คงจะเป็นเพราะมีบทเรียนจากการชุมนุมครั้งก่อนๆ ที่เรียกร้องรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ปลดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นำรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 มาใช้ยุบสภา และจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปเสียใหม่ แล้วไม่ได้รับการตอบรับจากรัฐบาลแม้แต่ข้อเดียว
ทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงต้องประกาศยกระดับการต่อสู้ให้เข้มข้นขึ้น ด้วยการเรียกร้องให้รัฐบาลลาออกแล้วพวกเขาก็จะสลายการชุมนุม
บทเรียนครั้งนั้นทำให้การชุมนุมครั้งใหม่ที่เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 26 มีนาคม เข้มข้นขึ้นมีประชาชนเข้าร่วมเป็นจำนวนมากขึ้น และจะต้องอยู่นานวันขึ้น อย่างน้อยที่สุดก็น่าจะไม่ต่ำกว่า 193 วัน ซึ่งเป็นสถิติของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อย่าได้ประมาทไป เพราะการชุมนุมครั้งนี้ถือเป็นเดิมพันอันยิ่งใหญ่ชนิดที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่เป็นนักโทษหนีคุกอยู่ขณะนี้ทุ่มสุดตัว ทุ่มหมดหน้าตักกันเลย
เป้าหมายคือ ชัยชนะเพื่อที่จะไม่ต้องหนีคุกหนีตะราง ได้ทรัพย์สินอันมหาศาลที่ถูกอายัดไว้กลับคืน และเผลอๆ ก็จะได้เข้าสู่อำนาจเป็นนายกรัฐมนตรี หรืออย่างไม่ได้ก็ให้บริษัทบริวาร 111 คนในพรรคไทยรักไทยเดิม และอีกส่วนหนึ่งจากพรรคพลังประชาชนที่ถูกยุบไปแล้วกลับมาบริหารจัดการแทน
ที่บอกว่ารัฐบาลอย่าได้ประมาทไป ก็เพราะสังเกตเห็นว่ารัฐบาลกำลังงงๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม หรือก่อนหน้านั้นที่อดีตนายกรัฐมนตรี นักโทษหนีคุก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ปราศรัยผ่านโทรศัพท์ถึงผู้ชุมนุมที่สนับสนุนเขาในจังหวัดต่างๆ พร้อมๆ กับการเปิดโปงผู้อยู่เบื้องหลังการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549
เรื่องที่อดีตนายกรัฐมนตรี นักโทษหนีคุก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เปิดเผยให้ตื่นเต้นกันทั่วบ้านทั่วเมืองเวลานี้ มิใช่เรื่องใหม่ เป็นเรื่องที่บรรดาลิ่วล้อของนักโทษหนีคุก และตัวของนักโทษหนีคุกเชื่อมานมนานแล้ว การเรียกร้องให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ในช่วงรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ การบุกบ้านสี่เสาฯ เมื่อเดือนกรกฎาคม 2550 ก็เพราะพวกเขาเชื่อว่า พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี อยู่เบื้องหลังการล้มรัฐบาลอดีตนายกรัฐมนตรี นักโทษหนีคุกขณะนี้ในครั้งนั้น
การปราศรัยของนักโทษหนีคุก อดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ครั้งล่าสุดเพิ่มสีสันขึ้นมาก็ด้วยการระบุชื่อบุคคลที่เขาเข้าใจว่า เกี่ยวข้องกับการทำรัฐประหารครั้งนั้นออกมาโต้งๆ ว่ามีใครบ้าง
ซึ่งเอาเข้าจริงก็เป็นเรื่องจับแพะชนแกะ จริงบ้าง เท็จบ้าง
ที่น่าประหลาดก็คือ อาการงงๆ ของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งๆ ที่ถืออำนาจรัฐอยู่ในมือ ทั้งๆ ที่เครื่องมือสื่อสารทั้งหลายทั้งปวงก็อยู่ในมือ กลับปล่อยให้นักโทษหนีคุกรุกไล่เสียจนแทบไม่เป็นกระบวน
