"แม้ว" ชัดเจนปฏิปักษ์สถาบันฯ ระบุ"ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ" คือประธานองคมนตรี ที่วางแผนโค่นล้มรัฐบาลไทยรักไทย เพราะมีความ ผูกพันกับประชาธิปัตย์ ตั้งแต่ตอนเป็นนายกฯ 8 ปี ซัด"ป๋า"ลงมาเล่นการเมืองจนทำให้ระบบผิดเพี้ยน สองมาตรฐาน สุดท้ายแบไต๋ ต้องนิรโทษกรรมให้ตัวเอง เพื่อบ้านเมืองจะได้สงบ
เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. วานนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่อยู่ระหว่างหลบหนีคดีอยู่ต่างประเทศ ได้กล่าวปราศรัยผ่านระบบวิดีโอลิงก์ มายังที่ชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล โดย พ.ต.ท.ทักษิณ เริ่มต้นปราศรัย ด้วยการของคุณคนเสื้อแดง ที่มารวมตัวกันตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 มี.ค. โดยการพูดครั้งนี้ ตนตั้งใจจะพูดเพื่อหาทางออหกให้ประเทศ ในเรื่องความขัดแย้ง จะเอาหรือไม่เอาก็ไม่ว่ากัน
"ขอบอกกับผู้ใหญ่ในบ้านเมืองทั้งหลายว่า ถึงเวลาหรือยังที่จะมองอนาคตให้ลูกหลานไม่ใช่การเอาชนะคะคานกัน หรือความพอใจและไม่พอใจ เราต้องเรียนรู้กับบทเรียนที่เจ็บช้ำมานานจากการรัฐประหารและเผด็จการที่เกิดครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ไม่จำ เพราะเราไม่ยอมพูดความจริงกัน เราตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงครึ่งเดียว เหมือนว่าเราเรียนไม่จบแล้วไม่ได้ปะกาศนียบัตร ล้มเพราะอะไร ก็ไม่พูดกัน และอยู่กันแบบนี้"
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ปลายปี 47 ก่อนการเลือกตั้งปี 48 มีการรวมตัวกันเล็กน้อย ที่สนามหลวง โดยมีนายเอกยุทธ อัญชันบุตร และนาย ประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ที่ไม่พอใจตน เพราะสูญเสียผลประโยชน์ แต่หลังการเลือกตั้ง พรรคไทยรักไทยชนะเลือกตั้ง 377 เสียง บางคนบอกว่ารัฐบาลเข้มแข็งเกินไป พรรคฝ่ายค้านอ่อนแอเกินไป ปลายปี 2548 เกิดพันธมิตรฯ โดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล และพรรคประชาธิปัตย์ ช่วยทางตรงและทางอ้อมบ้าง มันเริ่มการต่อสู้นอกระบบ แค่นั้นไม่เป็นไร
แต่องคมนตรีบางคนไปบอกกับสื่อ และแอบอ้างว่า พระเจ้าอยู่หัวไม่เอาตนแล้ว และให้สื่อตีตน ม็อบก็เลยมีเส้น เอเอสทีวีได้รับการคุ้มครองจากศาลปกครอง ออกอากาศล้มล้างรัฐบาลใช้คำพูดหยาบ โกหก รัฐบาลก็ทำอะไรไม่ได้ ข้าราชการก็เริ่มเกียร์ว่าง เพราะเริ่มถูกผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญแทรกแซง และแอบสั่งข้าราชการ บางคนยอมผิดคำสั่งผู้บังคับบัญชา ตนพูดคำๆนี้จนฮือฮา
วันนั้นนายสนธิไปกล่าวหาตนว่า ตนพูดหมายถึงพระเจ้าอยู่หัว ตนมิบังอาจที่จะไปพูดถึงขานดนั้น เเต่ตนหมายถึง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ หมายความอย่างนั้นจริงๆ แต่วันนั้นไม่กล้าพูด เพราะยังเกรงใจ จากนั้นคนของพล.อ.เปรม โทรศัพท์มาหาตน ว่าพูดให้ชัดๆว่า สิ่งที่พูดไปนั้นไม่ใช่ พล.อ.เปรม แต่มันใช่แล้วจะให้ตนไปบอกไม่ใช่ได้ยอ่งไร เเต่ตนก็ไม่พูด จากนั้นพล.อ.เปรม ก็แต่งเครื่องแบทหาร เดินสายด่าตน
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ขออันเชิญพระราชดำรัส ที่พระราชทาน ขณะเสด็จไปเปิดทำเนียบองคมนตรีว่า องคมนตรีเป็นที่ปรึกษาของพระมหากษัตริย์เท่านั้น และไม่มีหน้าที่ไปเป็นที่ปรึกษาของคนอื่นไม่ใช่ไปแนะนำคนอื่น หากไปแนะนำคนอื่นก็เป็นการส่วนตัว ไม่ใช่ในฐานะองคมนตรี ขอให้ระมัดระวังในตรงนี้ด้วย พระองค์ท่านสถิตย์อยู่ที่สูง แต่คนรอบข้างมาเกี่ยวข้องการเมือง ทำให้พระองค์ท่านเสื่อมเสีย สิ่งที่ พล.อ.เปรม และพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานทท์ เข้ามายุ่งการเมืองทำ ให้สถาบันเสียหายหาก ท่านจะยุ่งการเมือง การเมืองจะยุ่งกับท่านด้วย ขอเรียนว่าโปรดอยู่นิ่งๆ อย่ายุ่งกับการเมืองเลย
