108 ช็อป เสริมฐานธุรกิจ สยายปีกธุรกิจบิลเพย์เม้นท์”108 ช็อป เซอร์วิส” เพิ่ม เร่งปรับระบบไอทีรองรับ ลั่นปีนี้ขยายสาขา 200 แห่ง พร้อมปั้นสินค้า 108 ช็อปเพิ่ม รับอานิสงส์วิกฤตเศรษฐกิจกระทบกำลังซื้อหด ผู้บริโภคแห่ซื้อสินค้าเพียบ สิ้นปีโต 50% กวาดกว่า 3,700 ล้านบาท
นายเวทิต โชควัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซันร้อยแปด จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้าน 108 ช็อป เปิดเผยว่า บริษัทวางแผนพัฒนาระบบไอที เพื่อขยายบริการรับชำระค่าบริการภายใต้” 108 เซอร์วิส” เพิ่มเติม หลังจากในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาได้ทดลองเปิดให้บริการับชำระค่าบริการสาธารณูปโภค(บิลเพย์เม้นท์)ในส่วนของค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าโทรศัพท์ โดยไม่คิดค่าบริการปรากฎว่าได้รับความสนใจจากลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในร้าน 108 ช็อป
ปัจจุบันบริการดังกล่าวยังไม่ครอบคลุมธุรกิจมากนัก ส่งผลให้บริษัทต้องมีการเจรจากับพันธมิตรเพิ่มทั้งในส่วนของภาคเอกชนและราชการ เพื่อให้การบริการครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้บริษัทมีแผนที่จะขยายการบริการในทุกสาขาของร้าน 108 ช็อป ที่เปิดให้บริการอยู่ในขณะนี้จำนวน 700 สาขา จากปัจจุบันบริษัทเปิดรับชำระค่าบริการสาธารณูปโภคเพียง 30 สาขา
“เราอยู่ในช่วงของการทดลองระบบ ทำให้ไม่สามารถแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดได้ อย่างไรก็ตาม คาดว่าภายในปีหน้าบริษัทจะสามารถเปิดรับชำระค่าบริการได้อย่างครบวงจรและทุกสาขา”
นายเวทิต กล่าวว่า ปีนี้บริษัทวางแผนขยายสาขาร้าน 108 ช็อป เพิ่มอีกประมาณ 200 สาขา แบ่งเป็น การลงทุนเอง 100 สาขา และแฟรนไชส์ 100 สาขา ซึ่งแต่ละสาขาคาดว่าจะใช้งบลงทุนอยู่ที่ประมาณ 600,000 บาท และจากการดำเนินการตลาดเชิงรุก คาดว่าสิ้นปีจะมีรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 50% หรือกว่า 3,700 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา มีรายได้ 2,500ล้านบาท เติบโตจากปี 2550 ที่ประมาณ 30% โดยรายได้มาจากการขยายสาขาเพิ่ม สำหรับภาพรวมในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมามียอดขายเติบโตที่ 8%
ด้านการนำสินค้า 108 ช็อป หรือสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ เข้ามาทำตลาดในกลุ่มของน้ำยาล้างจาน น้ำยาซักกผ้า น้ำยาถูบ้าน และผงซักฟอก เพื่อสร้างทางเลือกหลากหลายให้กับผู้บริโภค เนื่องจากราคาสินค้าดังกล่าวมาราคาถูกกว่าในท้องตลาด เช่น ผงซักฟอก 108 ช็อป ขนาด 3,000 กรัมราคา 129 บาท คู่แข่งในตลาดจำหน่ายที่ประมาณ 160 บาท
อย่างไรก็ตามจากการเปิดตัวสินค้า 108 ช็อป ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจ เพราะเป็นสินค้าที่ตอบโจทย์ในแง่กำลังการซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง และมีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย โดยในอนาคตบริษัทมีแผนที่จะเพิ่มรายการสินค้าเข้ามาทำตลาดมากขึ้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาตลาด
นายเวทิต โชควัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซันร้อยแปด จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้าน 108 ช็อป เปิดเผยว่า บริษัทวางแผนพัฒนาระบบไอที เพื่อขยายบริการรับชำระค่าบริการภายใต้” 108 เซอร์วิส” เพิ่มเติม หลังจากในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาได้ทดลองเปิดให้บริการับชำระค่าบริการสาธารณูปโภค(บิลเพย์เม้นท์)ในส่วนของค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าโทรศัพท์ โดยไม่คิดค่าบริการปรากฎว่าได้รับความสนใจจากลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในร้าน 108 ช็อป
ปัจจุบันบริการดังกล่าวยังไม่ครอบคลุมธุรกิจมากนัก ส่งผลให้บริษัทต้องมีการเจรจากับพันธมิตรเพิ่มทั้งในส่วนของภาคเอกชนและราชการ เพื่อให้การบริการครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้บริษัทมีแผนที่จะขยายการบริการในทุกสาขาของร้าน 108 ช็อป ที่เปิดให้บริการอยู่ในขณะนี้จำนวน 700 สาขา จากปัจจุบันบริษัทเปิดรับชำระค่าบริการสาธารณูปโภคเพียง 30 สาขา
“เราอยู่ในช่วงของการทดลองระบบ ทำให้ไม่สามารถแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดได้ อย่างไรก็ตาม คาดว่าภายในปีหน้าบริษัทจะสามารถเปิดรับชำระค่าบริการได้อย่างครบวงจรและทุกสาขา”
นายเวทิต กล่าวว่า ปีนี้บริษัทวางแผนขยายสาขาร้าน 108 ช็อป เพิ่มอีกประมาณ 200 สาขา แบ่งเป็น การลงทุนเอง 100 สาขา และแฟรนไชส์ 100 สาขา ซึ่งแต่ละสาขาคาดว่าจะใช้งบลงทุนอยู่ที่ประมาณ 600,000 บาท และจากการดำเนินการตลาดเชิงรุก คาดว่าสิ้นปีจะมีรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 50% หรือกว่า 3,700 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา มีรายได้ 2,500ล้านบาท เติบโตจากปี 2550 ที่ประมาณ 30% โดยรายได้มาจากการขยายสาขาเพิ่ม สำหรับภาพรวมในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมามียอดขายเติบโตที่ 8%
ด้านการนำสินค้า 108 ช็อป หรือสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ เข้ามาทำตลาดในกลุ่มของน้ำยาล้างจาน น้ำยาซักกผ้า น้ำยาถูบ้าน และผงซักฟอก เพื่อสร้างทางเลือกหลากหลายให้กับผู้บริโภค เนื่องจากราคาสินค้าดังกล่าวมาราคาถูกกว่าในท้องตลาด เช่น ผงซักฟอก 108 ช็อป ขนาด 3,000 กรัมราคา 129 บาท คู่แข่งในตลาดจำหน่ายที่ประมาณ 160 บาท
อย่างไรก็ตามจากการเปิดตัวสินค้า 108 ช็อป ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจ เพราะเป็นสินค้าที่ตอบโจทย์ในแง่กำลังการซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง และมีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย โดยในอนาคตบริษัทมีแผนที่จะเพิ่มรายการสินค้าเข้ามาทำตลาดมากขึ้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาตลาด