xs
xsm
sm
md
lg

“กษิต”กล้าๆ หน่อย อย่ายื้อเวลาเพิกถอนพาสปอร์ตแม้ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กษิต ภิรมย์ รมว.กระทรวงการต่างประเทศ
ASTVผู้จัดการออนไลน์ – “กษิต ภิรมย์” ลั่นอาสาล่า “แม้ว” กลับมารับโทษทัณฑ์ แต่กลับทอดเวลาเพิกถอนพาสปอร์ตเล่มสีน้ำตาลของ “นช.” มากว่า 4 เดือนแล้ว ทั้งที่มีอำนาจสั่งเพิกถอนทันทีเพราะเข้าเงื่อนไขเป็นนักโทษคดีอาญาที่ศาลออกหมายจับ รวมทั้งเคลื่อนไหวทางการเมืองอยู่ต่างประเทศสร้างความเสียหายให้แก่ประเทศไทย จวบจ้วงสถาบันศาลและสถาบันพระมหากษัตริย์

การออกมาอาสาล่าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้กลายเป็นนักโทษชายหนีคดีอาญา ของนายกษิต ภิรมย์ รมว.กระทรวงการต่างประเทศ จะช้าเกินการณ์หรือไม่ เพราะความจริงแล้ว เอาแค่การเพิกถอนพาสปอร์ตของนักโทษชายผู้นี้ กระทรวงการต่างประเทศ กลับไม่ดำเนินการอย่างเร่งด่วนอย่างที่ควรจะเป็น ทั้งที่มีอำนาจหน้าที่พิจารณาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง และสามารถสั่งเพิกถอนพาสปอร์ตทั้งเล่มสีแดงและสีน้ำตาลได้ทันทีตามระเบียบของกระทรวง แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ผู้ซึ่งหลายฝ่ายฝากความหวังไว้ในการเข้ามาล้างระบอบทักษิณ กลับโยนหน้าที่นี้ออกไปจากตนเอง โดยส่งเรื่องให้คณะกรรมการกฤษฎีกาช่วยตีความว่า สามารถทำได้หรือไม่

ภายหลังทอดเวลามาร่วม 4 เดือน คณะกรรมการกฤษฎีกา ก็เพิ่งตอบกลับมาเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา (ประมาณวันที่ 27 มี.ค.) ว่า ไม่รับตีความ เพราะเป็นเรื่องทางการเมือง !!

กรณีการเพิกถอนพาสปอร์ตหรือหนังสือเดินทางของอดีตนายกรัฐมนตรีนั้น ทางกระทรวงการต่างประเทศ ได้พิจารณาถอนพาสปอร์ตสีแดงหรือพาสปอร์ตทางการทูต ตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2551 แต่หนังสือเดินทางธรรมดาเล่มสีน้ำตาลที่พ.ต.ท.ทักษิณ ถืออยู่อีกเล่มหนึ่งนั้น ทางกระทรวงการต่างประเทศ ได้ส่งเรื่องให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความในเรื่องเรื่องสิทธิเสรีภาพในการเดินทางตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญปี 2550 เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาต่อไป

แต่คณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งรู้ทางลมการเมืองเป็นอย่างดี ก็ไม่มีทีท่าว่าจะเร่งรีบตีความและส่งเรื่องกลับไปยังกระทรวงการต่างประเทศแต่อย่างใด

ทั้งนี้ คณะกรรมการกฤษฎีกาที่พิจารณาเรื่องดังกล่าว คือ คณะกรรมการกฤษฎีกา คณะที่ 6 ซึ่งมี นายอรุณ ภาณุพงศ์ เป็นประธานกรรมการ ส่วนกรรมการ คือ นางสาวสุคนธ์ กาญจนาลัย, นายพิชัยศักดิ์ หรยางกูร, นายสุเทพ เจตนาการณ์กุล, นายการุณ กิตติสถาพร, นายชูเกียรติ รัตนชัยชาญ, นายพชร ยุติธรรมดำรง และนายยรรยง พวงราช

อย่างไรก็ตาม การพิจารณาเพิกถอนพาสปอร์ตเล่มสีน้ำตาลนั้น กระทรวงการต่างประเทศ มีอำนาจหน้าที่เพิกถอนพาสปอร์ตตามระเบียบของกระทรวงอยู่แล้ว ซึ่งระเบียบการยกเลิกหนังสือเดินทางนั้น กำหนดให้เจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่หรือกระทรวงการต่างประเทศ สามารถยกเลิกหรือเรียกคืนเมื่อปรากฏเหตุภายหลังโดยระเบียบกำหนดไว้ 7 ประการ แต่เงื่อนไขที่น่าจะเกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ มีอยู่ด้วยกัน 2 ข้อ คือ

1) เป็นบุคคลที่พนักงานเจ้าหน้าที่ไม่อาจออกหนังสือเดินทางได้ 3 ประการ ได้แก่

หนึ่ง เมื่อได้รังแจ้งว่า ผู้ขอผู้ซึ่งกำลังรับโทษในคดีอาญา หรืออยู่ระหว่างการปล่อยตัวชั่วคราวหรือเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญาที่มีการออกหมายจับไว้แล้วซึ่งศาลหรือพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจเห็นว่าไม่ควรออกหนังสือเดินทางให้

สอง เมื่อผู้ขอเป็นผู้ที่ศาลหรือเจ้าพนักงานซึ่งมีอำนาจตามกฎหมายอื่นสั่งห้ามไม่ให้เดินทางออกนอกราชอาณาจักร

และ สาม เมื่อผู้ขอกระทำผิดกฎหมายหรือระเบียบปฏิบัติทางราชการซึ่งขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนหรือปิดบังความจริงอันเป็นสาระสำคัญหรือแสดงเอกสารหลักฐานอันเป็นเท็จในการขอหรือต่ออายุหนังสือเดินทางหรือไม่อยู่ในฐานะที่จะเดินทางไปต่างประเทศได้

2) พิจารณาเห็นว่า หากให้ผู้ถือหนังสือเดินทางยังคงอยู่ในต่างประเทศต่อไปอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศไทยหรือต่างประเทศได้

เมื่อพิจารณาจากระเบียบการยกเลิกหนังสือเดินทางแล้ว เป็นที่ชัดเจนว่า พฤติการณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าเงื่อนไขการยกเลิกพาสปอร์ตแดงอย่างชัดเจน คือหลบหนีคำพิพากษาศาลฎีกาฯและถูกออกหมายจับรวมทั้งการเคลื่อนไหวทางการเมืองอยู่ต่างประเทศอาจสร้างความเสียหายให้แก่ประเทศไทย เช่น การโฟนอินโจมตีกระบวนการยุติธรรมหรือศาลและการจวบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ นับครั้งไม่ถ้วน และล่าสุดถึงขั้นเปิดเผยชื่อ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ว่าเป็นบุคคล “ผู้มีบารีนอกรัฐธรรมนูญ”

ความล่าช้าในกระบวนการติดตามตัวอดีตนายกรัฐมนตรีกลับมาลงโทษ การถอดยศพ.ต.ท.ทักษิณ และเพิกถอนพาสปอร์ตธรรมดา เป็นบททดสอบฝีมือรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นอย่างดีว่า มีความสามารถต่อกรกับอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้สร้างเครือข่ายระบอบทักษิณไว้ทั่วบ้านทั่วเมืองเพียงใด ประเทศชาติประชาชน จะฝากความหวังไว้กับพรรคการเมืองเก่าแก่ที่สุดของประเทศได้หรือไม่ หรือว่าเวลานับถอยหลังของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ มาเร็วเกินคาด
กำลังโหลดความคิดเห็น