"พล.อ.เปรม เป็นนายกฯ 8 ปี แต่ไม่เคยลงเลือกตั้งเลย ได้รับการสนับสนุนจากพรรคประชาธิปัตย์มาตลอด เหตุนี้พล.อ.เปรม จึงใกล้ชิดพรรคนี้ และเป็นห่วงพรรคนี้เป็นพิเศษ เมื่อพรรคไทยรักไทย ชนะเลือกตั้ง 2 ครั้ง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ผมห่วงพล.อ.เปรมไม่อยากให้ยุ่งการเมือง ท่านพูดว่า ไม่ยุ่งการเมืองไม่ได้ เพราะท่านยุ่งเต็มๆ"
พ.ต.ท.ทักษิณ ยังกล่าวถึงนายปีย์ มาลากุล ว่า นายปีย์ บอกว่า พล.อ.สุรยุทธ์ เชิญพล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี มาหารือและพูดว่ามี 3 คนไปเข้าเฝ้าฯ 901 คือพล.อ.เปรม พล.อ.สุรยุทธ์ และองคมนตรี อีกคนว่า จะขอทำงานถวาย โดยจะจัดการตน เพราะไม่จงรักภักดี และทุกคนไม่หวังตำแหน่งใดๆ ทั้งสิ้น แต่ตนไม่เชื่อว่า 901 จะทรงรับรู้ เพราะท่านสถิตอยู่ที่สูง ไม่ทรงยุ่งเกี่ยวกับการเมืองเลย จากนั้นอีก 4 คน มาร่วมประชุม คือที่บ้านนายปีย์ คือนายปราโมทย์ นาครทรรพ นายอัขราทร จุฬารัตน ประธานนศาลปกครอง นายจรัญ ภักดีธนากุล นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ ก็ไปร่วมประชุม จากนั้นเดินหน้าจัดการตนอย่างชัดเจน และทำให้กระบวนการต่างๆ ผิดเพี้ยนหมด เพราะทุกคนเชื่อว่าพระจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัส แต่พระเจ้าอยู่หัวกับสมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงไม่ทราบเรื่องเลย แต่ไปแอบอ้างกัน ทำให้การทำงานบิดเบี้ยวผิดเพี้ยนหมดจนวุ่นวาย และมีการปฏิวัติ โดยพล.อ.เปรม นำไปเข้าเฝ้าฯ จนคิดว่าพล.อ.เปรม คือหัวหน้าคณะปฏิวัติ จากนั้นพล.อ.สุยุทธ์ ขึ้นเป็นนายกฯ พล.อ.เปรม ก็ชมว่าเหมือนนายวินส์ตัน เชอร์ชิลล์ นายกฯอังกฤษ และวันที่ 26มี.ค. ที่ผ่านมา พล.อ.เปรม ยังบอกว่า ประเทศไทยโชคดี และเชียร์นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯ
"ป๋าครับ ป๋าเป็นประธานองคมนตรีนะครับ ที่พูดเพราะผมรักเละเคารพป๋า เพราะเป็นผู้ใหญ่ที่ผมเคารพ ป๋าอายุมากกว่าพ่อผม สิ่งที่เกิดขึ้น ป๋ามาเล่นการเมืองทำไม ผมไม่อยากเห็นเลยครับป๋า ป๋าอย่าทำเลย ป๋าลงมาเล่นการเมืองสั่งนู้นสั่งนี่ ทำให้กระบวนการผิดเพี้ยน ป๋าต้องอย่าทำครับ เราต้องอยู่ในประเทศที่มีระบบถูกต้อง เป็นประชาธิปไตยที่สากลยอมรับ และให้ความเป็นธรรมกับสังคม อย่า 2 มาตรฐานแบบนี้ " พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว
พ.ต.ท.ทักษิณ ยังกล่าวถึงเรื่อง กกต.ว่า ได้มีการเรียก พล.อ.จารุภัทร เรืองสุวรรณ ไปพบพล.ต.จำลอง ศรีเมือง ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งๆ ที่ไม่เป็นเรื่องเลย ในที่สุด กกต.ก็ถูกลงโทษจำคุก ตนไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อองคมนตรีลงมาเล่นการเมือง ในฐานะที่ตนถวายงานมา ยืนยันว่าเจ้านายทั้ง 2 พระองค์ไม่ยุ่งการเมือง ถ้าองคมนตรีคนไหนทำตัวไม่ดี ก็เป็นเรื่องคนนั้น โดยเฉพาะ 2 คน ที่แอคทีฟมาก สิ่งที่ท่านอาจไม่พอใจคือ ตนโทรหาท่านตอนประมาณตีหนึ่ง ว่า ท่านผบ.ทบ. ทำไมเคลื่อนย้ายกำลังทหาร ก็บอกว่าไม่มีอะไร เป็นการผลัดเปลี่ยนกำลังทหาร แต่ต่อมาพบว่าไปยิงพม่า ตนถามพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ก็บอกว่าไม่ได้อนุมัติ ต่อมาทำเรื่องของบ เพราะเอาน้ำมันสำรองไปใช้ ในที่สุดตนก็ย้ายไปเป็น ผบ.สส. เพราะถือว่าหน้าที่ก็คือหน้าที่ ไม่ได้โกรธแค้นอะไร
พล.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ที่บ้านนายปีย์ เกิดกระบวนการหลายอย่าง ตนถูกลอบสังหาร แต่บังเอิญโชคดี ตนเปลี่ยนสถานที่จากเชียงรายไปเชียงใหม่ จุดที่สองสนามหลวง ตั้งปืนที่ธรรมศาสตร์ ครั้งที่สามเรื่องคาร์บอมบ์ ที่แยกซังฮี้ ในที่สุดจับผู้ต้องหาได้ คนที่อยู่เบื้องหลังสั่งการชื่อนายบัง
ต่อมามีการเลือกตั้ง ก็บอยคอตไม่ส่งคนลงสมัคร พรรคประชาธิปัตย์ ทำผิดไม่ยุบ มายุบไทยรักไทย ตอนช่วงปฏิวัติ การเลือกที่รักมักที่ชัง ทำให้ประเทศไทยเกิดระบบ 2 มาตรฐานขึ้น นายกฯ คนหนึ่งเซ็นยินยอมให้ภรรยาไปทำนิติกรรม โดยการประกวดราคาถูกต้อง ซึ่งที่นี้ ก็เป็นหนี้เน่า แต่ปรากฏว่า ตนเป็นนายกฯ เซ็นยินยอมให้เมียไปดำเนินการ แต่ถูกจำคุก ขณะที่พล.อ.สุรยุทธ์ มีบ้านบนเขายายเที่ยง ร้านอาหารชื่อสวนอาหารตาคอน ศาลชั้นต้นสีคิ้วจำคุก 4 ปี ตำรวจบอกตนว่า ทำสำนวนไม่ได้ เพราะจับปุ๊บก็อ้างเขายายเที่ยงยังไม่ผิดเลย ตำรวจจึงไม่รู้จะทำคดีอย่างไร 2 มาตรฐานมีเยอะเหลือเกิน วิธีปฏิบัติต่อเสื้อเหลือง เสื้อแดง ก็ต่างกัน วันนี้ต้องหยุด เพราะสถาบันพระมหากษัตริย์ ต้องปกป้อง ไม่ใช่มาแสดงกันจนเลยเถิดเพราะความเป็น 2 มาตรฐาน คงจำได้ม็อบสีเหลือง บุกยึดทำเนียบฯ ยึดสนามบิน นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะทหารปลอมเป็นสีเหลืองเต็มไปหมด ชนะทางการเมืองได้ แต่ชนะประชาชนไม่ได้ ไม่เช่นนั้นคงไม่บริจาคเงินขนกันมาขนาดนี้หรอก
พ.ต.ท.ทักษิณ ยังกล่าวถึงกรณียุบพรรคไทยรักไทยว่า ศาลรธน. ยอดเยี่ยมมาก ยุบ 3 พรรค สืบพยานเช้า บ่ายยุบ เพื่อให้ทันวันที่ 4 ธ.ค. ศาลมีแต่ยกประโยชน์ความสงสัยให้จำเลย แต่นี่มัน ทำให้ไม่มีใครเชื่อถือ
" เมื่อคืนนี้เขาก็เอาตำรวจมานอนเฝ้าหน้าห้องตน เพราะเขาไม่เชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทย คดีอย่างนี้ติดคุก เกิดกับผมไม่เป็นไร แต่ความช้ำชอกของประเทศ และหนักสุดคือ ความเสียหายของสถาบัน จริงๆ ศาลส่วนใหญ่เป็นคนดี แต่บางคนยอมรับ และเชื่อตามนั้น ต่อไปนี้ใครมาสั่ง มาแอบอ้างว่าพาเข้าเฝ้าได้ ไม่มี"
พ.ต.ท.ทักษิณ ยังกล่าวถึงป.ป.ช. ว่า วันนี้มีตัวแทนของปชป. อยู่ ส่วนระบบศาลอาญาแผนกคดีนักการเมือง และระบบศาลเดียวของเรา เป็นระบบไต่สวน ซึ่งโลกยุคใหม่ไม่มีใครใช้แล้ว คุณกล่าวหาเขา คุณต้องเป็นคนพิสูจน์ก่อน
ส่วนเรื่องทหารกับการเมือง พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า "ป๊อกเอ๊ย พาลูกน้องกลับที่ตั้ง อย่ายุ่งการเมือง ถ้าอยากยุ่งออกมาเลย เพราะจะถูกการเมืองเล่น ไม่คุ้ม วันนี้ภารกิจภาคใต้ยังมีอีกมาก เพื่อนไปดูแลตรงนั้นเถอะ ไม่ต้องมายุ่งการเมือง เลิกเถอะ อย่าเชื่อน้ำมนต์คนที่ออกจากผมไปเลย ถ้าเพื่อนอยากเล่นการเมืองออกไปเถอะ วันนี้เห็นข่าวของบพันล้านให้กอ.รมน. ระวังชาวบ้านไม่ให้ทหารเข้าหมู่บ้าน เรื่องของประชาช เรื่องการเมือง เขาคิดเป็น อย่าคิดว่าพี่น้องประชาชนโง่ เขาถึงเรียกประชาธิปไตยไงเพื่อน ไม่ต้องไปครอบงำเขา วันนี้สิ่งที่ พล.อ.เปรม สิ่งที่ทหารเข้ามายุ่ง ลากประเทศถอยหลังไป 5 ปี"
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า เรื่อง รธน.40 กับ รธน.50 เคยพูดแล้วว่า เมื่อก่อนรัฐบาลเดี๋ยวล้ม เดี๋ยวล้ม เขาจึงร่างรธน. 40 ขึ้นมา แต่เสร็จแล้วกลับเขียน รธน.50 แก้สิ่งที่เป็นประโยชน์ ทำให้ส.ส.ไม่มีวินัย เวลานี้คนก็ไปตั้งพรรคใหม่ อยากเป็นขนาดแอล เพื่อรออีแอบมาเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ ตนจึงไม่รู้ว่าระบอบรธน.ฉบับ 50 เป็นประโยชน์ประเทศตรงไหน จะไปประชุม ตกลงกับใครก็ไม่ได้ เดี๋ยวผิดรธน.
นอกจากนี้ที่มาขององค์กรอิสระก็เป็นแบบปิดประตูตีแมว มีทั้งเอสเอ็มอี พันธมิตรฯ และดอกไม้ประดับ ขอคืนประชาธิปไตยให้คนไทยเถอะ ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเราไม่สามารถเล่นตามกฎ เพราะมีคนแทรกแซงทำให้เกิดสองมาตรฐาน หลายระบบที่เกิดขึ้นวันนี้เป็นของเน่า ที่เกิดจากการปฏิวัติ ที่เกิดจากต้นไม้เป็นพิษ ผลย่อมเป็นพิษ การปฏิวัติเกิดขึ้นเพราะสร้างสถานการณ์ ให้เกิดการเปลี่ยนข้าง ในที่สุดประเทศก็ช้ำ ได้รับกฎหมายที่แย่ ได้องค์กรอิสระที่แย่ ได้รับข้อกล่าวหาที่ยัดเยียดข้างเดียว รธน.50 ที่มี SME วันนี้ 3 กระทรวงกินกันจนกลัวว่าจะไม่มีวันพรุ่งนี้แล้ว สงสัยมันตกใจพี่น้องเสื้อแดงมาเยอะ นี่คือจุดอ่อนของรธน.50 ที่ทำให้เกิดแก๊งค์ ก๊วน คอยต่อรอง ส่วนพันธมิตรฯ ต่างก็ได้รับตำแหน่งตอบแทนกันถ้วนหน้า
"พี่บรรหาร มาเข้าร่วมกับพรรคพลังประชาชน ยังถูกป๋างอน แต่ตอนนี้คงให้เข้าแล้ว เพราะตอนนี้หันไปสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ เพราะชอบหลานยายเนียม กับหลานยายเที่ยง"
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า วันนี้ถามว่าวุ่นวายอย่างนี้ จะเอาอย่างไรดี คงต้องมีกรรมการห้ามมวย ความจริงถ้า พล.อ.เปรมไม่ยุ่งการเมือง ก็เป็นผู้ใหญ่ที่น่านับถือ แต่วันนี้มายุ่งการเมือง จนเกิดคำถามว่าเพื่อตอบแทนพรรคประชาธิปัตย์ จึงทำหน้าที่เป่านกหวีด ห้ามไม่ได้
"ที่พี่น้องมาวันนี้เพราะถูกขโมยประชาธิปไตยใช่หรือไม่ อยากเห็นการเลิกระบบ 2 มาตรฐานใช่มั๊ยครับ สีแดงจะผนึกกำลังกัน ไม่เลิกรา ถ้าประชาธิปไตยไม่กลับมา โดยเฉพาะองคมนตรีต้องหยุดอย่ายุ่งการเมือง และทหารก็อย่ายุ่งการเมือง พี่น้องตำรวจ ทหาร ไม่สบายใจที่ลูกพี่มายุ่งการเมือง ดังนั้น ส.ส.เพื่อไทย และไทยรักไทย 111 คน ที่ถูกห้ามเล่นการเมือง อย่าเหนียม ถ้ารักความเป็นธรรม ขึ้นเวทีเสื้อแดงได้แล้ว วันนี้ต้องมารวมพลังกันจนกว่าประชาธิปไตยที่แท้จริงจะกลับสู่ประเทศไทย จนกว่าระบบ 2 มาตรฐานจะถูกยกเลิก คุณอภิสิทธิ์บอกว่าผมไม่ควรยุ่งกับผู้ใหญ่ คุณอภิสิทธิ์ ครับ ผมก็ผู้ใหญ่ คนเป็นอดีตนายกฯไม่ใช่เด็ก ไม่มีกฎหมายข้อไหนบอกว่าองคมนตรี เป็นส่วนหนึ่งของสถาบันฯ ถ้ามาเล่นการเมืองแบบนี้ก็ช่วยไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ผมขอและหวังว่าการปฏิวัติโดยนายบัง ขอให้เป็นครั้งสุดท้าย เพราะไม่มีอะไรดี คนตกงาน ทางออกก็คือ เราต้องมาเริ่มต้นกันใหม่ วันนี้ ที่เราสู้กัน ฟ้องกันไปมาว่า ไอ้นั่นจะติดคุก ไอ้นี่จะติดคุก ไม่มีใครยอมใครจริงๆ การเมืองก็รู้อยู่แล้วว่าคุณอภิสิทธิ์ มาเป็นนายกฯก็เหมือนกับมาดากัสกา ที่เดินขบวนกันแล้วเอาเด็กอายุ 30 กว่าขึ้นมาบริหารประเทศ เราต้องการความชอบธรรมให้กระบวนการถูกต้อง ให้ประชาชนตัดสิน วันนี้ต้องยุบสภาเลือกตั้งใหม่ แก้รธน.ใหม่ ต้องเอารธน.40 เป็นตัวตั้ง เรื่องที่ฟ้องกันไปมาต้องยกเลิก ไม่ใช่เพื่อผม แต่วันนี้มันล่อกันไปมา จึงต้องออกเพื่อให้เริ่มต้นใหม่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และให้ทุกคนเข้าสู่สนามเลือกตั้ง ไม่ต้องบอยคอต ผมไม่ลง พรรคประชาธิปัตย์ จะได้สบายใจ แต่ให้ทั้ง 111 ลงซะ"
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวทิ้งทายว่า วันนี้ (28 มี.ค.) ตนจะพูดเรื่องเศรษฐกิจของโลก และทางออก
เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. วานนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่อยู่ระหว่างหลบหนีคดีอยู่ต่างประเทศ ได้กล่าวปราศรัยผ่านระบบวิดีโอลิงก์ มายังที่ชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล โดย พ.ต.ท.ทักษิณ เริ่มต้นปราศรัย ด้วยการของคุณคนเสื้อแดง ที่มารวมตัวกันตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 มี.ค. โดยการพูดครั้งนี้ ตนตั้งใจจะพูดเพื่อหาทางออหกให้ประเทศ ในเรื่องความขัดแย้ง จะเอาหรือไม่เอาก็ไม่ว่ากัน
"ขอบอกกับผู้ใหญ่ในบ้านเมืองทั้งหลายว่า ถึงเวลาหรือยังที่จะมองอนาคตให้ลูกหลานไม่ใช่การเอาชนะคะคานกัน หรือความพอใจและไม่พอใจ เราต้องเรียนรู้กับบทเรียนที่เจ็บช้ำมานานจากการรัฐประหารและเผด็จการที่เกิดครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ไม่จำ เพราะเราไม่ยอมพูดความจริงกัน เราตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงครึ่งเดียว เหมือนว่าเราเรียนไม่จบแล้วไม่ได้ปะกาศนียบัตร ล้มเพราะอะไร ก็ไม่พูดกัน และอยู่กันแบบนี้"
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ปลายปี 47 ก่อนการเลือกตั้งปี 48 มีการรวมตัวกันเล็กน้อย ที่สนามหลวง โดยมีนายเอกยุทธ อัญชันบุตร และนาย ประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ที่ไม่พอใจตน เพราะสูญเสียผลประโยชน์ แต่หลังการเลือกตั้ง พรรคไทยรักไทยชนะเลือกตั้ง 377 เสียง บางคนบอกว่ารัฐบาลเข้มแข็งเกินไป พรรคฝ่ายค้านอ่อนแอเกินไป ปลายปี 2548 เกิดพันธมิตรฯ โดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล และพรรคประชาธิปัตย์ ช่วยทางตรงและทางอ้อมบ้าง มันเริ่มการต่อสู้นอกระบบ แค่นั้นไม่เป็นไร
แต่องคมนตรีบางคนไปบอกกับสื่อ และแอบอ้างว่า พระเจ้าอยู่หัวไม่เอาตนแล้ว และให้สื่อตีตน ม็อบก็เลยมีเส้น เอเอสทีวีได้รับการคุ้มครองจากศาลปกครอง ออกอากาศล้มล้างรัฐบาลใช้คำพูดหยาบ โกหก รัฐบาลก็ทำอะไรไม่ได้ ข้าราชการก็เริ่มเกียร์ว่าง เพราะเริ่มถูกผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญแทรกแซง และแอบสั่งข้าราชการ บางคนยอมผิดคำสั่งผู้บังคับบัญชา ตนพูดคำๆนี้จนฮือฮา
วันนั้นนายสนธิไปกล่าวหาตนว่า ตนพูดหมายถึงพระเจ้าอยู่หัว ตนมิบังอาจที่จะไปพูดถึงขานดนั้น เเต่ตนหมายถึง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ หมายความอย่างนั้นจริงๆ แต่วันนั้นไม่กล้าพูด เพราะยังเกรงใจ จากนั้นคนของพล.อ.เปรม โทรศัพท์มาหาตน ว่าพูดให้ชัดๆว่า สิ่งที่พูดไปนั้นไม่ใช่ พล.อ.เปรม แต่มันใช่แล้วจะให้ตนไปบอกไม่ใช่ได้ยอ่งไร เเต่ตนก็ไม่พูด จากนั้นพล.อ.เปรม ก็แต่งเครื่องแบทหาร เดินสายด่าตน
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ขออันเชิญพระราชดำรัส ที่พระราชทาน ขณะเสด็จไปเปิดทำเนียบองคมนตรีว่า องคมนตรีเป็นที่ปรึกษาของพระมหากษัตริย์เท่านั้น และไม่มีหน้าที่ไปเป็นที่ปรึกษาของคนอื่นไม่ใช่ไปแนะนำคนอื่น หากไปแนะนำคนอื่นก็เป็นการส่วนตัว ไม่ใช่ในฐานะองคมนตรี ขอให้ระมัดระวังในตรงนี้ด้วย พระองค์ท่านสถิตย์อยู่ที่สูง แต่คนรอบข้างมาเกี่ยวข้องการเมือง ทำให้พระองค์ท่านเสื่อมเสีย สิ่งที่ พล.อ.เปรม และพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานทท์ เข้ามายุ่งการเมืองทำ ให้สถาบันเสียหายหาก ท่านจะยุ่งการเมือง การเมืองจะยุ่งกับท่านด้วย ขอเรียนว่าโปรดอยู่นิ่งๆ อย่ายุ่งกับการเมืองเลย
