xs
xsm
sm
md
lg

เพื่อแม้ววางตัว 40 ส.ส.ซักฟอก‘มาร์ค’ ยัน’กษิต’เอาตัวรอดได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - สภาเปิดซักฟอก นายกฯกับ 5 รัฐมนตรี วันนี้ ‘มาร์ค’พร้อมรับศึกเต็มที่เชื่อกษิตคุมสถานการณ์เอาตัวรอดได้ ด้าน ‘กรณ์’เผยตุนข้อมูลไว้ชี้แจงเต็มที่แล้ว ‘เทพเทือก’ไม่เชื่อมีหนอนบ่อนไส้ใน ปชป. ด้าน พท.รุมถล่ม‘ชัย’ร่นวันอภิปรายฯ เจ้าตัวยันไม่ได้ 2 มาตรฐาน ปูด ‘เฉลิม’เป็นคนเร่งให้บรรจุญัตติเพราะกลัวลืมข้อมูล เผยฝ่ายค้านวาง 40 ส.ส.ถล่มรัฐบาล ในเวลา 20 ชั่วโมง

การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจาณาญัตติเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย และนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ของพรรคเพื่อไทย เริ่มขึ้นแล้ววันนี้ (19 มี.ค.) โดยทั้งพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านต่างก็ยืนยันความพร้อมของตัวเองเต็มที่

***มาร์คพร้อมเต็มที่รับศึกซักฟอก
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเตรียมความพร้อม ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านว่า ตนและรัฐมนตรีทุกคนได้เตรียมข้อมูล ตามญัตติที่มีการเสนออภิปรายไม่ไว้วางใจพร้อมที่จะชี้แจงต่อที่ประชุมสภาฯแล้ว ส่วนกรอบเวลาในการอภิปรายฯขึ้นอยู่กับสภาฯที่จะพิจารณา ซึ่งคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
ส่วนเหตุผลที่ต้องร่นเวลาการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จากเดิมวันที่ 26-27 มี.ค. มาเป็นวันที่ 19-20 มี.ค.นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ประธานวิปรัฐบาลได้รายงาน ให้ทราบว่า เนื่องจากประธานสภาฯติดภารกิจในสัปดาห์หน้า จึงเป็นเหตุให้มีการ ร่นเวลาการประชุมในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจเข้ามาไม่มีอะไรเป็นกรณีพิเศษ ส่วนที่มีข่าวว่าตนร่วมหารือกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรรัฐมนตรี และนายเนวิน ชิดชอบ หัวหน้ากลุ่มเพื่อนเนวิน พรรคภูมิใจไทย ในการร่นเวลา การอภิปรายฯนั้น ไม่เป็นความจริง ที่ผ่านมาไม่เคยเจรจาพูดคุยกับนายเนวิน แต่อย่างใด
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าเรื่องที่ฝ่ายค้านหยิบยกขึ้นมาอภิปรายฯนั้น เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2547-2548 ซึ่งเรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับการบริหารราชการแผ่นดิน แต่ถ้าฝ่ายค้านติดใจในเรื่องนี้ ตนก็พร้อมเปิดโอกาส ให้มีการอภิปรายได้ และหากฝ่ายค้านเล็งเห็นว่าประเด็นใดของรัฐบาลที่ไม่น่าไว้วางใจ ก็สามารถหยิบยกขึ้นมาอภิปรายได้ในที่ประชุม
ผู้สื่อข่าวถามว่าฝ่ายค้านอ้างว่า สมัยพรรคประชาธิปัตย์ยังดึงเรื่องบรรพบุรุษ ของนายบรรหาร ศิลปะอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย นายอภิสิทธิ์ กล่าวแย้งว่า ตนก็ไม่ได้ห้าม และคงไม่ทำให้มาตรฐานการเมืองตกต่ำลง ถ้าหากประเด็นใดที่ทำให้ คนไม่สมควรไว้วางใจในการบริหารราชการแผ่นดิน สามารถหยิบยกขึ้นมาได้ ส่วนสมเหตุสมผลหรือไม่ ก็ต้องไปดูข้อเท็จจริงกับเหตุผลที่นำเสนอ

***มั่นใจ ‘กษิต’ไร้ปัญหาในการอภิปราย
ผู้สื่อข่าวถามว่า เจตนาการยื่นอภิปรายของฝ่ายค้าน เป็นไปเพื่อนำไปสู่การ ยุบพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของฝ่ายค้าน ที่ต้องทำการตรวจสอบ ซึ่งตนไม่รู้สึกกังวล เนื่องจากทางกฎหมายมีกระบวนการอยู่ และมั่นใจว่ารัฐบาลสามารถชี้แจงในทุกประเด็น เพื่อให้สังคมและประชาชนเข้าใจได้ และไม่คิดว่าพรรคประชาธิปัตย์จะถูกยุบ
ผู้สื่อข่าวถามว่าวิตกกังวลกับการควบคุมอารมณ์ของนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ในการอภิปรายครั้งนี้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ที่ผ่านมาในที่ประชุมสภา นายกษิต ได้ลุกขึ้น ถาม-ตอบและชิ้แจงในประเด็นต่างๆ เป็นตามปกติ เรียบร้อยดี จึงไม่รู้สึกเป็นห่วงอะไร
สำหรับข่าวที่ว่ารัฐบาลมีการดักฟังโทรศัพท์แกนนำพรรคฝ่ายค้านนั้น นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธว่า รัฐบาลไม่มีนโยบายดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็มักจะมีกระแสข่าวต่างๆ นานา ซึ่งตนอยากขอให้ทุกฝ่าย มีความหนักแน่น และขอให้ทุกฝ่ายทำตามหน้าที่อย่างดีที่สุด ในวันนี้ (19 มี.ค.)
ส่วนการพิจารณากฎหมายนิรโทษกรรมนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่กังวล ว่าการอภิปรายครั้งนี้จะสามารถบีบให้มีการออกกฎหมายดังกล่าวได้ เนื่องจากแนวทาง ในการรักษาความมั่นคง ก็คือแนวทางการักษาความถูกต้อง และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย หากฝ่ายค้านและกลุ่มต่างๆ ที่เคลื่อนไหว จะใช้วิธีนี้ ก็ยิ่งทำไม่ได้

***‘กรณ์’พร้อมแจงข้อกล่าวหาฝ่ายค้าน
นายกรณ์ จาติกวนิช รมว.คลัง กล่าวว่า ได้เตรียมพร้อมเรื่องเศรษฐกิจ เรียบร้อยแล้วในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ และถือเป็นโอกาสดีที่จะได้ชี้แจง เพื่อสร้างความเข้าใจกับประชาชน ส่วนกรณีที่นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย จะอภิปรายในประเด็นเศรษฐกิจด้วยนั้น เป็นเรื่องที่ดีที่ได้ผู้รู้มาอภิปราย จะได้เป็นสีสันมากยิ่งขึ้น
นายกรณ์ ยืนยันว่าไม่กังวลกับจำนวนเสียงโหวตของ ส.ส. เพราะ เป็นไปตาม กฎกติกา ขอให้สมาชิกทำตามหน้าที่ที่ตัวเองมี และถือเป็นการสะท้อนการทำงานของรัฐบาลด้วย อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ทำงานมา 2 เดือนก็มุ่งทำงานเพื่อแก้ปัญหาของประเทศ ดังนั้นเชื่อว่าสามารถชี้แจงได้ทุกเรื่อง

*** ‘สุเทพ’ไม่เชื่อปชป.มีเกลือเป็นหนอน
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีข่าว ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์นำข้อมูลไปให้ฝ่ายค้านในการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้ และไม่น่าเชื่อถือ ส่วนที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ระบุว่า อภิปรายตอนเช้า ช่วงบ่าย สามารถน็อกรัฐบาลได้นั้น รองนายกรัฐมนตรี หัวเราะ ก่อนจะกล่าวว่า สื่อเชื่อหรือเปล่าละ อย่าไปวิจารณ์เขาเลย ถ้าผมตอบ เดี๋ยวเขาโกรธเอา แต่ก็เอาเถอะ ทำไป ใครมีหน้าที่อย่างไรก็ทำไป ให้อยู่ในกฎเกณฑ์ กรอบกติกาก็แล้วกัน
นายสุเทพ กล่าวถึงเรื่องแผนตากสินของพรรคเพื่อไทยกับกลุ่มเสื้อแดง เพื่อโค่นล้มรัฐบาลว่าสามารถวิเคราะห์ได้ว่าสิ่งที่คนเหล่านี้ทำ เป็นขบวนการ มีแผนการ มีขั้นตอนที่สอดรับต่อเนื่องกันและมีเป้าหมายที่มุ่งมาที่รัฐบาล เป็นการเฉพาะ มีการขัดขวางไม่ให้รัฐบาลทำหน้าที่ได้โดยสะดวกซึ่งการทำอย่างนี้ ทำให้ประเทศชาติและประชาชนเสียหาย ส่วนจะเป็นสงครามกลางเมืองอย่างที่นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พูดหรือไม่ ตนจะยังไม่พูดอะไรไปเกินกว่าเหตุ ขอพูดตามสถานการณ์

