ASTVผู้จัดการรายวัน- อสังหาฯเจอน้ำดีมาตรการรัฐ หนุนยอดขายและดันกำไรเพิ่มขึ้นในปี 51 “ศุภาลัย-แอล.พี.เอ็น.”รายได้ยังเติบโตต่อ ส่วนค่ายปริญสิริฯสปีดงานก่อสร้างส่งผลยอดโอนทันรับรู้รายได้ ค่ายปรีชาฯเริ่มเห็นสัญญาณขาดทุนลดลง
นางวารุณี ลภิธนานุวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานการเงินและบัญชี บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลประกอบการที่ดีในปี 51 ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการโอนกรรมสิทธิ์ของยอดสัญญาที่เกิดจากการขายในปีก่อน ๆ เป็นจำนวนมาก อีกสาเหตุเกิดจากยอดขายใหม่ที่เพิ่มขึ้นจากมาตรการการลดอัตราภาษีธุรกิจเฉพาะอัตรา ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์และค่าจดจำนอง กล่าวคือในปี 2551 บริษัทฯ มียอดขายที่ทำสัญญาแล้ว 9,315 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 23 % แยกเป็น รายได้จากการขายอสังหาฯเท่ากับ 5,997.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,201.35 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 25% ขณะเดียวกันรายได้รวมก็เพิ่มขึ้นจาก 4,976.91 ล้านบาทของงวดเดียวกันของปีก่อน เป็น 6,241.55 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 25 %
และจากผลการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นและจากมาตรการของรัฐ ส่งผลให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 1,068.75 ล้านบาท ขณะที่ปีก่อนเท่ากับ 816.34 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 252.41 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 31 %
นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ฯ กล่าวว่า รายได้รวมของบริษัท บริษัทย่อยและบริษัทร่วม เท่ากับ 7,232.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2550 ที่มี รายได้รวม 6,754.00 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7.08 % มาจากการที่บริษัทสามารถรับรู้รายได้จาก 5 โครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จในปี51 และจากโครงการต่อเนื่องที่ยกมาจากปี 2550
โดยอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 16.67 %สูงกว่า 13.74 % ในปี 2550 เนื่องจากผลของมาตรการกระตุ้นอสังหาฯและการบริหารค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ
ด้านนายสุริยน พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ฯ กล่าวว่าผลประกอบในรอบปีที่ผ่านมา มีกำไรสุทธิจำนวน445.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 165.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้นคิดเป็น 59.13 % เนื่องจากรับรู้รายได้จากการขายหน่วยในโครงการอาคารชุด สำหรับรอบระยะเวลา 12 เดือน เท่ากับ 2,636.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้นคิดเป็น 19.90%
บริษัทปริญสิริฯ มียอดรับรู้รายได้จากการขายอสังหาฯเท่ากับ 3,471.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2550 จำนวน 947.83 ล้านบาท เท่ากับ 37.55 % เนื่องจาก บริษัทฯได้มีการเร่งงานก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามแผนที่วางไว้ รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ขณะที่กำไรสุทธิเท่ากับ 315.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 50 เท่ากับ 237.58 ล้านบาท
ส่วนบริษัทปรีชา กรุ๊ปฯ บริษัทมีผลขาดทุน 18 ล้านบาท ลดลง 66 ล้านบาท สาเหตุมาจากรายได้รวมในปี 51 มีจำนวน 480 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 223 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 111%
นางวารุณี ลภิธนานุวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานการเงินและบัญชี บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลประกอบการที่ดีในปี 51 ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการโอนกรรมสิทธิ์ของยอดสัญญาที่เกิดจากการขายในปีก่อน ๆ เป็นจำนวนมาก อีกสาเหตุเกิดจากยอดขายใหม่ที่เพิ่มขึ้นจากมาตรการการลดอัตราภาษีธุรกิจเฉพาะอัตรา ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์และค่าจดจำนอง กล่าวคือในปี 2551 บริษัทฯ มียอดขายที่ทำสัญญาแล้ว 9,315 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 23 % แยกเป็น รายได้จากการขายอสังหาฯเท่ากับ 5,997.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,201.35 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 25% ขณะเดียวกันรายได้รวมก็เพิ่มขึ้นจาก 4,976.91 ล้านบาทของงวดเดียวกันของปีก่อน เป็น 6,241.55 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 25 %
และจากผลการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นและจากมาตรการของรัฐ ส่งผลให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 1,068.75 ล้านบาท ขณะที่ปีก่อนเท่ากับ 816.34 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 252.41 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 31 %
นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ฯ กล่าวว่า รายได้รวมของบริษัท บริษัทย่อยและบริษัทร่วม เท่ากับ 7,232.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2550 ที่มี รายได้รวม 6,754.00 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7.08 % มาจากการที่บริษัทสามารถรับรู้รายได้จาก 5 โครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จในปี51 และจากโครงการต่อเนื่องที่ยกมาจากปี 2550
โดยอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 16.67 %สูงกว่า 13.74 % ในปี 2550 เนื่องจากผลของมาตรการกระตุ้นอสังหาฯและการบริหารค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ
ด้านนายสุริยน พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ฯ กล่าวว่าผลประกอบในรอบปีที่ผ่านมา มีกำไรสุทธิจำนวน445.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 165.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้นคิดเป็น 59.13 % เนื่องจากรับรู้รายได้จากการขายหน่วยในโครงการอาคารชุด สำหรับรอบระยะเวลา 12 เดือน เท่ากับ 2,636.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้นคิดเป็น 19.90%
บริษัทปริญสิริฯ มียอดรับรู้รายได้จากการขายอสังหาฯเท่ากับ 3,471.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2550 จำนวน 947.83 ล้านบาท เท่ากับ 37.55 % เนื่องจาก บริษัทฯได้มีการเร่งงานก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามแผนที่วางไว้ รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ขณะที่กำไรสุทธิเท่ากับ 315.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 50 เท่ากับ 237.58 ล้านบาท
ส่วนบริษัทปรีชา กรุ๊ปฯ บริษัทมีผลขาดทุน 18 ล้านบาท ลดลง 66 ล้านบาท สาเหตุมาจากรายได้รวมในปี 51 มีจำนวน 480 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 223 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 111%