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ดูแลสื่อต่างๆ ของรัฐมีความสามารถในการพูดในเรื่องที่มิใช่เรื่องของตัวเกือบทุกเรื่อง ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับอำนาจหน้าที่ของตนครั้งนี้ นายสาทิตย์ กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้ปล่อยปละละเลยให้ พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินเข้ามาอย่างสะดวก รัฐบาลตามเรื่องนี้มาตั้งแต่ครั้งก่อนๆ แล้ว และมีข้อมูลค่อนข้างใกล้ชิดมากในขณะนี้ กลุ่มคนที่ทำวิดีโอลิงก์ให้ส่วนหนึ่งเป็นคนในข้าราชการ กำลังติดตามข้อมูลอยู่ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแจง แต่ประเด็นที่ตามอยู่อยากทราบว่า ดำเนินการถูกกฎหมายหรืองไม่ หรือเป็นวิธีการหลบเลี่ยงกฎหมาย
ก็ได้แต่หวังว่า การติดตามที่จะไม่ให้อดีตนายกรัฐมนตรี นักโทษหนีคุก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่ให้โฟนอินเข้ามาอย่างสะดวกก็ดี การสืบสวนสอบสวนหรือหาข้อเท็จจริงที่มีข้าราชการในกำกับดูแลของนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ทำวิดีโอลิงก์ให้กับอดีตนายกรัฐมนตรี นักโทษหนีคุก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หรือกระทั่งประเด็นที่ว่า การดำเนินการถูกกฎหมายหรือไม่ หรือเป็นวิธีการหลีกเลี่ยงกฎหมาย นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย คงจะกระจ่างแจ้งในเวลาอันรวดเร็ว อย่างน้อยก็คงจะก่อนอายุขัยของนายสาทิตย์ จะได้ตายตาหลับ ไม่มีเรื่องที่ต้องวิตกกังวลในปรภพ
อีกคนหนึ่งคือ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ตอบคำถามของนักข่าวที่ถามว่า จะอธิบายกับประชาชนอย่างไร เพราะการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำให้เกิดความแตกแยก นายสุเทพ กล่าวว่า ทำไมต้องอธิบาย ประชาชนก็เห็นอยู่ทุกวัน ส่วนการพาดพิงองคมนตรีนั้น องคมนตรีที่เสียหายก็ออกมาชี้แจงแล้ว สำหรับประธานองคมนตรีท่านเป็นผู้ใหญ่ ก็ไม่ได้ออกมาตอบโต้อะไร ความชอบหรือไม่ชอบ ถูกต้องหรือไม่ เหมาะสมหรือไม่ ผู้พูดคือ พ.ต.ท.ทักษิณ จะต้องรับผิดชอบด้วยตัวเอง ประชาชนจะได้เห็นธาตุแท้ของ พ.ต.ท.ทักษิณ มากขึ้น
คำให้สัมภาษณ์ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง สะท้อนให้เห็นว่า นายสุเทือก เทือกสุบรรณ ไม่ได้ตระหนักเลยว่า สงครามข่าวสารนั้นกระทบกับความมั่นคงของประเทศชาติหรือไม่อย่างไร
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อาจจะถือดีว่า มีความสามารถในการเกลี้ยกล่อมหรือแบ่งปันผลประโยชน์ หรือสามารถประนีประนอมกับพรรคการเมือง กลุ่มการเมือง จนกระทั่งได้เสียงข้างมาก เสริมส่งให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคได้เป็นนายกรัฐมนตรี แล้วก็เป็นการเพียงพอ การต่อสู้ชนิดเอาเป็นเอาตายกับระบอบทักษิณ เป็นเรื่องของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือสื่ออย่าง ASTVผู้จัดการ ไทยโพสต์ ฯลฯ โดยที่นายสุเทพ และรัฐบาลไม่ต้องออกแรง
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ยังหวังว่าอดีตนายกรัฐมนตรี นักโทษหนีคุกอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังจะมีความรับผิดชอบอยู่อีกหรือ