*** ‘ชัย’ยันไม่ได้ทำงาน2มาตรฐาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วานนี้ (18 มี.ค.) ก่อนเข้าสู้วาระการประชุม นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้เปิดให้สมาชิกหารือ ปรากฏว่าส.ส.พรรคเพื่อไทย หลายคนได้ลุกอภิปรายตำหนิประธานสภาฯ กรณีเลื่อนวันอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเร็วขึ้นมาเป็นวันที่ 19-20 มี.ค. และกำหนดจำนวนวันอภิปรายเพียง 2 วัน เหมือนปล่อยฝ่ายบริหารแทรกแซง และการให้รองเลขาธิการสภาฯทำหนังสือแจ้งมายังประธานวิปฝ่ายค้านว่า หากจะขอเพิ่มวันอภิปรายต้องให้ที่ประชุมสภาตัดสินใจนั้นเป็นการตอบแบบหาเรื่อง
นายชัย ชี้แจงว่า สมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี ฝ่ายค้าน ขณะนั้นคือ พรรคประชาธิปัตย์ ก็ใช้เวลาบรรจุญัตติเร็วเช่นกัน ตนไม่ได้มี 2 มาตรฐาน แต่ทำมาตรฐานเดียว และตนเคารพ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ซึ่งเปรียบเหมือนหลานสุดที่รักของตน ที่แน่วแน่ในการอภิปรายฯ บอกว่ามีข้อมูลเต็มที่ หากปล่อยนานไปอาจลืมข้อมูลอภิปรายได้
นายชัย ย้ำว่าได้ทำทุกอย่างถูกต้อง และพิจารณาด้วยความรอบคอบตามข้อบังคับระบุว่า หากมีการยื่นญัตติมาก็ต้องบรรจุด่วน แสดงว่าคนที่เสนอญัตติพร้อม คนที่เสียเปรียบ คือ รัฐบาล ตนรับผิดชอบตามหน้าที่ประธาน เมื่อบรรจุระเบียบวาระแล้ว ถ้าจะเลื่อนสภาฯ ก็มีมติ สภาฯ เป็นที่พูดแถลงข้อเท็จจริงตรวจสอบรัฐบาล ถ้ารัฐบาลไม่ถูกต้อง ผู้แทนก็โหวตเสียงไม่เอารัฐบาล

