“เทพไท” ซัด “หัวขวด” เด็กวานซืนใช้คำหยาบคายจิกด่า “ป๋าเปรม” ด่าระวังนรกจะกินหัว บังอาจก้าวล่วงองคมนตรี ย้ำ “ทักษิณ” คือผู้บัญชาการม็อบเสื้อแดงตัวจริง หลังปลุกระดมมวลชนปิดล้อมศาลากลาง ทวงถาม กม.2-กม.3 หมายถึงอะไรเกี่ยวข้องกันหรือไม่ ย้อนฉายา “เพื่อแม้ว” รัฐบาลหลอกประชาชนกู้ ทำชาวบ้านเป็นหนี้
วันนี้(30 มี.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงให้สัมภาษณ์ว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นเพียงสมาชิกที่เข้าร่วมการเคลื่อนไหว ว่า วันนี้ปรากฎชัดเจนว่าพ.ต.ท.ทักษิณเป็นผู้บังคับบัญชาม๊อบตัวจริง แต่การที่แกนนำออกมาระบุดังกล่าว เป็นเพียงการบิดเบือนข้อเท็จริง เพื่อให้เห็นว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงไม่ได้ทำเพื่อพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งจะเห็นได้ว่าพ.ต.ท.ทักษิณได้บัญชาการมาจากต่างประเทศ โดยให้ส.ส.พรรคเพื่อไทย ระดมมวลชนเข้าร่วมการชุมนุมให้มากที่สุด รวมทั้งการเรียกร้องให้สมาชิกบ้านเลขที่ 111 ออกมาเคลื่อนไหวร่วมกับคนเสื้อแดง ซึ่งเห็นได้ชัดเจนจากกรณีที่ประชาชนไปปิดล้อมศาลากลางจังหวัดนั้นๆ ถือว่าบรรลุตามแผนตากสิน
"การที่แกนนำเสื้อแดงออกมาระบุว่าการขับไล่รัฐบาลอภิสิทธิ์เป็นกิโลเมตรที่ 1 และการขับไล่องคมนตรี เป็นกิโลเมตรที่ 2 ตนอยากถามว่า แล้วกิโลเมตรที่ 3 หมายถึงสถาบันอะไร และกิโลเมตรที่2 และที่3 เกี่ยวข้องกันหรือไม่"นายเทพไท กล่าว
นายเทพไท กล่าวว่า การที่กลุ่มคนเสื้อแดงใช้เวทีเพื่อโจมตีพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นเรื่องที่สังคมควรพิจารณา ว่ากลุ่มคนเหล่านี้เคลื่อนไหวอย่างหยาบช้า ที่ไปก้าวล่วงประธานองคมนตรี โดยเฉพาะนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดง ที่เปรียบเหมือนเด็กเมื่อวานซืน แต่มาจิกหัวด่าคนระดับองคมนตรีด้วยคำที่หยาบคาย ซึ่งเป็นเรื่องไม่เหมาะสมและกระทบต่อความเชื่อถือต่อประชาชนที่เคารพพล.อ.เปรม โดยเฉพาะคนภาคใต้ ทั้งนี้ไม่แน่ใจว่านายณัฐวุฒิและนายจตุพร จะสามารถกลับบ้านที่ภาคใต้ได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ตนรู้สึกเห็นใจญาติพี่น้องและพ่อแม่ ที่ต้องมารับหน้าแทนทั้ง 2 คน
“พฤติกรรมของพ.ต.ท.ทักษิณ และคนเสื้อแดงที่จาบจ้วงสถาบันองคมนตรี ผมเชื่อว่าสังคมจะเข้าใจเองว่าระหว่างประธานองคมนตรีกับนักโทษหนีคดี และรัฐบุรุษกับโทสะบุรุษ อย่างไหนที่น่าเชื่อถือกว่ากัน และการพูดถึงสถาบันองคมนตรี ซึ่งเป็นสถาบันตามรัฐธรรมนูญที่ทำงานใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาท โดยการระบุว่าพล.อ.เปรมไม่ใช่ราชวงศ์แต่เป็นไพร่นั้น ผมว่าเสื้อแดงมีเจตนาแอบแฝงที่ต้องการแบ่งแยกชนชั้น ประชดชัน และแดกดันไปถึงสถาบันเบื้อสูง คนเหล่านี้ พยายามสร้างภาพการเคลื่อนไหวเพื่อให้เกิดสงครามชนชั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่สมควร แต่ไม่ว่าจะพาดพิงพล.อ.เปรมรุนแรงแค่ไหนก็ตาม แต่ก็คงไม่สะเทือนไปยังสถาบันองคมนตรีและพล.อ.เปรม ทำให้ผมนึกถึงคำพูดของพล.ต.มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ที่เคยพูดว่า “หมาเยี่ยวรดภูเข้าทองคงไม่เป็นไร”นายเทพไทกล่าว
นายเทพไท กล่าวอีกว่า การที่โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวพาดพิงพรรคประชาธิปัตย์ โดยตั้งฉายาว่าพรรคประชาธิปัตย์ถนัดกู้นั้น อยากให้โฆษกพรรคเพื่อไทยกลับไปดูพฤติกรรมในอดีตของพรรคเพื่อไทยเสียก่อน ว่าในอดีตพรรคไทยก็เคยกู้เงินมาจากเมืองนอก เหมือนทุกยุคทุกสมัย แต่ที่สำคัญคือรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยที่ผ่านมาได้ส่งเสริมให้ประชาชนกู้ ทำให้หนี้สินครัวเรือนจากเดิมอยู่ที่ 70,000 บาท ต่อครัวเรือน เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 140,000 บาท ต่อครัวเรือน เพิ่มขึ้นเป็น 100 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นจึงขอตั้งฉายาให้พรรคเพื่อไทยว่า “พรรคเพื่อไทยหลอกให้ประชาชนกู้ สนับสนุนให้ประชาชนเป็นหนี้ โดยตัวเองไม่ต้องรับผิดชอบ”
โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้พรรคเพื่อไทยเคลื่อนไหวให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยุบพรรคประชาธิปัตย์ และเคลื่อนไหวให้กรมสรรพากรตรวจภาษีพรรค รวมถึงการยื่นถอดถอนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เพราะไปนั่งเป็นประธานกตร. ซึ่งทั้งหมดไม่มีสาระ พรรคก็ไม่ได้กังวลและมองว่าเป็นเพียงการสร้างข่าวรายวันของโฆษกพรรคเพื่อไทยเท่านั้น
