xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯมาเลย์โจมตีพรรคแกนนำรบ.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรีอับดุลเลาะห์ อาห์หมัด บาดาวี แห่งมาเลเซีย วานนี้(26)กล่าวสุนทรพจน์ครั้งสุดท้ายอำลาตำแหน่งผู้นำพรรคอัมโน ก่อนส่งมอบอำนาจให้กับนาจิบ ราซัค รองนายกรัฐมนตรี รับช่วงต่อ โดยอับดุลเลาะห์กล่าวถึงพรรคอัมโนที่เป็นแกนนำคณะรัฐบาลผสมของแดนเสือเหลืองมาหลายสิบปีว่า กำลังแปดเปื้อนจากความโลภ ความลำพองใจในความสำเร็จ และการแข่งขันกันเองภายในพรรค
ในการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งสุดท้ายต่อที่ประชุมใหญ่ประจำปีของพรรคสหมาเลย์แห่งชาติ (อัมโน) ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 3 เมื่อวานนี้ อับดุลเลาะห์ได้แสดงความเสียใจต่อการที่พรรคกำลังเสื่อมถอยลงหลังจากที่ครองอำนาจเป็นรัฐบาลมานานกว่าครึ่งศตวรรษ
เขาบอกต่อผู้แทนในที่ประชุมว่า "เราหลงระเริงกับความสำเร็จของเราเองและเรามัวลำพองใจ เราเชื่อว่าเรามีอำนาจเต็มมือ และให้ความสำคัญกับตำแหน่งของเราเองภายในพรรคก่อนสิ่งอื่น"
"แต่วัตถุนิยมได้แพร่ซึมเข้ามาในพรรค ทำให้สมาชิกจำนวนหนึ่งกลายเป็นพวกละโมบโลภมาก" เขากล่าวเสริม
อับดุลเลาะห์บอกอีกว่าผลการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปีที่แล้วเป็นสัญญาณบอกว่า "ความรุ่งเรืองของพรรคอัมโนนั้นจืดจางลงแล้ว" เพราะฝ่ายค้านชิงที่นั่งในรัฐสภาไปได้ถึงราวหนึ่งในสาม ดังนั้น "อัมโนจึงอยู่ในสถานการณ์คอขาดบาดตาย ซึ่งจะมีผลต่ออนาคตและความอยู่รอดของเรา"
ผู้นำวัย 66 ปีซึ่งต้องลงจากตำแหน่งในช่วงที่พรรคกำลังตกต่ำ เคยได้รับการสนับสนุนให้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำต่อจากอดีตนายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮัมมัด ผู้นำมาเลเซียที่รั้งตำแหน่งยาวนานกว่าสองทศวรรษ แต่หลังจากที่อับดุลเลาะห์ขึ้นสู่อำนาจในปี 2003 แล้ว เขาก็ถูกมหาเธร์กล่าวโจมตีอยู่เนืองๆ
ยิ่งเมื่อบาดาวีไม่สามารถดำเนินการปฏิรูปการเมืองตามที่ให้สัญญาไว้ ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงการใช้อำนาจของตำรวจ หรือการจัดการกับคอร์รัปชั่นซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังของมาเลเซีย เขาจึงต้องพ่ายแพ้อย่างหนักในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม อับดุลเลาะห์ก็ได้รับคำชมอยู่บ้างในแง่ที่เขาเปิดโอกาสให้สื่อมีเสรีภาพในการแสดงออกมากขึ้นกว่าในยุคของมหาเธร์ และในวันพฤหัสบดี (26) เขายังได้กล่าวเตือนพรรคอัมโนด้วยว่าไม่ควรหันไปใช้แนวทางรุนแรงในยุคมหาเธร์อีก
"หากเราย้อนรอยกลับไปเส้นทางเก่า ผมเชื่อว่าเรากำลังเลือกเส้นทางผิด ซึ่งจะเป็นเส้นทางนำเราไปสู่ความเสื่อมถอยและพังทลาย และเป็นเส้นทางที่ผมกลัวว่าจะเร่งให้เราพบกับหายนะ"
อับดุลเลาะห์ได้รับการปรบมืออย่างกึกก้องหลังกล่าวสุนทรพจน์จบ ทว่าภายนอกห้องประชุมกลับมีปฏิกิริยาต่อคำวิจารณ์อย่างรุนแรงของเขาต่อพรรครัฐบาลรวมทั้งแนวร่วมฝ่ายรัฐบาลที่มีชื่อว่า "บาริซาน เนชันแนล"ด้วย
"บาริซาน เนชันแนลยังเป็นแนวคิดที่ใช้ได้อยู่ และใช้มานานหลายปีแล้ว สิ่งที่เราต้องทำตอนนี้คือการ 'ทำความสะอาดภายในบ้าน' ต่างหาก" อัสตามาน อับดุล อาซิซ ผู้สมัครชิงตำแหน่งในสภาสูงสุดพรรคอัมโนทีมีบทบาทด้านการกำหนดนโยบายของพรรคกล่าว
ส่วนนาจิบซึ่งเป็นผู้นำมาเลเซียคนใหม่ก็ให้สัญญาว่าจะยกเครื่องพรรคอัมโนครั้งใหญ่ แต่นักวิเคราะห์เห็นว่าสถานภาพของเขาจะย่ำแย่ลงจากปัญหาทางการเมืองที่แบกรับอยู่ ซึ่งรวมทั้งคะแนนนิยมที่ตกต่ำลงและข้อกล่าวหาในเรื่องการคอร์รัปชั่นและฆาตกรรมนางแบบชาวมองโกเลีย
นอกจากนั้น ในการเลือกตั้งผู้นำพรรคเมื่อวันพุธ (25) นาจิบยังเสียท่าจากการที่ คอยรี ยามาลุดดิน บุตรเขยวัย 33 ปีของอับดุลเลาะห์ คว้าตำแหน่งประธานฝ่ายเยาวชนของพรรคอัมโน โดยสามารถเฉือนเอาชนะ มุขริซ บุตรชายวัย 44 ปีของมหาเธร์ ที่ว่ากันว่านาจิบสนับสนุนอยู่
เช่นเดียวกับการเลือกตั้งประธานฝ่ายสตรีของอัมโน ปรากฏว่า นักการเมืองมากประสบการณ์อย่าง ราฟิดาห์ อาซิซ ต้องสูญเสียตำแหน่งนี้ไปให้แก่ ชาห์ริซัต ยาลิล ที่นั่งตำแหน่งรองประธานฝ่ายนี้อยู่ และเป็นพันธมิตรอีกคนหนึ่งของอับดุลเลาะห์
กำลังโหลดความคิดเห็น