***ปูด ‘เฉลิม’เร่งเร้าให้รีบบรรจุ

วันนี้ประชาชนทั้งประเทศตั้งหน้าตั้งตาฟังข้อมูล ผมได้ถาม ร.ต.อ.เฉลิม ว่าเอาหรือไม่ ก็ได้คำตอบว่าเอา เร็วเท่าไรยิ่งดี ข้อมูลมีหมดแล้ว และ ร.ต.อ.เฉลิม เป็นผู้เซ็นชื่อในญัตติเป็นคนแรก ผมบรรจุวาระ ผมรับผิดชอบ จะเอาไปฆ่าแกงที่ไหนก็ได้ เพราะผมทำถูกต้องตามกฎหมายแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยังมีการโต้เถียงในเรื่องดังกล่าว ทำให้นายชัยพยายามตัดบทและยืนยันว่า หารือทุกฝ่ายแล้ว จากนั้น นายชัยได้ให้ ร.ต.อ.เฉลิม ขึ้นพูดว่า พร้อมอภิปรายในวันที่กำหนดหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม จึงลุกขึ้นกล่าวว่า ได้บอกประธานไปจริงๆ ว่า หากปล่อยนานไป ตนจะลืมข้อมูล ขอถามว่า การอภิปรายครั้งนี้ มีการถ่ายทอดสดทางทีวีหรือไม่ หากมีขอฝากประธานบอกไปยังรัฐบาลว่า ระหว่างการอภิปรายช่วงไพร์มไทม์ ขอให้สถานีโทรทัศน์เอ็นบีที อย่านำรายการอื่น สอดแทรกเข้ามาขัดการอภิปรายฯ ให้ถ่ายทอดสดตลอด
จากนั้น นายชัยได้ให้นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานวิปรัฐบาล ยืนยันว่า จะมีการถ่ายทอดสดตั้งแต่เวลา 09.30 น. ร.ต.อ.เฉลิม จึงได้ตอบรับว่า พร้อมอภิปราย เพราะประธานสภาฯ บรรจุวาระแล้ว
ขณะที่นายขจิต ชัยนิคม ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ถามนายชัยว่า มีข่าวว่าการเลื่อนวันอภิปรายมาจากความเชื่อเรื่องไสยศาสตร์ ทั้งนี้ก่อนเลื่อนวันอภิปรายฯมี 2 คนเข้าพบประธาน คนหนึ่งเป็นโหรของสำนัก คมช. จากเชียงใหม่ ส่วนอีกคนเป็นหมอเขมรมนต์ดำ ทั้งสองคนได้บอกให้ประธานเลื่อนวันอภิปรายให้เร็วขึ้นจริงหรือไม่ ถ้าเป็นเรื่องจริงแสดงว่าประธานสภาตกอยู่ใต้การ ครอบงำของมนต์ดำ
จากคำพูดของนายขจิต ทำให้นายชัย กล่าวด้วยเสียงอันดังว่า ไม่จริงครับ และตัดบทเข้าสู่วาระการประชุมทันที โดยระหว่างการอภิปรายตำหนินายชัย ปรากฏว่า นายรังสิกร ทิมาตฤกะ ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย ได้ลุกขึ้นประท้วงและปกป้องนายชัยตลอดเวลาด้วย

***พท.วาง40ส.ส.ใช้20ชม.ซักฟอก
นายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน แถลง ภายหลังการประชุมคณะเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า พรรคพยายามบีบเวลา โดยให้มีผู้อภิปรายทั้งหมด 40 คน แบ่งเป็นชุดที่จะอภิปรายนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ และนายกษิต ภิรมย 20 คน ชุดที่จะอภิปรายนายกรณ์ จาติกวนิช 9 ถึง 10 คน และชุดที่จะอภิปรายนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล และนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ 10 คน ทั้งนี้เวลาที่จะอภิปรายในซีกของฝ่ายค้านที่ยังไม่รวมการตอบโต้ ของรัฐมนตรีทั้งสิ้น 20 ชั่วโมง ซึ่งวันนี้(18 มี.ค.) เวลา 17.30 น.จะมีการหารือกับวิปรัฐบาลเพื่อหาข้อยุติในเรื่องนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า เวลา 20 ชม.น้อยไปหรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า หากมีการพาดพิงรัฐมนตรีก็จะยิ่งยืดยาวออกไปอีก ซึ่งในข้อเท็จจริงแล้วควรใช้เวลา 3 วันและฝ่ายค้านควรมีเวลาไม่ต่ำกว่า 30 ชม. ซึ่งจะหารือกับวิปรัฐบาลในประเด็นนี้ด้วย รวมทั้งจะต้องมีการพูดคุยถึงกรณีที่มีการพูดพาดพิงถึงรัฐมนตรีกระทรวง ที่ไม่ได้ยื่นอภิปรายก็อยากให้นายกฯเป็นคนตอบ เพราะเป็นผู้แถลงนโยบาย โดยกระทรวงที่จะถูกพาดพิงเช่น กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงการคลัง ซึ่งเห็นได้ชัดว่า นโยบายไม่สามารถทำได้ หรือทำได้แต่ส่อไปในทางทุจริตคอร์รัปชั่น
ส่วนหากไม่มีการขยายวันอภิปราย ฝ่ายค้านจะใช้วิธีวอล์คเอาท์หรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า ไม่ถึงขนาดนั้น ตรงนี้นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาฯ ก็บอกแล้วว่า สามารถใช้ข้อบังคับการประชุมข้อที่ 21 ได้ และนายอภิสิทธิ์ก็คงไม่ใจแคบ เพราะเป็นคนพูดเองว่ายินดีถ้าฝ่ายค้านจะขอ
สำหรับกรณีที่บริษัท ทีพีไอ จะฟ้องร้องหากมีการอภิปรายพาดพิงนั้น นายวิทยา กล่าวว่า ผู้อภิปรายทุกคนรับผิดชอบอยู่แล้ว ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย ก็เป็นถึงดอกเตอร์ทางกฏหมาย และส.ส.เองในฐานะที่เป็นฝ่ายนิติบัญญัติก็ต้องระมัดระวัง

