xs
xsm
sm
md
lg

CEOs‘ญี่ปุ่น’ไม่ถูกโจมตีเหมือน‘สหรัฐฯ’

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเอฟพี – ในขณะที่ผู้บริหารธุรกิจชั้นนำของสหรัฐฯ กำลังถูกชาวอเมริกันเดือดดาลว่ารับโบนัสก้อนโตกันอย่างไม่กระดากใจ ผู้บริหารจำนวนไม่น้อยของญี่ปุ่นกลับแสดงภาวะผู้นำตัวอย่างที่ก้าวข้ามความละโมบ ด้วยการตัดลดเงินเดือนของตนลง หรือไม่ก็ยอมทำงานโดยไม่รับค่าตอบแทน เพื่อความอยู่รอดขององค์กรในระหว่างที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ
เมื่อไม่นานมานี้ ผู้บริหารของบริษัทผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ถูกโจมตีอย่างหนักในเรื่องที่พวกเขาใช้เครื่องบินเจ๊ตส่วนตัวเดินทางไปยังกรุงวอชิงตันเพื่อร้องขอให้รัฐบาลอนุมัติเงินช่วยเหลือกิจการซึ่งกำลังจวนเจียนจะล้มละลายจากวิกฤตเศรษฐกิจ แต่ปรากฏว่าฮารุกะ นิชิมัตสึ ประธานบริหารสายการบินแจแปนแอร์ไลน์ (เจเอแอล) ซึ่งเป็นสายการบินใหญ่ที่สุดในเอเชีย กลับเลือกขึ้นรถเมล์ไปทำงานแบบเดียวกับคนทำงานทั่วๆ ไป อีกทั้งนิชิมัตสึยังยอมลดเงินเดือนตนเอง และลงไปรับประทานอาหารกลางวันในโรงอาหารของบริษัทเหมือนพนักงานอื่นๆ ด้วย
ส่วนที่กลุ่มบริษัทผลิตชิปคอมพิวเตอร์เอลพิดา เมโมรี ประธานกลุ่มบริษัท ยูกิโอะ ซากาโมโต ก็อาสาทำงานโดยไม่รับเงินเดือนเป็นเวลาสองเดือนเมื่อปีที่แล้วเพื่อช่วยพลิกฟื้นผลประกอบการของกลุ่มบริษัทที่กำลังตกต่ำให้ดีขึ้น
นอกจากนั้น จากการสำรวจของหนังสือพิมพ์ธุรกิจรายวัน“นิกเคอิ” พบว่ามีผู้นำของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของญี่ปุ่นอีกกว่า 200 ราย ยอมลดเงินเดือนของตนมาตั้งแต่เดือนเมษายนปีที่แล้ว
โตโยต้า มอเตอร์ บริษัทรถยนต์ใหญ่ที่สุดในโลก ก็งดจ่ายโบนัสให้กับผู้บริหารในปีนี้เช่นกัน
อันที่จริง แม้แต่ก่อนที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ระดับเงินเดือนของผู้นำองค์กรธุรกิจญี่ปุ่นก็อยู่ในขั้นที่ไม่สูงมากเมื่อเปรียบเทียบกับพวกผู้บริหารของสหรัฐฯ
“ค่าตอบแทนของประธานเจ้าหน้าที่บริหารในญี่ปุ่นค่อนข้างต่ำกว่าในสหรัฐฯ” ศาสตราจารย์ฮิเดอากิ มิยาจิมา ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารองค์กรประจำมหาวิทยาลัยวาเซดะ กล่าว และระบุเหตุผลว่าเป็นเพราะผู้บริหารของญี่ปุ่นนั้นมีลักษณะเป็น “ตัวแทนของพนักงาน” และส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่เข้าทำงานกับบริษัทมาตั้งแต่จบปริญญาตรี แล้วไต่เต้าขึ้นมาสู่ตำแหน่งบริหารด้วยการแข่งขันกับเพื่อนร่วมงาน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริษัทไม่อาจจ่ายค่าตอบแทนให้กับผู้บริหารสูงเกินกว่าเพื่อนร่วมงานที่อยู่ในวัยเดียวกันได้มากนัก
ทั้งนี้ จากการสำรวจของทาวเวอร์ เพอร์ริน ซึ่งเป็นบริษัทด้านทรัพยากรบุคคล เมื่อปี 2006 ระบุว่าผู้บริหารระดับประธานเจ้าหน้าที่บริหารในสหรัฐฯ นั้นมีรายได้สูงกว่าผู้บริหารในตำแหน่งเดียวกันของญี่ปุ่นถึงสี่เท่าตัว และแม้ว่าผู้บริหารระดับสูงของบริษัทญี่ปุ่นส่วนใหญ่ยังนั่งรถประจำตำแหน่งมาทำงาน แต่โดยทั่วไปแล้ว พวกเขาจะไม่อวดความร่ำรวยของตน และมักลาออกจากตำแหน่งโดยเร็วเมื่อสิ่งต่างๆ เริ่มแสดงให้เห็นความผิดพลาด
เมื่อเร็วๆ นี้ ผู้บริหารกิจการชั้นนำของญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็นโตโยต้า โซนี่ โตชิบา ฮอนด้า และฮิตาชิ ต่างก็เลือกเป็นฝ่ายเดินลงจากตำแหน่งเพื่อเปิดทางให้ผู้บริหารรุ่นใหม่ก้าวขึ้นมานำพาองค์กรฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจด้วย
วัฒนธรรมองค์กรแบบอ่อนน้อมถ่อมตนเช่นนี้ ทำให้พวกเขาไม่ต้องถูกครหาเหมือนที่พวกผู้บริหารองค์กรของสหรัฐฯ กำลังตกเป็นเป้าโจมตีอยู่ในขณะนี้ แม้ว่าในช่วงก่อนหน้านี้จะมีประเด็นถกเถียงกันอย่างกว้างขวางว่าบริษัทญี่ปุ่นควรปรับเปลี่ยนแนวทางปฏิบัติให้เป็นแบบตะวันตกมากขึ้น และจ่ายค่าตอบแทนแบบอิงกับผลการดำเนินงาน
ทว่า เมื่อเกิดกรณีผู้บริหารของบริษัทประกันภัยเอไอจีนำเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลสหรัฐฯ มาแจกจ่ายเป็นโบนัส จนเกิดกระแสต่อต้านถึงขั้นที่วุฒิสมาชิกคนหนึ่งแนะให้ผู้บริหารระดับสูงของเอไอจีแสดงความรับผิดชอบแบบเดียวกับผู้บริหารของญี่ปุ่นคือลาออกหรือไม่ก็ฆ่าตัวตายเสีย ตอนนี้พวกผู้บริหารของญี่ปุ่นจึงต้องกลับมาขบคิดกันใหม่ว่าจะเลือกเดินตามรูปแบบของตะวันตกดีหรือไม่
กำลังโหลดความคิดเห็น