา ผู้ที่เกี่ยวข้องดูอยู่อย่างใกล้ชิด”
อ่านหลายต่อหลายเที่ยวในประโยคที่คุณสาทิตย์ให้สัมภาษณ์นี้ ด้วยความเคารพ หวังว่าจะเข้าใจผิดไป แต่มันก็แปลความได้แค่ว่า คุณสาทิตย์ยังห่วงและตีกรอบประเด็นอยู่แค่ว่า วิธีการโฟนอินหรือวิดีโอลิงก์ถูกหรือผิดกฎหมายหรือไม่ ทั้งๆ ที่เรื่องมันเลยไปไกลแล้ว
ถามต่อไปว่า หากบล็อก หรือตัดสัญญาณยังทำไม่ได้ วิธีการจะสืบด้วยไฮเทคโนโลยีเพื่อควานหาตัวของนักโทษชายที่กลายเป็นแกนนำคนเสื้อแดงปลุกระดมคนในเวลานี้อยู่ที่ไหนทำได้หรือไม่?
ผู้เชี่ยวชาญเรื่องนี้บอกว่า ทำไมจะทำไม่ได้ รัฐบาลมีพร้อมทุกอย่าง อำนาจและ เครื่องมือที่จะผสานผนึกกำลังของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดทำ
ยกตัวอย่างเช่น ระหว่างที่พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังโผล่มาทางโฟนอิน หรือวิดีโอลิงก์ ก็ตรวจสอบได้เลย เช็กดูสัญญาณทั้งที่ผ่านดาวเทียม หรือมาตามสายเครือข่ายอินเทอร์เน็ต แล้วเช็กย้อนกลับไปดูต้นทาง เรื่องแบบนี้ทำได้ไม่เกินความสามารถ รวมถึงหากต้องการบล็อกจริงๆ ก็ง่ายราวกับปลอกกล้วย
ดังนั้น จึงไม่ใช่ข้ออ้างที่รัฐบาลจะปฏิเสธความรับผิดชอบต่อสังคม ทำหรือไม่ทำอยู่ที่รัฐบาล
ปัญหามีอยู่อย่างเดียว ซึ่งเป็นข้อมูลวงในลึกๆ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรื่องนี้บอกมาก็คือ...
จนป่านนี้รัฐบาลหรือคนในรัฐบาลยังไม่ได้ส่งสัญญาณให้ทำอะไรเลย.
นี่เป็นความรู้สึกที่มีมากขึ้นๆ ของคนที่นั่งดูเหตุบ้านการเมืองช่วงที่กลุ่มคนเสื้อแดงชุมนุมปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลมาหลายวันแล้ว ซึ่งในที่ชุมนุมก็มีนักโทษหลบหนีคดีอย่างพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรออกมาแต่เสียงแบบ ‘โฟนอิน’ หรือโผล่มาทั้งภาพทั้งเสียงผ่าน ‘วิดีโอลิงก์’ บ้าง เอาข้อมูลเท็จมาบิดเบือนใส่ร้ายป้ายสีบุคคลสำคัญของประเทศ ปลุกระดมมวลชนให้เกลียดชัง ยุยงให้คนในสังคมแตกแยกได้อย่างสะดวกและต่อเนื่อง คำถามง่ายๆ ที่คนเขาถามกันอื้ออึงเวลานี้ก็คือ รัฐบาลจะต้องรอถึงเมื่อไหร่ค่อยจัดการ การจัดการในที่นี้เขาก็ไม่ได้คาดหวังว่ารัฐบาลจะสลายการชุมนุน หรือใช้ความรุนแรง แต่ความที่บอกว่า รอให้มีการกระทำผิดชัดเจน จะจัดการตามกฎหมายแน่ ขอบเขตของการกระทำผิดที่ว่าอยู่ตรงไหน?