***วิปรัฐบาลยันฝ่ายค้านตกลงอภิปราย2วัน
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธาน วิปรัฐบาล เปิดเผยว่า จากการหารือร่วมกับนายวิทยา บุรณศิริ ได้ข้อสรุปตรงกันว่า จะใช้เวลาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ 2 วัน รวม 28 ชั่วโมง โดยฝ่ายค้านได้รับการจัดสรรเวลาจำนวน 20 ชั่วโมง รวมการอภิปรายสรุปในวันสุดท้ายด้วย ที่เหลือเป็นการชี้แจงของนายกฯ และ 5 รัฐมนตรี ส่วนช่วงเวลาที่มีการประท้วง และใช้สิทธิพาดพิงนั้น ฝ่ายไหนใช้สิทธิ์ดังกล่าว ก็จะนำเวลาไปรวมกับฝ่ายนั้น คาดว่าบริหารเวลาได้ตามนี้จะสามารถลงมติได้ในวันเสาร์ที่ 21 มี.ค. ทั้งนี้ฝ่ายค้านแจ้งมาว่าจะมีผู้อภิปรายจำนวน 30 กว่าคน แต่ละคนจะใช้เวลาไม่มากประมาณ 20 นาที จึงอยู่ที่ฝ่ายค้านจะจัดสรรเวลากันเอง โดยรับปากว่าจะไม่มีการพาดพิงบุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องโดยไม่จำเป็น
นายชินวรณ์ กล่าวอีกว่า โดยได้ลำดับบุคคลที่ถูกอภิปรายคร่าว ๆ คือวันแรกจะอภิปรายนายกรัฐมนตรี นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง และนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ส่วนวันที่สอง จะมีนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย และนายบุญจง วงษ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย แต่อาจสลับเปลี่ยนเป็นนายกรณ์ ถูกอภิปรายคนสุดท้ายก็ได้
ส่วนที่ประธานวิปฝ่ายค้านให้สัมภาษณ์จะใช้ข้อบังคับการประชุมที่ 21 ในการ ขยายเวลาการอภิปรายนั้น ก็ต้องดูสถานการณ์ก่อน อะไรที่เป็นประโยชน์ในการ ทำหน้าที่ของฝ่ายค้านเราก็จะให้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้มีการถ่ายทอดสดการประชุมสภาดังกล่าวทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที. ตั้งแต่เวลา 09.30 น. ของวันที่ 19 มี.ค.จนจบการอภิปราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การนัดหารือจัดสรรเวลาการอภิปรายเป็นไปอย่างฉุกละหุก โดยเดิมทีได้นัดหารือกันระหว่างประธานวิปรัฐบาลและประธานวิปฝ่ายค้านในเวลา 14.00 น. แต่ปรากฎว่าทางวิปฝ่ายค้านยังไม่พร้อม ขอเวลาหารือกันในพรรคเพื่อไทยก่อน จึงเลื่อนการประชุมออกไปเป็นเวลา 17.00 น.จึงได้ข้อสรุป