เมื่อรัฐบาลยังทำท่างงๆ อยู่ สื่อของรัฐนอกจากไม่ทำความจริงให้ปรากฏ ซ้ำบางครั้งบางคราวยังเป็นกระบอกเสียงให้กับอดีตนายกรัฐมนตรี นักโทษหนีคุก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เสียด้วยซ้ำ ประชาชนส่วนหนึ่งจึงเข้าใจว่า รัฐบาลที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรีเกิดขึ้น เพราะแผนบันได 3 ขั้น 4 ขั้นของ คมช.เพราะมีประธานองคมนตรี องคมนตรีอยู่เบื้องหลัง กลั่นแกล้งอดีตนายกรัฐมนตรี นักโทษหนีคุก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ต่างๆ นานา
ถ้าหากประชาชนจะเข้าใจง่ายๆ อย่างที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ พูดแล้ว อดีตนายกรัฐมนตรี นักโทษหนีคุก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และกลุ่มเสื้อแดงคงจะไม่มีความมั่นใจถึงกับเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา หรือลาออกจัดให้มีการเลือกตั้งเสียใหม่โดยเร็วอย่างที่พวกเขากำลังเรียกร้องอยู่ในขณะนี้ดอก
พวกเขาต้องมั่นใจแล้วว่า หากจัดให้มีการเลือกตั้งวันนี้ พรุ่งนี้ หรือในเร็ววันนี้ พวกเขาจะต้องชนะอย่างแน่นอน
แน่ละ ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ แกนนำรัฐบาลยังมะงุมมะงาหราอยู่อย่างนี้ ประชาชนส่วนหนึ่งก็จะตกเป็นเหยื่อโฆษณาชวนเชื่อของอดีตนายกรัฐมนตรี นักโทษหนีคุก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่โฆษณาป่าวร้องผ่านวิดีโอลิงก์ ว่ารัฐบาลนี้ไม่ประสีประสาในเรื่องเศรษฐกิจ ก๊อบปี้นโยบายของพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชนไปทุกอย่างแต่ก็ทำไม่ได้ดี ไม่ได้ความ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจต้องระดับมืออย่างเขา ทักษิณ ชินวัตร
ประชาธิปัตย์ไม่ทำร้ายประชาชนไปหน่อยหรือที่ปล่อยให้ประชาชนเชื่อ ศรัทธา คนชั่ว คนเลว คนหนีคุกอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
ทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงต้องประกาศยกระดับการต่อสู้ให้เข้มข้นขึ้น ด้วยการเรียกร้องให้รัฐบาลลาออกแล้วพวกเขาก็จะสลายการชุมนุม
บทเรียนครั้งนั้นทำให้การชุมนุมครั้งใหม่ที่เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 26 มีนาคม เข้มข้นขึ้นมีประชาชนเข้าร่วมเป็นจำนวนมากขึ้น และจะต้องอยู่นานวันขึ้น อย่างน้อยที่สุดก็น่าจะไม่ต่ำกว่า 193 วัน ซึ่งเป็นสถิติของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อย่าได้ประมาทไป เพราะการชุมนุมครั้งนี้ถือเป็นเดิมพันอันยิ่งใหญ่ชนิดที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่เป็นนักโทษหนีคุกอยู่ขณะนี้ทุ่มสุดตัว ทุ่มหมดหน้าตักกันเลย
เป้าหมายคือ ชัยชนะเพื่อที่จะไม่ต้องหนีคุกหนีตะราง ได้ทรัพย์สินอันมหาศาลที่ถูกอายัดไว้กลับคืน และเผลอๆ ก็จะได้เข้าสู่อำนาจเป็นนายกรัฐมนตรี หรืออย่างไม่ได้ก็ให้บริษัทบริวาร 111 คนในพรรคไทยรักไทยเดิม และอีกส่วนหนึ่งจากพรรคพลังประชาชนที่ถูกยุบไปแล้วกลับมาบริหารจัดการแทน
ที่บอกว่ารัฐบาลอย่าได้ประมาทไป ก็เพราะสังเกตเห็นว่ารัฐบาลกำลังงงๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม หรือก่อนหน้านั้นที่อดีตนายกรัฐมนตรี นักโทษหนีคุก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ปราศรัยผ่านโทรศัพท์ถึงผู้ชุมนุมที่สนับสนุนเขาในจังหวัดต่างๆ พร้อมๆ กับการเปิดโปงผู้อยู่เบื้องหลังการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549