"พล.อ.เปรม เป็นนายกฯ 8 ปี แต่ไม่เคยลงเลือกตั้งเลย ได้รับการสนับสนุนจากพรรคประชาธิปัตย์มาตลอด เหตุนี้พล.อ.เปรม จึงใกล้ชิดพรรคนี้ และเป็นห่วงพรรคนี้เป็นพิเศษ เมื่อพรรคไทยรักไทย ชนะเลือกตั้ง 2 ครั้ง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ผมห่วงพล.อ.เปรมไม่อยากให้ยุ่งการเมือง ท่านพูดว่า ไม่ยุ่งการเมืองไม่ได้ เพราะท่านยุ่งเต็มๆ"
พ.ต.ท.ทักษิณ ยังกล่าวถึงนายปีย์ มาลากุล ว่า นายปีย์ บอกว่า พล.อ.สุรยุทธ์ เชิญพล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี มาหารือและพูดว่ามี 3 คนไปเข้าเฝ้าฯ 901 คือพล.อ.เปรม พล.อ.สุรยุทธ์ และองคมนตรี อีกคนว่า จะขอทำงานถวาย โดยจะจัดการตน เพราะไม่จงรักภักดี และทุกคนไม่หวังตำแหน่งใดๆ ทั้งสิ้น แต่ตนไม่เชื่อว่า 901 จะทรงรับรู้ เพราะท่านสถิตอยู่ที่สูง ไม่ทรงยุ่งเกี่ยวกับการเมืองเลย จากนั้นอีก 4 คน มาร่วมประชุม คือที่บ้านนายปีย์ คือนายปราโมทย์ นาครทรรพ นายอัขราทร จุฬารัตน ประธานนศาลปกครอง นายจรัญ ภักดีธนากุล นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ ก็ไปร่วมประชุม จากนั้นเดินหน้าจัดการตนอย่างชัดเจน และทำให้กระบวนการต่างๆ ผิดเพี้ยนหมด เพราะทุกคนเชื่อว่าพระจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัส แต่พระเจ้าอยู่หัวกับสมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงไม่ทราบเรื่องเลย แต่ไปแอบอ้างกัน ทำให้การทำงานบิดเบี้ยวผิดเพี้ยนหมดจนวุ่นวาย และมีการปฏิวัติ โดยพล.อ.เปรม นำไปเข้าเฝ้าฯ จนคิดว่าพล.อ.เปรม คือหัวหน้าคณะปฏิวัติ จากนั้นพล.อ.สุยุทธ์ ขึ้นเป็นนายกฯ พล.อ.เปรม ก็ชมว่าเหมือนนายวินส์ตัน เชอร์ชิลล์ นายกฯอังกฤษ และวันที่ 26มี.ค. ที่ผ่านมา พล.อ.เปรม ยังบอกว่า ประเทศไทยโชคดี และเชียร์นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯ
"ป๋าครับ ป๋าเป็นประธานองคมนตรีนะครับ ที่พูดเพราะผมรักเละเคารพป๋า เพราะเป็นผู้ใหญ่ที่ผมเคารพ ป๋าอายุมากกว่าพ่อผม สิ่งที่เกิดขึ้น ป๋ามาเล่นการเมืองทำไม ผมไม่อยากเห็นเลยครับป๋า ป๋าอย่าทำเลย ป๋าลงมาเล่นการเมืองสั่งนู้นสั่งนี่ ทำให้กระบวนการผิดเพี้ยน ป๋าต้องอย่าทำครับ เราต้องอยู่ในประเทศที่มีระบบถูกต้อง เป็นประชาธิปไตยที่สากลยอมรับ และให้ความเป็นธรรมกับสังคม อย่า 2 มาตรฐานแบบนี้ " พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว
พ.ต.ท.ทักษิณ ยังกล่าวถึงเรื่อง กกต.ว่า ได้มีการเรียก พล.อ.จารุภัทร เรืองสุวรรณ ไปพบพล.ต.จำลอง ศรีเมือง ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งๆ ที่ไม่เป็นเรื่องเลย ในที่สุด กกต.ก็ถูกลงโทษจำคุก ตนไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อองคมนตรีลงมาเล่นการเมือง ในฐานะที่ตนถวายงานมา ยืนยันว่าเจ้านายทั้ง 2 พระองค์ไม่ยุ่งการเมือง ถ้าองคมนตรีคนไหนทำตัวไม่ดี ก็เป็นเรื่องคนนั้น โดยเฉพาะ 2 คน ที่แอคทีฟมาก สิ่งที่ท่านอาจไม่พอใจคือ ตนโทรหาท่านตอนประมาณตีหนึ่ง ว่า ท่านผบ.ทบ. ทำไมเคลื่อนย้ายกำลังทหาร ก็บอกว่าไม่มีอะไร เป็นการผลัดเปลี่ยนกำลังทหาร แต่ต่อมาพบว่าไปยิงพม่า ตนถามพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ก็บอกว่าไม่ได้อนุมัติ ต่อมาทำเรื่องของบ เพราะเอาน้ำมันสำรองไปใช้ ในที่สุดตนก็ย้ายไปเป็น ผบ.สส. เพราะถือว่าหน้าที่ก็คือหน้าที่ ไม่ได้โกรธแค้นอะไร