***วิปรัฐบาลตั้ง3ทัพหลวงช่วยรมต.
นายชินวรณ์ กล่าวถึงการเตรียมความพร้อม ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า วิปรัฐบาลยังยืนยันกรอบเวลาในการอภิปรายจำนวน 2 วัน เพราะขณะนี้ยังไม่เห็นจำนวนผู้อภิปรายและประเด็นของฝ่ายค้านว่าเป็นอย่างไร หากเห็นจำนวนบุคคลก็จะกำหนดเวลาได้ชัดเจน ซึ่งกรอบเวลาสามารถยืดหยุ่นได้ แต่ขณะนี้ได้ยืนตามญัตติของประธานสภาที่กำหนดระยะเวลา 2 วันถือว่าเหมาะสมแล้ว
สำหรับการอภิปรายรัฐมนตรี วิปรัฐบาลได้ประเมินการทำงานของ พรรคฝ่ายค้านและแบ่งกลุ่มรัฐมนตรีที่จะถูกอภิปรายไว้ 3 กลุ่มคือ 1. นายกรัฐมนตรี นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง 2. นายกรณ์ จาติกวณิชย์ รมว.คลัง และนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ 3. นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กับนายบุญจง วงษ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย โดยทั้ง 3 กลุ่มวิปรัฐบาลได้ประสานข้อมูลบุคคล รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว โดยมอบให้นายณัฐพล ทีปสุวรรณ ส.ส.กทม. ในฐานะผู้อำนวยการพรรค ได้นำเครื่องคอมพิวเตอร์มาจากพรรคประชาธิปัตย์ มาตั้งไว้ที่ห้องทำงานวิปรัฐบาล เพื่อใช้ประสานเชื่อมโยงเครือข่ายข้อมูลของแต่ละรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเป็นรายกระทรวง ซึ่งจะทำให้การประสานข้อมูลรวดเร็วขึ้น เป็นการทำงานเชิงรุกไม่ต้องเรียกข้าราชการมารอให้ข้อมูล
นายชินวรณ์ กล่าวว่าการทำงานของวิปรัฐบาลยังได้ตั้งคณะทำงาน 3 ชุด ซึ่งจะใช้ห้องวิปรัฐบาลเป็นห้องทำงาน ประกอบด้วย 1.คณะทำงานประสานข้อมูลกลาง 2. คณะทำงานติดตามข้อมูลการอภิปรายในสภา และแถลงข่าวการอภิปราย และ 3. คณะทำงานดูแลบรรยากาศและข้อบังคับการประชุม นอกจากนี้ยังตั้งทีมเลขาเรียกว่า ฝ่ายประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล โดยมีส.ส.ตัวแทนจากพรรคร่วมรัฐบาลร่วมเป็นคณะทำงาน โดยคณะทำงานชุดนี้จะช่วยประสานข้อมูลแต่ละพรรค

*** ‘เฉลิม’บอกเองซักฟอกแค่2วันก็พอ
ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรอบการ อภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ระยะเวลา 2 วันไม่มาก ไม่น้อย พอดี แต่เพื่อนสมาชิก มีข้อมูลเยอะ จึงอยากขอขยายเวลาไปเป็น 3 วัน และการอภิปรายครั้งนี้ตนจะอภิปรายนายกษิต ภิรมณ์ รมว.ต่างประเทศ และนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง
ร.ต.อ..เฉลิม กล่าวว่า อยากให้รัฐบาลกลับไปดูตัวเองด้วย เพราะ สมัยที่นาย บรรหาร ศิลปอาชา เป็นนายกรัฐมนตรี พรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านยังขอเปิด อภิปรายไม่ไว้วางใจถึง 3 วัน และเอาข้อมูลเรื่องบิดาของนายบรรหาร มาอภิปราย แล้วจะมาว่าอะไรตนที่เอาเรื่องในอดีตมา แต่ไม่ต้องห่วงว่าการอภิปรายจะพาดพิงไปถึงบุคคลภายนอก ตนจะพยายามพูดให้กระชับ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าพาดพิงไปถึง ทีพีไอ แล้วไม่กลัวถูกฟ้องหรือ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่ต้องขู่ ก็เงินมาจาก ทีพีไอ ถ้าฟ้องก็ไปแก้คดี เท่านั้นเอง ยืนยันจะต้องพูดถึง ทีพีไอ เพราะเงินที่เข้าพรรคประชาธิปัตย์ถึง 27 ครั้ง จำนวน 258 ล้านบาท ไม่ใช่เงินบริจาค เมื่อถามว่ามั่นใจแค่ไหนว่าการอภิปรายครั้งนี้จะล้มรัฐบาลได้ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนไม่เคยพูด เพราะแค่โหวตก็แพ้แล้ว จะไปล้มได้อย่างไรล้มไม่ได้อยู่แล้ว แต่อภิปรายครั้งนี้สังคมจะไม่ไว้วางใจรัฐบาลเอง
กำลังโหลดความคิดเห็น