การโฟนอิน หรือวิดีโอลิงก์อะไรก็ตามของพ.ต.ท.ทักษิณ เนื้อหาที่คนส่วนใหญ่ฟังแล้วเขาเข้าใจว่าเป็นเรื่องที่กระทบความมั่นคงของชาติ ทว่า รัฐบาลกลับไม่รู้สึกรู้สา แปลว่าอะไร?
หากรัฐบาลคิดว่า การอ้ำๆ อึ้งๆ ทำมึนๆ งงๆ แก้ปัญหาแบบการเมือง ตีสำนวนโวหารเอาตัวรอด ซื้อเวลาไปวันๆ หรือคิดว่า ‘เช็คช่วยชาติ’ ที่กลายเป็นหัวข้อสนทนาของคนทุกชนชั้นจะช่วยกลบกระแสความไม่พอใจนี้บอกได้เลยว่า คิดผิด!
จากนี้ไปคงมีหลายคนหลายกลุ่มในสังคมที่พิจารณาเห็นความผิด-ถูกเองได้จะออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการอย่างที่พูด อย่างเช่นที่เกิดขึ้นแล้วกับข้อเรียกร้องของ ‘กลุ่มคนรักป๋าเปรม’
กลุ่มคนรักป๋าเปรม ออกแถลงการณ์เรียกร้อง 1. ให้รัฐบาลใช้มาตรการทางกฎหมาย เพื่อหยุดยั้งการใส่ร้ายป้ายสี โจมตี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ทันที
2. ตัดสัญญาณโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทันทีเพื่อไม่ให้เกิดความแตกแยกในสังคม
3. รัฐบาลต้องติดต่อประเทศต่างๆ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซ่อนตัวอยู่ ให้ส่งตัวในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนมาจำคุกตามคำพิพากษาของศาล และ 4. ให้จับแกนนำคนเสื้อแดง 3 เกลอหัวขวดมาดำเนินคดีทันที
นี่เป็นข้อเรียกร้องที่รัฐบาลไม่ควรละเลย หรือไม่ใส่ใจเหมือนที่ผ่านๆ มา เพราะ เดิมพัน คือ ความเชื่อถือของรัฐบาลเอง
รัฐบาลต้องพิสูจน์ตัวเอง หากทำได้หรืออาจจะยังทำไม่ได้ในทันทีในบางข้อ แต่ขอให้ทำ เชื่อว่าความรู้สึกลบๆ และผิดหวังต่อรัฐบาลชุดนี้อาจจะดีขึ้นบ้าง
โดยเฉพาะบางข้อของข้อเรียกร้องที่เป็นต้นตอของความวุ่นวาย และโจมตีใส่ร้ายผู้อื่น เช่น ข้อ 2 ตัดสัญญาณโฟนอิน วิดีโอลิงก์ของพ.ต.ท.ทักษิณที่ทำให้สังคมแตกแยกทันที ไม่น่ายาก แต่รัฐบาลก็ไม่ทำ มีคนสงสัยกันมากว่าเพราะอะไร?
รัฐบาลเพียงพูดว่าจะทำๆ แต่ก็ไม่เห็นทำสักที ไม่แม้กระทั่งจะหาคำมาอธิบายต่อประชาชน
แล้วก็เป็นคุณสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่มีประสบการณ์ด้านสื่อมายาวนานเช่นเคยที่สนใจและหาข้อมูลเรื่องนี้ออกมาเปิดเผยผ่านรายการ “Good Morning Thailand” ที่คุณสนธิเป็นพิธีกรเองออกอากาศทางเอเอสทีวีทุกเช้าให้คนทั่วไปได้รับทราบ
คุณสนธิ เปิดเผยข้อมูลที่รัฐบาลน่าจะเอามือเขกกะโหลกตัวเอง เพราะกลไกและ เบื้องหลังของการโฟนอินหรือวิดีโอลิงก์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ได้สะดวกนั้นเพราะมี เจ้าหน้าที่หรือคนในกรมประชาสัมพันธ์ของรัฐบาลเองนั่นแหละ เป็นผู้คอยช่วยเหลือ
วันต่อมา คุณสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จึงทำขึงขัง กล่าวยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ปล่อยปละละเลยให้ พ.ต.ท.ทักษิณโฟนอินหรือวิดีโอลิงก์เข้ามาอย่างสะดวก รัฐบาลตามเรื่องนี้มาตั้งแต่ครั้งก่อนๆ แล้ว และก็ยอมรับตามข้อมูลที่คุณสนธิเปิดเผย คือ กลุ่มคนที่ทำวิดีโอลิงก์ให้พ.ต.ท.ทักษิณ ส่วนหนึ่งเป็นคนใน เป็นข้าราชการ!