พล.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ที่บ้านนายปีย์ เกิดกระบวนการหลายอย่าง ตนถูกลอบสังหาร แต่บังเอิญโชคดี ตนเปลี่ยนสถานที่จากเชียงรายไปเชียงใหม่ จุดที่สองสนามหลวง ตั้งปืนที่ธรรมศาสตร์ ครั้งที่สามเรื่องคาร์บอมบ์ ที่แยกซังฮี้ ในที่สุดจับผู้ต้องหาได้ คนที่อยู่เบื้องหลังสั่งการชื่อนายบัง
ต่อมามีการเลือกตั้ง ก็บอยคอตไม่ส่งคนลงสมัคร พรรคประชาธิปัตย์ ทำผิดไม่ยุบ มายุบไทยรักไทย ตอนช่วงปฏิวัติ การเลือกที่รักมักที่ชัง ทำให้ประเทศไทยเกิดระบบ 2 มาตรฐานขึ้น นายกฯ คนหนึ่งเซ็นยินยอมให้ภรรยาไปทำนิติกรรม โดยการประกวดราคาถูกต้อง ซึ่งที่นี้ ก็เป็นหนี้เน่า แต่ปรากฏว่า ตนเป็นนายกฯ เซ็นยินยอมให้เมียไปดำเนินการ แต่ถูกจำคุก ขณะที่พล.อ.สุรยุทธ์ มีบ้านบนเขายายเที่ยง ร้านอาหารชื่อสวนอาหารตาคอน ศาลชั้นต้นสีคิ้วจำคุก 4 ปี ตำรวจบอกตนว่า ทำสำนวนไม่ได้ เพราะจับปุ๊บก็อ้างเขายายเที่ยงยังไม่ผิดเลย ตำรวจจึงไม่รู้จะทำคดีอย่างไร 2 มาตรฐานมีเยอะเหลือเกิน วิธีปฏิบัติต่อเสื้อเหลือง เสื้อแดง ก็ต่างกัน วันนี้ต้องหยุด เพราะสถาบันพระมหากษัตริย์ ต้องปกป้อง ไม่ใช่มาแสดงกันจนเลยเถิดเพราะความเป็น 2 มาตรฐาน คงจำได้ม็อบสีเหลือง บุกยึดทำเนียบฯ ยึดสนามบิน นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะทหารปลอมเป็นสีเหลืองเต็มไปหมด ชนะทางการเมืองได้ แต่ชนะประชาชนไม่ได้ ไม่เช่นนั้นคงไม่บริจาคเงินขนกันมาขนาดนี้หรอก
พ.ต.ท.ทักษิณ ยังกล่าวถึงกรณียุบพรรคไทยรักไทยว่า ศาลรธน. ยอดเยี่ยมมาก ยุบ 3 พรรค สืบพยานเช้า บ่ายยุบ เพื่อให้ทันวันที่ 4 ธ.ค. ศาลมีแต่ยกประโยชน์ความสงสัยให้จำเลย แต่นี่มัน ทำให้ไม่มีใครเชื่อถือ
" เมื่อคืนนี้เขาก็เอาตำรวจมานอนเฝ้าหน้าห้องตน เพราะเขาไม่เชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทย คดีอย่างนี้ติดคุก เกิดกับผมไม่เป็นไร แต่ความช้ำชอกของประเทศ และหนักสุดคือ ความเสียหายของสถาบัน จริงๆ ศาลส่วนใหญ่เป็นคนดี แต่บางคนยอมรับ และเชื่อตามนั้น ต่อไปนี้ใครมาสั่ง มาแอบอ้างว่าพาเข้าเฝ้าได้ ไม่มี"
พ.ต.ท.ทักษิณ ยังกล่าวถึงป.ป.ช. ว่า วันนี้มีตัวแทนของปชป. อยู่ ส่วนระบบศาลอาญาแผนกคดีนักการเมือง และระบบศาลเดียวของเรา เป็นระบบไต่สวน ซึ่งโลกยุคใหม่ไม่มีใครใช้แล้ว คุณกล่าวหาเขา คุณต้องเป็นคนพิสูจน์ก่อน
ส่วนเรื่องทหารกับการเมือง พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า "ป๊อกเอ๊ย พาลูกน้องกลับที่ตั้ง อย่ายุ่งการเมือง ถ้าอยากยุ่งออกมาเลย เพราะจะถูกการเมืองเล่น ไม่คุ้ม วันนี้ภารกิจภาคใต้ยังมีอีกมาก เพื่อนไปดูแลตรงนั้นเถอะ ไม่ต้องมายุ่งการเมือง เลิกเถอะ อย่าเชื่อน้ำมนต์คนที่ออกจากผมไปเลย ถ้าเพื่อนอยากเล่นการเมืองออกไปเถอะ วันนี้เห็นข่าวของบพันล้านให้กอ.รมน. ระวังชาวบ้านไม่ให้ทหารเข้าหมู่บ้าน เรื่องของประชาช เรื่องการเมือง เขาคิดเป็น อย่าคิดว่าพี่น้องประชาชนโง่ เขาถึงเรียกประชาธิปไตยไงเพื่อน ไม่ต้องไปครอบงำเขา วันนี้สิ่งที่ พล.อ.เปรม สิ่งที่ทหารเข้ามายุ่ง ลากประเทศถอยหลังไป 5 ปี"
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า เรื่อง รธน.40 กับ รธน.50 เคยพูดแล้วว่า เมื่อก่อนรัฐบาลเดี๋ยวล้ม เดี๋ยวล้ม เขาจึงร่างรธน. 40 ขึ้นมา แต่เสร็จแล้วกลับเขียน รธน.50 แก้สิ่งที่เป็นประโยชน์ ทำให้ส.ส.ไม่มีวินัย เวลานี้คนก็ไปตั้งพรรคใหม่ อยากเป็นขนาดแอล เพื่อรออีแอบมาเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ ตนจึงไม่รู้ว่าระบอบรธน.ฉบับ 50 เป็นประโยชน์ประเทศตรงไหน จะไปประชุม ตกลงกับใครก็ไม่ได้ เดี๋ยวผิดรธน.