เรื่องที่อดีตนายกรัฐมนตรี นักโทษหนีคุก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เปิดเผยให้ตื่นเต้นกันทั่วบ้านทั่วเมืองเวลานี้ มิใช่เรื่องใหม่ เป็นเรื่องที่บรรดาลิ่วล้อของนักโทษหนีคุก และตัวของนักโทษหนีคุกเชื่อมานมนานแล้ว การเรียกร้องให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ในช่วงรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ การบุกบ้านสี่เสาฯ เมื่อเดือนกรกฎาคม 2550 ก็เพราะพวกเขาเชื่อว่า พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี อยู่เบื้องหลังการล้มรัฐบาลอดีตนายกรัฐมนตรี นักโทษหนีคุกขณะนี้ในครั้งนั้น
การปราศรัยของนักโทษหนีคุก อดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ครั้งล่าสุดเพิ่มสีสันขึ้นมาก็ด้วยการระบุชื่อบุคคลที่เขาเข้าใจว่า เกี่ยวข้องกับการทำรัฐประหารครั้งนั้นออกมาโต้งๆ ว่ามีใครบ้าง
ซึ่งเอาเข้าจริงก็เป็นเรื่องจับแพะชนแกะ จริงบ้าง เท็จบ้าง
ที่น่าประหลาดก็คือ อาการงงๆ ของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งๆ ที่ถืออำนาจรัฐอยู่ในมือ ทั้งๆ ที่เครื่องมือสื่อสารทั้งหลายทั้งปวงก็อยู่ในมือ กลับปล่อยให้นักโทษหนีคุกรุกไล่เสียจนแทบไม่เป็นกระบวน
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ดูแลสื่อต่างๆ ของรัฐมีความสามารถในการพูดในเรื่องที่มิใช่เรื่องของตัวเกือบทุกเรื่อง ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับอำนาจหน้าที่ของตนครั้งนี้ นายสาทิตย์ กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้ปล่อยปละละเลยให้ พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินเข้ามาอย่างสะดวก รัฐบาลตามเรื่องนี้มาตั้งแต่ครั้งก่อนๆ แล้ว และมีข้อมูลค่อนข้างใกล้ชิดมากในขณะนี้ กลุ่มคนที่ทำวิดีโอลิงก์ให้ส่วนหนึ่งเป็นคนในข้าราชการ กำลังติดตามข้อมูลอยู่ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแจง แต่ประเด็นที่ตามอยู่อยากทราบว่า ดำเนินการถูกกฎหมายหรืองไม่ หรือเป็นวิธีการหลบเลี่ยงกฎหมาย
ก็ได้แต่หวังว่า การติดตามที่จะไม่ให้อดีตนายกรัฐมนตรี นักโทษหนีคุก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่ให้โฟนอินเข้ามาอย่างสะดวกก็ดี การสืบสวนสอบสวนหรือหาข้อเท็จจริงที่มีข้าราชการในกำกับดูแลของนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ทำวิดีโอลิงก์ให้กับอดีตนายกรัฐมนตรี นักโทษหนีคุก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หรือกระทั่งประเด็นที่ว่า การดำเนินการถูกกฎหมายหรือไม่ หรือเป็นวิธีการหลีกเลี่ยงกฎหมาย นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย คงจะกระจ่างแจ้งในเวลาอันรวดเร็ว อย่างน้อยก็คงจะก่อนอายุขัยของนายสาทิตย์ จะได้ตายตาหลับ ไม่มีเรื่องที่ต้องวิตกกังวลในปรภพ
อีกคนหนึ่งคือ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ตอบคำถามของนักข่าวที่ถามว่า จะอธิบายกับประชาชนอย่างไร เพราะการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำให้เกิดความแตกแยก นายสุเทพ กล่าวว่า ทำไมต้องอธิบาย ประชาชนก็เห็นอยู่ทุกวัน ส่วนการพาดพิงองคมนตรีนั้น องคมนตรีที่เสียหายก็ออกมาชี้แจงแล้ว สำหรับประธานองคมนตรีท่านเป็นผู้ใหญ่ ก็ไม่ได้ออกมาตอบโต้อะไร ความชอบหรือไม่ชอบ ถูกต้องหรือไม่ เหมาะสมหรือไม่ ผู้พูดคือ พ.ต.ท.ทักษิณ จะต้องรับผิดชอบด้วยตัวเอง ประชาชนจะได้เห็นธาตุแท้ของ พ.ต.ท.ทักษิณ มากขึ้น