ข้าราชการร่วมมือกับนักโทษหลบหนีคดีทำวิดีโอลิงก์ โฟนอิน ด่าทอใส่ร้ายคนนั้นคนนี้โดยปราศจากข้อเท็จจริง ความผิดมันชัดๆ มันเป็นเรื่องใหญ่มาก
ทว่า ก็แค่นั้น คุณสาทิตย์ ไม่ได้ทำอะไรอีกเลย เพียงแต่บอกว่า กำลังติดตามข้อมูลอยู่ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจง
“ต้องยอมรับว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชำนาญในเรื่องเทคโนโลยี แต่ยืนยันว่า ที่ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย ก็ไม่มีปัญหาในเรื่องวิธีการ แต่หากเป็นวิธีการที่หลบเลี่ยงข้อกฎหมายก็ต้องดำเนินการกัน ส่วนเรื่องเนื้อหา ผู้ที่เกี่ยวข้องดูอยู่อย่างใกล้ชิด”
อ่านหลายต่อหลายเที่ยวในประโยคที่คุณสาทิตย์ให้สัมภาษณ์นี้ ด้วยความเคารพ หวังว่าจะเข้าใจผิดไป แต่มันก็แปลความได้แค่ว่า คุณสาทิตย์ยังห่วงและตีกรอบประเด็นอยู่แค่ว่า วิธีการโฟนอินหรือวิดีโอลิงก์ถูกหรือผิดกฎหมายหรือไม่ ทั้งๆ ที่เรื่องมันเลยไปไกลแล้ว
ถามต่อไปว่า หากบล็อก หรือตัดสัญญาณยังทำไม่ได้ วิธีการจะสืบด้วยไฮเทคโนโลยีเพื่อควานหาตัวของนักโทษชายที่กลายเป็นแกนนำคนเสื้อแดงปลุกระดมคนในเวลานี้อยู่ที่ไหนทำได้หรือไม่?
ผู้เชี่ยวชาญเรื่องนี้บอกว่า ทำไมจะทำไม่ได้ รัฐบาลมีพร้อมทุกอย่าง อำนาจและ เครื่องมือที่จะผสานผนึกกำลังของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดทำ
ยกตัวอย่างเช่น ระหว่างที่พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังโผล่มาทางโฟนอิน หรือวิดีโอลิงก์ ก็ตรวจสอบได้เลย เช็กดูสัญญาณทั้งที่ผ่านดาวเทียม หรือมาตามสายเครือข่ายอินเทอร์เน็ต แล้วเช็กย้อนกลับไปดูต้นทาง เรื่องแบบนี้ทำได้ไม่เกินความสามารถ รวมถึงหากต้องการบล็อกจริงๆ ก็ง่ายราวกับปลอกกล้วย
ดังนั้น จึงไม่ใช่ข้ออ้างที่รัฐบาลจะปฏิเสธความรับผิดชอบต่อสังคม ทำหรือไม่ทำอยู่ที่รัฐบาล
ปัญหามีอยู่อย่างเดียว ซึ่งเป็นข้อมูลวงในลึกๆ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรื่องนี้บอกมาก็คือ...
จนป่านนี้รัฐบาลหรือคนในรัฐบาลยังไม่ได้ส่งสัญญาณให้ทำอะไรเลย.