เอเจนซี - ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของมาเลเซีย นายนาจิบ ราซัค จำเป็นต้องลงมือทันทีในความพยายามกู้คืนคะแนนนิยมอันตกต่ำของรัฐบาลที่ปกครองประเทศมานาน 51 ปี นายมหาเธร์ โมฮัมมัด อดีตนายกรัฐมนตรีผู้ทรงอิทธิพลให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์
มหาเธร์ ครองเก้าอี้นายกรัฐมนตรีของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยาวนานถึง 22 ปี ก่อนสละตำแหน่งในปี 2003 และการโจมตีนายกรัฐมนตรีอับดุลเลาะห์ บาวาดี ของเขากลายเป็นสิ่งช่วยเสริมแรงต่อต้านนายอับดุลเลาะห์ ภายในพรรคร่วมรัฐบาล จนนำไปสู่การลาออกจากตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีรายนี้ก่อนกำหนด
นายนาจิบ จะเป็นผู้เข้ามาสานต่ออำนาจแทนในเดือนมีนาคมและจะเข้ามาจัดการกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตทางการเงินของเอเชียในปี 1998 ขณะเดียวกันเขายังต้องสร้างพรรคที่แปดเปื้อนไปด้วยคอร์รัปชันขึ้นมาใหม่ พรรครัฐบาลที่ยังคงบาดเจ็บจากความปราชัยครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์จากการเลือกเมื่อปีที่ผ่านมา
"ผู้คนจำนวนมากไม่แน่ใจ หากดูผลงานของนาจิบ ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีแล้ว เขายังไม่เปล่งปลั่งเท่าใดนัก" มหาเธร์ กล่าวในช่วงหนึ่งสัปดาห์ก่อนที่พรรคพรรคสหมาเลย์แห่งชาติ (อัมโน) พรรคผู้นำในแนวร่วมรัฐบาล จะจัดการเลือกตั้งภายใน
"นาจิบ สามารถทำได้ดี แต่เราต้องรอดู เพราะเมื่อครั้งที่ผมขอให้ อับดุลเลาะห์ แต่งตั้งเขาเป็นรองนายกรัฐมนตรี ผมมีความคาดหวังในตัวเขามาก แต่เขาไม่ได้มีผลงานในแนวทางที่ผมคาดหมาย" มหาเธร์ กล่าว
ทั้งนี้นายนาจิบ จะเข้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในสภาวะที่ไม่เคยมีผู้นำมาเลเซียคนไหนเคยเผชิญมาก่อนในช่วงที่ขึ้นสู่อำนาจ
เขายังเคยถูกเชื่อมโยงบนบล็อกอินเตอร์เน็ตกับคดีฆาตกรรม อัลตานตูยา ชาริบู นางแบบสาวชาวมองโกเลียอย่างโหดเหี้ยม แม้ว่าเขาจะปฏิเสธอย่างเข้มแข็งและไม่มีหลักฐานผูกมัดเขากับเหตุเสียชีวิตนี้ แต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ฝ่ายค้านได้หยิบยกประเด็นนี้เล่นงานเขาในรัฐสภาอีกครั้ง
คะแนนนิยมของนาจิบ มีอยู่เพียง 41 เปอร์เซ็นต์ จากผลสำรวจของสำนักเมอร์เดกาเซ็นเตอร์หนล่าสุด ซึ่งน้อยกว่า 46 เปอร์เซ็นต์ ของนายอับดุลเลาะห์เมื่อครั้งก้าวสู่ตำแหน่งด้วยซ้ำ
นายมหาเธร์ แนะนำว่าหนึ่งในแนวทางที่นายนาจิบจะสามารถต่อสู้กับมุมมองในทางลบได้คือการกำจัดปัญหาคอร์รัปชันภายในพรรคอัมโน แต่หากว่าล้มเหลวเขาเตือนว่าพรรคร่วมรัฐบาลอาจสูญเสียอำนาจให้แก่ฝ่ายค้านและนายอันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำของพวกเขา