เคยสร้างกระแสฮือฮาขึ้นมาเมื่อครั้งที่ออกอากาศใหม่ๆ ก่อนจะค่อยๆ เงียบหายไปเพราะความไม่มีอะไรที่ สด-แปลก-ใหม่ แต่เมื่อสถานการณ์ทางการเมือง(จริง) มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่โดยได้พรรคประชาธิปัตย์ขึ้นมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลหลังทำหน้าที่ฝ่ายค้านมาร่วม 8 ปี ดูเหมือนว่าการเมืองล้อเลียนอย่างรายการ "สภาโจ๊ก" (วันเสาร์ 23.00-24.00 น. ช่องเอ็นบีที) เองก็ดูจะมีความคึกคักไม่แพ้กัน
นับตั้งแต่คอนเซ็ปต์ "สภาสมานฉันท์" ในปีพ.ศ. 2551 มาปีนี้เมื่อเหตุการณ์การเมืองเริ่มจะมีฟ้าที่สดใสขึ้น ทางรายการจึงได้เปลี่ยนรูปแบบให้เป็นสภาคลายเครียดแทน
โดย "ภูมิเดษ(ภาคภูมิ) บุญโยประการ" กรรมการผู้จัดการ บริษัท คนไท เอ็นเตอร์เทนเมนท์ หรือ "น้าหมาน คนจันทบูรณ์" โปรดิวเซอร์รายการสภาโจ๊ก บอกว่าในส่วนของรายการยังเป็นรูปแบบของการประชุมสภาเหมือนเดิม แต่จะมีการสอดแทรกมุกตลกเพิ่มเข้าไปมากยิ่งขึ้น
“การเปลี่ยนแปลงรูปแบบของรายการเป็นเรื่องที่ทำได้อยากแต่จะมีคอนเซ็ปต์ในการนำเสนอ ออกเป็นซีรีย์ โดยเมื่อปี่ 2551 จะใช้ชื่อว่าสภาสมานฉันท์ ส่วนในปีล่าสุดจะใช้ชื่อว่าสภาคลายเครียด โดยจะออกอากาศในวัน เสาร์ที่ 17 มกราคมเป็นวันแรก”
“การดำเนินรายการจะรูปแบบของการประชุมสภาเหมือนเดิม แต่จะมีการสอดแทรกมุกคลายเครียดเข้าไปมากขึ้น คือไม่อยากให้คนมองเป็นเรื่องเครียด เพราะการเมืองจริงมันเครียดอยู่แล้ว”
ออกปากยอมรับภาพลักษณ์ของพรรคประชาธิปัตย์แกนนำรัฐบาลค่อนข้างจะเข้มแข็ง มีจุดยืนที่ชัดเจน ที่สำคัญคือระยะเวลาในการก่อตั้งพรรคที่ยาวนาน ขณะที่ภาพของนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันก็ดูจะสุภาพเรียบร้อย พูดจามีสาระ การหามุกตลกมาเล่นจึงต้องระวังเรื่องตรงนี้อยู่บ้าง
“มุกของพรรคประชาธิปัตย์ที่นำมาใช้ก็จะเป็นตัวท่านนายกฯ คือโดยตัวจริงของท่านจะเป็นผู้บริหารรุ่นใหม่ก็จะนำเรื่องนี้มานำเสนอหรือให้นักแสดงที่แสดงเป็นนายกฯ ร้องหมอลำ หรือไม่ก็นโยบายอะไรที่ทางเราทำให้คนยิ้มได้เราก็จะนำมาใส่”
น้าหมาน ยังบอกต่อไปด้วยว่า ตนมั่นใจรายการสภาโจ๊กจะไม่มีปัญหากับพรรคทั้งฝ่ายรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านเพราะที่ผ่านมาการนำเสนอไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่จะเน้นเรื่องของความตลกขบขันส่วนกับทางพรรคประชาธิปัตย์เองก็มีความสนิทสนมกันเป็นอย่างดี
ขณะที่นายกเงาอย่าง "สมบัติ ฉิมสา" ที่รับบทเป็น "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" มาตั้งแต่เมื่อ 10 ปีที่แล้วครั้งที่ตัวจริงดำรงตำแหน่งเป็นโฆษกพรรคประชาธิปัตย์เองก็ยอมรับว่าหลังมีการเปลี่ยนขั้วทางการเมืองและตนได้เป็นนายก(ในรายการ) บทบาทที่เล่น รวมถึงงานก็เยอะขึ้นมาทันที
"เหนื่อยขึ้น แต่ก็ดีใจนะ เพราะโดยส่วนตัวผมเองก็ชื่นชอบท่านอภิสิทธิ์อยู่แล้ว คือท่านจะเป็นคนที่เวลายืนจะสุขุม สุภาพเรียบร้อย เวลาเราเล่นก็จะพยายามระวังตัวอยู่บ้างเพราะกลัวว่าจะเสียไปถึงตัวท่านกับสภาจริงๆ เล่นหมอลำเป่าแคน แต่ก็จะทำให้มันดูน่ารักๆ"
ในโลกแห่งความเป็นจริงหลายคนชื่นชมกับนายอภิสิทธิ์ตัวจริงว่ามีใบหน้าที่หล่อเหลา แต่เมื่อถามสมบัติว่าเขาเคยลองคิดเปรียบเทียบหน้าตา-บุคลิกของตนเองกับคนต้นแบบบ้างมั้ยว่าเป็นอย่างไร? เรื่องนี้หนุ่มจากเมืองร้อยเอ็ดเจ้าของร้านอาหาร "ครัวอภิสิทธิ์สภาโจ๊ก" แถวถนนเพชรเกษมหัวเราะอย่างอารมณ์ดี แล้วบอกว่า...
"เรื่องหน้าเหมือนไม่เหมือนผมคงบอกไม่ได้นะ แต่ถ้าถามว่าใครหล่อกว่า ผมว่าผมหล่อกว่าคุณอภิสิทธิ์นะ...(หัวเราะ)"
นอกจากคอนเซ็ปต์ของรายการที่จะมีการปรับแล้ว หากใครที่ชมรายการสภาโจ๊กเทป-สองเทปล่าสุดที่ออกอากาศไปก็จะสังเกตได้ถึงสมาชิกคนใหม่ถอดด้ามในบทบาท "สาทิตย์ วงศ์หนองเตย" แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ และ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งหลายคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า "เหมือนมาก" ทั้งหน้าตาและบุคลิกน้ำเสียง
"คือมีพี่คนหนึ่งที่ออฟฟิศผมเขาบอกว่าดูทีวีแล้วเห็นว่าเขารับสมัครคนหน้าเหมือนอยู่ก็เลยบอกให้ผมไปสมัคร ผมก็บอกว่าไม่ไป ไม่มีเบอร์ ไม่รู้จะติดต่ออย่างไร เขาก็จดให้..." อัครเดช ร้องแก้ว หรือ อี๊ด เผยถึงจุดเริ่มต้นในการเดินเข้าสู่สภาโดยไม่ต้องผ่านการหาเสียงแต่อย่างใด
"ตอนที่ไปกรอกใบสมัครก็ยังกรอกไม่ทันเสร็จเลย ผมก็ถามเขาว่าจะรับผมไหม เขาก็บอกว่ารับ หลังจากนั้นทางรายการก็โทรมาหาบ่อยมาก โทรมาทุกวัน ประมาณว่ากลัวผมจะไม่ตกลง"
ปัจจุบันอี๊ดทำงานอยู่ที่ บริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย สังกัดกองบริการพนักงาน โดยเจ้าตัวบอกว่าที่ออฟฟิศเคยแซวเรื่องหน้าเหมือนของเขามาแล้วตั้งแต่เมื่อ 2 ปีที่แล้ว เพียงแต่ตอนนั้นต่างไปจากตอนนี้เพราะบทบาทของแกนนำพรรคประชาธิปัตย์คนนี้ในตอนนั้นยังไม่เด่นเท่าในปัจจุบัน
"ตอนนั้นก็คือมีการเอารูปของคุณสาทิตย์ไปติดที่บอร์ดแล้วก็มีข้อความแซวๆ เรียกอาจารย์อี๊ดๆ แล้วเวลาผมไปดึงออก ก็ปรากฏว่าอีกวันรูปมันจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ตอนนั้นก็มีคนแซวอยู่บ้าง คนก็จะบอกว่าทั้งบุคลิก ทั้งการการพูดหรือแม้กระทั่งเสียงก็ยังคล้ายๆ"
เผยบันทึกเทปครั้งแรกไม่ค่อยจะมีบทพูดเท่าไหร่
"น้าหมานเรียกไปเลย ครั้งแรกไม่มีบทพูด ก็เล่นกันสดๆ คนที่แสดงเป็นคุณอภิสิทธิ์ก็เขียนโน้ตมาให้แผ่นหนึ่ง ตอนนั้นเล่นในช่วงที่เขาโหวตเลือกนายกกัน คือบางทีเราก็ไม่ได้ใช้โพยที่เตรียมไว้หรอก เพราะมันจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามสถานการณ์"
"ก็สนุกดีครับ ทุกวันนี้ก็จะโดนแซว โดนทักมากขึ้น เวลาไปทำงานน้องๆ ก็จะบอกท่านรัฐมนตรีมาแล้ว ... แหมเดี๋ยวนี้เป็นรัฐมนตรี ไม่ทักใครเลยนะ บางคนก็จะเรียกท่านสาทิตย์ สวัสดีครับท่านรัฐมนตรี อย่างไม่นานมานี้ผมต้องไปทำสกู๊ปกีฬาที่สนามบินสุวรรณภูมิซึ่งเป็นงานที่ผมรับผิดชอบอยู่ เขาก็จะทักกันว่าท่านรัฐมนตรีมาแล้ว ผมก็จะบอกว่าตอนนี้สภายังไม่เปิด รอสภาเปิดก่อนแล้วเดี๋ยวเราค่อยคุยกัน ตอนนี้ขอทำงานก่อน คนเขาก็จะเฮกัน เราก็จะพยายามทำตัวปกติ"
เมื่อถามว่ามีโอกาสได้เจอ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตัวจริงหรือยัง "อี๊ด" ตอบว่า "ก็ยังไม่มีโอกาสที่จะได้เจอตัวคุณสาทิตย์ท่านเลยครับ แต่เห็นว่าทางทีมงานได้ติดต่อตัวจริงไปแล้วว่าจะให้ตัวปลอมได้ไปเจอ ก็รอๆ อยู่ครับ"