คำให้สัมภาษณ์ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง สะท้อนให้เห็นว่า นายสุเทือก เทือกสุบรรณ ไม่ได้ตระหนักเลยว่า สงครามข่าวสารนั้นกระทบกับความมั่นคงของประเทศชาติหรือไม่อย่างไร
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อาจจะถือดีว่า มีความสามารถในการเกลี้ยกล่อมหรือแบ่งปันผลประโยชน์ หรือสามารถประนีประนอมกับพรรคการเมือง กลุ่มการเมือง จนกระทั่งได้เสียงข้างมาก เสริมส่งให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคได้เป็นนายกรัฐมนตรี แล้วก็เป็นการเพียงพอ การต่อสู้ชนิดเอาเป็นเอาตายกับระบอบทักษิณ เป็นเรื่องของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือสื่ออย่าง ASTVผู้จัดการ ไทยโพสต์ ฯลฯ โดยที่นายสุเทพ และรัฐบาลไม่ต้องออกแรง
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ยังหวังว่าอดีตนายกรัฐมนตรี นักโทษหนีคุกอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังจะมีความรับผิดชอบอยู่อีกหรือ
เมื่อรัฐบาลยังทำท่างงๆ อยู่ สื่อของรัฐนอกจากไม่ทำความจริงให้ปรากฏ ซ้ำบางครั้งบางคราวยังเป็นกระบอกเสียงให้กับอดีตนายกรัฐมนตรี นักโทษหนีคุก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เสียด้วยซ้ำ ประชาชนส่วนหนึ่งจึงเข้าใจว่า รัฐบาลที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรีเกิดขึ้น เพราะแผนบันได 3 ขั้น 4 ขั้นของ คมช.เพราะมีประธานองคมนตรี องคมนตรีอยู่เบื้องหลัง กลั่นแกล้งอดีตนายกรัฐมนตรี นักโทษหนีคุก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ต่างๆ นานา
ถ้าหากประชาชนจะเข้าใจง่ายๆ อย่างที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ พูดแล้ว อดีตนายกรัฐมนตรี นักโทษหนีคุก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และกลุ่มเสื้อแดงคงจะไม่มีความมั่นใจถึงกับเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา หรือลาออกจัดให้มีการเลือกตั้งเสียใหม่โดยเร็วอย่างที่พวกเขากำลังเรียกร้องอยู่ในขณะนี้ดอก
พวกเขาต้องมั่นใจแล้วว่า หากจัดให้มีการเลือกตั้งวันนี้ พรุ่งนี้ หรือในเร็ววันนี้ พวกเขาจะต้องชนะอย่างแน่นอน
แน่ละ ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ แกนนำรัฐบาลยังมะงุมมะงาหราอยู่อย่างนี้ ประชาชนส่วนหนึ่งก็จะตกเป็นเหยื่อโฆษณาชวนเชื่อของอดีตนายกรัฐมนตรี นักโทษหนีคุก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่โฆษณาป่าวร้องผ่านวิดีโอลิงก์ ว่ารัฐบาลนี้ไม่ประสีประสาในเรื่องเศรษฐกิจ ก๊อบปี้นโยบายของพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชนไปทุกอย่างแต่ก็ทำไม่ได้ดี ไม่ได้ความ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจต้องระดับมืออย่างเขา ทักษิณ ชินวัตร
ประชาธิปัตย์ไม่ทำร้ายประชาชนไปหน่อยหรือที่ปล่อยให้ประชาชนเชื่อ ศรัทธา คนชั่ว คนเลว คนหนีคุกอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
