ASTVผู้จัดการรายวัน - "อธิป พีชานนท์" เผยกรมที่ดินเล็งแก้ พ.ร.บ.จัดสรร ให้ลูกบ้านรียกประชุมขอตั้งนิติบุคคลบ้านจัดสรรได้จากเดิมเจ้าของโครงการเป็นผู้ดำเนินการ ส่วนกรณีรัฐต่อมาตรการลด ภาษีธุรกิจเฉพาะไม่ทันเส้นตาย 29 มี.ค. ผู้ประกอบการต้องควักจ่าย 3.3% เองก่อนขอคืนภาษีทีหลัง ชี้รายเล็กอาจเจอปัญหาสภาพคล่อง
นายอธิป พีชานนท์ รองกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย และ นายกสมาคมอาคารชุดไทย เปิดเผยว่า กรมที่ดินอยู่ระหว่างการแก้ไข พ.ร.บ.การจัดสรรที่ดินที่บังคับใช้มาตั้งแต่พ.ศ. 2543 โดยประเด็นหลักๆ ที่จะทำการแก้ไข คือ เรื่องของการจัดตั้งนิติบุคคลบ้านจัดสรร ที่เดิมจะให้เจ้าของโครงการเป็นผู้เรียกประชุมลูกบ้านเพื่อลงมติให้จัดตั้งนิติบุคคล บ้านจัดสรร แต่ร่าง พ.ร.บ.ใหม่จะให้ลูกบ้าน สามารถเรียกประชุมเพื่อขอตั้งนิติบุคคล บ้านจัดสรรได้เอง เพื่อป้องกันปัญหาเจ้าของโครงการไม่ยอมเรียกประชุมลูกบ้านเพื่อตั้งนิติบุคคลบ้านจัดสรร
อย่างไรก็ตาม ในทางปฏิบัตินิติบุคคลบ้านจัดสรรที่บริหารโดยลูกบ้านมักจะประสบปัญหาการบริหารจัดการเงินส่วนกลาง โดยปัญหาหลักคือ การเรียกเก็บเงินจากผู้อยู่อาศัยไม่ได้ ทำให้ไม่มีเงินในบริหารโครงการ การแก้ไขกฎหมายในประเด็นดังกล่าวจะทำให้บริษัทที่รับบริหารโครงการได้ประโยชน์ เพราะนิติบุคคลบ้านจัดสรรจะสามารถตั้งได้ง่ายขึ้น แต่ก็เกรงว่า เมื่อเงินในการบริหารหมดจะมีใครมาช่วยนิติบุคคลบ้านจัดสรรแก้ปัญหาหรือไม่
ส่วนกรณีที่กระทรวงมหาดไทยได้ ประกาศต่ออายุมาตรการลดค่าธรรมเนียม โอนและจดจำนองออกไปแล้ว แต่กระทรวงการคลังยังอยู่ระหว่างการประกาศต่ออายุการลดภาษีธุรกิจเฉพาะซึ่งไม่ทันวันสิ้นสุดมาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่หมดอายุลงเมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา
'ในระหว่างที่รอประกาศเรื่องการลดภาษีธุรกิจเฉพาะ ผู้ประกอบการจะต้อง จ่ายภาษี 3.3% ไปก่อน แล้วค่อยขอคืนภาษีหลังจากประกาศมีผลบังคับใช้ ในช่วงเวลาดังกล่าวผู้ประกอบการรายเล็ก รายกลางอาจจะมีปัญหาในเรื่องสภาพคล่อง ส่วนผู้ประกอบการรายใหญ่ไม่น่าจะมีผลกระทบจากการประกาศมาตรการ บางส่วนล่าช้า' นายอธิป กล่าว
ดังนั้น ผู้ประกอบการจะต้องหาทางออกเพื่อให้ลูกค้ารอโอนหลังจากมาตรการทั้งหมดประกาศใช้แล้ว โดยอาจจะขอเจรจากับลูกค้าให้รอโอน หรือเมื่อธนาคารอนุมัติสินเชื่อแล้วก็อาจจะให้ลูกค้าเข้าไปตกแต่งก่อนที่จะโอน หรือใช้มาตรการจูงใจต่างๆ มาช่วย
ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยได้ออกประกาศเมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมาทำ ให้การโอนบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮาส์ อาคารพาณิชย์ คอนโดมิเนียม และอาคาร สำนักงาน ยังเสียค่าธรรมเนียมโอน 0.01% จาก 2% และการลดค่าธรรมเนียมจดจำนอง เหลือ 0.01% จาก 1% ทันกับมาตรการเดิม ที่หมดอายุวันที่ 28 มีนาคม โดยกรมที่ดินได้ส่งหนังสือเวียนให้ทุกจังหวัด รับทราบแล้ว ส่วนภาษีธุรกิจเฉพาะที่ยังประกาศไม่ทันกำหนดทางกรมที่ดินจะต้องเรียกเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3% ไว้ก่อน แล้วค่อยขอคืนในภายหลัง
