xs
xsm
sm
md
lg

ทั่วโลกขานรับ"เวิร์ลด์ เอิร์ธ อาวร์" 4,000เมืองร่วมปิดไฟลดโลกร้อน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเอฟพี - สถานที่สำคัญๆ ทั่วโลกนับตั้งแต่อ่าวซิดนีย์ในออสเตรเลียไปจนถึงหอไอเฟลของฝรั่งเศส และตึกเอ็มไพร์สเตทในสหรัฐฯ พร้อมใจกันประหยัดพลังงานโดยดับไฟฟ้าที่ไม่จำเป็นต้องใช้เป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงเต็มในคืนวันเสาร์ (28) ตามโครงการ "เวิร์ลด์ เอิร์ธ อาวร์" ซึ่งจัดขึ้นทั่วโลกเพื่อรณรงค์แก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
สถานที่สำคัญของโลก 371 แห่งที่พร้อมใจกันลดการใช้พลังงานไฟฟ้าในโครงการ "เวิร์ลด์ เอิร์ธ อาวร์" ในครั้งนี้มีอาทิ มหาพีระมิดกิซาในอียิปต์, อะโครโปลิสในกรุงเอเธนส์, รัฐสภาของอังกฤษในกรุงลอนดอน, อีกทั้งหอไอเฟล, น้ำตกไนแอการา, กาสิโนในลาสเวกัส, สนามกีฬา "รังนก" ในกรุงปักกิ่ง เป็นต้น
การปิดไฟลดโลกร้อนพร้อมกันทั่วโลก เริ่มต้นจุดแรกที่โอปราเฮาส์และสะพานฮาร์เบอร์บริดจ์ในเมืองซิดนีย์ของออสเตรเลีย จนมาปิดท้ายที่เมืองโฮโนลูลูในมลรัฐฮาวายของสหรัฐฯ
นอกจากประชาชนหลายล้านคนในซิดนีย์จะร่วมมือปิดไฟในชั่วโมงดังกล่าวแล้ว ที่เมืองเมลเบิร์น ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของออสเตรเลีย ก็จัดคอนเสิร์ตโดยใช้พลังงานไฟฟ้าที่ปั่นด้วยแรงคน และอีกหลายคนก็จัดปิกนิกบาร์บีคิวกันใต้แสงจันทร์
ส่วนที่กรุงวอชิงตัน มหาวิทยาลัยและสถานทูตหลายแห่งก็ให้ความร่วมมือ ชาวอเมริกันอีกส่วนหนึ่งไปรวมตัวกันที่ฟรีดอม พลาซาเพื่อชมทัศนียภาพในขณะที่แสงไฟค่อยๆ หรี่ลง
ที่ปารีส อาคารและอนุสาวรีย์หลายร้อยแห่ง ตั้งแต่พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ไปจนถึงมหาวิหารโนเตรอดามและประตูชัย ก็ล้วนแต่ตกอยู่ในท่ามกลางความมืดในช่วงเวลาดังกล่าว ยกเว้นเพียงหอไอเฟลที่จำเป็นต้องดับไฟเพียง 5 นาทีเพื่อความปลอดภัย
แม้แต่ที่นครดูไบในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ซึ่งมีการบริโภคพลังงานต่อหัวประชากรสูงที่สุดในโลก ก็มีการหยุดการแสดงแสงสีเสียงในโรงแรมระดับเจ็ดดาว "บูร์จ อัล อาหรับ" ด้วย
"เอิร์ธ อาวร์" เริ่มขึ้นที่ซิดนีย์เมื่อสองปีก่อน โดยมีประชาชน 2.2 ล้านคนพร้อมใจกันปิดไฟเพื่อลดการใช้พลังงาน และหลังจากนั้นก็จัดต่อเนื่องกันมาและได้รับเสียงขานรับจากเมืองใหญ่น้อยและหมู่บ้านต่างๆ 3,929 แห่งทั่วโลก
"นี่เป็นโครงการรณรงค์ในเชิงบวกและให้ความหวัง" แอนดี ริดลีย์ ผู้จัดการโครงการดังกล่าวระบุ "เราต้องการกระตุ้นให้คนคิดว่าเขาสามารถช่วยลดปริมาณคาร์บอนได้ออกไซด์ได้อย่างไรบ้าง แม้ว่าจะแค่ชั่วโมงเดียวก็ตาม และต่อไปเขาก็จะทำอีก"
ริดลีย์ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะมีผู้เข้าร่วมถึงหนึ่งพันล้านคน โดยหวังว่ากิจกรรมนี้จะส่งเสียงสะท้อนกลับไปยังพวกผู้นำโลกเพื่อให้เข้าใจถึงความสำคัญของการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก
ทั้งนี้ พวกนักวิทยาศาสตร์ได้กล่าวเตือนว่าภาวะโลกร้อนซึ่งเกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นจำนวนมหาศาล จะทำลายโลกใบนี้ลง โดยที่ประเทศยากจนจะได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดจากภาวะน้ำท่วม ภัยแล้ง และโรคระบาด
ทว่าก็มีพวกนักวิจารณ์ช่างสงสัยที่บอกว่ากิจกรรมปิดไฟดังกล่าวไม่ใช่อะไรมากไปกว่าเรื่องในเชิงสัญลักษณ์ โดยศาสตราจารย์ บยอร์น ลอมบอร์ก ชาวเดนมาร์ก อ้างว่าการจุดเทียนใช้แทนการเปิดไฟฟ้าในช่วงหนึ่งชั่วโมงดังกล่าวอาจก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจกมากกว่าใช้ไฟฟ้าด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตาม บันคีมูน เลขาธิการสหประชาชาติ ได้กล่าวผ่านทางวิดีโอก่อนหน้านี้ว่า "โครงการเอิร์ธ อาวร์เป็นหนทางหนึ่งที่พลเมืองโลกจะส่งสารอย่างชัดเจนว่าพวกเขาต้องการให้มีการดำเนินการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างจริงจัง" นอกจากนั้น ภายในปีนี้ก็จะมีการประชุมรับรองสนธิสัญญาว่าด้วยปัญหาโลกร้อนฉบับใหม่สำหรับนำออกใช้ในปี 2012 หลังจากที่พิธีสารเกียวโตว่าด้วยการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้ออกไซด์หมดอายุลง โดยการประชุมจะจัดที่กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก และมีสหประชาชาติเป็นเจ้าภาพ
กำลังโหลดความคิดเห็น