นอกจากนี้ที่มาขององค์กรอิสระก็เป็นแบบปิดประตูตีแมว มีทั้งเอสเอ็มอี พันธมิตรฯ และดอกไม้ประดับ ขอคืนประชาธิปไตยให้คนไทยเถอะ ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเราไม่สามารถเล่นตามกฎ เพราะมีคนแทรกแซงทำให้เกิดสองมาตรฐาน หลายระบบที่เกิดขึ้นวันนี้เป็นของเน่า ที่เกิดจากการปฏิวัติ ที่เกิดจากต้นไม้เป็นพิษ ผลย่อมเป็นพิษ การปฏิวัติเกิดขึ้นเพราะสร้างสถานการณ์ ให้เกิดการเปลี่ยนข้าง ในที่สุดประเทศก็ช้ำ ได้รับกฎหมายที่แย่ ได้องค์กรอิสระที่แย่ ได้รับข้อกล่าวหาที่ยัดเยียดข้างเดียว รธน.50 ที่มี SME วันนี้ 3 กระทรวงกินกันจนกลัวว่าจะไม่มีวันพรุ่งนี้แล้ว สงสัยมันตกใจพี่น้องเสื้อแดงมาเยอะ นี่คือจุดอ่อนของรธน.50 ที่ทำให้เกิดแก๊งค์ ก๊วน คอยต่อรอง ส่วนพันธมิตรฯ ต่างก็ได้รับตำแหน่งตอบแทนกันถ้วนหน้า
"พี่บรรหาร มาเข้าร่วมกับพรรคพลังประชาชน ยังถูกป๋างอน แต่ตอนนี้คงให้เข้าแล้ว เพราะตอนนี้หันไปสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ เพราะชอบหลานยายเนียม กับหลานยายเที่ยง"
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า วันนี้ถามว่าวุ่นวายอย่างนี้ จะเอาอย่างไรดี คงต้องมีกรรมการห้ามมวย ความจริงถ้า พล.อ.เปรมไม่ยุ่งการเมือง ก็เป็นผู้ใหญ่ที่น่านับถือ แต่วันนี้มายุ่งการเมือง จนเกิดคำถามว่าเพื่อตอบแทนพรรคประชาธิปัตย์ จึงทำหน้าที่เป่านกหวีด ห้ามไม่ได้
"ที่พี่น้องมาวันนี้เพราะถูกขโมยประชาธิปไตยใช่หรือไม่ อยากเห็นการเลิกระบบ 2 มาตรฐานใช่มั๊ยครับ สีแดงจะผนึกกำลังกัน ไม่เลิกรา ถ้าประชาธิปไตยไม่กลับมา โดยเฉพาะองคมนตรีต้องหยุดอย่ายุ่งการเมือง และทหารก็อย่ายุ่งการเมือง พี่น้องตำรวจ ทหาร ไม่สบายใจที่ลูกพี่มายุ่งการเมือง ดังนั้น ส.ส.เพื่อไทย และไทยรักไทย 111 คน ที่ถูกห้ามเล่นการเมือง อย่าเหนียม ถ้ารักความเป็นธรรม ขึ้นเวทีเสื้อแดงได้แล้ว วันนี้ต้องมารวมพลังกันจนกว่าประชาธิปไตยที่แท้จริงจะกลับสู่ประเทศไทย จนกว่าระบบ 2 มาตรฐานจะถูกยกเลิก คุณอภิสิทธิ์บอกว่าผมไม่ควรยุ่งกับผู้ใหญ่ คุณอภิสิทธิ์ ครับ ผมก็ผู้ใหญ่ คนเป็นอดีตนายกฯไม่ใช่เด็ก ไม่มีกฎหมายข้อไหนบอกว่าองคมนตรี เป็นส่วนหนึ่งของสถาบันฯ ถ้ามาเล่นการเมืองแบบนี้ก็ช่วยไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ผมขอและหวังว่าการปฏิวัติโดยนายบัง ขอให้เป็นครั้งสุดท้าย เพราะไม่มีอะไรดี คนตกงาน ทางออกก็คือ เราต้องมาเริ่มต้นกันใหม่ วันนี้ ที่เราสู้กัน ฟ้องกันไปมาว่า ไอ้นั่นจะติดคุก ไอ้นี่จะติดคุก ไม่มีใครยอมใครจริงๆ การเมืองก็รู้อยู่แล้วว่าคุณอภิสิทธิ์ มาเป็นนายกฯก็เหมือนกับมาดากัสกา ที่เดินขบวนกันแล้วเอาเด็กอายุ 30 กว่าขึ้นมาบริหารประเทศ เราต้องการความชอบธรรมให้กระบวนการถูกต้อง ให้ประชาชนตัดสิน วันนี้ต้องยุบสภาเลือกตั้งใหม่ แก้รธน.ใหม่ ต้องเอารธน.40 เป็นตัวตั้ง เรื่องที่ฟ้องกันไปมาต้องยกเลิก ไม่ใช่เพื่อผม แต่วันนี้มันล่อกันไปมา จึงต้องออกเพื่อให้เริ่มต้นใหม่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และให้ทุกคนเข้าสู่สนามเลือกตั้ง ไม่ต้องบอยคอต ผมไม่ลง พรรคประชาธิปัตย์ จะได้สบายใจ แต่ให้ทั้ง 111 ลงซะ"
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวทิ้งทายว่า วันนี้ (28 มี.ค.) ตนจะพูดเรื่องเศรษฐกิจของโลก และทางออก