นายอธิป พีชานนท์ รองกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย และ นายกสมาคมอาคารชุดไทย เปิดเผยว่า กรมที่ดินอยู่ระหว่างการแก้ไข พ.ร.บ.การจัดสรรที่ดินที่บังคับใช้มาตั้งแต่พ.ศ. 2543 โดยประเด็นหลักๆ ที่จะทำการแก้ไข คือ เรื่องของการจัดตั้งนิติบุคคลบ้านจัดสรร ที่เดิมจะให้เจ้าของโครงการเป็นผู้เรียกประชุมลูกบ้านเพื่อลงมติให้จัดตั้งนิติบุคคล บ้านจัดสรร แต่ร่าง พ.ร.บ.ใหม่จะให้ลูกบ้าน สามารถเรียกประชุมเพื่อขอตั้งนิติบุคคล บ้านจัดสรรได้เอง เพื่อป้องกันปัญหาเจ้าของโครงการไม่ยอมเรียกประชุมลูกบ้านเพื่อตั้งนิติบุคคลบ้านจัดสรร
อย่างไรก็ตาม ในทางปฏิบัตินิติบุคคลบ้านจัดสรรที่บริหารโดยลูกบ้านมักจะประสบปัญหาการบริหารจัดการเงินส่วนกลาง โดยปัญหาหลักคือ การเรียกเก็บเงินจากผู้อยู่อาศัยไม่ได้ ทำให้ไม่มีเงินในบริหารโครงการ การแก้ไขกฎหมายในประเด็นดังกล่าวจะทำให้บริษัทที่รับบริหารโครงการได้ประโยชน์ เพราะนิติบุคคลบ้านจัดสรรจะสามารถตั้งได้ง่ายขึ้น แต่ก็เกรงว่า เมื่อเงินในการบริหารหมดจะมีใครมาช่วยนิติบุคคลบ้านจัดสรรแก้ปัญหาหรือไม่
ส่วนกรณีที่กระทรวงมหาดไทยได้ ประกาศต่ออายุมาตรการลดค่าธรรมเนียม โอนและจดจำนองออกไปแล้ว แต่กระทรวงการคลังยังอยู่ระหว่างการประกาศต่ออายุการลดภาษีธุรกิจเฉพาะซึ่งไม่ทันวันสิ้นสุดมาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่หมดอายุลงเมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา
'ในระหว่างที่รอประกาศเรื่องการลดภาษีธุรกิจเฉพาะ ผู้ประกอบการจะต้อง จ่ายภาษี 3.3% ไปก่อน แล้วค่อยขอคืนภาษีหลังจากประกาศมีผลบังคับใช้ ในช่วงเวลาดังกล่าวผู้ประกอบการรายเล็ก รายกลางอาจจะมีปัญหาในเรื่องสภาพคล่อง ส่วนผู้ประกอบการรายใหญ่ไม่น่าจะมีผลกระทบจากการประกาศมาตรการ บางส่วนล่าช้า' นายอธิป กล่าว
ดังนั้น ผู้ประกอบการจะต้องหาทางออกเพื่อให้ลูกค้ารอโอนหลังจากมาตรการทั้งหมดประกาศใช้แล้ว โดยอาจจะขอเจรจากับลูกค้าให้รอโอน หรือเมื่อธนาคารอนุมัติสินเชื่อแล้วก็อาจจะให้ลูกค้าเข้าไปตกแต่งก่อนที่จะโอน หรือใช้มาตรการจูงใจต่างๆ มาช่วย
ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยได้ออกประกาศเมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมาทำ ให้การโอนบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮาส์ อาคารพาณิชย์ คอนโดมิเนียม และอาคาร สำนักงาน ยังเสียค่าธรรมเนียมโอน 0.01% จาก 2% และการลดค่าธรรมเนียมจดจำนอง เหลือ 0.01% จาก 1% ทันกับมาตรการเดิม ที่หมดอายุวันที่ 28 มีนาคม โดยกรมที่ดินได้ส่งหนังสือเวียนให้ทุกจังหวัด รับทราบแล้ว ส่วนภาษีธุรกิจเฉพาะที่ยังประกาศไม่ทันกำหนดทางกรมที่ดินจะต้องเรียกเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3% ไว้ก่อน แล้วค่อยขอคืนในภายหลัง